Келесі
- 19:33
- 1,3 МЛН
- 26:59
- 721 М.
- 8:33:21
- 828 М.
- 7 күн бұрын
- 00:34
- 4,2 МЛН
- 13 күн бұрын
- 01:00
- 21 МЛН
- 20 күн бұрын
- 26:20
- 1,6 МЛН
- 23 күн бұрын
- 1:07:42
- 1,2 МЛН
- 2:51:13
- 31 МЛН
- 1:24:15
- 727 М.
- 15:03
- 289 М.
- 50:08
- 2,7 МЛН
- 30:51
- 141 М.
- 8:33:21
- 828 М.
- 7 күн бұрын
Пікірлер: 408
ถ้าใหญ่ที่สุดนี่ มีแต่พระพุทธองค์ ไม่มีใคร เทียบเท่าพระองค์เลยพระองค์ ผู้ ประเสริฐทั้งสามโลก🙏🙏🙏 พระองค์เคย ปราบพกาพรหม
เราเป็นพุทธ เรานับถือพระพุทธเจ้า
@MrEmChannel
2 ай бұрын
สาธุครับ 😊🙏❤️
@PrawitJaidee
Ай бұрын
อย่าไปสู่หนทางของผู้ปฏิเสธหรือตั้งภาคีต่อพระเจ้าครับ บาปเดียวที่ไม่ได้รับอภัย พวกนับถือในพระเจ้าองค์เดียวเท่านั้นปัจจุบันเหลือแค่อิสลามกับยิวและคริตร์บางนิกาย เรามาจากดินเมื่อตายก็กลับคืนสู่ดิน ส่วนนอกจากนี้จะถูกเผาในกองไฟที่ลุกโชน ร่างกายที่ดิ้นอยู่ในกองไฟ(บางคนว่าเส้นกระตุก)แล้วก็โดนไม้เสียบผีแทงเข้าซ้ำๆ เหรียนที่โดนเปลวไฟที่ร้อนจนแทบละลายอยู่ในปากและลำคอ หรือในดินแดนที่ราบสูงก็หั่นเนื้อเป็นชิ้นๆให้แร้งมารุกจิกกินผู้ทำพิธีอยู่ในชุดสีแดงเพลิง บางทีคำว่านรกมันอาจใกล้กว่าที่คิด
มิสเตอร์M น้องชายคุณแน่มากคุณเก่งมาก เคารพในพระพุทธเจ้าท่าน พระตถาคตท่าน ตรงในพุทธวจน เราอยู่ในยุคยุคพระโคตมะ ท่าน เนื้อความที่คุณพูด ตรงในหลักธรรม พระพุทธเจ้าของพวกเราครับ สาธุ
@MrEmChannel
2 ай бұрын
ขอบคุณมากๆเลยนะครับพี่ ❤️❤️😊🙏
@yoyonut2695
Ай бұрын
เกินกว่ามนุษย์ธรรมดาคนหนึ่งต้องใส่ใจ เพราะสิ่งที่ต้องใส่ใจคือชีวิตและตัวตนของเราทุกคนบนโลกนี้ เป็นปัจจุบันกาล พลังอื่นมาช่วยเราไม่ได้เลย มีแต่พลังมนุษย์ทั้งโลกทุกคนพยุงทุกคนบนโลกนี้ให้อยู่ร่วมกันไปได้อีกนานเท่านาน
ไม่ควรเอามาเปรียบกัน เพราะต่างศาสนา ต่างคำสอน พราหมณ์-ฮินดู เชื่อในการมีอยู่ของอาตมัน เพื่อบรรลุและกลับเข้าสู่ปรมาตมัน เค้าก็มีคำสอนแนวทางปฏิบัติ และจุดสูงสุดของเค้า ส่วนพุทธ เชื่อในการเคยมีอยู่ของพระพุทธเจ้า และจุดสูงสุดของคำสอนคือปรินิพพาน สิ่งที่เหมือนกันคือ ปรมาตมันเป็นอมตะอยู่อย่างนั้น อยู่ส่วนใดส่วนหนึ่งในจักรวาล แต่ปรินิพพานเป็นสภาวะใสสะอาด ดับสนิท ไร้กิเลสร้อยรัด เป็นโลกุตระภูมิ ซึ่งทั้งสองกล่าวถึงการหลุดพ้นจากวัฏสงสารเหมือนกัน คือไม่มาเวียนว่ายตายเกิดอีกแล้ว