สามารถเข้าร่วม Membership ได้ตามลิงค์นี้ครับ / @drtany ถ้าสมัครทางมือถือ ต้องทำผ่าน Browser ครับ ทำทาง App มันจะไม่ได้ ถ้าทำในคอมทำได้ปกติครับ
ทำไมเราต้องดื่มน้ำวันละ 2 ลิตร ร่างกายเรามีน้ำเป็นส่วนประกอบเป็นจำนวนมาก แต่เมื่อายุมากขึ้นก็จะทดแทนด้วยไขมันและปริมาณน้ำก็จะลดลง โดยเฉพาะในเพศหญิงจะมีสัดส่วนไขมันต่อน้ำจะสูงมากกว่าผู้ชาย ร่างกายเราจะสูญเสียน้ำทุกวัน จาก 1. จากทางเดินหายใจ การหายใจ การพูด ต่อวันประมาณ 600 cc 2. ทางผิวหนัง อาจจะเป็นเหงื่อ หรือ การระเหยไปเลยโดยไม่เห็นเหงื่อก็เป็นได้ บางครั้งเหงื่อจะเป็นการขับความร้อนที่สูงเกินไปออกไปข้างนอก ยิ่งถ้าเรายิ่งร้อนเหงื่อก็จะยิ่งออกมากขึ้น แต่จะเห็นเหงื่อเป็นเม็ดหรือไม่ขึ้นอยู่กับความชื้นในอากาศ ถ้าชื้นมาก อาจจะเห็นเป็นเม็ดๆเหมือนประเทศไทย แต่ในประเทศที่แห้งมากๆถึงเราไม่ร้อน ไม่มีเหงื่อก็จะมีการสูญเสียน้ำออกไป โดยเฉลี่ย วันละ 500 cc คนที่อยู่บนเครื่องบิน หรือ ที่สูงๆที่มีความกดอากาศต่ำ แรงดันน้ำก็จะดันน้ำออกจากร่างกายได้มากขึ้น จะทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำมากกว่าปกติ ดังนั้นคนที่ขึ้นเครื่องบินจะต้องดื่มน้ำมากกว่าปกติ มิเช่นนั้นเลือดจะขาดน้ำ และ อาจเกิดลิ่มเลือดที่ขาหรือบริเวณต่างๆของร่างกายได้ ตอนที่1
3. ปัสสาวะ บางคนมากน้อยไม่เท่ากัน ร่างกายเราจะมีกระบวนการสลายสารอาหารต่างๆและสมดุลเกลือแร่ และจะมีคุณสมบัติของเหลวในร่างกายที่มีความเข้มเข้นและต้องการดึงน้ำเข้ามาสู่ตัวเอง เรียกว่า osmolarity ซึ่ง จะมีค่าคงที่ค่าหนึ่งถ้าสูงไป จะดึงน้ำมาไว้ปริมาณเยอะ แต่ถ้าตรงกันข้ามถ้าต่ำจนเกินไป ก็จะปล่อยน้ำออกมาเยอะๆ ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ไม่ดีเช่นกัน เลือดของเราจะมี osmolarity 290 mOsm/L จะมีบางโรคที่ทำให้ค่านี้สูงหรือต่ำกว่านี้ แต่สิ่งที่มีความเกี่ยวข้องกับปัสสาวะ คือ ปัสสาวะจะควบคุม ความเข้มข้นของ osmolarity โดยไตของเรา แล้วไตเราก็จะตอบสนองต่อฮอร์โมนต่างๆ เช่น ADH ย่อมาจาก Antidiuretic Hormone ( Anti= ต่อต้าน diuretic= ปัสสาวะ)หรือ เรียกว่า Vasopressin เป็นฮอร์โมนช่วยทำให้เลือดหดตัว, BNP, ANP สุดท้ายจะทำให้ไตเรามีความสามารถในการสร้างปัสสาวะเข้มเข้นแตกต่างกัน ไตเรามีความสามารถจำกัดทำให้ปัสสาวะเข้มข้นมากที่สุดได้ 1,200 mOsm/L ( คือถ้าเราขาดน้ำมากๆแล้ว ปัสสาวะเราจะเข้มข้นที่สุดได้ที่ 1,200 mOsm/L) ตอนที่2
ปกติร่างกายเราจะมีการสร้าง osmolarity ในที่ต่างๆ เช่น จากโซเดียม โปตัสเซียมที่เรากินเข้าไป หรือ การสลายโปรตีนต่างๆแล้วทำให้เกิดยูเรียขึ้นมาในร่างกาย ทั้งหมดเป็นส่วนประกอบที่ทำให้เกิด osmolarity ขึ้นมา แต่ร่างกายจะต้องขับทิ้งออกไปประมาณ 600 mOsm ต่อวัน ร่างกายเราไม่สามารถขับ osmolarity เปล่าๆได้ต้องมีน้ำเป็นส่วนประกอบด้วยเสมอ เหมือนกับเวลาเราอาบน้ำ เราไม่สามารถปัดสิ่งสกปรกออกจากร่างกายได้ เราจะต้องใช้น้ำเพื่อชะล้างสิ่งสกปรกออกไปด้วย ปริมาณน้ำน้อยที่สุดเป็นเท่าไหร่ ซึ่งไตของเราทำหน้าที่ตรงนี้อยู่ ไตเราขับได้สูงสุด 1,200 mOsm/L แต่ถ้าเรามี 600 mOsm ให้ขับ เราก็ต้องใช้น้ำครึ่งลิตรเป็นต้น ดังนั้นรวมๆกันแล้ว ที่เราต้องสูญเสียน้ำทางผิวหนังวันละ 500 cc ทางเดินอากาศ 400 cc ทางอุจจาระอีก 200 cc รวมกันเป็น 1,100 cc รวมกับอีก 500 cc รวมกันเป็น 1,600 cc เป็นปริมาณขั้นต่ำต่อวันที่ร่างกายเราสูญเสียไปต่อวัน ดังนั้นเราจะต้องดื่มน้ำเข้าไปให้มากกว่าที่ต้องสูญเสียไป ตอนที่3
ต่อให้เราพยายามอย่างไรเราไม่สามารถดื่มน้ำเพียงวันละ 1,600 cc แล้วจะเพียงพอ นั่นหมายถึงไตเราจะต้องทำงานหนักตลอดเวลา เพื่อทำให้ปัสสาวะเราเข้มข้น ผ่านไปนานๆจะทำให้มีปัญหาได้ เช่น นิ่วในไต ในกรวยไต นิ่วในท่อไต เป็นต้น หรือ ปัญหาต่างๆในแง่การขาดน้ำ ร่างกายก็พยายามจะเก็บน้ำไว้ก็ไม่มีให้เก็บ กินเข้าไปทำไหร่ก็ออกไปหมดเลย ดังนั้นจึงเป็นที่มาของการดื่มน้ำปริมาณ 2 ลิตรต่อวัน ถ้าเราหลงป่า แล้วเราดื่มน้ำปัสสาวะตัวเองได้หรือไม่ อย่างที่กล่าวมาข้างต้น หากร่างกายเราต้องการสงวนน้ำ ก็จะทำให้ปัสสาวะเข้มข้นมากๆ แต่จะสงวนอย่างไรก็ต้องขับสารเป็นพิษออกมาจากร่างกายด้วย ปัสสาวะของเราก็จะเข้มข้นสูงสุดถึง 1,200 mOsm/L หากเราดื่มเข้าไป เลือดเราจากที่มีความเข้มอยู่ที่ 290 mOsm/L ก็จะกลายเป็น 300 หรือ 3ร้อยกว่า ร่างกายก็จะเกิดปัญหา พอร่างกายมีความเข้มข้นในเลือดสูงมากขึ้น แสดงว่ามี osmol ที่จะต้องขับมากขึ้น เราก็จะยิ่งหิวน้ำเพื่อเอามาขับของเสียที่เราดื่มปัสสาวะเข้าไป ตอนที่4
เช่นเดียวกันกับหากเราไปหลงในทะเล เราก็ไม่ควรดื่มน้ำทะเล ด้วยเหตุผลคล้ายๆกัน เพราะทะเลทั่วๆไปความเข้มข้นของเกลือ หรือ โซเดียมจะอยู่ที่ 3.5% แต่น้ำเกลือที่ใช้ในโรงพยาบาลเข้มข้นเพียง 0.9% (ซึ่งจริงๆเข้มข้นกว่าในเลือดของเรานิดนึงด้วย) หรือ เข้มข้นกว่าน้ำเกลือที่ให้ทางเส้นเลือดถึง 4 เท่าและอาจจะเข้มข้นกว่าร่างกายเรา ถ้าเราท้องเสีย หรือ อยู่ในภาวะเหนื่อยหอบ มีไข้ ร่างกายจำเป็นจะต้องระบายความร้อนทางผิวหนังเพิ่มขึ้น เราก็ต้องให้น้ำเพิ่มขึ้นด้วย แล้วเราดื่มน้ำได้ มากที่สุดเท่าไหร่ เมื่อร่างกายเราขับน้ำออกมา จะต้องมี osmol ออกมาด้วยเสมอ ด้วยความเจือจางที่สุดจะต้องมี osmol ปนออกมาอย่างน้อย 50 mOsm/L นั่นหมายถึง ถ้าเจือจางที่สุดที่สามารถปัสสาวะออกมาได้คือ 12 ลิตร ในแต่ละวัน แต่อาจจะมากกว่านั้นเพราะร่างกายเราสามารถขับออกทางผิวหนัง ทางเดินหายใจ ทางเดินอาหาร อาจจะถึง 13-14 ลิตร แล้วแต่ร่างกายบางคนอาจรับได้ถึง 17-20 ลิตรก็เป็นได้ แต่ไม่จำเป็นต้องกินมากขนาดนั้น ปัญหาคือ ถ้าเรากินแบบนี้นานๆจะทำให้ร่างกายเรามีความเจือจางมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วจะทำให้ร่างกายเกิดปัญหาได้ ตอนที่5
ปัญหาหลักๆที่เกิดน้ำเกิน-น้ำขาด ก็คือ โซเดียม ซึ่งโซเดียมมีหน้าที่เป็นสารสื่อประสาท ถ้าสูงหรือต่ำไปก็ไม่ดี อาจทำให้มีปัญหาทางสื่อประสาทได้ เช่น เห็นภาพหลอน งง เบลอ ชามือ ชาเท้า ชัก หมดสติ ช๊อคได้ นี่จึงเป็นที่มาว่า ทำไมเราถึงควรดื่มน้ำวันละ 2 ลิตร ไม่จำเป็นต้องเป็นน้ำเปล่าเพียงอย่างเดียว อาจปนมากับอาหาร น้ำอย่างอื่นก็มีน้ำเป็นส่วนประกอบ หากวันหนึ่งที่เราสามารถได้น้ำ 2 ลิตร ก็ค่อนข้างจะปลอดภัย ตอนที่6
น้ำที่ออกจากร่างกายต่อวัน หายใจ 400มล อุจจาระ 200 มล ผิวหนัง 500 มล ปัสสาวะ อีกอย่างน้อย 500 มล รวมแล้ว 1,600 มล 🔎เราควรดื่มน้ำมากกว่า 1.6 ลิตร ต่อวัน คือมากกว่า น้ำขวดใหญ่ 1 ขวด ค่ะ แต่นี่คือขั้นต่ำ ดังนั้น 📌คุณหมอแนะนำว่าควรดื่มน้ำ 2 ลิตรต่อวันค่ะ
ขอบคุณค่ะคุณหมอ เพิ่งรู้ค่ะว่าเราสูญเสียน้ำไปจากการหายใจ การพูด ร้องเพลง ทางอุจจาระ และทางผิวหนังคือเหงื่อ ซึ่งขึ้นอยู่กับความชื้นในร่างกาย อีกทางคือทางปัสสาวะ ซึ่งควบคุมได้ทางไตของเรา การที่ร่างกายขาดน้ำมีความสำคัญในการขับน้ำออกจากร่างกาย ซึ่งต้องมีน้ำเป็นส่วนประกอบ จึงต้องดื่มน้ำเกิน 1,600 มิลลิลิตรต่อวัน เพื่อป้องกันปัสสาวะเข้มข้น เกิดนิ่วในไตได้ ควรมีน้ำเหลือใช้เพื่อให้ไตทำงานได้ดีขึ้น อย่างไรก็ตามการดื่มน้ำเกินหรือขาดมีปัญหากับโซเดียมมีผลกับการชาตามมือ เท้า การมีโรคต่าง ๆ ในร่างกาย และที่สำคัญเพิ่งรู้ว่าการพูด การร้องเพลง การหายใจ ก็มีส่วนทำให้ร่างกายต้องสูญเสียน้ำค่ะ ขอบคุณคุณหมอมากค่ะที่ทำให้เข้าใจว่าทำไมเราต้องดื่มน้ำวันละ 2 ลิตร ขอให้คุณหมอและน้องโรซี่มีความสุขมาก ๆ นะคะ ขอบคุณมากค่ะ
คุณหมออธิบายละเอียด ชัดเจนมากคะ ทำให้ต้องกลับมาเช็คตัวเองด้วย ขอบคุณคุณหมอมากคะ ทำคลิปดีๆ มีสาระประโยชน์จริงๆคะ
ขอบคุณ มากค่ะ คุณ Dr.Tany. อธิบายได้น่าฟังมากที่สุด เคยสงสัยเรื่องนี้มานาน ดีใจที่ Dr.Tany ได้เข้ามาอธิบายให้ทราบค่ะ.
ขอบพระคุณอ.หมอให้ความรู้ดีๆเช่นเคยคะ และนำไปใช้ในชีวิตประจำวันคะ
สวัสดีคะ .ขอบคุณมากตะสำหรับความรู้ดีๆ ป้า ดื่มนำมากและทำให้ปัสสวะบ่อบมาก มีปัญหาไหมคะ
สวัสดีค่ะคุณหมอ เป็นคนชอบดื่มน้ำเปล่าค่ะ ขอบคุณข้อมูลนะคะ ขอให้คุณหมอมีสุขภาพแข็งแรงตลอดไปคร๊😊😍😍
ได้คำตอบชัดเจนแล้วค่ะ ควรดื่มน้ำวันละ 2 ลิตร ซึ่งรวมทั้งน้ำเปล่า และน้ำที่อยู่ในอาหารด้วย #เมื่อไรที่เรารู้สึกกระหายน้ำมาก ๆ ก็น่าจะแสดงว่าร่างกายเราขาดน้ำอย่างรุนแรงนะคะ ร่างกายจึงส่งสัญญาณให้เราดื่มน้ำเข้าไปนะคะ #ขอบคุณอาจารย์มากค่ะ🥰
การดื่มน้ำน้อยเกินไปอาจเกิดผลเสียต่อร่างกาย ดังต่อไปนี้ 🔹ไตทำงานหนักขึ้น และปัสสาวะมีสีเข้ม เพราะน้ำไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย 🔹มีโอกาสติดเชื้อทางเดินปัสสาวะส่วนล่างได้ง่าย 🔹มีสารก่อนิ่วตกตะกอน อาจป็นเหตุของโรคนิ่วได้ 🔹ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ 🔹ปวดข้อ กระดูกอ่อนในหลายๆ ส่วนของร่างกาย 🔹เป็นริดสีดวงทวาร 🔹สมองเสื่อม 🔹ปากแห้ง ตาแห้ง ผิวแห้ง 🔹เหนื่อยล้าง่าย เซื่องซึม
ขอบคุณมากค่ะ🙏🏻 #หมอแทน #ทำไหมต้องดื่มน้ำวันละ2ลิตร ส่วนตัวจะดื่ม เกิน 2 ลิตร ถ้ารวมน้ำที่อยู่ในอาหารด้วยก็น่าจะมากกว่า แต่ก็ขึ้นอยู่กับกิจกรรมที่ทำในแต่ละวันด้วยค่ะ วันนี้ได้ทราบเหตุผลที่ต้องดื่มวันละ2ลิตร ที่เข้าใจมาคือคิดเองสูญเสีย น้ำทางเหงื่อ ปัสสาวะ ไม่คิดว่าการหายใจ การพูดก็เสียเหงื่อด้วยเยอะเหมือนกัน รู้แต่ว่าถ้าวันไหนเหงื่อออกเยอะ เช่น ออกกำลังกาย ตอนเล่นแบดมินตัน เหงื่อจะออกเยอะมาก มาก มีเพื่อนที่เล่นด้วยกันเหงื่อเยอะมากเปียกทั้งชุดเหงื่อหยดไหลเป็นทางเลยเลอะคอร์ดจนต้องเช็ดก่อนเล่นไม่ได้ต้องเปลี่ยนชุดใหม่แล้วก็จะกินน้ำกันเยอะ มากๆ เลยค่ะ เหมือนออกเยอะต้องเอาเข้าเยอะ 💧ร่างกายเราสูญเสียน้ำต่อวัน💧 💧ทางเดินหายใจ การหายใจ การพูด ต่อวันประมาณ 400มล 💧ทางผิวหนังอาจเป็น เหงื่อ หรือระเหยไปเลยไม่เห็นเป็นเหงื่อก็ได้ เฉลี่ยวันละ 500 มล ถ้าอยู่บนเครื่องบิน หรือที่สูง ความกดอากาศต่ำแรงดันน้ำจะดันน้ำออกจากร่างกายมากจะทำให้สูญเสียน้ำมากกว่าปกติ จึงต้องดื่มน้ำมากกว่าปกติ 💧ทางอุจจาระ เฉลี่ยประมาณ 200 มล 💧ทางปัสสาวะ อย่างน้อย 500 มล สรุปรวมน้ำเราสูญเสียต่อวันประมาณ 400+500+200+500= 1,600มล เราจึงควรที่จะดื่มน้ำมากกว่า 1,600 มล เหตุผลทำไหมเราต้องดื่มวันละ 2 ลิตร
ชื่นชมคุณหมอมากๆค่ะ เป็นข้อมูลที่ต้องการคำตอบค่ะ
น้ำเปล่า..ชา..กาแฟ..น้ำผลไม้..โซดา.. ทานเป็นประจำทุกวันค่ะคุณหมอ..ผสมๆกัน..แต่ให้เค้าลดหวานลง..ตอนนี้ชอบทานพวก sparkling apple juice..อร่อยดีค่ะ..!!บางช่วงบ้าสับปะรด..ส้ม yuzu..แล้วแต่ว่าช่วงไหนอยากทานอะไร..มันหอมๆดีค่ะ..ตอนนี้มีออกมาใหม่สุดของ starbucks..honey ruby grape fruit coldbrew..อร่อยค่ะคุณหมอ..เค้าใช้ส่วนผสมเข้ากันดีนะคะน่าจะใส่กาแฟด้วยนิดนึงหอมดีค่ะ..!! ก็ไม่รู้วันนึงทานน้ำได้ถึง 2 ลิตรหรือเปล่า..น้ำเปล่าจะทานเยอะเป็นบางวันค่ะถ้าวันไหนทานเค็มมากๆ...🐯🦝😁
สวัสดีค่ะ คุณหมอแทน เหตุผลเป็นเช่นนี้นี่เอง ขอบคุณค่ะคุณหมอ ที่นำมาอธิบาย เช่นนั้นแล้ว ถ้าตื่นนอนแล้วดื่มแก้วที่1-2 แก้วที่3(8.00) 4(10.00) 5(12.00) 6(14.00) 7-8(16.00) 9(18.00) แก้วที่10(20.00) ~2ลิตรน่าจะได้😁นะคะ
ขอบคุณความรู้ที่คุณหมอ นำมาบอกกล่าวมากค่ะ.. ยิ่งฟังคุณหมอพูด ..ยิ่งรู้สึกผิดในการดูแลสุขภาพมาก ...ต้องรีบเปลี่ยนวิธีการดูแลสุขภาพ เพิ่มละค่ะ..น้ำปล่าวดื่มน้อยมากกก..ดื่มตอนกินวิตามิน..และก่อนนอน ...กับตื่นนอนเท่านั้นค่ะ..น่าจะไม่เกิน 800 มล.น้อยมาก..เพราะชอบดื่มแต่ น้ำผึ้งโซดามะนาว..
