ที่นี่คือ #หมู่บ้านไผ่งาม อยู่ติดกับพื้นที่ #เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง จุดนี้ถูกเรียกอยู่บ่อย ๆ ว่า Buffer Zone หรือแนวกันชนป่า ก่อนจะเข้ารีวิววันนี้ ขอบอกก่อนนะคะว่า นี้เป็นจุดเริ่มต้น ที่ก่อกำเนิดมาจากความขัดแย้งในพื้นที่ ระหว่าง #สัตว์ป่า กับ #ชาวบ้านชายป่า มันเรื้อรังมานานกว่าทศวรรษ
.
ปัญหามันยังไงน่ะเหรอคะ ก็ชาวบ้านเขาทำเกษตรกรรม แต่บังเอิ๊ญชุมชนตัวเองดันอยู่ติดกับแนวเขต #ป่าห้วยขาแข้ง แล้วช่วงหลังมานี้เจ้าหน้าที่เขาก็เข้มงวดในการดูแลรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ทำให้ประชากรสัตว์ป่าในผืนป่ามรดกโลกห้วยขาแข้งมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นไปด้วย
.
ไอ้ความไม่ลงรอยกันเพราะสัตว์ป่า อาทิ #ช้างป่า #วัวเเดง #กวางป่า #หมูป่า #นกยูง #เสือโคร่ง และสัตว์ป่าอีกหลายชนิด ที่ออกมาใช้พื้นที่เดียวกันกับชุมชน ออกมากินพืชผลทางการเกษตรบ้าง ออกมาขุ้ยเขี่ยหัวมันเล่น ๆ บ้างอะไรบ้าง แต่ชาวบ้านไม่ได้รู้สึกเล่น ๆ กับเจ้าสัตว์ป่าด้วย จึงทำให้สัตว์ป่าถูกทำร้าย ส่วนคนนั้นก็ถูกดำเนินคดีไป เป็นแบบนี้มาตลอด
.
แล้ววันนึงในปี 2560 มีอาจารย์จาก ม.เกษตรศาสตร์ เข้ามาทำงานวิจัยเกี่ยวกับปัญหาที่พูดมาทั้งหมดข้างบน แล้วก็เข้ามาเป็นโซ่ทองคล้องใจระหว่างชาวบ้าน กับเจ้าหน้าที่
.
อาจารย์เขาเริ่มจาก ให้ชาวบ้านนำปศุสัตว์ที่เคยปล่อยเลี้ยงในป่า ไม่ว่าจะเป็น #วัว #ควาย #แพะ เอาออกมาจากป่าให้หมด แล้วเริ่มทำแปลงปลูกหญ้า ให้สัตว์ป่าได้ใช้พื้นที่ริม #อ่างเก็บน้ำทับเสลา อ่างเก็บน้ำนี้กั้นระหว่างชุมชนกับป่าอนุรักษ์
.
จากนั้นให้ชาวบ้านจัดท่องเที่ยวแนวส่องสัตว์ป่า โดยให้ชาวบ้านจัดการกันเอง พานั่งรถส่องสัตว์ป่า แล้วถ่ายรูปจากบนรถ คล้าย ๆ กับทางแอฟริกา แล้วก็มีเดินป่าศึกษาเส้นทางธรรมชาติ มีนั่งเรือหาปลาของชาวบ้าน เพื่อไปส่องสัตว์ตามชายป่า ประมาณนี้
.
ส่วนที่หมู่บ้านไผ่งามมีการเปลี่ยนห้าง ที่เคยใช้ไล่ช้าง ไล่หมูป่า ไล่วัวแดง ในแปลงเกษตรของชาวบ้าน มาเป็นที่พัก หรือเรียกว่า #บ้านต้นไม้ ให้เป็นที่ส่องสัตว์ป่าในเวลากลางคืนสำหรับนักท่องเที่ยว
.
เข้าเรื่องวันนี้เลยแล้วกัน กิจกรรมที่เขาเริ่มต้นทำกันนั้นมันฟังดูตื่นเต้นจัง เชงก็ต้องลองซิคะทุกคน ทุกกิจกรรมที่เขาบอกว่าจะทำนั้นแหละ เริ่มที่บ้านต้นไม้ก่อนเลย รีวิววันนี้เป็นรอบ 2 ที่เชงมาที่บ้านต้นไม้ แหม่…สภาพอากาศช่างเป็นใจ พายุฤดูร้อนดันเข้าอีก แต่นั้นไม่ใช่ปัญหาสำหรับเชงคะ
.