ทีนี้เรื่องฤทธานุภาพก็ถ่ายทอดไว้ทางใครทางมัน ฝ่ายหนึ่งเป็นมหาศักติ ผู้สร้างและให้กำเนิดสัตว์โลกทุกชนิด อีกฝ่ายหนึ่งเป็นมนุษย์ ผู้ละสังโยชน์ได้ และมองว่าพระเวทไม่ใช่หนทางดับทุกข์ เพราะก่อนที่จะสถาปนาพุทธศาสนา พระพุทธองค์เรียนพระเวท และออกบวชแบบพราหมณ์มาก่อนครับ ไม่ใช่นุ่งเหลืองห่มเหลืองบวชพระเลย เอาจริงๆ ไม่ควรเอามาเปรียบเทียบให้เกิดความเหลื่อมล้ำทางศาสนา ไม่ใช่เรื่องที่ควรทำ ใครนับถืออะไร เค้าก็มองว่าคำสอนศาสนาอื่นสู้ศาสนาตนไม่ได้ทั้งนั้น ต้องแยกให้ออกด้วยว่า คอนเทนต์ไหนควรทำ หรือไม่ควรทำ ดูคอมเมนต์ด้วย แทบจะตบหน้ากันอยู่แล้ว สร้างความแตกแยกไม่ใช่เรื่องที่ดีนะครับน้อง
@khdk9d874
Ай бұрын
ไช่ครับ..!!! ทุกศาสนา.=..รวมๆแล้วเขาสอนให้คนเป็นดี.+((คิด,วิเคราะ,แยกแยะ)) "..สาทุๆๆอนุโมทามิ.."คุณนั้นเป้นผุ้ที่มีเหตุผลดีมากครับผมชอบ..!"
@arj-in8575
Ай бұрын
ไม่ควรเปรียบเทียบให้เกิดความขัดแย้งเดี๋ยวก็รบกันอีก ขึ้นต้นมาก็เริ่มด้วยอภินิหารเกินจริงจนด้อยความน่าเชื่อถือ ส่วนตัวผมๆมองว่าพระพุทธองค์เป็นคนธรรมดาคนหนึ่งที่มีอัจฉริยภาพสูงส่ง จนค้นพบพระธรรมอันยิ่งใหญ่ซึ่งพระองค์บอกว่าจะมีพระองค์หรือไม่พระธรรมนั้นก็มีอยู่ก่อนแล้วเพียงแต่ยังไม่ถูกค้นพบและนำมาสอนโดยผู้มีปัญญา และพระอัจฉริยภาพของพระพุทธองค์ทำให้ท่านได้รู้วิธีสร้างและใช้พลังจากจิตได้อย่างเต็มพลัง(ตามหลักวิทย์พลังสมองคนธรรมดาใช้แค่2%เท่านั้น)จนจะเรียกว่าอภินิหาร(เช่นการเห็นอนาคต การมองย้อนไปในอดีตชาติ การเหาะเหินเดินอากาศและฯลฯ)ตามที่เขียนๆกันในพระไตรปิฎกหรือไม่ผมไม่รู้ไม่อยากเชื่อและไม่อยากวิจารณ์ด้วยเช่นกันเพราะเกินปัญญาครับ ผมแค่ใช้คำสอนในนวโกวาทมาพิจารณาและใช้ในชีวิตก็พบความสุขในระดับที่อยู่ในสังคมได้สบาย ส่วนอภินิหารอ่านเอาเพลินเพราะถูกใส่หัวมาตั้งแต่เด็กแล้วเท่านั้นเอง
@playphone7175
21 күн бұрын
ใช่คับ
ปัญจวัคคีทั้งห้าก็คือ องค์ฤษีทั้งห้าในศาสนาฮินดู เป็นอาจารของพระพุทธองค์ แต่เป็นสายอิทธิฤทธิ์ต่างๆ พระพุทธองค์เรียนรู้จนแตกฉานและเห็นว่า การปฎิบัตรสายนี้เพียงแต่ได้ฤทธิ์เดชเท่านั้นไม่ทำให้หลุดพ้นได้ จึงทำการค้นหาตัวตนด้วยพระองค์เองจนสำเหร็จ ภายหลังฤษีทั้งห้าในศาสนาฮินดูผู้เป็นอาจาร มาขอเป็นศิษมั่ง สรุปพระพุทธเหนือกว่า
@MrEmChannel
2 ай бұрын