สวัสดีคะคุณหมอ แล้วน้ำหนักตัว น้อย การดื่มน้ำเท่ากับทต่คุณหมอแนะนำเลยไหมคะ ตัวเล็ก ผอม น้ำหนัก 40-42คะ
ขอบคุณค่ะ เข้าใจและได้ความรู้ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย สุขภาพของเรามากๆค่ะ
Goodmorning ค่ะคุณหมอแทน พูดเรื่องการดื่มน้ำ ก็ชอบเลยตอนที่บอกร้องเพลง😁😁ก็สูญเสียน้ำได้55จริงที่สุดค่ะ เพราะสังเกตตัวเอง พอร้องนานๆหลายเพลง เสียงเริ่มแหบ และคอแห้งมาก สังเกตน้องที่เค้าเปิดห้องปาร์ตี้สำหรับในแอ๊ป เค้าจะมีน้ำอยู่ข้างกายตลอด ร้องไปเค้าดื่มน้ำไปด้วยเป็นระยะๆสังเกตเค้าเสียงดีไม่ตกร้องติดต่อกันหลายเพลงเลยทำตามช่วยให้เสียงดีขึ้นจริงๆ และพี่อีกคนดื่มน้ำเยอะมากคนนี้ไม่ยอมดื่มน้ำเย็นเลยดื่มน้ำปกติบอกเสียงจะดี มีคำถามค่ะคุณหมอ 1)ตัวเองสังเกตว่าดื่มน้ำอัดลมบ้าง น้ำผลไม้ต่างที่ขาย อยู่บ้างที่ดื่มมากๆแล้วปัสสวะสีเข้ม คิดว่าต้องมีสารอะไรผสมแน่เลย อันนี้ขอความคิดเห็นค่ะ2)ก็ชอบดื่มน้ำมากๆ เชื่อว่าช่วยเรื่องผิวพรรณ แต่ผิวก็ยังแห้งนะคะ3)ทำไมพอดื่มน้ำมากในหน้าหนาวหรืออากาศเย็นเมื่ออยู่ในห้องแอร์บางทีเข้าห้องน้ำเป็นสี่ห้าครั้งในเวลาไม่ห่างกัน เลยตอนทำงานอยู่ ตอนนี้ปกติค่ะสงสัยจังค่ะ ขอบคุณนะคะคุณหมอ🙏⚘
คลิปนี้ซึ้งเลยค่ะ เพราะเคยมีภาวะขาดน้ำ ดูเป็นเรื่องธรรมดาแต่สำคัญมากจริงๆ ขอบคุณคุณหมอค่ะ
ดีมาก ๆ เลยค่ะ ชัดเจนเข้าใจได้ง่าย เอาไปใช้สอนเด็ก ๆ ต่อได้เลยค่ะ ขอบคุณนะคะ
คุณหมอ คือสงสัยอะไรคุณหมอทำคลลิปตลอดเลย ขอบคุณนะครับ มีประโยชน์มากๆ
สำหรับท่านใดที่ดื่มน้ำน้อย และอยากฝึกนิสัยที่ดีให้แก่ตนเองในการดื่มน้ำ ขวดน้ำยักษ์ที่มีปริมาตรและประโยคให้กำลังใจในการดื่มน้ำเขียนไว้ข้างขวดช่วยได้นะคะ 🤓 เมื่อก่อนดื่มน้ำน้อย แต่ตอนนี้ใช้วิธีจิบบ่อยๆระหว่างวันจากขวดน้ำของตัวเอง มันจะมีปริมาตรเขียนไว้ ทำให้สามารถนำไปตอบคุณหมอได้ว่าในหนึ่งวัน เราดื่มน้ำเปล่าประมาณเท่าไหร่ จากคนที่ไม่ค่อยดื่มน้ำเปล่า ดื่มกาแฟเป็นหลัก ตอนนี้ดื่มน้ำเปล่าประมาณ 3-4 ลิตรต่อวันโดยไม่รู้สึกฝืนค่ะ (ที่ดื่มน้ำเปล่าเยอะก็เพราะว่าดื่มกาแฟเยอะเช่นกัน555)
ขอบคุณสำหรับความรู้ครับอาจารย์ เป็นความรู้ในชีวิตประจำวันมากๆ จะนำไปให้ความรู้คนรอบข้างต่อๆไปครับ
มีประโยชน์มากค่ะ... ขอบคุณคะ
เพิ่งได้ติดตามคุณหมอค่ะ ได้ความรู้ เข้าใจได้ง่าย บางคลิปได้แง่คิดชีวิตเลยค่ะ รู้สึกคุณหมอใช้เวลาในหนึ่งวัน อย่างคุ้มค่าและมีคุณภาพมาก ๆ นับถือค่ะ
สวัสดีค่ะ ขอให้สดชื่นทั้งวัน การงานราบรื่น สบายใจ ตลอดเวลานะคะ ขอบคุณค้าา
ขอบคุณสำหรับความรู้ค่ะ
ได้ความรู้ต่างๆมากมายเลยค่ะ สงสัยว่าเป็นร้อนในบ่อยมากๆ ทำให้รู้สึกกระหายน้ำตลอดเวลาเลยค่ะ จิบน้ำตลอดเลย อยากทราบว่าเพราะอะไรถึงเป็นร้อนในบ่อยคะคุณหมอ และมีวิธีรักษา ให้ไม่เป็นบ่อยไหมคะ
พวกนั้นต้องเริ่มที่การพักผ่อนให้พอและดื่มน้ำให้พอ นอกจากนั้นควรเปลี่ยนแปรงสีฟันทุกๆเดือนครับ บ้วนปากทำความสะอาดบ่อยๆด้วยน้ำยาบ้วนปากก็ช่วยได้ครับ
ขอบคุณ คุณหมอค่ะ ตอนนี้ดื่มวันละสองลิตรกว่าค่ะ เดินวันละหมื่นกว่าก้าวค่ะ (เพราะเมื่อสองเดือนติดโควิดค่ะ)
คุณหมออธิบายละเอียดมากเลยค่ะ ขอบคุณค่ะ
สวัสดีค่ะ เคยได้ฟังคลิปท่านหนึ่งเขาใช้วิธีธรรมชาติบำบัดในการรักษาก็มีคำแนะนำการดื่มน้ำเช่นกันค่ะ มีคำแนะนำที่ดีๆเยอะเลย แต่มีที่ไม่เห็นด้วยคือเขาบอกว่าการดื่มน้ำปัสสาวะของตัวเองเพื่อรักษาโรค เอามาสระผม มันได้ด้วยเหรอค่ะ🤔🤔 ตอนนี้เลิกติดตามล่ะจริตไม่ตรงกันค่ะ😄😄
ขอบคุณที่ไห้ความรู้ครับอาจารย์
ตอนนี้กำลังทำอยู่ค่ะหันมาดื่มน้ำจริงจัง ใส่ขวด 2ลิตรไว้แต่เช้าแล้วจิบไปเรื่อยๆ รู้สึกดี สดชื่น เวลาออกกำลังกาย แขนจะฉ่ำๆ และไม่มีกลิ่นปากยิ่งมาฟังจากคุณหมอ ยิ่งมีความรู้มากขึ้น ขอบคุณคุณหมอมากค่ะ
สุดยอดมากคับคุณหมอ กับความรู้ดีๆ ที่คุณหมอนำมาเล่าให้ฟัง ขอบคุณคุณหมอมากครับ
ขอบคุณ คุณหมอมากๆ ค่ะ ฟังคุณหมอตลอดทุกคลิป ได้ความรู้ดีๆ โดยไม่มีแอบแฝง โฆษณาหรือขายของเลย ชื่นชมคุณหมอมากๆ ค่ะ
ขอบคุณค่ะ สำหรับข้อมูลดีๆ
สวัสดีค่ะ คุณหมอแทน ป้าขอโทษค่ะฟังเพลินๆๆเลยขอบคุณข้อมูลในคริปนี้น่ะค่ะการดื่มน้ำมากเกินก็ไม่ดี การดื่มน้ำน้อยก็ไม่ดีอีกเพราะฉนั้นควรที่จะต้องดื่มให้พอดีกับร่างกายของเราจริงๆๆค่ะ บางวันเราก็ทานผลไม้บ้าง บางวันก็ทานน้ำชุปบ้างหรือทุกสิ่งอย่างตามที่คุณหมอได้กล่าวไว้ในหัวข้อ ขอขอบคุณน่ะค่ะคุณหมอแทน สุขภาพดีมีความสุขน่ะค่ะและน้องโรชี่ด้วยค่ะ🙏🏼♥️♥️♥️🥰ค่ะ
สวัสดีค่ะคุณหมอ ขอบพระคุณมากค่ะ💐
ขอบคุณมากค่ะคุณหมอ ถ้ามีโอกาสอยากให้คุณหมอพูดเกี่ยวกับเรื่องโรครูมาตอยก็หรือ SLE ค่ะ
อธิบายดีมากจริงๆค่ะ ทำคลิปดีๆแบบนี้ต่อไปนะคะคุณหมอ❤
รบกวนสอบถามคุณหมอค่ะ แรงดันน้ำในโพรงสมองสูง (วัดค่าจากการเจาะน้ำในไขกระดูกสันหลังไปตรวจค่ะ) เกิดจากสาเหตุอะไรคะ และมีวิธีรักษาอย่างไรคะ ขอขอบพระคุณมากนะค่ะ
มีหลายสาเหตุครับ เช่น มีการอุดตันทางเดินน้ำในสมอง มีการสร้างที่มากผิดปกติ หรือมีการดูดซึมน้ำได้น้อยลงในโพรงสมอง การรักษาขึ้นกับสาเหตุครับ ถ้าแก้ไม่ได้ก็อาจต้องใส่สายระบายน้ำในโพรงสมองเข้าไปที่ช่องท้องหรือช่องหัวใจแทนครับ ตรงนี้ต้องสอบถามหมอที่รักษาครับ
ขอบคุณค่ะ ได้ความรู้มากมาย จะได้ดูแลตัวเองให้ดีขึ้น
ขอบคุณมากค่ะ เป็นเรื่องที่กำลังสงสัยพอดีเลย
ขอบคุณค่ะคุณหมอมีความรู้มากๆ
ขอบคุณค่ะสำหรับความรู้
ขอบคุณคุณหมอมากค่ะ เป็นเรื่องที่รู้ แต่ไม่เข้าใจที่มา และสาเหตุเลยค่ะ จนวันนี้ได้เข้าใจเสียที 👍👍👍👍
การดื่มน้ำ เรื่องธรรมดาที่ไม่ธรรมดา เป็นความรู้ที่ดีมากสำหรับทุกคนเลยค่ะ ได้ยินคุณหมอ นักโภชนาการและจากที่คุณครูสอนตั้งแต่ชั้นประถมว่าเราควรดื่มน้ำวันละ 6-8 แก้ว ต่อมาก็เป็น 1.5-2 ลิตรต่อวันก็เชื่อจามนั้นมาตลอด ไม่เคยสงสัยเลยว่าทำไม แต่วันนี้คุณหมอกรุณาอธิบายเหตุผลเป็นความรู้ที่ดีมากที่ทุกคนควรรู้เลยค่ะ ปกติเป็นคนชอบดื่มน้ำและดื่มเยอะอยู่แล้วจึงไม่เข้าใจคนที่ไม่ชอบดื่มน้ำหรือดื่มน้ำไม่พอ แต่ถ้ายุ่งจนไม่มีเวลาดื่มน้ำนี่เข้าใจค่ะ เคยเป็นแต่ไม่บ่อยเพราะร่างกายจะเตือนตัวเองเสมอว่าเธอหิวน้ำ! ควรดื่มน้ำได้แล้ว คุณหมอคะ การดื่มน้ำเย็น (น้ำใส่น้ำแข็ง) มีผลเสียกับร่างกายจริงไหมคะ เป็นคนชอบดื่มน้ำใส่น้ำแข็งมากค่ะ แต่จะโดนดุบ่อย ๆ ว่ากินน้ำเย็นมันไม่ดี ต้องดื่มน้ำอุ่นค่อนไปทางร้อนถึงจะดี แต่เราไม่ชอบอ่ะค่ะ ดื่มน้ำอุ่นรู้สึกคอแห้ง ไม่ชื่นใจเหมือนน้ำเย็น เคยอ่านเจอว่าการดื่มน้ำเย็นช่วยให้ระบบเผาผลาญทำงานเก่งขึ้น เพราะร่างกายจะปรับอุณหภูมิน้ำให้เท่ากับอุณหภูมิของร่างกาย ถือเป็นการเผาลาญพลังงานอย่างหนึ่งจริงไหมคะ
ขอบคุณอาจารย์หมอมาก ค่ะคลิปวันนี้ทำไมเราต้อง ดื่มน้ำวันละ 2 ลิตร เรื่องน้ำๆ วันนี้เป็นประโยชน์มากเลย ค่ะ การหายใจก็ทำให้สูญ เสียน้ำด้วย ปกติดื่มน้ำน้อย ค่ะ เคยได้ยินเสมอว่าควร ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ8 แก้ว ค่ะ ถ้าเฉลี่ยแก้วละ200 cc. จำนวน 8 แก้วก็ประมาณ 1,600 cc. เป็นเป้าหมายที่ ควรทำแล้วค่ะแค่เรื่องน้ำๆ มองข้ามไม่ได้แล้วค่ะ มาฟัง อาจารย์หมออธิบายได้ ความรู้ความเข้าใจมากกว่า ในเน็ตทั่วไป ขอบคุณ อจ. หมอมากมายเลยค่ะ 🌷 🙏
ขอบใจมากที่ให้ความรู้ดีๆค่ะ
ขอบคุณ คุณหมอมากค่ะ ได้ความรู้มากเลยค่ะ จะได้รู้สึกสำคัญว่า ทำไมต้องทานน้ำให้ได้เท่านั้นเท่านี้ เพราะแบบนี้นี่เอง ไล่ฟังคุณหมอทุกคลิปนะคะ ☺️💞
ขอบคุณค่ะคุณหมอ ขอให้คุณหมอยิ่งสอนยิ่งเก่งเป็นทวีคูณ
เป็นกำลังใจให้อาจารย์หมอ แทน ตลอดกาลค่ะ☺️ ได้ความรู้ด้วยค่ะจากคำถามที่คนถามเข้ามาแล้วอาจารย์หมอเข้ามาตอบ🙏ขอให้ อาจารย์หมอมีความสุข มากๆค่าาา พักผ่อนด้วย นะคะ🐶🌹☺️☺️☺️
ขอบคุณความรู้ดีๆครับ
ขอบคุณค่ะคุณหมอ🙏 ได้ความรู้ชัดเจนมากเลยค่ะ นู๋อยากรู้เพิ่มเติมค่ะ ว่าทำไมเราต้องเดินให้ได้ 10,000 ก้าว/วัน และต้องเข้านอนไม่เกิน 4 ทุ่ม ค่ะ😊
ไม่ต้องทำเช่นนั้นหรอกครับ แค่เราออกกำลังกายทุกวัน และพักผ่อนให้เพียงพอก็เป็นใช้ได้ครับ
ขอบคุณค่ะ ได้ความรู้เยอะเลยค่ะ
Thank you krub Dr.Tany, God Bless You!