พี่ท๊อป เขาเป็นประธาน กลุ่มวิสาหกิจส่งเสริมท่องเที่ยวสัตว์ป่าตำบลระบำ (ชื่อจะยาวไปไหน!) พี่ท๊อปพาเชงฝ่าพายุฝนเข้าไปยังห้างแฝด ห้างใหม่ไฉไล ตัวชูโรงของทริปนี้ ขนข้าวของ อุปกรณ์ทั้งหลายขึ้นห้างได้ไม่นาน รถของนักท่องเที่ยวอีกคันโผล่พรวดเข้ามาตรงชายป่าสัก เชงเองที่ได้ยินเสียงก็หันไปดูทันที ช๊อตเด็ดแรกก็มาเยือน เจ้าฝูงหมูป่า ที่คงตื่นรถเหมือนกัน วิ่งตัดผ่านหน้ารถไป ในมือเชงที่มีอาวุธอยู่ก็พอจะกดจังหวะนั้นได้ทัน ภาพมันดูเป็นธรรมชาติดีจริง ๆ (สั่นไปหมด 555) ก็ใครจะไปรู้ล่ะว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น
.
รถคันนั้นน่ะ ที่หมูป่าวิ่งผ่านเมื่อตะกี้ เขาพุ่งตรงมาที่ห้างแฝดเช่นกัน ลงรถได้เขาก็เดินขึ้นมาสำรวจทุกห้องแม้แต่ห้องที่เราเซตอุปกรณ์ไว้ คือไรอ่ะ ….?
.
ไม่ต้องคิดเยอะเลยทุกท่านคะ เชงจะไปจากจุดนี้เอง เปลี่ยนห้างคะพี่ท๊อป ขอห้างที่ห่างไกลจากจุดนี้มากที่สุดคะ ดาวรับไม่ได้ พี่ท๊อปก็จัดให้คะ คณะเราเดินฝ่าสายฝนที่ตกเหมาะแหมะ ๆ ไปยังหมายใหม่ ท่ามกลางความมืด และลำน้ำที่เกิดจากพายุฝนที่ตกอย่างกับฟ้ารั่ว
.
#ห้าง5 คือหมายใหม่คะ บันไดขึ้นห้างชันเกิ้น และห้างมีความสูงกว่าห้างแฝดอีกเท่านึง คณะเราหมกตัวรวมกันทั้งหมดบนห้างน้อย ๆ นั้น เฝ้ารอดูสัตว์ป่าตั้งแต่หัวค่ำ แต่…ก็เงียบสนิท พวกเราคุยกันว่า อาจเป็นเพราะฝนที่ตกอย่างหนัก สัตว์อาจไม่ออกมา ตกลงกันว่าถ้าไม่เห็นก็ไม่เป็นไร อย่างน้อยก็ได้ออกกำลังกาย เดินฝ่าฝน มานั่งตบยุงกัน
.
ต่างคนต่างนั่งคนละมุม บริจาคเลือดให้ยุงลายจนรู้สึกว่าตัวเองแม่พระ และผลอยหลับไปตอนไหนสักตอน รู้สึกตัวอีกครั้งเมื่อพื้นห้างสั่นสะเทือนอย่างแรง เสียงฝ่าเท้ากระทบกับพื้นดินอย่างหนักหน่วง ปลุกให้เชงตื่นขึ้นมาในทันที
.
พระเอกของเรา ออกมาในเวลาราว ๆ ตีสามค่ะ อยู่กับเราสักพักให้พอได้ถ่ายภาพจนใจชุ่มชื้น ไม่นานฟ้าก็เริ่มสว่าง บรรยากาศอึ้มครึ้ม พื้นดินยังอ่อนนุ่มจากการรองรับน้ำฝนทั้งคืน เชงเก็บสัมภาระ เดินเท้ากลับมาอีกครั้งที่ห้างแฝด เพื่อเก็บบรรยากาศยามเช้าให้ทุกท่านได้ชม
.
สนใจท่องเที่ยวชุมชนติดต่อ : กลุ่มวิสาหกิจส่งเสริมท่องเที่ยวสัตว์ป่าตำบลระบำ
สำรองที่พัก โทร. 092-787-5461
พิกัด: บ้านไผ่งาม ต.ระบำ อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี 61160