สาธุครับ สิ่งไหนที่พราหมณ์หรือฤๅษีทำไว้ดีแล้ว พระพุทธเจ้าก็มาทำต่อไม่ได้คัดค้าน แต่แค่สิ่งที่พราหมณ์หรือฤๅษีทำไม่สามารถไปถึงขั้นนิพพานได้ พระพุทธเจ้าเลยต้องออกมาหาคำตอบด้วยตัวท่านเอง 😊🙏❤️
@user-uv8yt2fn7j
2 ай бұрын
พูดได้ถูกมาก อีกอย่างทุกศาสนาล้วนสอนให้คนทำความดีทั้งนั้น@@MrEmChannel
@jalax6268
Ай бұрын
ก็ได้จากคนรุ่นก่อนแหละ แต่ยังใฟ้คำตอบไม่หมดเลยมาหาเอง นักวิทยาศาสตร์ก็เหมือนกันเรียนรู้จากคนรุ่นก่อน เมื่อไม่ได้คำตอบก็ต้องหาเอง
พรหมกับพระโพธิสัตว์ พรหมต้องบำเพ็ญบารมีเพื่อเป็นพระโพธิสัตว์ พระโพธิสัตว์ต้องบำเพ็ญบารมีเพื่อจุติเป็นพระพุทธเจ้า ส่วนอรหันต์เหนือกว่าพรหม เป็นสาวกพระพุทธเจ้าโดยสมบูรณ์
@swd2445
Ай бұрын
พระโพธิสัตว์ไม่จำเป็นต้องเป็นพระพุทธเจ้าก็ได้ 1.พระโพธิสัตว์ที่ยังไม่ไม่ได้รับการพยากร(อนิยตโพสัตว์)ก็สามารถถอนคำสัจจะอธิฐานได้เพื่อเป็นสาวกภูมิเพื่อเข้านิพพานแต่ถ้าได้รับการพยากรแล้ว(นิตยาโพธิสัตว์)ต้องเป็นแน่นอน 2.พระโพธิสัตว์ที่บารมีเต็มเเล้วแต่เกิดความเบื่อหน่ายในโลกธรรมลาพระพุทธภูมิเข้าพระนิพพาน 3.บุคคลซึ่งปรารถนาเป็นพระโพธิสัตว์ที่จะค่อยช่วยเหลือสรรพสัตว์ให้พ้นทุกข์ทางโลกเพื่อนำพาบุคคลเหล่านั้นได้พบธรรมของพระพุทธองค์แต่จะให้ธรรมขั้นพื้นฐานแก่บุคคลเหล่าโดยพระยึดพระพุทธเจ้าเป็นสรณะและอยู่คู่(ต่ำกว่าพระพุทธเจ้า)พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ที่จะบังเกิดในกาลข้างหน้าและเข้านิพพานด้วยตนเองในอนาคตกาลเมื่อเห็นสมควรเเล้ว
ที่คนคิดกันว่าพระนารายณ์เป็นอวตารของพุทธะเป็นเพราะการแย่งชิงความศรัทธาในสมัยหนึ่ง สรุปคือเป็นการแต่งใหม่เพื่อข่มอีกศาสนาหนึ่ง ในอดีตเรื่องนี้มีเป็นปกติมากๆครับ
พราหมณ์ คือ ฐาน พุทธ คือ ยอด
@MrEmChannel
2 ай бұрын
อย่างนั้นเลยครับ การบำเพ็ญบารมีในช่วงหนักๆ ต้องมาเกิดในตระกูลพราหมณ์นี่แหละครับ เพื่อที่จะไปจุดสูงสุดได้ สาธุครับ 🙏❤️😊
@tomakomoriyama6007
28 күн бұрын
พราหมณ์-ฮินดู คือ รากเหง้ารากฐาน, พุทธเจ้า คือ ปลายพุทธ, อย่าลืมว่า พุทธเจ้า คือ มนุษย์ เกิดจาก ครรภ์มารดา, ซึ่งต่างจาก พระนารายณ์ เกิดจาก ปาง พระศิวะ พระพิษณุโลก, คติธรรม พุทธศาสนา มาจาก หลักธรรม พราหมณ์ฮินดู , พุทธศาสนา เกิดจาก พราหมณ์ฮินดู นั่นเองครับ, สังเกตได้ พุทธศาสนา จะ นำเอา พราหมณ์ฮินดู ทำพิธีกรรม ก่อน พุทธ, พุทธศาสนา แบบไทย คือ พุทธศาสนา ที่ ผสมผสาน กับ พราหมณ์ฮินดู ค่อนข้างมากกว่า พุทธศาสนา ,