อยากให้เล่าเกี่ยวกับโรค SIDH ค่ะ จะรอฟัง
(ส่วนที่ 1) 🌟หัวข้อวันนี้น่าสนใจมากเลยค่ะ 🙏ขอขอบคุณอาจารย์หมออย่างยิ่งค่ะ ที่ได้มาให้ความรู้ และทำให้เข้าใจอย่างกระจ่างเลยค่ะว่า ทำไมถึงต้องดื่มน้ำเยอะๆ และควรจะดื่มน้ำแค่ไหนในแต่ละวัน ทำไมเราต้องดื่มน้ำวันละ 2 ลิตร❓ ร่างกายของคนเรามีน้ำเป็นส่วนประกอบเป็นส่วนมาก แต่เมื่ออายุมากขึ้น จะถูกทดแทนด้วยไขมันเป็นส่วนใหญ่ ปริมาณน้ำในร่างกายก็จะลดลง โดยเฉพาะผู้หญิง สัดส่วนของไขมัน ต่อ น้ำในร่างกายจะสูงกว่าของผู้ชาย *️⃣แล้วควรดื่มน้ำมากน้อยแค่ไหนต่อวัน❓ ร่ายการมีการสูญเสียน้ำทุกวัน เมื่อมีการสูญเสียออกไปแล้วไม่เอาน้ำกลับเข้ามาทดแทน ร่ายกายก็จะขาดน้ำไปเรื่อยๆ ก็จะส่งผลทำให้เกิดปัญหาต่อร่างกายหลายอย่าง *️⃣สูญเสียน้ำจากทางใดได้บ้าง ➡️1 ทางการหายใจ การพูด จะมีการสูญเสียน้ำไปในทางเดินหายใจ วันละประมาณเฉลี่ย 400 มิลลิลิตร ➡️2 ทางอุจจาระ หรือทางลำไส้ใหญ่ น้ำโดยเฉลี่ยในนั้นประมาณ 200 มิลลิลิตร ➡️3 ทางผิวหนัง ออกมาในรูปของเหงื่อ หรือเป็นการระเหยไปเลย โดยเฉลี่ยเสียน้ำทางผิวหนังประมาณวันละ 500 มิลลิลิตร ➡️4 ปัสสาวะ ร่ายกายจะมีกระบวนการสลายสารอาหารต่างๆและมีสมดุลเกลือแร่อยู่ ซึ่งร่างกายต้องรักษาสมดุลเกลือแร่ทั้งหมดไว้ให้ได้ คำหนึ่งที่ต้องรู้จักคือ Osmolarity เป็นคุณสมบัตรของเหลวในร่างกายอย่างหนึ่งที่มีความเข้มข้นและพยายามที่จะดึงเอาน้ำมาสู่ตัวเอง Osmolarity ในร่างกายของเราจะต้องมีค่าคงที่ค่าหนึ่ง ถ้าสูงเกินไปก็แปลว่ามันดึงน้ำเข้ามาไว้ตรงบริเวณนั้นเยอะๆ ซึ่งไม่ดี แต่ถ้ามันต่ำจนเกินไปมันก็จะปล่อยน้ำทิ้งไปที่อื่นหมด ซึ่งก็ไม่ดีเช่นกัน
(ส่วนที่ 2) 🩸เลือดของเราจะมี Osmolarity อยู่ที่ประมาณ 290 mOsm/L (milliosmole/liter) จะมีโรคบางโรคที่ทำให้ค่านี้สูง/ต่ำ ที่ไม่เหมือนกัน ปัสสาวะ ของคนเรา จะควบคุม ความเข้มข้นของ Osmolarity ได้โดยไตของเรา และไตก็จะตอบสนองต่อฮอร์โมนชนิดต่างๆ ในร่างกาย เช่น ฮอร์โมน ADH (Antidiuretic Hormone) และมีอีกชื่อหนึ่งคือ Arginine Vasopressin (AVP หรือ Vasopressin) ฮอร์โมนตัวนี้ไปช่วยในการทำให้เส้นเลือดของเรามีการหดตัว มีตัวอื่นๆอีกเช่น BNP (Brain Natriuretic Peptide) หรือ ANP ทั้งหมดทั้งมวลคือทำให้ไตมีความสามารถในการสร้างปัสสาวะที่มีความเข้มข้นได้แตกต่างกัน แต่ไตก็มีความสามารถที่จำกัดคือ ทำให้ปัสสาวะเข้มข้นสูงสุดได้ที่ 1200 mOsm/L คือถ้าเราขาดน้ำมากๆ ปัสสาวะจะออกมาเข้มข้นสูงสุดที่ 1200 mOsm/L *️⃣ตัวเลขนี้มีความสำคัญอย่าง❓ ปกติแล้วร่างกายจะมีการสร้าง Osmolarity ออกมาจากที่ต่างๆ เช่น โซเดียมที่กินเข้าไป โพแทสเซียมที่กินเข้าไป หรือพวกการสลายพวกโปรตีนต่างๆ จะทำให้เกิดยูเรีย ขึ้นมาในร่างกายเรา ทั้งหมดนี้เป็นส่วนประกอบ ทำให้เกิด Osmolarity ขึ้นมา แต่ร่างกายจะต้องขับทิ้งออกไป แต่ละวันจะขับทิ้งประมาณ 600 mOsm ต่อวัน ร่ายกายจะไม่สามารถขับทิ้งเฉพาะ Osmolarity เปล่าๆได้ ต้องนี้น้ำเป็นส่วนประกอบเท่านั้น ไตสามารถขับปัสสาวะได้เข้มข้นที่สุด 1200 mOsm/L ถ้าเรามี 600 mOsm ให้ขับทิ้งออกไป ก็ต้องใช้ 500 มิลลิลิตร เพราะฉะนั้น เราสูญเสียน้ำทางผิวหนัง 500 มิลลิลิตร ทางเดินหายใจ 400 มิลลิลิตร และทางอุจจาระอีก 200 มิลลิลิตรรวมกัน 1100 มิลลิลิตร ถ้าบวกกับที่ขับทิ้งอีก 500 มิลลิลิตร ก็จะได้เป็น 1600 มิลลิลิตร ไม่ว่าจะมีการขาดน้ำอย่างเต็มที่อย่างไรเราก็จะมีการสูญเสียน้ำปริมาณเท่ากับ 1600 มิลลิลิตร ออกไปทุกวัน ดังนั้นสิ่งที่ดีที่สุดก็คือเราจะต้องดื่มน้ำให้มากกว่า 1600 มิลลิลิตรต่อวัน แต่นี่เป็นการยกตัวอย่างแบบสุดโต่ง หมายความว่าถ้าเราไม่ได้ดื่มน้ำอะไรเข้าไปเลย ปัสสาวะเราเข้มข้นมากที่สุดได้เท่าไหร่ ถ้าเราไม่ปัสสาวะเลยไม่ได้ เพราะว่าถ้าเราไม่ปัสสาวะออกมาเลย สิ่งต่างๆซึ่ง เป็นของเสียเช่น ยูเรีย พวกกลุ่มที่เป็นโซเดียมโพแทสเซียม หรืออะไรก็แล้วแต่ที่เรารับประทานเข้าไปมันจะไปคั่งอยู่ในร่างกายของเรา ก็จะทำให้ร่างกายของเราทำหน้าที่ผิดปกติไป ดังนั้นจึงมีเหตุผลที่ร่างกายจะต้องขับมันออกมาและขับมันออกมาเปล่าๆไม่ได้ต้องมีน้ำตามออกมาด้วยเป็นปัสสาวะ ดังนั้น จึงเป็นที่มาของการ เสียน้ำไปทางปัสสาวะ ดังนั้นโดยรวมแล้วก็คือ 1600 มิลลิลิตร ที่ต้องใช้ในแต่ละวัน แต่เราไม่สามารถดื่มน้ำได้แค่ 1600 มิลลิลิตรต่อวันแล้วทุกอย่างจะดี นั่นเป็นเพราะว่าไตของเราต้องทำงานหนักตลอดเวลา ทำให้ปัสสาวะเข้มข้นตลอดเวลา ผ่านไปนานๆ ก็จะมีปัญหาได้ เวลาปัสสาวะเข้มข้นมากๆนานๆ ก็จะทำให้เกิดนิ่ว เป็นนิ่วในไต นิ่วในกรวยไต นิ่วในท่อไต หรือว่ามีปัญหาต่างๆในแง่ของการขาดน้ำ ร่ายกายก็พยายามเก็บน้ำไว้แต่ไม่มีให้เก็บ เข้ามาเท่าไหร่ก็ออกไปหมดเลย ดังนั้นจึงเป็นเหตุผลให้ดื่มน้ำเกิน 1600 มิลลิลิตร ก็เลยเป็น ที่มาของการดื่มน้ำ 2 ลิตร/วัน เกินมา 400 มิลลิลิตรเพื่อให้มีเหลือมีใช้บ้าง ก็จะสามารถช่วยให้ไตทำงานได้ดีขึ้น
(ส่วนที่ 3) *️⃣ถ้าเราไปหลงป่า แล้วเราไม่มีน้ำดื่มจริงๆ เราดื่มน้ำปัสสาวะตัวเองได้หรือเปล่า❓ เมื่อร่างกายขาดน้ำปัสสาวะของเราก็จะเข้มข้นมากๆ เพื่อที่จะพยายามสงวนน้ำไว้ในร่างกายของเรา แต่ยังไงก็ต้องปัสสาวะออกมา เพราะมันต้องขับสารที่ เป็นพิษต่อร่างกายออกมาด้วย พอมันขับออกมาแล้ว ปัสสาวะของเราก็จะมีความเข้มข้นที่สูงมาก 1200 mOsm/L และเมื่อเลือดเราความเข้มข้นอยู่ที่ประมาณ 290 mOsm/L ถ้าดื่มน้ำปัสสาวะที่มีความเข้มข้น 1200 mOsm/L ถ้าเอาเข้าไปในเลือด ก็จะเกิดความเข้มข้นที่สูงขึ้น mOsm ในร่างกายของเราก็จะสูงขึ้น แทนที่จะเป็น 290 อาจจะเป็น 300 ถึง 300 กว่า พอร่างกายมีความเข้มข้นในเลือดสูง มากๆ ก็แปลว่ามีสารพิษ osmole ที่จะต้องขับออกไปให้มากขึ้น แทนที่ปกติจะมี 600 mOsm อาจจะเป็น 800 หรือ 1000 คือถ้าท่านดื่มปัสสาวะของตัวเองเข้าไป จนมี 1200 mOsm ที่ต้องขับ ก็แสดงว่าท่านต้องปัสสาวะออกมา 1 ลิตร ถ้าไม่ทันยิ่งเสียน้ำเข้าไปใหญ่ ดังนั้นท่านก็จะยิ่งหิวน้ำมากขึ้น ร่างกายเราจะบ่งบอกว่า ต้องการน้ำเพิ่มขึ้นเพราะว่า เราต้องไปขับของเสียที่เรากินเข้าไปเองเพิ่มขึ้น *️⃣ก็เช่นเดียวกับที่ไปหลงในทะเล แล้วจะดื่มน้ำทะเลได้ไหม❓ คำตอบคือ ไม่ได้ ยิ่งดื่มก็จะยิ่งหิวน้ำเพราะว่า ปริมาณเกลือแร่ในน้ำทะเลสูงมาก ถ้าเป็นทะเลโดยทั่วๆไป ความเข้มข้นของโซเดียมหรือ ว่าเกลือทั่วๆไป จะอยู่ที่ประมาณ 3.5% น้ำเกลือที่เราปกติให้กันในโรงพยาบาลที่เป็นน้ำเกลือเปล่าๆจะอยู่ที่ 0.9% และ 0.9% นี้ก็สูงกว่าในเลือดของเราด้วย แปลว่าจะทานดื่มน้ำทะเลเข้าไป ช่วงที่ท่านขาดน้ำ ก็จะยิ่งทำให้ร่างกายของท่าน มีความหิวน้ำเพิ่มขึ้น ต้องการน้ำเพิ่มขึ้นเพื่อที่จะเอาไปขับเกลือแร่ที่ได้รับเกินไปออกมา ทางปัสสาวะอีกรอบหนึ่ง ภาวะอื่นที่จะต้องดื่มน้ำเข้าไปมากขึ้นเช่น ▶️1 ถ้าท่านมีท้องเสีย ▶️2 มีการหายใจเหนื่อยหอบ ▶️3 มีไข้ ร่างกายต้องการระบายความร้อนผ่านทางเหงื่อ ผ่านทางผิวหนังเพิ่มขึ้น
(ส่วนที่ 4) *️⃣ดื่มน้ำได้มากที่สุดแค่ไหน❓คิดมาจากอะไร❓ คำตอบคือ คิดมาจากความเข้มข้นของปัสสาวะ เวลาที่เราได้รับน้ำเกินเข้าไปในร่างกาย ร่างกายก็จะขับน้ำที่เป็นส่วนเกินออกมาข้างนอก ยังไงก็ต้องมี osmole ปนมาอยู่ดี โดยร่างกายเราทำปัสสาวะให้เจือจางมากที่สุด ได้อยู่ที่ 50 mOsm/L ในแต่ละวันจะมีประมาณ 600 mOsm ที่ต้องขับทิ้ง และถ้าท่านขับออกมาได้เจือจางที่สุดคือ 50 mOsm/L จะขับ 600 mOsm/L ออกหมดได้ก็จะใช้น้ำประมาณ 12 ลิตร จริงๆแล้วอาจจะอยู่ที่ 13-14 ลิตร แต่ว่าความสามารถของร่างกายของแต่ละคนก็ไม่เท่ากัน อาจจะทำได้มากกว่านั้นอาจจะ 17 ถึง 20 ลิตร แต่ไม่มีความจำเป็นจะต้องไปดื่มมากขนาดนั้น เพราะปัญหาก็คือถ้าเราดื่มมากขนาดนี้นั่นนาน ก็จะทำให้ร่างกายเรามีความเจือจางมากขึ้นเรื่อยๆแล้วก็จะเกิดปัญหาต่อร่างกายได้ ปัญหาหลักๆเมื่อเรามีภาวะน้ำเกินกับน้ำขาด เกลือแร่ชนิดหนึ่ง ซึ่งมีปัญหามากที่สุดก็คือ โซเดียม มีหน้าที่ในการสื่อสารสื่อประสาทของเรา ถ้าสูงเกินไปก็ไม่ดี ต่ำเกินไปก็ไม่ดีเช่นกัน ทางเดินสื่อประสาทของเราจะมีปัญหาต่ำหรือสูงไปก็จะมีอาการทางระบบประสาท เช่นเห็นภาพหลอน มือชา เท้าชา จนถึงขั้นหมดสติชักได้ และเสียชีวิตได้เวลาที่โซเดียมมีความผิดปกติมากๆ ✳️นี่คือที่มาของการที่เราควรจะดื่มน้ำประมาณวันละ 2 ลิตร โดยน้ำ 2 ลิตรนี้ไม่จำเป็นจะต้องเป็นน้ำเปล่าอย่างเดียว เช่นในอาหารก็มีน้ำเป็นส่วนประกอบ 🛑จะมีโรคบางโรคซึ่งไม่สามารถจะได้น้ำมากขนาดนี้คือ 🔺ถ้าคนไหนมีไตวาย การได้น้ำมากเกินไปก็จะมีปัญหา เพราะไม่สามารถขับน้ำออกไปได้ ก็จำเป็นต้องลดปริมาณน้ำลง และจะต้องลด osmole คือสิ่งที่ร่างกายต้องขับทิ้ง เช่นแต่ท่านทานเค็มเข้าไปเยอะๆ ร่างกายจะต้องไปเอาปัสสาวะไปขับทิ้งออกมา แต่เนื่องจากไตของท่านเสียไปแล้ว ขับออกมาไม่ได้ ก็จะปัญหาเรื่องเกลือแร่ที่คั่งอยู่ในร่างกาย 🔺 ถ้ามีหัวใจวาย หัวใจบีบเลือดออกไปเลี้ยงไตไม่ได้ ไตก็จะวายตามมา ร่างกายขับน้ำออกไปไม่ได้ร่างกายก็จะมีน้ำเกิน ในกรณีนี้ก็ต้องงดน้ำลง 🔺 คนที่มีปัญหาไฮโปไทรอยด์ ไทรอยด์ทำงานต่ำผิดปกติ ร่างกายก็จะเก็บน้ำไว้ในร่างกายก็จะมีปัญหาอีก 🔺 ยาบางอย่าง ก็จะทำให้เก็บน้ำไว้ในร่างกายเพิ่มขึ้น 🔺 บางโรคก็ต้องงดเฉพาะน้ำเปล่าๆ แต่ทานน้ำที่มีเกลือแร่ปน คือโรค SIADH