@SleeppingForest
27 күн бұрын
@@tomakomoriyama6007ศาสนาพุทธไม่มีพิธีกรรมใดๆนะ
๑. สวรรค์ # พรหม # อรูปพรหม มีใน บทสวด ธรรมจักรกัปปวัฒนสูตร(การแสดงธรรมครั้งแรก) ๒. พรหม ตนหนึ่ง มาอาราธนา ให้พระพุทธเจ้า ประกาศศาสนา เป็นที่มาบทอาราธนาธรรม### พรหมา จะโลกา ธีปะติ......... ๓. พระพุทธรูป ปางเล่นซ่อนหา เป็น การประลองฤทธิ์ ระหว่าง พระสมณโคดมพุทธเจ้า กับ ท้าวผกาพรหม### ท้าวผกาพรหม ทรงโคนนทิ 🎯🎯🎯โคนนทิ = พาหนะของ พระอิศวร 🛑🛑🛑พระอิศวร= ผู้สร้าง และ ดับ สรรพสิ่ง ๔. พระนารายณ์ ไม่ปรากฏใน พุทธศาสน์ # หรือ พระวิษณุ มี ๒ กิจ ๑.🛑คุ้มครองโลกให้ดำเนินไป 🎯๒.....(ไม่เปิดเผย)..... แม้ไม่ปรากฏในพุทธศาสน์ แต่ไปปรากฏ ใน ด้าน พุทธธาคม เช่น 🎯นารายณ์ คุ้มพล ( บท อิติปิโส วิ เสเส อิ ฯ) 🎯 นารายณ์ กรึงจักร 🎯 นารายณ์ คลายจักร ฯลฯ🛑 เกจิ อาจารย์ จะสอน พุทธาคมแบบ บอกด้วยวาจา ประมาณนั้น 💌💌💌 ส.18/5/2567:23.23❣
ขอให้สันติจงอยู่กะเราทุก สัพสัตว์ สาธุๆๆ ETernity.
คำว่าพระพุทธเจ้าหาประมาณมิได้ ไม่มีผู้ใดเทียบได้พระพุทธองค์ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง นำพระธรรมคำสอน ให้พวกเราปฏิบัติเพื่อได้มรรคผลหลุดพ้นจากความทุกข์ พระนารายณ์ก็คือเทวดาองค์ใดองค์หนึ่งจะมาเทียบกับพระพุทธเจ้าไม่ได้นะครับ
ขอบคุณ ขอบคุณจริงๆ😊
สาธุ
ขอบคุณครับ
ขอเรื่องพระเจ้ามหาจักรพรรดิ หน่อยครับ
🙏🙏🙏 ฟังไม่จบ ขอขอบคุณ นาย M มากๆๆ ครับ 🤟💟❣️♥️
@MrEmChannel
2 ай бұрын
สงสัยฟังตอนดึกใช่ไหมครับ หลับก่อน 😅😅❤️
ขอบคุณครับ😊
@MrEmChannel
2 ай бұрын
ยินดีครับ 😊🙏❤️
สาธุครับ
ตถาคต ไม่มีกิเลสและความโกรธ พระนารายณ์ คือเทพ และยังมีความโกรธ คิดเอา
ສາທຸ
พระพุทธองค์คือที่สุดเเล้วครับ.
ขอบคุณมากครับ
อย่าไปเปรียบเทียบกันครับ พระพุทธเจ้าอยู่เหนือเทวดาทั้งเพราะหมดซึ่งกิเลสทั้งปวงไปหมดแล้ว ส่วนพระนารายณ์ท่านมีฤทธิ์มากก็จริงท่านยังไม่หลุดพ้นจากกิเลสเลสครับ
Good yes true brother
เมื่อก่อนพุทธเจริญแซงพราหมณ์พวกนี้มันจะเคลมพระพุทธเจ้าเพื่อดึงคนให้กลับมานับถือพราหมณ์ เลยอ้างเสริมเข้ามาในศาสนาพราหมณ์
คนที่เอาเรื่องอย่างนี้มาเปรียบเทียบ ไม่ได้เพราะเป็นที่สักการะ เคารพนับถือของผู้คนมากมาย มันจะเกิดการถกเถียงกัน ไม่รู้จบ ถ้าคนที่นับถือต่างกัน ก็จะเถียงกัน ยิ่งอยู่ในวงเหล้าอาจถึงตาย ไม่ทราบว่าผู้ที่นำเสนอเรื่องนี้ เข้าใจข้อนี้หรือเปล่า ...
@gogetdiaries
2 ай бұрын
จริงครับ มันใช่เรื่องไหมเนี่ย ดีนะไม่ไปเทียบกับพระเจ้าของบางศาสนา มึงเอ้ยยยย งามใส้
สาธุ สาธุ สาธุ
เสียงดังฟังชัดค่ะ
มันเป็นความเชื่อความศรัทธาของคนในแต่ละศาสนา เราชาวพุทธ ก็ว่าพระพุทธเจ้าเก่งสุด เลิศสุด ศาสนาคริสต์ ก็จะว่าพระเจ้าเก่งสุด ดีสุด ศาสนาพราหมณ์ ฮินดู ก็ว่าพระพรหม พระศิวะ หรือพระนารายณ์ เก่งสุด ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับแต่ละนิกายอีกด้วย บางนิกายก็ว่าพระพรหมเก่งสุด บางนิกายก็ว่าพระนารายณ์เก่งสุด บางนิกายก็ว่าพระศิวะ เก่งสุด เอาเป็นว่า อย่าเอาความศรัทธาของทุกคน ทุกศาสนามาข่มกันดีที่สุด ใครนับถือศาสนาใด นับถือพระเจ้าองค์ใด ก็เป็นเรื่องของแต่ละคนดีกว่า ปัญหาความขัดแย้งก็จะไม่เกิด
ลูกรักทั้งคู่เลยค่ะ เลือกไม่ได้เลยนะคะ พระพุทธเจ้าชอบอยู่แล้ว แต่พระนารายณ์ ปกปักษ์รักษาโลก ในแง่ดีเกินคาด ชอบทั้งสองเลือก บ่ได๋น้อ
ผมเคยเจอแล้ว ได้ประสบการณ์ทางสภาวะธรรมจากท่าน ท่านเก่งจริงเรื่องอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ ให้ประสบการณ์ทางจิต เกี่ยวกับเรื่องจิต เรื่องพลังงานของจิต
พระนารายณ์ฯอาจจะเป็นพระพุทธเจ้าพระองค์ใดพระองค์หนึ่งในอนาคตก็เป็นใด้ ครับซึ่งกำลังบำเพ็ญบารมีอยู่ก็เป็นได้แต่จะเป็นพระพุทธเจ้าแบบใหนนี้ก็เกินข้าพเจ้าจะรู้ได้..
@semanot4288
28 күн бұрын
คล้ายเป็นพระโพธิสัตว์ใช้ไหม
@udomsapauamdoung6917
13 күн бұрын
เป็นไปไม่ได้ เขาเป็นสาวกชั้นอนาคามี
@user-mh4vx2gl3x
13 күн бұрын
@@udomsapauamdoung6917 มาไงงง.ครับ
ไม่ควรนำมาเปรียบเทียบครับเอาศาสนาพราหมณ์ มาเทียบศาสนาพุทธแบบนี้ ยังไงพระพุทธเจ้าอยู่เหนือหมดครับ
❤
ดีครับพี่😊
พระพุทธเจ้ามีตัวตนจริง แต่เทพเปนการแต่งขึ้นมาเองจากการศรัทธาของคนกลุ่มนึง จะมาเปรียบเพื่อไร ศรีษะพรหมพระพุทธเจ้าก็แสดงฤทธิเดินมาแล้ว
พระพุทธเจ้ามีอยู่หลายแบบ..มีบารมีมากน้อยไม่เหมือนกัน เช่นกันกับพระพุทธเจ้าทั้ง4พระองค์ใด้อุบัตขึ่นและในอนาคต พระศรีอาริย์คือองค์ต่อไปซึ่งอายุพระศาสนาจะยาวกว่าอาจจะเป็นเพราะกำลังบารมีก็เป็นใด้ แต่เมือสิ้นอาสวะ แล้วย่อมสิ้นสุดการเดินทางในวัฏฏะนั้นแล..