👍👍❤️♥️ สุดยอดซุ่มอ่ะ หยอกๆ 😆
อาจารย์คะ อายุ น้ำหนัก activity มีผลต่อปริมาณน้ำที่ต้องทานมั้ยคะ แล้วการทานเครื่องดื่มที่ไม่ใช่น้ำเปล่าตลอดเวลา โทษเหมือนเราทานปัสสวะหรือเปล่าคะ
1) มีครับ แต่อย่างน้อยต้องทำได้เท่าในคลิปที่ผมบอกไป 2) ไม่ครับ โทษขึ้นกับว่ามันคืออะไร แต่ไม่มีทางเหมือนกันครับ
สวัสดีค่ะคุณหมอธนีย์ บางครั้งคนเราก็ลืมนึกถึง ความสำคัญของน้ำที่มีต่อร่างกาย จนอาจเกิดภาวะการขาดน้ำ คุณหมออธิบายถึงสาเหตุดารขาดน้ำ และปริมาณที่ร่างกายต้องการน้ำในแต่ละวัน อย่างละเอียดและเข้าใจง่าย การดื่มน้ำให้เพียงพอเป็นสิ่งจำเป็นมาก SIADH เป็นภาวะโซเดียมในร่างกายต่ำ จากน้ำที่เกินเข้ามาในกระแสเลือด เข้าใจยากจริงค่ะ ขอบคุณมากค่ะ ขอให้คุณหมอและครอบครัว มีสุขภาพแข็งแรง ปลอดภัย และมีความสุขนะคะ
คุณมนต์ดื่มวันละ 2 ลิตรไหมคะ หรือมากกว่านั้นคะ
@@FragranzaTrippa ดื่มน้ำเยอะค่ะวันละ 2-3 ลิตรค่ะ ขอบคุณมากนะคะ คุณทริปป้า ⚘💙⚘
@@boomsong5729 ดื่มพอๆกันเลยค่ะ
ขอบคุณความรู้จากอจ.หมอค่ะ
ขอบคุณมากค่ะคุณหมอ
สวัสดีค่ะ ถ้าเราออกกำลังแล้ว หิวน้ำที่มีรสหวานซ่า อย่างน้ำอัดลมบางชนิด แล้วดื่มคู่ไปกับน้ำเปล่าจะมีผลอย่างไรบ้างกับ ระบบการดูดซึม ของลำไส้ หรือไต ของเราบ้างคะ ❣️
ไม่มีผลอะไรครับ
สวัสดีค่ะคุณหมอขอบคุณข้อมูลดีๆ
คุณหมอสบายดีน่ะค่ะ ผ่านวิกฤษผลข้างเคียงใาได้ฉิวเฉียดค่ะ
สบายดีครับผม
คุณหมอคะ สงสัยว่า 1) เวลาเราอาบน้ำ นานๆ แล้ว นิ้วเหี่ยวๆ หาข้อมูลเค้าบอกว่าเป็นเพราะน้ำค่อยๆซึมกลับเข้าไปในร่างกายได้ใช่ไหมคะ ( ออสโมซิส ) แบบนี้เรานับน้ำส่วนนี้ อยู่ใน 2 ลิตรไหมคะ 2) เวลาอาบน้ำเสร็จใหม่ๆเล็บจะนิ่มมากเลยค่ะ เราชอบตัดเล็บหลังจากอาบน้ำเสร็จค่ะ ทำไมเล็บถึงนิ่มได้หรือคะ คุณหมอ ขอบคุณมากค่ะ
1) ก็อาจจะแบบนั้นครับ ไม่นับครับ และต่อให้นับจะนับได้เหรอครับ 2) น้ำเข้าไปในเล็บครับ
สวัสดีค่ะอาจารย์ เคยอ่านว่าให้ทานน้ำตามนน. ตัว คร่าวๆคือ นน.*30 ml แบบนี้นน. 45 ดื่มประมาณ 1.5 ลิตรใช้ได้มั้ยคะ หรือควร 2 ลิตรไปเลยคะ _/|\_
จะเอาให้ละเอียด 45 กก ก็ต้องดื่มอย่างน้อย (10x100) + (10x50) + (25x20) = 2000 cc ครับ
ดูจบแล้วรีบไปหยิบน้ำมาดื่มเลยค่ะ 😅 ขอบคุณมากๆค่ะ อธิบายเข้าใจง่ายฝุดๆ
ขอบคุณนะคะ อาจารย์หมอ คะ
ขอบคุณนะคะ ส่วนตัวก้จะดื่มน้ำให้ได้ประมาณ 2 ลิตรทั้งๆที่ถ้าคำนวณตาม นน แล้ว จะดื่มได้แค่ 1,200 นิดๆ ยิ่งได้ฟังเช่นนี้แล้วยิ่งมั่นใจว่าสามารถดื่มเกินได้🙏
ลองตามสูตรนี้ ก็ได้ค่ะ ไม่ยาก และไม่ได้มากเลยจริงๆ ค่ะ 1. หลังตื่นนอน และก่อนนอน (รวม 2 แก้ว * 250 cc) 2. ระหว่าง (ก่อน) มื้ออาหาร 3 มื้อ (3) 3. ระหว่าง (หลัง) มื้ออาหาร 3 มื้อ (3) แค่นี้ ก็ได้อย่างต่ำ 8 แก้ว * 250 cc. รวม 2 ลิตร/วันแล้วค่ะ ไม่นับที่จะคอแห้ง หากใช้เสียงมาก, หรือให้ช่วยความรื่นคอ ขณะรับประทานอาหาร, และกระหาย หากสูญเสียเหงื่อ หรืออากาศร้อน และที่ได้จากอาหาร ผัก และผลไม้เพิ่มเติม เมื่อก่อน ดื่มน้ำน้อยมาก พอไปบริจาคเลือด ซึ่งต้องดื่มน้ำก่อนบริจาค 3-4 แก้ว* 200 cc. และควรดื่มต่อวัน ให้ได้วันละ 2 ลิตร เพื่อการสร้างชดเชยและบำรุงรักษาระบบเพื่อการสร้างเม็ดเลือดที่ดี เลยทำให้ต้อง "ฝึก" การดื่มน้ำวันละ 2 ลิตรไปโดยปริยาย และทำให้ สามารถบริจาคเลือด ได้ทุก 3 เดือนอย่างสม่ำเสมอค่ะ ตั้งขวดน้ำ 1.5 ลิตร 2 ขวด ใกล้ตัว ดื่มเรื่อยๆ ทีละน้อย อย่ายกดื่มรวดเดียวทั้งแก้ว หรือทีละมากๆ .. ไตจะขับทางปัสสาวะเสียหมด จะทำให้ไตทำงานหนักเกินไปได้ค่ะ
ขอบพระคุณคุณหมอคะ ติดตามคะ
สุดยอด ครูผู้ให้จริงๆคะ ขอบคุณค่ะ
คุณอธิบายเข้าใจง่ายค่ะ
ขอบคุณมากๆค่ะอ.หมอ👏👏👏 เข้ามาฟังคลิปย้อนหลังค่ะ อ.หมอ เก่งที่สุดค่ะ🙋🙋🙋
ผมกินวันละ 3 ลิตรขั้นต่ำ แรกๆก็ฝืน หลังๆจะไม่พอด้วยซ้ำ รู้สึกชีวิตสดชื่นขึ้นครับ
ขอบคุณค่าาคุณหมอ สำหรับคำแนะนำการดื่มน้ำที่เหมาะสมค่ะ 🤩 - เนื้อหามีประโยชน์มากค่ะ คุณหมออธิบายละเอียด ฟังเพลินค่า 🙂 - คุณหมอพักดื่มน้ำค่าา 🍵🍒😃 - ทิ้งท้ายด้วยสุภาษิตเกี่ยวกับน้ำนะค้าา... "น้ำร้อนปลาเป็น น้ำเย็นปลาสบาย....ย" 😆😆 "สุขกาย สบายใจ ทุกท่านค่าาา..." 🌻🥰
ฟังคลิปนี้จบแล้วนึกถึงหนังสือเรื่อง Water: For Health, for Healing, for Life: You're Not Sick, You're Thirsty! ที่เคยอ่านช่วงม.ปลาย ตอนนั้นอ่านฆ่าเวลาพาคุณย่าไปพบหมอ แล้วก็ลืมเนื้อหาไปหมดแล้ว ช่วงนั้นจำได้ว่า เคยไปอ่านเกี่ยวกับผู้แต่งนส.เรื่องนี้ แล้วมีความเห็นประมาณว่าหมอท่านนี้มีความคิดไม่เหมือนใครที่เชื่อว่าแค่น้ำสามารถรักษาได้ทุกโรค อารมณ์เหมือนต่อต้านการใช้ยา เลยอ่านไม่จบ เดี๋ยววันนี้จะลองกลับไปอ่านดูอีกทีค่ะ ว่ามันเขียนว่ายังไงบ้าง แต่อันดับแรกต้องเช็ดทำความสะอาดก่อน หนังสือเก่ามากกก เดี๋ยวภูมิแพ้ขึ้น 🤧
ขอบคุณคุณหมอมากค่ะ
ขอบคุณมากครับคุณหมอ💗
ขอบคุณคะ ดีใจที่ คุณหมอมาให้ความรู้ ขอบคุณพระคุณอย่างสูงค่ะ พึ่งรู้ระบบร่างกายบนเครื่องบินคะ
ตัวอย่าง ตื่น6.30ดื่ม2แก้ว ทานข้าว7โมง เว้นไป2ชั่วโมง 9โมง1แก้วแล้วก็10และ11โมง หลังเที่ยงบ่าย2-3-4-5 ช่วงค่ำอย่าอัดมาก ได้ลุกฉี่กลางคืน ข้อดีของการกินน้ำทั้งวันคือ เลิกอยากของหวาน ของจุกจิก
อยากทราบว่าคนที่ชอบดื่มโซดาเปล่าๆ วันละ 1-2 ขวด มีผลเสียอะไรไหมคะ ส่วนน้ำเปล่าก็ยังคงดื่มปกติค่ะ
ไม่ได้มีปัญหาอะไรครับ อาจท้องอืดหรือกรดไหลย้อนง่ายหน่อย แต่ถ้าไม่มีปัญหาอะไรพวกนี้ส่วนมากก็ดื่มได้ครับ
คุณหมอคะถ้าคนที่ชอบดื่มแต่น้ำเย็นๆ จะมีข้อเสียไหมคะ ❄️💧❄️เคยดื่มแล้วรู้สึกได้ว่าความเย็นมันไหลลงไปตามร่างกายเลยค่ะ แล้วท้องก็เย็นไปด้วยเลยค่ะ คนดื่มน้ำเย็น น้ำร้อน น้ำอุ่น น้ำอุณหภูมิห้อง แบบไหนดีสุดหรือคะ ขอบคุณค่ะ ☃️💧💦
ไม่มีปัญหาครับ
ขอบคุนครับอาจารย์
🙏🙏🙏ค่ะ คุณหมอ 🥰🥰🥰
สุดยอดครับ ทำให้รู้แจ้งเห็นจริงครับ
คำถามนี้เคยถามไว้คลิปก่อนๆ ขอบคุณคุณหมอมากเลยค่ะ เป็นปัญหาที่คาใจมานาน 😅
ขอบคุณมากค่ะดีมากค่ะเรื่องดื่มน้ำ
ขอบคุณค่ะ น้ำสำคัญต่อร่างกายจริงๆ 💧ช่วงนี้ดื่มเยอะเหมือนกัน🤔 แต่ขี้เกียจวิ่งเข้าห้องน้ำน่ะค่ะ ยิ่งหน้าฝนด้วย… และความจุในกระเพาะปัสสาวะแต่ละคนไม่เท่ากันด้วยมั้งคะ (ปกติเหงื่อก็ไม่ค่อยออก ถ้าไม่ได้เล่นกีฬา ขนาดเล่นกีฬาเหงื่อยังออกน้อยเลย😅) ทราบค่ะ…หลงป่ายังไงก็ไม่ดื่ม😨ค่ะ …เคยดูสารคดีมีวิธีหาน้ำจากหลายแหล่งอยู่เหมือนกัน…🤩
ขอบคุณคุณหมอแทนมากนะคะ ได้ความรู้มากมายมีคุณค่าเสมอ สำหรับตัวเองไม่ค่อยจำว่าดื่มน้ำเท่าไร ต้องจำบ้างแล้วแต่ไม่ดื่มน้ำเย็น น่าจะไม่ขาด สังเกตุจากสีของปัสสาวะ ปกติดีมาก เข้าห้องน้ำบ่อย กลัวว่าจะเกิน ต้องหันมาจำในแต่ละวัน ขอบคุณคุณหมออีกครั้งค่ะ มีคนพูดว่าสูงอายุไม่ควรดื่มน้ำก่อนนอนจริงไหมคะ
ดื่มก่อนนอนมันทำให้ปวดปัสสาวะตอนนอนได้ครับ
ขอบคุณคุณหมอมากๆนะคะ
ขอบคุณคะคุณหมอ😊
ขอบคุณมากๆค่ะคุณหมอ ฟังแล้วเข้าใจมากกว่าที่ผ่านมา คุณหมออธิบายมีเปรียบเทียบให้เห็นจริงด้วยค่ะ ต้องใส่ใจดูแลตัวเองเรื่องดื่มน้ำอย่างจริงจังพยายามดื่มให้ได้ค่ะและต้องรีบบอกต่อญาติๆ,เพื่อนๆค่ะ ขอบคุณมากค่ะ 🙏👍
คุณหมอคะ กรณีผู้ป่วยติดเตียง ใส่สายให้อาหารทางสายยาง ต้องการน้ำ กับสารอาหารอย่างไรคะ ขอบคุณค่ะ
ก่อนอื่นต้องถามหมอที่ดูแลตอนก่อนที่จะออกจาก รพ ครับ แต่ละคนมีความต้องการไม่เท่ากัน
@@DrTany ขอบคุณค่ะ
ผมเคยเป็นไตวายเฉียบพลัน ผลมาจาก G6PD อยากให้คุณหมอให้ความรู้เรื่องไตวายเฉียบพลัน และG6PD ครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ
เหมือนได้คุยกะหมอเลย..ขอบคุณในสาระที่ทุกคนควรทราบ-ดูแลตัวเองเบี้องต้น
อาจารย์คะ ยาบางอย่างที่อาจารย์บอกว่า อาจจะทำให้ร่างกายเก็บน้ำเอาไว้ นั่นคือ การคั่งน้ำ หรือเปล่าคะ ไปหาข้อมูลมาว่าเป็นยาดังต่อไปนี้ แต่ไม่แน่ใจว่าถูกหรือไม่ค่ะ 🔹ยาคุมกำเนิดบางยี่ห้อที่มีปริมาณเอสโตรเจนสูง 🔹ยากลุ่ม NSAIDs เช่น Ibuprofen และ Naproxen 🔹ยารักษาอาการปวดเส้นประสาท Pregabalin และ Gabapentin 🔹ยาต้านแคลเซียม Amlodipine 🔹ยารักษาโรคเบาหวาน Pioglitazone และ Rosiglitazone
ประมาณนั้นครับ
@@DrTany ขอบคุณมากค่ะอาจารย์...