You’re true brother good I like , sure really is really
@MrEmChannel
2 ай бұрын
thank you very much. 😊🙏❤️
(7). ..... อนึ่ง ชนทั้งหลายที่อยู่ในโลกด้วยกันทุกวันนี้ ล้วนแต่พากันเสาะแสวงหาวิชาความรู้ต่าง ๆ เพื่อจะได้นำมาประดับสติปัญญาของตน ๆ ด้วยกันทั้งสิ้น ทั้งนี้ก็เพราะมีความเห็นว่า บุคคลใดขาดเสียซึ่งวิชาความรู้เสียแล้ว บุคคลนั้นก็ย่อมจะได้รับแต่ความลำบาก เพราะมิอาจที่จะยกฐานะคือความเป็นอยู่ของคนให้รุ่งโรจน์ได้ มีแต่การใช้กำลังกายเป็นที่พึ่งฝ่ายเดียว มิอาจที่จะอาศัยปัญญาอันเป็นกำลังทางใจให้เป็นที่พึงแก่ตนได้ ..... ด้วยเหตุนี้วิชาที่ชนทั้งหลายมุ่งหวังอยู่ทั่วทุกคนนั้นก็มีอยู่ ๒ อย่าง คือ วิชาทางโลกอย่างหนึ่ง วิชาทางธรรมอย่างหนึ่ง วิชาทางโลกนั้นย่อมให้ผู้ศึกษาได้รับผลแต่ในปัจจุบันชาติ ๆ นี้ชาติเดียว หาได้ติดตามตนไปในภพอื่น ๆ ได้ไม่ มิหนำซ้ำวิชาบางอย่างก็ทำให้ผู้ศึกษาได้รับผลร้ายอีกด้วยก็มี ส่วนวิชาทางธรรมนั้นไม่มีการให้โทษแม้แต่ประการใด ๆ มีแต่ทำให้ผู้นั้นได้รับความสุขใจปรากฏเกิดขึ้นถ่ายเดียว และต่อไปในภายภาคหน้าก็ยังช่วยอุดหนุนให้ได้รับความสุขที่เกี่ยวกับมนุษย์ เทวดา ตลอดจนถึงพระนิพพานอีกด้วย ความสุขทั้ง ๓ อย่างนี้ พระนิพพานเป็นความสุขอย่างยิ่ง เพราะไม่มีการผันแปรเปลี่ยนแปลงเป็นไปอย่างอื่น คงมีแต่ความสุขที่สงบจากทุกข์ทั้งมวล ..... เมื่อได้พิจารณาใคร่ครวญดูในวิชาที่เป็นทางธรรม โดยถี่ถ้วนแล้ว วิชาทางธรรม ที่จะอำนวยผลให้ผู้ศึกษาได้รับความสุขในพระนิพพานโดยเร็วนั้น ได้แก่ วิชาความรู้ที่เกี่ยวกับพระอภิธรรม กล่าวคือรูปนามและบัญญัติ ส่วนวิชาทางธรรมที่นอกจากนี้ เพียงแต่เป็นเครื่องประกอบ ผู้ที่จะได้รับความรู้ในรูปนามและบัญญัติ ซึ่งเป็นวิชาทางค้นพระอภิธรรมนั้น มีอยู่ด้วยกัน ๒ ทาง คือ ทางปริยัติ และทางปฏิบัติ รู้โดยทางปริยัติ เรียกว่า สุตมยปัญญา และจินตามยปัญญา รู้โดยทางปฏิบัติ เรียกว่า ภาวนามยปัญญา ความรู้ที่เป็นปริยัติ และปฏิบัติ ทั้ง ๒ ทางนี้ รู้โดยอาศัยปริยัติเป็นการรู้โดยกว้างขวาง พร้อมทั้งบัญญัติของรูปนามเหล่านั้นด้วย ส่วนการรู้โดยอาศัยการปฏิบัตินั้น เป็นการรู้ที่เข้าถึงสภาพธรรมของรูปนามที่กำลังเป็นไป ปรากฏชัดเจนแก่ปัญญาของตน ๆ ที่กำลังเพียรเพ่งพินิจอยู่ แต่ความรู้นั้นถ้ารู้โดยอาศัยการปฏิบัติอย่างเดียวแล้ว ถึงแม้ว่าจะรู้ถึงสภาพธรรมโดยปัญญาของตน ๆ ก็ตาม แต่ก็มิอาจรู้ทั่วถึงบัญญัติของสภาพธรรมนั้น ๆ ได้ ทั้งยังจัดว่าเป็นความรู้ที่ยังแคบอยู่ บางตอนจาก คำปรารภเบื้องต้น น. ๕ ของหนังสือปรมัตถโชติกะ ปริจเฉทที่ ๔ วิถีสังคหะ และนามรูปวิถีวินิจฉัย พร้อมด้วยภาพวิถี (หลักสูตรชั้นมัชฌิมอาภิธรรมิกะตรี) รจนาโดย พระสัทธัมมโชติกะ ธัมมาจริยะ อภิธรรมโชติกะวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย จัดพิมพ์โดย มูลนิธิสัทธัมมโชติกะ ฉ. พ.ศ. ๒๕๕๗
(2). ..... ถ้าจะกล่าวโดยตรงแล้วศาสนาอื่น ๆ ที่นอกจากพระพุทธศาสนานั้น ไม่มีการกล่าวถึงสภาพของนามธรรมที่มีหน้าที่โดยเฉพาะ ๆ ที่ทำให้สัตว์ทั้งหลายได้เกิดความรู้สึกต่าง ๆ นับตั้งแต่การเห็นการได้ยินเป็นต้น จนกระทั่งถึงการคิดนึกในกิจการทั้งปวงนั้นว่าเป็นสภาพของนามธรรมแต่ประการใดไม่ เพียงแต่กล่าวกันว่าได้ใช้สมองทำการงานอย่างนั้นบ้างอย่างนี้บ้างเท่านั้น อุปมาเหมือนหนึ่งหมอกลางบ้าน เมื่อได้พบเห็นคนไข้เป็นไข้ไทฟอยด์อย่างหนักอยู่ ก็เข้าใจว่าเป็นไข้ที่ผิดเจ้าป่า หรือถูกเจ้าป่าเข้าสิง แล้วก็ใช้ยากลางบ้านเป็นเครื่องรักษาบ้าง ใช้คาถาเสกเป่า รดน้ำมนต์ บ้าง เมื่อเห็นคนไข้มีอาการสั่น ก็เข้าใจว่าเจ้าป่าสิงแล้ว ก็ใช้ไม้เฆี่ยนเป็นทำนองขับไล่ผีดังนี้ ผลที่สุดคนไข้ก็ต้องถึงแก่ความตาย เพราะอาศัยความเข้าใจผิดของหมอกลางบ้านนั้นเอง ข้อนี้ฉันใด ผู้ที่กล่าวว่าได้ใช้สมองทำงานอย่างนั้นอย่างนี้ก็ฉันนั้น ซึ่งแท้ที่จริงนั้นการกล่าวกันว่าสมองโปร่ง, สมองโล่ง, สมองทึบ, หรือปวดสมองต่าง ๆ เหล่านี้นั้น ข้อนั้นก็เนื่องมาจากความเป็นไปของจิตตชรูป ซึ่งเกิดมาจากนามธรรม มีโลภะ,โทสะ, โมหะ, ปัญญา, สัทธา เป็นต้น ที่ได้แผ่ซึมซาบตลอดทั่วไปในสรีระร่างกายนั้นเอง ..... ในหมู่ชนชาวพระพุทธศาสนาของเราทั้งหลายนี้ ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือหนุ่มสาว แก่เฒ่า เพียงใดก็ตาม ที่ไม่มีความรู้ในเรื่องศาสนาพุทธดีพอ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งก็คือไม่ได้รับการศึกษาในด้านพระอภิธรรมเหล่านี้ ก็คงมีความเห็นความเข้าใจคล้อยตามลัทธินั้น ๆ ไปด้วย อุปมาเหมือนผู้ที่ใกล้ชิดต่อกับชาวประมงหรือพรานป่าอยู่เสมอ ๆ ก็ย่อมทำให้ผู้นั้นกลับกลายเป็นชาวประมงหรือพรานป่าไปได้ฉันใด บรรดาพุทธศาสนิกชนทั้งหลายที่ไม่ได้รับการศึกษาดีพอในด้านพระอภิธรรม ย่อมจะกลับกลายไปได้ฉันนั้น ..... แต่เป็นที่น่าเสียดายอยู่ว่า บรรดาผู้ที่นับถือศาสนาอื่น ๆ เหล่านั้นมีความเข้าใจต่อพระบรมศาสดาของเราว่าเป็นบุคคลสำคัญคนหนึ่งในหมู่ลัทธิเหมือน ๆ กัน หรือเท่า ๆ กันกับผู้ที่เป็นศาสดาของเขาเท่านั้น ไม่เข้าใจว่าพระองค์เป็นผู้ทรงคุณอันเลิศหาที่เปรียบมิได้ สมดังที่มีคาถาพระบาลีแสดงไว้ว่า .. สุชนาสุชนา สพฺเพ __ คุเณนาปิ วิเวกิโน .. วิเวกํ น สมายนฺติ __ อวิเวกิชนนฺติเก ฯ (มาในสุโพธาลังการ) ..... แปลความว่า สัปบุรุษคือบัณฑิต และอสัปบุรุษคือคนพาลทั้งหลาย แม้ว่าจะมีความแตกต่างกันโดยคุณธรรมก็จริง แต่ก็ไม่ทำให้เข้าถึงความแตกต่างกันอันสมควรในบรรดาชนที่ไม่มีวิจารณปัญญาทั้งหลาย กล่าวคือชนทั้งหลายที่ไม่มีวิจารณปัญญา ซึ่งเป็นปัญญาที่สำคัญนั้น คงมีแต่ปัญญาธรรมดา และมารยาสาไถย อิจฉาริษยา เหล่านี้ ย่อมไม่ได้กระทำให้บุคคลทั้งสองฝ่ายต่างกัน คงเห็นว่าเสมอเหมือนกันหมดทั้งสิ้น