อาจารย์ขา น้ำแร่ ดีกว่า น้ำเปล่าไหมคะ หรือ ไม่จำเป็น แค่ ดื่ม บางวัน ก็พอค่ะ
ไม่ได้ดีกว่าครับ
ขอบคุณมากนะคะคุณหมอ
หมอคะ ตอนเราเข้ารพ.เรายังกินได้เองแต่ทางรพ.เจาะแขนคาเข็มให้น้ำเกลือเพื่ออะไรคะ เราปฏิเสธได้มั้ยคะ ทำไมต้องเจ็บตัว แค่นอนรอดูอาการ(ปวดท้อง)
เพราะหากมีเหตุฉุกเฉินที่ต้องช่วยชีวิตด่วนจะได้มีที่ให้ยาเข้าเส้นเลือดโดยตรงครับ รพ ทุกแห่งจะทำแบบนี้ถูกแล้วครับ จะปฏิเสธก็ได้ แต่มันเคยมีเคสที่ฉุกเฉินแล้วช่วยไม่ทันเหมือนกัน รพ ต่างๆจึงทำแบบนั้นครับ
คุณหมอคะ รบกวนขอถามนอกเรื่องค่ะ มีอยู่ช่วงหนึ่งเราทำงานหนักมากอาหารก็ทานไม่เป็นเวลา น้ำก็ไม่ค่อยได้ทานนั่งอยู่หน้าคอมทั้งวันแทบไม่ขยับเขยื้อนไปไหน แล้วจู่จู่ก็เกิดอาการปวดท้องมากๆด้านซ้ายปวดแบบไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนค่ะ ตอนปัสสาวะคือต้องค่อยๆออกมาทีละนิดไม่มีแรงเบ่ง เพราะปวดมากค่ะ คิดว่าสองสามวันน่าจะหาย ไม่ได้ไปหาหมอและไม่ได้ทานยาค่ะ โชคดีที่มันก็ค่อยๆดีขึ้น และหายปวดแล้วค่ะ เหตุการณ์ผ่านมา 6 เดือนแล้วค่ะ เราไม่ได้ปวดท้องแบบนั้นแล้วค่ะ ไม่กล้าให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้นอีกค่ะ 1) ถ้าเป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบ หรือลำไส้อักเสบ อาการคือจะปวดท้องไหมคะ 2) ถ้าไม่ได้รักษา แต่หายปวดท้องแล้ว ถือว่าหายอักเสบ ได้ไหมคะ คุณหมอ ขอบคุณมากค่ะ 🙏😊
1) ปวดครับ 2) น่าจะครับ
ขอบคุณค่ะคุณหมอ ได้ความรู้เพิ่มขึ้นเรื่องการดื่มน้ำเลยค่ะ
Пікірлер: 626
ทำไมเราต้องดื่มน้ำวันละ 2 ลิตร ร่างกายเรามีน้ำเป็นส่วนประกอบเป็นจำนวนมาก แต่เมื่อายุมากขึ้นก็จะทดแทนด้วยไขมันและปริมาณน้ำก็จะลดลง โดยเฉพาะในเพศหญิงจะมีสัดส่วนไขมันต่อน้ำจะสูงมากกว่าผู้ชาย ร่างกายเราจะสูญเสียน้ำทุกวัน จาก 1. จากทางเดินหายใจ การหายใจ การพูด ต่อวันประมาณ 600 cc 2. ทางผิวหนัง อาจจะเป็นเหงื่อ หรือ การระเหยไปเลยโดยไม่เห็นเหงื่อก็เป็นได้ บางครั้งเหงื่อจะเป็นการขับความร้อนที่สูงเกินไปออกไปข้างนอก ยิ่งถ้าเรายิ่งร้อนเหงื่อก็จะยิ่งออกมากขึ้น แต่จะเห็นเหงื่อเป็นเม็ดหรือไม่ขึ้นอยู่กับความชื้นในอากาศ ถ้าชื้นมาก อาจจะเห็นเป็นเม็ดๆเหมือนประเทศไทย แต่ในประเทศที่แห้งมากๆถึงเราไม่ร้อน ไม่มีเหงื่อก็จะมีการสูญเสียน้ำออกไป โดยเฉลี่ย วันละ 500 cc คนที่อยู่บนเครื่องบิน หรือ ที่สูงๆที่มีความกดอากาศต่ำ แรงดันน้ำก็จะดันน้ำออกจากร่างกายได้มากขึ้น จะทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำมากกว่าปกติ ดังนั้นคนที่ขึ้นเครื่องบินจะต้องดื่มน้ำมากกว่าปกติ มิเช่นนั้นเลือดจะขาดน้ำ และ อาจเกิดลิ่มเลือดที่ขาหรือบริเวณต่างๆของร่างกายได้ ตอนที่1
@pattarapornsovarattanaphon8892
Жыл бұрын
3. ปัสสาวะ บางคนมากน้อยไม่เท่ากัน ร่างกายเราจะมีกระบวนการสลายสารอาหารต่างๆและสมดุลเกลือแร่ และจะมีคุณสมบัติของเหลวในร่างกายที่มีความเข้มเข้นและต้องการดึงน้ำเข้ามาสู่ตัวเอง เรียกว่า osmolarity ซึ่ง จะมีค่าคงที่ค่าหนึ่งถ้าสูงไป จะดึงน้ำมาไว้ปริมาณเยอะ แต่ถ้าตรงกันข้ามถ้าต่ำจนเกินไป ก็จะปล่อยน้ำออกมาเยอะๆ ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ไม่ดีเช่นกัน เลือดของเราจะมี osmolarity 290 mOsm/L จะมีบางโรคที่ทำให้ค่านี้สูงหรือต่ำกว่านี้ แต่สิ่งที่มีความเกี่ยวข้องกับปัสสาวะ คือ ปัสสาวะจะควบคุม ความเข้มข้นของ osmolarity โดยไตของเรา แล้วไตเราก็จะตอบสนองต่อฮอร์โมนต่างๆ เช่น ADH ย่อมาจาก Antidiuretic Hormone ( Anti= ต่อต้าน diuretic= ปัสสาวะ)หรือ เรียกว่า Vasopressin เป็นฮอร์โมนช่วยทำให้เลือดหดตัว, BNP, ANP สุดท้ายจะทำให้ไตเรามีความสามารถในการสร้างปัสสาวะเข้มเข้นแตกต่างกัน ไตเรามีความสามารถจำกัดทำให้ปัสสาวะเข้มข้นมากที่สุดได้ 1,200 mOsm/L ( คือถ้าเราขาดน้ำมากๆแล้ว ปัสสาวะเราจะเข้มข้นที่สุดได้ที่ 1,200 mOsm/L) ตอนที่2
@pattarapornsovarattanaphon8892
Жыл бұрын
ปกติร่างกายเราจะมีการสร้าง osmolarity ในที่ต่างๆ เช่น จากโซเดียม โปตัสเซียมที่เรากินเข้าไป หรือ การสลายโปรตีนต่างๆแล้วทำให้เกิดยูเรียขึ้นมาในร่างกาย ทั้งหมดเป็นส่วนประกอบที่ทำให้เกิด osmolarity ขึ้นมา แต่ร่างกายจะต้องขับทิ้งออกไปประมาณ 600 mOsm ต่อวัน ร่างกายเราไม่สามารถขับ osmolarity เปล่าๆได้ต้องมีน้ำเป็นส่วนประกอบด้วยเสมอ เหมือนกับเวลาเราอาบน้ำ เราไม่สามารถปัดสิ่งสกปรกออกจากร่างกายได้ เราจะต้องใช้น้ำเพื่อชะล้างสิ่งสกปรกออกไปด้วย ปริมาณน้ำน้อยที่สุดเป็นเท่าไหร่ ซึ่งไตของเราทำหน้าที่ตรงนี้อยู่ ไตเราขับได้สูงสุด 1,200 mOsm/L แต่ถ้าเรามี 600 mOsm ให้ขับ เราก็ต้องใช้น้ำครึ่งลิตรเป็นต้น ดังนั้นรวมๆกันแล้ว ที่เราต้องสูญเสียน้ำทางผิวหนังวันละ 500 cc ทางเดินอากาศ 400 cc ทางอุจจาระอีก 200 cc รวมกันเป็น 1,100 cc รวมกับอีก 500 cc รวมกันเป็น 1,600 cc เป็นปริมาณขั้นต่ำต่อวันที่ร่างกายเราสูญเสียไปต่อวัน ดังนั้นเราจะต้องดื่มน้ำเข้าไปให้มากกว่าที่ต้องสูญเสียไป ตอนที่3
@pattarapornsovarattanaphon8892
Жыл бұрын
ต่อให้เราพยายามอย่างไรเราไม่สามารถดื่มน้ำเพียงวันละ 1,600 cc แล้วจะเพียงพอ นั่นหมายถึงไตเราจะต้องทำงานหนักตลอดเวลา เพื่อทำให้ปัสสาวะเราเข้มข้น ผ่านไปนานๆจะทำให้มีปัญหาได้ เช่น นิ่วในไต ในกรวยไต นิ่วในท่อไต เป็นต้น หรือ ปัญหาต่างๆในแง่การขาดน้ำ ร่างกายก็พยายามจะเก็บน้ำไว้ก็ไม่มีให้เก็บ กินเข้าไปทำไหร่ก็ออกไปหมดเลย ดังนั้นจึงเป็นที่มาของการดื่มน้ำปริมาณ 2 ลิตรต่อวัน ถ้าเราหลงป่า แล้วเราดื่มน้ำปัสสาวะตัวเองได้หรือไม่ อย่างที่กล่าวมาข้างต้น หากร่างกายเราต้องการสงวนน้ำ ก็จะทำให้ปัสสาวะเข้มข้นมากๆ แต่จะสงวนอย่างไรก็ต้องขับสารเป็นพิษออกมาจากร่างกายด้วย ปัสสาวะของเราก็จะเข้มข้นสูงสุดถึง 1,200 mOsm/L หากเราดื่มเข้าไป เลือดเราจากที่มีความเข้มอยู่ที่ 290 mOsm/L ก็จะกลายเป็น 300 หรือ 3ร้อยกว่า ร่างกายก็จะเกิดปัญหา พอร่างกายมีความเข้มข้นในเลือดสูงมากขึ้น แสดงว่ามี osmol ที่จะต้องขับมากขึ้น เราก็จะยิ่งหิวน้ำเพื่อเอามาขับของเสียที่เราดื่มปัสสาวะเข้าไป ตอนที่4
@pattarapornsovarattanaphon8892
Жыл бұрын
เช่นเดียวกันกับหากเราไปหลงในทะเล เราก็ไม่ควรดื่มน้ำทะเล ด้วยเหตุผลคล้ายๆกัน เพราะทะเลทั่วๆไปความเข้มข้นของเกลือ หรือ โซเดียมจะอยู่ที่ 3.5% แต่น้ำเกลือที่ใช้ในโรงพยาบาลเข้มข้นเพียง 0.9% (ซึ่งจริงๆเข้มข้นกว่าในเลือดของเรานิดนึงด้วย) หรือ เข้มข้นกว่าน้ำเกลือที่ให้ทางเส้นเลือดถึง 4 เท่าและอาจจะเข้มข้นกว่าร่างกายเรา ถ้าเราท้องเสีย หรือ อยู่ในภาวะเหนื่อยหอบ มีไข้ ร่างกายจำเป็นจะต้องระบายความร้อนทางผิวหนังเพิ่มขึ้น เราก็ต้องให้น้ำเพิ่มขึ้นด้วย แล้วเราดื่มน้ำได้ มากที่สุดเท่าไหร่ เมื่อร่างกายเราขับน้ำออกมา จะต้องมี osmol ออกมาด้วยเสมอ ด้วยความเจือจางที่สุดจะต้องมี osmol ปนออกมาอย่างน้อย 50 mOsm/L นั่นหมายถึง ถ้าเจือจางที่สุดที่สามารถปัสสาวะออกมาได้คือ 12 ลิตร ในแต่ละวัน แต่อาจจะมากกว่านั้นเพราะร่างกายเราสามารถขับออกทางผิวหนัง ทางเดินหายใจ ทางเดินอาหาร อาจจะถึง 13-14 ลิตร แล้วแต่ร่างกายบางคนอาจรับได้ถึง 17-20 ลิตรก็เป็นได้ แต่ไม่จำเป็นต้องกินมากขนาดนั้น ปัญหาคือ ถ้าเรากินแบบนี้นานๆจะทำให้ร่างกายเรามีความเจือจางมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วจะทำให้ร่างกายเกิดปัญหาได้ ตอนที่5
@pattarapornsovarattanaphon8892
Жыл бұрын
ปัญหาหลักๆที่เกิดน้ำเกิน-น้ำขาด ก็คือ โซเดียม ซึ่งโซเดียมมีหน้าที่เป็นสารสื่อประสาท ถ้าสูงหรือต่ำไปก็ไม่ดี อาจทำให้มีปัญหาทางสื่อประสาทได้ เช่น เห็นภาพหลอน งง เบลอ ชามือ ชาเท้า ชัก หมดสติ ช๊อคได้ นี่จึงเป็นที่มาว่า ทำไมเราถึงควรดื่มน้ำวันละ 2 ลิตร ไม่จำเป็นต้องเป็นน้ำเปล่าเพียงอย่างเดียว อาจปนมากับอาหาร น้ำอย่างอื่นก็มีน้ำเป็นส่วนประกอบ หากวันหนึ่งที่เราสามารถได้น้ำ 2 ลิตร ก็ค่อนข้างจะปลอดภัย ตอนที่6
น้ำที่ออกจากร่างกายต่อวัน หายใจ 400มล อุจจาระ 200 มล ผิวหนัง 500 มล ปัสสาวะ อีกอย่างน้อย 500 มล รวมแล้ว 1,600 มล 🔎เราควรดื่มน้ำมากกว่า 1.6 ลิตร ต่อวัน คือมากกว่า น้ำขวดใหญ่ 1 ขวด ค่ะ แต่นี่คือขั้นต่ำ ดังนั้น 📌คุณหมอแนะนำว่าควรดื่มน้ำ 2 ลิตรต่อวันค่ะ
ขอบคุณค่ะคุณหมอ เพิ่งรู้ค่ะว่าเราสูญเสียน้ำไปจากการหายใจ การพูด ร้องเพลง ทางอุจจาระ และทางผิวหนังคือเหงื่อ ซึ่งขึ้นอยู่กับความชื้นในร่างกาย อีกทางคือทางปัสสาวะ ซึ่งควบคุมได้ทางไตของเรา การที่ร่างกายขาดน้ำมีความสำคัญในการขับน้ำออกจากร่างกาย ซึ่งต้องมีน้ำเป็นส่วนประกอบ จึงต้องดื่มน้ำเกิน 1,600 มิลลิลิตรต่อวัน เพื่อป้องกันปัสสาวะเข้มข้น เกิดนิ่วในไตได้ ควรมีน้ำเหลือใช้เพื่อให้ไตทำงานได้ดีขึ้น อย่างไรก็ตามการดื่มน้ำเกินหรือขาดมีปัญหากับโซเดียมมีผลกับการชาตามมือ เท้า การมีโรคต่าง ๆ ในร่างกาย และที่สำคัญเพิ่งรู้ว่าการพูด การร้องเพลง การหายใจ ก็มีส่วนทำให้ร่างกายต้องสูญเสียน้ำค่ะ ขอบคุณคุณหมอมากค่ะที่ทำให้เข้าใจว่าทำไมเราต้องดื่มน้ำวันละ 2 ลิตร ขอให้คุณหมอและน้องโรซี่มีความสุขมาก ๆ นะคะ ขอบคุณมากค่ะ
คุณหมออธิบายละเอียด ชัดเจนมากคะ ทำให้ต้องกลับมาเช็คตัวเองด้วย ขอบคุณคุณหมอมากคะ ทำคลิปดีๆ มีสาระประโยชน์จริงๆคะ
ขอบคุณ มากค่ะ คุณ Dr.Tany. อธิบายได้น่าฟังมากที่สุด เคยสงสัยเรื่องนี้มานาน ดีใจที่ Dr.Tany ได้เข้ามาอธิบายให้ทราบค่ะ.
ขอบพระคุณอ.หมอให้ความรู้ดีๆเช่นเคยคะ และนำไปใช้ในชีวิตประจำวันคะ
สวัสดีคะ .ขอบคุณมากตะสำหรับความรู้ดีๆ ป้า ดื่มนำมากและทำให้ปัสสวะบ่อบมาก มีปัญหาไหมคะ
สวัสดีค่ะคุณหมอ เป็นคนชอบดื่มน้ำเปล่าค่ะ ขอบคุณข้อมูลนะคะ ขอให้คุณหมอมีสุขภาพแข็งแรงตลอดไปคร๊😊😍😍
ได้คำตอบชัดเจนแล้วค่ะ ควรดื่มน้ำวันละ 2 ลิตร ซึ่งรวมทั้งน้ำเปล่า และน้ำที่อยู่ในอาหารด้วย #เมื่อไรที่เรารู้สึกกระหายน้ำมาก ๆ ก็น่าจะแสดงว่าร่างกายเราขาดน้ำอย่างรุนแรงนะคะ ร่างกายจึงส่งสัญญาณให้เราดื่มน้ำเข้าไปนะคะ #ขอบคุณอาจารย์มากค่ะ🥰
การดื่มน้ำน้อยเกินไปอาจเกิดผลเสียต่อร่างกาย ดังต่อไปนี้ 🔹ไตทำงานหนักขึ้น และปัสสาวะมีสีเข้ม เพราะน้ำไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย 🔹มีโอกาสติดเชื้อทางเดินปัสสาวะส่วนล่างได้ง่าย 🔹มีสารก่อนิ่วตกตะกอน อาจป็นเหตุของโรคนิ่วได้ 🔹ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ 🔹ปวดข้อ กระดูกอ่อนในหลายๆ ส่วนของร่างกาย 🔹เป็นริดสีดวงทวาร 🔹สมองเสื่อม 🔹ปากแห้ง ตาแห้ง ผิวแห้ง 🔹เหนื่อยล้าง่าย เซื่องซึม
ขอบคุณมากค่ะ🙏🏻 #หมอแทน #ทำไหมต้องดื่มน้ำวันละ2ลิตร ส่วนตัวจะดื่ม เกิน 2 ลิตร ถ้ารวมน้ำที่อยู่ในอาหารด้วยก็น่าจะมากกว่า แต่ก็ขึ้นอยู่กับกิจกรรมที่ทำในแต่ละวันด้วยค่ะ วันนี้ได้ทราบเหตุผลที่ต้องดื่มวันละ2ลิตร ที่เข้าใจมาคือคิดเองสูญเสีย น้ำทางเหงื่อ ปัสสาวะ ไม่คิดว่าการหายใจ การพูดก็เสียเหงื่อด้วยเยอะเหมือนกัน รู้แต่ว่าถ้าวันไหนเหงื่อออกเยอะ เช่น ออกกำลังกาย ตอนเล่นแบดมินตัน เหงื่อจะออกเยอะมาก มาก มีเพื่อนที่เล่นด้วยกันเหงื่อเยอะมากเปียกทั้งชุดเหงื่อหยดไหลเป็นทางเลยเลอะคอร์ดจนต้องเช็ดก่อนเล่นไม่ได้ต้องเปลี่ยนชุดใหม่แล้วก็จะกินน้ำกันเยอะ มากๆ เลยค่ะ เหมือนออกเยอะต้องเอาเข้าเยอะ 💧ร่างกายเราสูญเสียน้ำต่อวัน💧 💧ทางเดินหายใจ การหายใจ การพูด ต่อวันประมาณ 400มล 💧ทางผิวหนังอาจเป็น เหงื่อ หรือระเหยไปเลยไม่เห็นเป็นเหงื่อก็ได้ เฉลี่ยวันละ 500 มล ถ้าอยู่บนเครื่องบิน หรือที่สูง ความกดอากาศต่ำแรงดันน้ำจะดันน้ำออกจากร่างกายมากจะทำให้สูญเสียน้ำมากกว่าปกติ จึงต้องดื่มน้ำมากกว่าปกติ 💧ทางอุจจาระ เฉลี่ยประมาณ 200 มล 💧ทางปัสสาวะ อย่างน้อย 500 มล สรุปรวมน้ำเราสูญเสียต่อวันประมาณ 400+500+200+500= 1,600มล เราจึงควรที่จะดื่มน้ำมากกว่า 1,600 มล เหตุผลทำไหมเราต้องดื่มวันละ 2 ลิตร
ชื่นชมคุณหมอมากๆค่ะ เป็นข้อมูลที่ต้องการคำตอบค่ะ
น้ำเปล่า..ชา..กาแฟ..น้ำผลไม้..โซดา.. ทานเป็นประจำทุกวันค่ะคุณหมอ..ผสมๆกัน..แต่ให้เค้าลดหวานลง..ตอนนี้ชอบทานพวก sparkling apple juice..อร่อยดีค่ะ..!!บางช่วงบ้าสับปะรด..ส้ม yuzu..แล้วแต่ว่าช่วงไหนอยากทานอะไร..มันหอมๆดีค่ะ..ตอนนี้มีออกมาใหม่สุดของ starbucks..honey ruby grape fruit coldbrew..อร่อยค่ะคุณหมอ..เค้าใช้ส่วนผสมเข้ากันดีนะคะน่าจะใส่กาแฟด้วยนิดนึงหอมดีค่ะ..!! ก็ไม่รู้วันนึงทานน้ำได้ถึง 2 ลิตรหรือเปล่า..น้ำเปล่าจะทานเยอะเป็นบางวันค่ะถ้าวันไหนทานเค็มมากๆ...🐯🦝😁
สวัสดีค่ะ คุณหมอแทน เหตุผลเป็นเช่นนี้นี่เอง ขอบคุณค่ะคุณหมอ ที่นำมาอธิบาย เช่นนั้นแล้ว ถ้าตื่นนอนแล้วดื่มแก้วที่1-2 แก้วที่3(8.00) 4(10.00) 5(12.00) 6(14.00) 7-8(16.00) 9(18.00) แก้วที่10(20.00) ~2ลิตรน่าจะได้😁นะคะ
ขอบคุณความรู้ที่คุณหมอ นำมาบอกกล่าวมากค่ะ.. ยิ่งฟังคุณหมอพูด ..ยิ่งรู้สึกผิดในการดูแลสุขภาพมาก ...ต้องรีบเปลี่ยนวิธีการดูแลสุขภาพ เพิ่มละค่ะ..น้ำปล่าวดื่มน้อยมากกก..ดื่มตอนกินวิตามิน..และก่อนนอน ...กับตื่นนอนเท่านั้นค่ะ..น่าจะไม่เกิน 800 มล.น้อยมาก..เพราะชอบดื่มแต่ น้ำผึ้งโซดามะนาว..
สวัสดีคะคุณหมอ แล้วน้ำหนักตัว น้อย การดื่มน้ำเท่ากับทต่คุณหมอแนะนำเลยไหมคะ ตัวเล็ก ผอม น้ำหนัก 40-42คะ
ขอบคุณค่ะ เข้าใจและได้ความรู้ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย สุขภาพของเรามากๆค่ะ
Goodmorning ค่ะคุณหมอแทน พูดเรื่องการดื่มน้ำ ก็ชอบเลยตอนที่บอกร้องเพลง😁😁ก็สูญเสียน้ำได้55จริงที่สุดค่ะ เพราะสังเกตตัวเอง พอร้องนานๆหลายเพลง เสียงเริ่มแหบ และคอแห้งมาก สังเกตน้องที่เค้าเปิดห้องปาร์ตี้สำหรับในแอ๊ป เค้าจะมีน้ำอยู่ข้างกายตลอด ร้องไปเค้าดื่มน้ำไปด้วยเป็นระยะๆสังเกตเค้าเสียงดีไม่ตกร้องติดต่อกันหลายเพลงเลยทำตามช่วยให้เสียงดีขึ้นจริงๆ และพี่อีกคนดื่มน้ำเยอะมากคนนี้ไม่ยอมดื่มน้ำเย็นเลยดื่มน้ำปกติบอกเสียงจะดี มีคำถามค่ะคุณหมอ 1)ตัวเองสังเกตว่าดื่มน้ำอัดลมบ้าง น้ำผลไม้ต่างที่ขาย อยู่บ้างที่ดื่มมากๆแล้วปัสสวะสีเข้ม คิดว่าต้องมีสารอะไรผสมแน่เลย อันนี้ขอความคิดเห็นค่ะ2)ก็ชอบดื่มน้ำมากๆ เชื่อว่าช่วยเรื่องผิวพรรณ แต่ผิวก็ยังแห้งนะคะ3)ทำไมพอดื่มน้ำมากในหน้าหนาวหรืออากาศเย็นเมื่ออยู่ในห้องแอร์บางทีเข้าห้องน้ำเป็นสี่ห้าครั้งในเวลาไม่ห่างกัน เลยตอนทำงานอยู่ ตอนนี้ปกติค่ะสงสัยจังค่ะ ขอบคุณนะคะคุณหมอ🙏⚘
คลิปนี้ซึ้งเลยค่ะ เพราะเคยมีภาวะขาดน้ำ ดูเป็นเรื่องธรรมดาแต่สำคัญมากจริงๆ ขอบคุณคุณหมอค่ะ
ดีมาก ๆ เลยค่ะ ชัดเจนเข้าใจได้ง่าย เอาไปใช้สอนเด็ก ๆ ต่อได้เลยค่ะ ขอบคุณนะคะ
คุณหมอ คือสงสัยอะไรคุณหมอทำคลลิปตลอดเลย ขอบคุณนะครับ มีประโยชน์มากๆ
สำหรับท่านใดที่ดื่มน้ำน้อย และอยากฝึกนิสัยที่ดีให้แก่ตนเองในการดื่มน้ำ ขวดน้ำยักษ์ที่มีปริมาตรและประโยคให้กำลังใจในการดื่มน้ำเขียนไว้ข้างขวดช่วยได้นะคะ 🤓 เมื่อก่อนดื่มน้ำน้อย แต่ตอนนี้ใช้วิธีจิบบ่อยๆระหว่างวันจากขวดน้ำของตัวเอง มันจะมีปริมาตรเขียนไว้ ทำให้สามารถนำไปตอบคุณหมอได้ว่าในหนึ่งวัน เราดื่มน้ำเปล่าประมาณเท่าไหร่ จากคนที่ไม่ค่อยดื่มน้ำเปล่า ดื่มกาแฟเป็นหลัก ตอนนี้ดื่มน้ำเปล่าประมาณ 3-4 ลิตรต่อวันโดยไม่รู้สึกฝืนค่ะ (ที่ดื่มน้ำเปล่าเยอะก็เพราะว่าดื่มกาแฟเยอะเช่นกัน555)
ขอบคุณสำหรับความรู้ครับอาจารย์ เป็นความรู้ในชีวิตประจำวันมากๆ จะนำไปให้ความรู้คนรอบข้างต่อๆไปครับ
มีประโยชน์มากค่ะ... ขอบคุณคะ
เพิ่งได้ติดตามคุณหมอค่ะ ได้ความรู้ เข้าใจได้ง่าย บางคลิปได้แง่คิดชีวิตเลยค่ะ รู้สึกคุณหมอใช้เวลาในหนึ่งวัน อย่างคุ้มค่าและมีคุณภาพมาก ๆ นับถือค่ะ
สวัสดีค่ะ ขอให้สดชื่นทั้งวัน การงานราบรื่น สบายใจ ตลอดเวลานะคะ ขอบคุณค้าา
ขอบคุณสำหรับความรู้ค่ะ
ได้ความรู้ต่างๆมากมายเลยค่ะ สงสัยว่าเป็นร้อนในบ่อยมากๆ ทำให้รู้สึกกระหายน้ำตลอดเวลาเลยค่ะ จิบน้ำตลอดเลย อยากทราบว่าเพราะอะไรถึงเป็นร้อนในบ่อยคะคุณหมอ และมีวิธีรักษา ให้ไม่เป็นบ่อยไหมคะ
@DrTany
Жыл бұрын
พวกนั้นต้องเริ่มที่การพักผ่อนให้พอและดื่มน้ำให้พอ นอกจากนั้นควรเปลี่ยนแปรงสีฟันทุกๆเดือนครับ บ้วนปากทำความสะอาดบ่อยๆด้วยน้ำยาบ้วนปากก็ช่วยได้ครับ
ขอบคุณ คุณหมอค่ะ ตอนนี้ดื่มวันละสองลิตรกว่าค่ะ เดินวันละหมื่นกว่าก้าวค่ะ (เพราะเมื่อสองเดือนติดโควิดค่ะ)
คุณหมออธิบายละเอียดมากเลยค่ะ ขอบคุณค่ะ
สวัสดีค่ะ เคยได้ฟังคลิปท่านหนึ่งเขาใช้วิธีธรรมชาติบำบัดในการรักษาก็มีคำแนะนำการดื่มน้ำเช่นกันค่ะ มีคำแนะนำที่ดีๆเยอะเลย แต่มีที่ไม่เห็นด้วยคือเขาบอกว่าการดื่มน้ำปัสสาวะของตัวเองเพื่อรักษาโรค เอามาสระผม มันได้ด้วยเหรอค่ะ🤔🤔 ตอนนี้เลิกติดตามล่ะจริตไม่ตรงกันค่ะ😄😄
ขอบคุณที่ไห้ความรู้ครับอาจารย์
ตอนนี้กำลังทำอยู่ค่ะหันมาดื่มน้ำจริงจัง ใส่ขวด 2ลิตรไว้แต่เช้าแล้วจิบไปเรื่อยๆ รู้สึกดี สดชื่น เวลาออกกำลังกาย แขนจะฉ่ำๆ และไม่มีกลิ่นปากยิ่งมาฟังจากคุณหมอ ยิ่งมีความรู้มากขึ้น ขอบคุณคุณหมอมากค่ะ
สุดยอดมากคับคุณหมอ กับความรู้ดีๆ ที่คุณหมอนำมาเล่าให้ฟัง ขอบคุณคุณหมอมากครับ
ขอบคุณ คุณหมอมากๆ ค่ะ ฟังคุณหมอตลอดทุกคลิป ได้ความรู้ดีๆ โดยไม่มีแอบแฝง โฆษณาหรือขายของเลย ชื่นชมคุณหมอมากๆ ค่ะ
ขอบคุณค่ะ สำหรับข้อมูลดีๆ
สวัสดีค่ะ คุณหมอแทน ป้าขอโทษค่ะฟังเพลินๆๆเลยขอบคุณข้อมูลในคริปนี้น่ะค่ะการดื่มน้ำมากเกินก็ไม่ดี การดื่มน้ำน้อยก็ไม่ดีอีกเพราะฉนั้นควรที่จะต้องดื่มให้พอดีกับร่างกายของเราจริงๆๆค่ะ บางวันเราก็ทานผลไม้บ้าง บางวันก็ทานน้ำชุปบ้างหรือทุกสิ่งอย่างตามที่คุณหมอได้กล่าวไว้ในหัวข้อ ขอขอบคุณน่ะค่ะคุณหมอแทน สุขภาพดีมีความสุขน่ะค่ะและน้องโรชี่ด้วยค่ะ🙏🏼♥️♥️♥️🥰ค่ะ
สวัสดีค่ะคุณหมอ ขอบพระคุณมากค่ะ💐
ขอบคุณมากค่ะคุณหมอ ถ้ามีโอกาสอยากให้คุณหมอพูดเกี่ยวกับเรื่องโรครูมาตอยก็หรือ SLE ค่ะ
อธิบายดีมากจริงๆค่ะ ทำคลิปดีๆแบบนี้ต่อไปนะคะคุณหมอ❤
รบกวนสอบถามคุณหมอค่ะ แรงดันน้ำในโพรงสมองสูง (วัดค่าจากการเจาะน้ำในไขกระดูกสันหลังไปตรวจค่ะ) เกิดจากสาเหตุอะไรคะ และมีวิธีรักษาอย่างไรคะ ขอขอบพระคุณมากนะค่ะ
@DrTany
Жыл бұрын
มีหลายสาเหตุครับ เช่น มีการอุดตันทางเดินน้ำในสมอง มีการสร้างที่มากผิดปกติ หรือมีการดูดซึมน้ำได้น้อยลงในโพรงสมอง การรักษาขึ้นกับสาเหตุครับ ถ้าแก้ไม่ได้ก็อาจต้องใส่สายระบายน้ำในโพรงสมองเข้าไปที่ช่องท้องหรือช่องหัวใจแทนครับ ตรงนี้ต้องสอบถามหมอที่รักษาครับ
ขอบคุณค่ะ ได้ความรู้มากมาย จะได้ดูแลตัวเองให้ดีขึ้น
ขอบคุณมากค่ะ เป็นเรื่องที่กำลังสงสัยพอดีเลย
ขอบคุณค่ะคุณหมอมีความรู้มากๆ
ขอบคุณค่ะสำหรับความรู้
ขอบคุณคุณหมอมากค่ะ เป็นเรื่องที่รู้ แต่ไม่เข้าใจที่มา และสาเหตุเลยค่ะ จนวันนี้ได้เข้าใจเสียที 👍👍👍👍
การดื่มน้ำ เรื่องธรรมดาที่ไม่ธรรมดา เป็นความรู้ที่ดีมากสำหรับทุกคนเลยค่ะ ได้ยินคุณหมอ นักโภชนาการและจากที่คุณครูสอนตั้งแต่ชั้นประถมว่าเราควรดื่มน้ำวันละ 6-8 แก้ว ต่อมาก็เป็น 1.5-2 ลิตรต่อวันก็เชื่อจามนั้นมาตลอด ไม่เคยสงสัยเลยว่าทำไม แต่วันนี้คุณหมอกรุณาอธิบายเหตุผลเป็นความรู้ที่ดีมากที่ทุกคนควรรู้เลยค่ะ ปกติเป็นคนชอบดื่มน้ำและดื่มเยอะอยู่แล้วจึงไม่เข้าใจคนที่ไม่ชอบดื่มน้ำหรือดื่มน้ำไม่พอ แต่ถ้ายุ่งจนไม่มีเวลาดื่มน้ำนี่เข้าใจค่ะ เคยเป็นแต่ไม่บ่อยเพราะร่างกายจะเตือนตัวเองเสมอว่าเธอหิวน้ำ! ควรดื่มน้ำได้แล้ว คุณหมอคะ การดื่มน้ำเย็น (น้ำใส่น้ำแข็ง) มีผลเสียกับร่างกายจริงไหมคะ เป็นคนชอบดื่มน้ำใส่น้ำแข็งมากค่ะ แต่จะโดนดุบ่อย ๆ ว่ากินน้ำเย็นมันไม่ดี ต้องดื่มน้ำอุ่นค่อนไปทางร้อนถึงจะดี แต่เราไม่ชอบอ่ะค่ะ ดื่มน้ำอุ่นรู้สึกคอแห้ง ไม่ชื่นใจเหมือนน้ำเย็น เคยอ่านเจอว่าการดื่มน้ำเย็นช่วยให้ระบบเผาผลาญทำงานเก่งขึ้น เพราะร่างกายจะปรับอุณหภูมิน้ำให้เท่ากับอุณหภูมิของร่างกาย ถือเป็นการเผาลาญพลังงานอย่างหนึ่งจริงไหมคะ
ขอบคุณอาจารย์หมอมาก ค่ะคลิปวันนี้ทำไมเราต้อง ดื่มน้ำวันละ 2 ลิตร เรื่องน้ำๆ วันนี้เป็นประโยชน์มากเลย ค่ะ การหายใจก็ทำให้สูญ เสียน้ำด้วย ปกติดื่มน้ำน้อย ค่ะ เคยได้ยินเสมอว่าควร ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ8 แก้ว ค่ะ ถ้าเฉลี่ยแก้วละ200 cc. จำนวน 8 แก้วก็ประมาณ 1,600 cc. เป็นเป้าหมายที่ ควรทำแล้วค่ะแค่เรื่องน้ำๆ มองข้ามไม่ได้แล้วค่ะ มาฟัง อาจารย์หมออธิบายได้ ความรู้ความเข้าใจมากกว่า ในเน็ตทั่วไป ขอบคุณ อจ. หมอมากมายเลยค่ะ 🌷 🙏
ขอบใจมากที่ให้ความรู้ดีๆค่ะ
ขอบคุณ คุณหมอมากค่ะ ได้ความรู้มากเลยค่ะ จะได้รู้สึกสำคัญว่า ทำไมต้องทานน้ำให้ได้เท่านั้นเท่านี้ เพราะแบบนี้นี่เอง ไล่ฟังคุณหมอทุกคลิปนะคะ ☺️💞
ขอบคุณค่ะคุณหมอ ขอให้คุณหมอยิ่งสอนยิ่งเก่งเป็นทวีคูณ
เป็นกำลังใจให้อาจารย์หมอ แทน ตลอดกาลค่ะ☺️ ได้ความรู้ด้วยค่ะจากคำถามที่คนถามเข้ามาแล้วอาจารย์หมอเข้ามาตอบ🙏ขอให้ อาจารย์หมอมีความสุข มากๆค่าาา พักผ่อนด้วย นะคะ🐶🌹☺️☺️☺️
ขอบคุณความรู้ดีๆครับ
ขอบคุณค่ะคุณหมอ🙏 ได้ความรู้ชัดเจนมากเลยค่ะ นู๋อยากรู้เพิ่มเติมค่ะ ว่าทำไมเราต้องเดินให้ได้ 10,000 ก้าว/วัน และต้องเข้านอนไม่เกิน 4 ทุ่ม ค่ะ😊
@DrTany
Жыл бұрын
ไม่ต้องทำเช่นนั้นหรอกครับ แค่เราออกกำลังกายทุกวัน และพักผ่อนให้เพียงพอก็เป็นใช้ได้ครับ
ขอบคุณค่ะ ได้ความรู้เยอะเลยค่ะ
Thank you krub Dr.Tany, God Bless You!
อยากให้เล่าเกี่ยวกับโรค SIDH ค่ะ จะรอฟัง
(ส่วนที่ 1) 🌟หัวข้อวันนี้น่าสนใจมากเลยค่ะ 🙏ขอขอบคุณอาจารย์หมออย่างยิ่งค่ะ ที่ได้มาให้ความรู้ และทำให้เข้าใจอย่างกระจ่างเลยค่ะว่า ทำไมถึงต้องดื่มน้ำเยอะๆ และควรจะดื่มน้ำแค่ไหนในแต่ละวัน ทำไมเราต้องดื่มน้ำวันละ 2 ลิตร❓ ร่างกายของคนเรามีน้ำเป็นส่วนประกอบเป็นส่วนมาก แต่เมื่ออายุมากขึ้น จะถูกทดแทนด้วยไขมันเป็นส่วนใหญ่ ปริมาณน้ำในร่างกายก็จะลดลง โดยเฉพาะผู้หญิง สัดส่วนของไขมัน ต่อ น้ำในร่างกายจะสูงกว่าของผู้ชาย *️⃣แล้วควรดื่มน้ำมากน้อยแค่ไหนต่อวัน❓ ร่ายการมีการสูญเสียน้ำทุกวัน เมื่อมีการสูญเสียออกไปแล้วไม่เอาน้ำกลับเข้ามาทดแทน ร่ายกายก็จะขาดน้ำไปเรื่อยๆ ก็จะส่งผลทำให้เกิดปัญหาต่อร่างกายหลายอย่าง *️⃣สูญเสียน้ำจากทางใดได้บ้าง ➡️1 ทางการหายใจ การพูด จะมีการสูญเสียน้ำไปในทางเดินหายใจ วันละประมาณเฉลี่ย 400 มิลลิลิตร ➡️2 ทางอุจจาระ หรือทางลำไส้ใหญ่ น้ำโดยเฉลี่ยในนั้นประมาณ 200 มิลลิลิตร ➡️3 ทางผิวหนัง ออกมาในรูปของเหงื่อ หรือเป็นการระเหยไปเลย โดยเฉลี่ยเสียน้ำทางผิวหนังประมาณวันละ 500 มิลลิลิตร ➡️4 ปัสสาวะ ร่ายกายจะมีกระบวนการสลายสารอาหารต่างๆและมีสมดุลเกลือแร่อยู่ ซึ่งร่างกายต้องรักษาสมดุลเกลือแร่ทั้งหมดไว้ให้ได้ คำหนึ่งที่ต้องรู้จักคือ Osmolarity เป็นคุณสมบัตรของเหลวในร่างกายอย่างหนึ่งที่มีความเข้มข้นและพยายามที่จะดึงเอาน้ำมาสู่ตัวเอง Osmolarity ในร่างกายของเราจะต้องมีค่าคงที่ค่าหนึ่ง ถ้าสูงเกินไปก็แปลว่ามันดึงน้ำเข้ามาไว้ตรงบริเวณนั้นเยอะๆ ซึ่งไม่ดี แต่ถ้ามันต่ำจนเกินไปมันก็จะปล่อยน้ำทิ้งไปที่อื่นหมด ซึ่งก็ไม่ดีเช่นกัน
@thisisnathathai
Жыл бұрын
(ส่วนที่ 2) 🩸เลือดของเราจะมี Osmolarity อยู่ที่ประมาณ 290 mOsm/L (milliosmole/liter) จะมีโรคบางโรคที่ทำให้ค่านี้สูง/ต่ำ ที่ไม่เหมือนกัน ปัสสาวะ ของคนเรา จะควบคุม ความเข้มข้นของ Osmolarity ได้โดยไตของเรา และไตก็จะตอบสนองต่อฮอร์โมนชนิดต่างๆ ในร่างกาย เช่น ฮอร์โมน ADH (Antidiuretic Hormone) และมีอีกชื่อหนึ่งคือ Arginine Vasopressin (AVP หรือ Vasopressin) ฮอร์โมนตัวนี้ไปช่วยในการทำให้เส้นเลือดของเรามีการหดตัว มีตัวอื่นๆอีกเช่น BNP (Brain Natriuretic Peptide) หรือ ANP ทั้งหมดทั้งมวลคือทำให้ไตมีความสามารถในการสร้างปัสสาวะที่มีความเข้มข้นได้แตกต่างกัน แต่ไตก็มีความสามารถที่จำกัดคือ ทำให้ปัสสาวะเข้มข้นสูงสุดได้ที่ 1200 mOsm/L คือถ้าเราขาดน้ำมากๆ ปัสสาวะจะออกมาเข้มข้นสูงสุดที่ 1200 mOsm/L *️⃣ตัวเลขนี้มีความสำคัญอย่าง❓ ปกติแล้วร่างกายจะมีการสร้าง Osmolarity ออกมาจากที่ต่างๆ เช่น โซเดียมที่กินเข้าไป โพแทสเซียมที่กินเข้าไป หรือพวกการสลายพวกโปรตีนต่างๆ จะทำให้เกิดยูเรีย ขึ้นมาในร่างกายเรา ทั้งหมดนี้เป็นส่วนประกอบ ทำให้เกิด Osmolarity ขึ้นมา แต่ร่างกายจะต้องขับทิ้งออกไป แต่ละวันจะขับทิ้งประมาณ 600 mOsm ต่อวัน ร่ายกายจะไม่สามารถขับทิ้งเฉพาะ Osmolarity เปล่าๆได้ ต้องนี้น้ำเป็นส่วนประกอบเท่านั้น ไตสามารถขับปัสสาวะได้เข้มข้นที่สุด 1200 mOsm/L ถ้าเรามี 600 mOsm ให้ขับทิ้งออกไป ก็ต้องใช้ 500 มิลลิลิตร เพราะฉะนั้น เราสูญเสียน้ำทางผิวหนัง 500 มิลลิลิตร ทางเดินหายใจ 400 มิลลิลิตร และทางอุจจาระอีก 200 มิลลิลิตรรวมกัน 1100 มิลลิลิตร ถ้าบวกกับที่ขับทิ้งอีก 500 มิลลิลิตร ก็จะได้เป็น 1600 มิลลิลิตร ไม่ว่าจะมีการขาดน้ำอย่างเต็มที่อย่างไรเราก็จะมีการสูญเสียน้ำปริมาณเท่ากับ 1600 มิลลิลิตร ออกไปทุกวัน ดังนั้นสิ่งที่ดีที่สุดก็คือเราจะต้องดื่มน้ำให้มากกว่า 1600 มิลลิลิตรต่อวัน แต่นี่เป็นการยกตัวอย่างแบบสุดโต่ง หมายความว่าถ้าเราไม่ได้ดื่มน้ำอะไรเข้าไปเลย ปัสสาวะเราเข้มข้นมากที่สุดได้เท่าไหร่ ถ้าเราไม่ปัสสาวะเลยไม่ได้ เพราะว่าถ้าเราไม่ปัสสาวะออกมาเลย สิ่งต่างๆซึ่ง เป็นของเสียเช่น ยูเรีย พวกกลุ่มที่เป็นโซเดียมโพแทสเซียม หรืออะไรก็แล้วแต่ที่เรารับประทานเข้าไปมันจะไปคั่งอยู่ในร่างกายของเรา ก็จะทำให้ร่างกายของเราทำหน้าที่ผิดปกติไป ดังนั้นจึงมีเหตุผลที่ร่างกายจะต้องขับมันออกมาและขับมันออกมาเปล่าๆไม่ได้ต้องมีน้ำตามออกมาด้วยเป็นปัสสาวะ ดังนั้น จึงเป็นที่มาของการ เสียน้ำไปทางปัสสาวะ ดังนั้นโดยรวมแล้วก็คือ 1600 มิลลิลิตร ที่ต้องใช้ในแต่ละวัน แต่เราไม่สามารถดื่มน้ำได้แค่ 1600 มิลลิลิตรต่อวันแล้วทุกอย่างจะดี นั่นเป็นเพราะว่าไตของเราต้องทำงานหนักตลอดเวลา ทำให้ปัสสาวะเข้มข้นตลอดเวลา ผ่านไปนานๆ ก็จะมีปัญหาได้ เวลาปัสสาวะเข้มข้นมากๆนานๆ ก็จะทำให้เกิดนิ่ว เป็นนิ่วในไต นิ่วในกรวยไต นิ่วในท่อไต หรือว่ามีปัญหาต่างๆในแง่ของการขาดน้ำ ร่ายกายก็พยายามเก็บน้ำไว้แต่ไม่มีให้เก็บ เข้ามาเท่าไหร่ก็ออกไปหมดเลย ดังนั้นจึงเป็นเหตุผลให้ดื่มน้ำเกิน 1600 มิลลิลิตร ก็เลยเป็น ที่มาของการดื่มน้ำ 2 ลิตร/วัน เกินมา 400 มิลลิลิตรเพื่อให้มีเหลือมีใช้บ้าง ก็จะสามารถช่วยให้ไตทำงานได้ดีขึ้น
@thisisnathathai
Жыл бұрын
(ส่วนที่ 3) *️⃣ถ้าเราไปหลงป่า แล้วเราไม่มีน้ำดื่มจริงๆ เราดื่มน้ำปัสสาวะตัวเองได้หรือเปล่า❓ เมื่อร่างกายขาดน้ำปัสสาวะของเราก็จะเข้มข้นมากๆ เพื่อที่จะพยายามสงวนน้ำไว้ในร่างกายของเรา แต่ยังไงก็ต้องปัสสาวะออกมา เพราะมันต้องขับสารที่ เป็นพิษต่อร่างกายออกมาด้วย พอมันขับออกมาแล้ว ปัสสาวะของเราก็จะมีความเข้มข้นที่สูงมาก 1200 mOsm/L และเมื่อเลือดเราความเข้มข้นอยู่ที่ประมาณ 290 mOsm/L ถ้าดื่มน้ำปัสสาวะที่มีความเข้มข้น 1200 mOsm/L ถ้าเอาเข้าไปในเลือด ก็จะเกิดความเข้มข้นที่สูงขึ้น mOsm ในร่างกายของเราก็จะสูงขึ้น แทนที่จะเป็น 290 อาจจะเป็น 300 ถึง 300 กว่า พอร่างกายมีความเข้มข้นในเลือดสูง มากๆ ก็แปลว่ามีสารพิษ osmole ที่จะต้องขับออกไปให้มากขึ้น แทนที่ปกติจะมี 600 mOsm อาจจะเป็น 800 หรือ 1000 คือถ้าท่านดื่มปัสสาวะของตัวเองเข้าไป จนมี 1200 mOsm ที่ต้องขับ ก็แสดงว่าท่านต้องปัสสาวะออกมา 1 ลิตร ถ้าไม่ทันยิ่งเสียน้ำเข้าไปใหญ่ ดังนั้นท่านก็จะยิ่งหิวน้ำมากขึ้น ร่างกายเราจะบ่งบอกว่า ต้องการน้ำเพิ่มขึ้นเพราะว่า เราต้องไปขับของเสียที่เรากินเข้าไปเองเพิ่มขึ้น *️⃣ก็เช่นเดียวกับที่ไปหลงในทะเล แล้วจะดื่มน้ำทะเลได้ไหม❓ คำตอบคือ ไม่ได้ ยิ่งดื่มก็จะยิ่งหิวน้ำเพราะว่า ปริมาณเกลือแร่ในน้ำทะเลสูงมาก ถ้าเป็นทะเลโดยทั่วๆไป ความเข้มข้นของโซเดียมหรือ ว่าเกลือทั่วๆไป จะอยู่ที่ประมาณ 3.5% น้ำเกลือที่เราปกติให้กันในโรงพยาบาลที่เป็นน้ำเกลือเปล่าๆจะอยู่ที่ 0.9% และ 0.9% นี้ก็สูงกว่าในเลือดของเราด้วย แปลว่าจะทานดื่มน้ำทะเลเข้าไป ช่วงที่ท่านขาดน้ำ ก็จะยิ่งทำให้ร่างกายของท่าน มีความหิวน้ำเพิ่มขึ้น ต้องการน้ำเพิ่มขึ้นเพื่อที่จะเอาไปขับเกลือแร่ที่ได้รับเกินไปออกมา ทางปัสสาวะอีกรอบหนึ่ง ภาวะอื่นที่จะต้องดื่มน้ำเข้าไปมากขึ้นเช่น ▶️1 ถ้าท่านมีท้องเสีย ▶️2 มีการหายใจเหนื่อยหอบ ▶️3 มีไข้ ร่างกายต้องการระบายความร้อนผ่านทางเหงื่อ ผ่านทางผิวหนังเพิ่มขึ้น
@thisisnathathai
Жыл бұрын
(ส่วนที่ 4) *️⃣ดื่มน้ำได้มากที่สุดแค่ไหน❓คิดมาจากอะไร❓ คำตอบคือ คิดมาจากความเข้มข้นของปัสสาวะ เวลาที่เราได้รับน้ำเกินเข้าไปในร่างกาย ร่างกายก็จะขับน้ำที่เป็นส่วนเกินออกมาข้างนอก ยังไงก็ต้องมี osmole ปนมาอยู่ดี โดยร่างกายเราทำปัสสาวะให้เจือจางมากที่สุด ได้อยู่ที่ 50 mOsm/L ในแต่ละวันจะมีประมาณ 600 mOsm ที่ต้องขับทิ้ง และถ้าท่านขับออกมาได้เจือจางที่สุดคือ 50 mOsm/L จะขับ 600 mOsm/L ออกหมดได้ก็จะใช้น้ำประมาณ 12 ลิตร จริงๆแล้วอาจจะอยู่ที่ 13-14 ลิตร แต่ว่าความสามารถของร่างกายของแต่ละคนก็ไม่เท่ากัน อาจจะทำได้มากกว่านั้นอาจจะ 17 ถึง 20 ลิตร แต่ไม่มีความจำเป็นจะต้องไปดื่มมากขนาดนั้น เพราะปัญหาก็คือถ้าเราดื่มมากขนาดนี้นั่นนาน ก็จะทำให้ร่างกายเรามีความเจือจางมากขึ้นเรื่อยๆแล้วก็จะเกิดปัญหาต่อร่างกายได้ ปัญหาหลักๆเมื่อเรามีภาวะน้ำเกินกับน้ำขาด เกลือแร่ชนิดหนึ่ง ซึ่งมีปัญหามากที่สุดก็คือ โซเดียม มีหน้าที่ในการสื่อสารสื่อประสาทของเรา ถ้าสูงเกินไปก็ไม่ดี ต่ำเกินไปก็ไม่ดีเช่นกัน ทางเดินสื่อประสาทของเราจะมีปัญหาต่ำหรือสูงไปก็จะมีอาการทางระบบประสาท เช่นเห็นภาพหลอน มือชา เท้าชา จนถึงขั้นหมดสติชักได้ และเสียชีวิตได้เวลาที่โซเดียมมีความผิดปกติมากๆ ✳️นี่คือที่มาของการที่เราควรจะดื่มน้ำประมาณวันละ 2 ลิตร โดยน้ำ 2 ลิตรนี้ไม่จำเป็นจะต้องเป็นน้ำเปล่าอย่างเดียว เช่นในอาหารก็มีน้ำเป็นส่วนประกอบ 🛑จะมีโรคบางโรคซึ่งไม่สามารถจะได้น้ำมากขนาดนี้คือ 🔺ถ้าคนไหนมีไตวาย การได้น้ำมากเกินไปก็จะมีปัญหา เพราะไม่สามารถขับน้ำออกไปได้ ก็จำเป็นต้องลดปริมาณน้ำลง และจะต้องลด osmole คือสิ่งที่ร่างกายต้องขับทิ้ง เช่นแต่ท่านทานเค็มเข้าไปเยอะๆ ร่างกายจะต้องไปเอาปัสสาวะไปขับทิ้งออกมา แต่เนื่องจากไตของท่านเสียไปแล้ว ขับออกมาไม่ได้ ก็จะปัญหาเรื่องเกลือแร่ที่คั่งอยู่ในร่างกาย 🔺 ถ้ามีหัวใจวาย หัวใจบีบเลือดออกไปเลี้ยงไตไม่ได้ ไตก็จะวายตามมา ร่างกายขับน้ำออกไปไม่ได้ร่างกายก็จะมีน้ำเกิน ในกรณีนี้ก็ต้องงดน้ำลง 🔺 คนที่มีปัญหาไฮโปไทรอยด์ ไทรอยด์ทำงานต่ำผิดปกติ ร่างกายก็จะเก็บน้ำไว้ในร่างกายก็จะมีปัญหาอีก 🔺 ยาบางอย่าง ก็จะทำให้เก็บน้ำไว้ในร่างกายเพิ่มขึ้น 🔺 บางโรคก็ต้องงดเฉพาะน้ำเปล่าๆ แต่ทานน้ำที่มีเกลือแร่ปน คือโรค SIADH
@maneeann
Жыл бұрын
👍👍❤️♥️ สุดยอดซุ่มอ่ะ หยอกๆ 😆
อาจารย์คะ อายุ น้ำหนัก activity มีผลต่อปริมาณน้ำที่ต้องทานมั้ยคะ แล้วการทานเครื่องดื่มที่ไม่ใช่น้ำเปล่าตลอดเวลา โทษเหมือนเราทานปัสสวะหรือเปล่าคะ
@DrTany
Жыл бұрын
1) มีครับ แต่อย่างน้อยต้องทำได้เท่าในคลิปที่ผมบอกไป 2) ไม่ครับ โทษขึ้นกับว่ามันคืออะไร แต่ไม่มีทางเหมือนกันครับ
สวัสดีค่ะคุณหมอธนีย์ บางครั้งคนเราก็ลืมนึกถึง ความสำคัญของน้ำที่มีต่อร่างกาย จนอาจเกิดภาวะการขาดน้ำ คุณหมออธิบายถึงสาเหตุดารขาดน้ำ และปริมาณที่ร่างกายต้องการน้ำในแต่ละวัน อย่างละเอียดและเข้าใจง่าย การดื่มน้ำให้เพียงพอเป็นสิ่งจำเป็นมาก SIADH เป็นภาวะโซเดียมในร่างกายต่ำ จากน้ำที่เกินเข้ามาในกระแสเลือด เข้าใจยากจริงค่ะ ขอบคุณมากค่ะ ขอให้คุณหมอและครอบครัว มีสุขภาพแข็งแรง ปลอดภัย และมีความสุขนะคะ
@FragranzaTrippa
Жыл бұрын
คุณมนต์ดื่มวันละ 2 ลิตรไหมคะ หรือมากกว่านั้นคะ
@boomsong5729
Жыл бұрын
@@FragranzaTrippa ดื่มน้ำเยอะค่ะวันละ 2-3 ลิตรค่ะ ขอบคุณมากนะคะ คุณทริปป้า ⚘💙⚘
@FragranzaTrippa
Жыл бұрын
@@boomsong5729 ดื่มพอๆกันเลยค่ะ
ขอบคุณความรู้จากอจ.หมอค่ะ
ขอบคุณมากค่ะคุณหมอ
สวัสดีค่ะ ถ้าเราออกกำลังแล้ว หิวน้ำที่มีรสหวานซ่า อย่างน้ำอัดลมบางชนิด แล้วดื่มคู่ไปกับน้ำเปล่าจะมีผลอย่างไรบ้างกับ ระบบการดูดซึม ของลำไส้ หรือไต ของเราบ้างคะ ❣️
@DrTany
Жыл бұрын
ไม่มีผลอะไรครับ
สวัสดีค่ะคุณหมอขอบคุณข้อมูลดีๆ
@user-me3yq4rf5y
Жыл бұрын
คุณหมอสบายดีน่ะค่ะ ผ่านวิกฤษผลข้างเคียงใาได้ฉิวเฉียดค่ะ
@DrTany
Жыл бұрын
สบายดีครับผม
คุณหมอคะ สงสัยว่า 1) เวลาเราอาบน้ำ นานๆ แล้ว นิ้วเหี่ยวๆ หาข้อมูลเค้าบอกว่าเป็นเพราะน้ำค่อยๆซึมกลับเข้าไปในร่างกายได้ใช่ไหมคะ ( ออสโมซิส ) แบบนี้เรานับน้ำส่วนนี้ อยู่ใน 2 ลิตรไหมคะ 2) เวลาอาบน้ำเสร็จใหม่ๆเล็บจะนิ่มมากเลยค่ะ เราชอบตัดเล็บหลังจากอาบน้ำเสร็จค่ะ ทำไมเล็บถึงนิ่มได้หรือคะ คุณหมอ ขอบคุณมากค่ะ
@DrTany
Жыл бұрын
1) ก็อาจจะแบบนั้นครับ ไม่นับครับ และต่อให้นับจะนับได้เหรอครับ 2) น้ำเข้าไปในเล็บครับ
สวัสดีค่ะอาจารย์ เคยอ่านว่าให้ทานน้ำตามนน. ตัว คร่าวๆคือ นน.*30 ml แบบนี้นน. 45 ดื่มประมาณ 1.5 ลิตรใช้ได้มั้ยคะ หรือควร 2 ลิตรไปเลยคะ _/|\_
@DrTany
Жыл бұрын
จะเอาให้ละเอียด 45 กก ก็ต้องดื่มอย่างน้อย (10x100) + (10x50) + (25x20) = 2000 cc ครับ
ดูจบแล้วรีบไปหยิบน้ำมาดื่มเลยค่ะ 😅 ขอบคุณมากๆค่ะ อธิบายเข้าใจง่ายฝุดๆ
ขอบคุณนะคะ อาจารย์หมอ คะ
ขอบคุณนะคะ ส่วนตัวก้จะดื่มน้ำให้ได้ประมาณ 2 ลิตรทั้งๆที่ถ้าคำนวณตาม นน แล้ว จะดื่มได้แค่ 1,200 นิดๆ ยิ่งได้ฟังเช่นนี้แล้วยิ่งมั่นใจว่าสามารถดื่มเกินได้🙏
ลองตามสูตรนี้ ก็ได้ค่ะ ไม่ยาก และไม่ได้มากเลยจริงๆ ค่ะ 1. หลังตื่นนอน และก่อนนอน (รวม 2 แก้ว * 250 cc) 2. ระหว่าง (ก่อน) มื้ออาหาร 3 มื้อ (3) 3. ระหว่าง (หลัง) มื้ออาหาร 3 มื้อ (3) แค่นี้ ก็ได้อย่างต่ำ 8 แก้ว * 250 cc. รวม 2 ลิตร/วันแล้วค่ะ ไม่นับที่จะคอแห้ง หากใช้เสียงมาก, หรือให้ช่วยความรื่นคอ ขณะรับประทานอาหาร, และกระหาย หากสูญเสียเหงื่อ หรืออากาศร้อน และที่ได้จากอาหาร ผัก และผลไม้เพิ่มเติม เมื่อก่อน ดื่มน้ำน้อยมาก พอไปบริจาคเลือด ซึ่งต้องดื่มน้ำก่อนบริจาค 3-4 แก้ว* 200 cc. และควรดื่มต่อวัน ให้ได้วันละ 2 ลิตร เพื่อการสร้างชดเชยและบำรุงรักษาระบบเพื่อการสร้างเม็ดเลือดที่ดี เลยทำให้ต้อง "ฝึก" การดื่มน้ำวันละ 2 ลิตรไปโดยปริยาย และทำให้ สามารถบริจาคเลือด ได้ทุก 3 เดือนอย่างสม่ำเสมอค่ะ ตั้งขวดน้ำ 1.5 ลิตร 2 ขวด ใกล้ตัว ดื่มเรื่อยๆ ทีละน้อย อย่ายกดื่มรวดเดียวทั้งแก้ว หรือทีละมากๆ .. ไตจะขับทางปัสสาวะเสียหมด จะทำให้ไตทำงานหนักเกินไปได้ค่ะ
ขอบพระคุณคุณหมอคะ ติดตามคะ
สุดยอด ครูผู้ให้จริงๆคะ ขอบคุณค่ะ
คุณอธิบายเข้าใจง่ายค่ะ
ขอบคุณมากๆค่ะอ.หมอ👏👏👏 เข้ามาฟังคลิปย้อนหลังค่ะ อ.หมอ เก่งที่สุดค่ะ🙋🙋🙋
ผมกินวันละ 3 ลิตรขั้นต่ำ แรกๆก็ฝืน หลังๆจะไม่พอด้วยซ้ำ รู้สึกชีวิตสดชื่นขึ้นครับ
ขอบคุณค่าาคุณหมอ สำหรับคำแนะนำการดื่มน้ำที่เหมาะสมค่ะ 🤩 - เนื้อหามีประโยชน์มากค่ะ คุณหมออธิบายละเอียด ฟังเพลินค่า 🙂 - คุณหมอพักดื่มน้ำค่าา 🍵🍒😃 - ทิ้งท้ายด้วยสุภาษิตเกี่ยวกับน้ำนะค้าา... "น้ำร้อนปลาเป็น น้ำเย็นปลาสบาย....ย" 😆😆 "สุขกาย สบายใจ ทุกท่านค่าาา..." 🌻🥰
ฟังคลิปนี้จบแล้วนึกถึงหนังสือเรื่อง Water: For Health, for Healing, for Life: You're Not Sick, You're Thirsty! ที่เคยอ่านช่วงม.ปลาย ตอนนั้นอ่านฆ่าเวลาพาคุณย่าไปพบหมอ แล้วก็ลืมเนื้อหาไปหมดแล้ว ช่วงนั้นจำได้ว่า เคยไปอ่านเกี่ยวกับผู้แต่งนส.เรื่องนี้ แล้วมีความเห็นประมาณว่าหมอท่านนี้มีความคิดไม่เหมือนใครที่เชื่อว่าแค่น้ำสามารถรักษาได้ทุกโรค อารมณ์เหมือนต่อต้านการใช้ยา เลยอ่านไม่จบ เดี๋ยววันนี้จะลองกลับไปอ่านดูอีกทีค่ะ ว่ามันเขียนว่ายังไงบ้าง แต่อันดับแรกต้องเช็ดทำความสะอาดก่อน หนังสือเก่ามากกก เดี๋ยวภูมิแพ้ขึ้น 🤧
ขอบคุณคุณหมอมากค่ะ
ขอบคุณมากครับคุณหมอ💗
ขอบคุณคะ ดีใจที่ คุณหมอมาให้ความรู้ ขอบคุณพระคุณอย่างสูงค่ะ พึ่งรู้ระบบร่างกายบนเครื่องบินคะ
ตัวอย่าง ตื่น6.30ดื่ม2แก้ว ทานข้าว7โมง เว้นไป2ชั่วโมง 9โมง1แก้วแล้วก็10และ11โมง หลังเที่ยงบ่าย2-3-4-5 ช่วงค่ำอย่าอัดมาก ได้ลุกฉี่กลางคืน ข้อดีของการกินน้ำทั้งวันคือ เลิกอยากของหวาน ของจุกจิก
อยากทราบว่าคนที่ชอบดื่มโซดาเปล่าๆ วันละ 1-2 ขวด มีผลเสียอะไรไหมคะ ส่วนน้ำเปล่าก็ยังคงดื่มปกติค่ะ
@DrTany
Жыл бұрын
ไม่ได้มีปัญหาอะไรครับ อาจท้องอืดหรือกรดไหลย้อนง่ายหน่อย แต่ถ้าไม่มีปัญหาอะไรพวกนี้ส่วนมากก็ดื่มได้ครับ
คุณหมอคะถ้าคนที่ชอบดื่มแต่น้ำเย็นๆ จะมีข้อเสียไหมคะ ❄️💧❄️เคยดื่มแล้วรู้สึกได้ว่าความเย็นมันไหลลงไปตามร่างกายเลยค่ะ แล้วท้องก็เย็นไปด้วยเลยค่ะ คนดื่มน้ำเย็น น้ำร้อน น้ำอุ่น น้ำอุณหภูมิห้อง แบบไหนดีสุดหรือคะ ขอบคุณค่ะ ☃️💧💦
@DrTany
Жыл бұрын
ไม่มีปัญหาครับ
ขอบคุนครับอาจารย์
🙏🙏🙏ค่ะ คุณหมอ 🥰🥰🥰
สุดยอดครับ ทำให้รู้แจ้งเห็นจริงครับ
คำถามนี้เคยถามไว้คลิปก่อนๆ ขอบคุณคุณหมอมากเลยค่ะ เป็นปัญหาที่คาใจมานาน 😅
ขอบคุณมากค่ะดีมากค่ะเรื่องดื่มน้ำ
ขอบคุณค่ะ น้ำสำคัญต่อร่างกายจริงๆ 💧ช่วงนี้ดื่มเยอะเหมือนกัน🤔 แต่ขี้เกียจวิ่งเข้าห้องน้ำน่ะค่ะ ยิ่งหน้าฝนด้วย… และความจุในกระเพาะปัสสาวะแต่ละคนไม่เท่ากันด้วยมั้งคะ (ปกติเหงื่อก็ไม่ค่อยออก ถ้าไม่ได้เล่นกีฬา ขนาดเล่นกีฬาเหงื่อยังออกน้อยเลย😅) ทราบค่ะ…หลงป่ายังไงก็ไม่ดื่ม😨ค่ะ …เคยดูสารคดีมีวิธีหาน้ำจากหลายแหล่งอยู่เหมือนกัน…🤩
ขอบคุณคุณหมอแทนมากนะคะ ได้ความรู้มากมายมีคุณค่าเสมอ สำหรับตัวเองไม่ค่อยจำว่าดื่มน้ำเท่าไร ต้องจำบ้างแล้วแต่ไม่ดื่มน้ำเย็น น่าจะไม่ขาด สังเกตุจากสีของปัสสาวะ ปกติดีมาก เข้าห้องน้ำบ่อย กลัวว่าจะเกิน ต้องหันมาจำในแต่ละวัน ขอบคุณคุณหมออีกครั้งค่ะ มีคนพูดว่าสูงอายุไม่ควรดื่มน้ำก่อนนอนจริงไหมคะ
@DrTany
Жыл бұрын
ดื่มก่อนนอนมันทำให้ปวดปัสสาวะตอนนอนได้ครับ
@Channel-xv2oo
Жыл бұрын
ขอบคุณคุณหมอมากๆนะคะ
@user-cj7jf5ly3b
Жыл бұрын
ขอบคุณคะคุณหมอ😊
ขอบคุณมากๆค่ะคุณหมอ ฟังแล้วเข้าใจมากกว่าที่ผ่านมา คุณหมออธิบายมีเปรียบเทียบให้เห็นจริงด้วยค่ะ ต้องใส่ใจดูแลตัวเองเรื่องดื่มน้ำอย่างจริงจังพยายามดื่มให้ได้ค่ะและต้องรีบบอกต่อญาติๆ,เพื่อนๆค่ะ ขอบคุณมากค่ะ 🙏👍
คุณหมอคะ กรณีผู้ป่วยติดเตียง ใส่สายให้อาหารทางสายยาง ต้องการน้ำ กับสารอาหารอย่างไรคะ ขอบคุณค่ะ
@DrTany
Жыл бұрын
ก่อนอื่นต้องถามหมอที่ดูแลตอนก่อนที่จะออกจาก รพ ครับ แต่ละคนมีความต้องการไม่เท่ากัน
@lamoloma301
Жыл бұрын
@@DrTany ขอบคุณค่ะ
ผมเคยเป็นไตวายเฉียบพลัน ผลมาจาก G6PD อยากให้คุณหมอให้ความรู้เรื่องไตวายเฉียบพลัน และG6PD ครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ
เหมือนได้คุยกะหมอเลย..ขอบคุณในสาระที่ทุกคนควรทราบ-ดูแลตัวเองเบี้องต้น
อาจารย์คะ ยาบางอย่างที่อาจารย์บอกว่า อาจจะทำให้ร่างกายเก็บน้ำเอาไว้ นั่นคือ การคั่งน้ำ หรือเปล่าคะ ไปหาข้อมูลมาว่าเป็นยาดังต่อไปนี้ แต่ไม่แน่ใจว่าถูกหรือไม่ค่ะ 🔹ยาคุมกำเนิดบางยี่ห้อที่มีปริมาณเอสโตรเจนสูง 🔹ยากลุ่ม NSAIDs เช่น Ibuprofen และ Naproxen 🔹ยารักษาอาการปวดเส้นประสาท Pregabalin และ Gabapentin 🔹ยาต้านแคลเซียม Amlodipine 🔹ยารักษาโรคเบาหวาน Pioglitazone และ Rosiglitazone
@DrTany
Жыл бұрын
ประมาณนั้นครับ
@FragranzaTrippa
Жыл бұрын
@@DrTany ขอบคุณมากค่ะอาจารย์...
อาจารย์ขา น้ำแร่ ดีกว่า น้ำเปล่าไหมคะ หรือ ไม่จำเป็น แค่ ดื่ม บางวัน ก็พอค่ะ
@DrTany
6 ай бұрын
ไม่ได้ดีกว่าครับ
ขอบคุณมากนะคะคุณหมอ
หมอคะ ตอนเราเข้ารพ.เรายังกินได้เองแต่ทางรพ.เจาะแขนคาเข็มให้น้ำเกลือเพื่ออะไรคะ เราปฏิเสธได้มั้ยคะ ทำไมต้องเจ็บตัว แค่นอนรอดูอาการ(ปวดท้อง)
@DrTany
Жыл бұрын
เพราะหากมีเหตุฉุกเฉินที่ต้องช่วยชีวิตด่วนจะได้มีที่ให้ยาเข้าเส้นเลือดโดยตรงครับ รพ ทุกแห่งจะทำแบบนี้ถูกแล้วครับ จะปฏิเสธก็ได้ แต่มันเคยมีเคสที่ฉุกเฉินแล้วช่วยไม่ทันเหมือนกัน รพ ต่างๆจึงทำแบบนั้นครับ
คุณหมอคะ รบกวนขอถามนอกเรื่องค่ะ มีอยู่ช่วงหนึ่งเราทำงานหนักมากอาหารก็ทานไม่เป็นเวลา น้ำก็ไม่ค่อยได้ทานนั่งอยู่หน้าคอมทั้งวันแทบไม่ขยับเขยื้อนไปไหน แล้วจู่จู่ก็เกิดอาการปวดท้องมากๆด้านซ้ายปวดแบบไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนค่ะ ตอนปัสสาวะคือต้องค่อยๆออกมาทีละนิดไม่มีแรงเบ่ง เพราะปวดมากค่ะ คิดว่าสองสามวันน่าจะหาย ไม่ได้ไปหาหมอและไม่ได้ทานยาค่ะ โชคดีที่มันก็ค่อยๆดีขึ้น และหายปวดแล้วค่ะ เหตุการณ์ผ่านมา 6 เดือนแล้วค่ะ เราไม่ได้ปวดท้องแบบนั้นแล้วค่ะ ไม่กล้าให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้นอีกค่ะ 1) ถ้าเป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบ หรือลำไส้อักเสบ อาการคือจะปวดท้องไหมคะ 2) ถ้าไม่ได้รักษา แต่หายปวดท้องแล้ว ถือว่าหายอักเสบ ได้ไหมคะ คุณหมอ ขอบคุณมากค่ะ 🙏😊
@DrTany
Жыл бұрын
1) ปวดครับ 2) น่าจะครับ
ขอบคุณค่ะคุณหมอ ได้ความรู้เพิ่มขึ้นเรื่องการดื่มน้ำเลยค่ะ