ใครเกิดก่อนคนนั้นแหละเก่งกว่า พระพุทธเจ้าสอนธรรมชาติเป็นหลัก แต่ข้อเสียของธรรมชาติคือด้านมืด ส่วนพระนารายณ์ สอนให้ปราบด้านมืด
เคยได้ยินมาว่า อัลลอฮฺ ผู้สร้างทุกสิ่งทุกอย่าง แต่ไม่เคยรู้ตัวตน
❤❤❤❤❤
@MrEmChannel
2 ай бұрын
❤️❤️🙏
พระพุทธเจ้า..เหนือสุดแล้วคับ ..ขนาดผ้าแดงที่แรงที่สุดในโลกยังทำอาไรพระพุทธเจ้าได้เลย😊
@user-tw4tp2sf5x
Ай бұрын
พระศิวะสิเหนือกว่าพระพุทธเจ้าไปขอฤิทธ์พระศิวะมาพรมไฟนรกของพระศิวะเอง
ใช่เลยถูกต้องชัดเจน
@MrEmChannel
2 ай бұрын
❤️🙏😊
สาทุคับ
เห็นด้วยครับ
องค์พระพุทธะมีตัวตนจริง,ไม่มีใครจะเสมอเหมือนได้,....(1)ในโลกและสากลจักรวาล,คือองค์,พระพุทธะทุกๆพระองค์,....จุติมาจากสรวงสวรรค์ชั้นดุสิต....อายุขัยของสรวงสวรรค์ชั้นดุสิตคือ.....4,000 ปีทิพย์.....เทียบเวลา,ในโลกชมพูทวีปของเรา,คือ=576 ล้านปี,(รอนานแสนนาน)ความย่อฯ
มีจริงครับ บ้านเมืองของพระพิษณุมีหลายชื่อเมืองในสวรรค์ชั้น 6 ชื่อว่า เมืองพิษณุโลกและนครธรรมของพญาสยาม-เทวาธิราชมีแตกต่างกันเมืองของพญามารธิราชสวรรค์ชั้น6ที่ไม่เหมือนกัน เขาลูกหลานคนไทยเป็นบรรพบุรุษชาวสยามภูหรือเสียมโคกในสุวรรณภูมิครับ
กราบอนุโมทนาสาธุครับ
@MrEmChannel
2 ай бұрын
สาธุครับ 😊🙏❤️
นารายณ์แท้จริงคือ โพธิสัตว์บำเพ็ญบารมีเพื่อเป็นพระพุทธเจ้า ส่วนพระพุทธเจ้าคือ ผู้บารมีเต็มแล้วจึงตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า ตอนนี้พากันเข้าใจหารือ ยังคนับ
ขอตำนานกำเนิดพระนารายน่อย
ผมก็เชื่ออยาง่คุณนั้นแหละ🎉
@MrEmChannel
2 ай бұрын
ขอบคุณครับ 🙏❤️😊
องค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงมีพระเมตตา ต่อมวลมนุษย์ หาที่สุดไม่ได้ ผมน้อมพระพุทธองค์ ไว้เหนือเศียรเกล้า ไม่มีเทพองค์ใดเปรียบเทียบ พระเมตตาของพระพุทธองค์ ได้เลย
พระพุทธเจ้าอยู่เหนือทุกสรรพสิ่งเป็นพระสัพพันยูผู้รู้ทุกสิ่งครับ🙏🙏🙏
@user-yk4yk3ll9k
2 ай бұрын
พระสัพพัญญูค่ะไม่ใช่สัพพันยู
@user-mp8zg6jp6e
2 ай бұрын
แล้วแต่ศาสนา
ในมหาสมัยสูตรพระพุทธองค์กว่าถึงเทวดาเป็นจำนวนมากต่างชื่อตระกูลกันไป พระอิศวรพระนารายณ์ก็จัดเป็นเทวดาหรือพวกเทพตระกูลหนึ่งเหมือนกัน พระพรหมในพุทธศาสนาจะไม่มีคู่ครับ แต่ของฮินดูจะมีคู่สังเกตุง่ายๆ พระพรหมในศาสนาพรามณ์ฮินดูก็เป็นเทพจำพวกหนึ่งเหมือนกันในชั่นกามาพจรภูมิ😊
@MrEmChannel
2 ай бұрын
ใช่ครับถูกต้องที่สุดเลยครับ พระพรหมในศาสนาพุทธละจากกามแล้ว ขอบคุณมากครับ 😊🙏❤️
@user-jo6xe9dm2p
2 ай бұрын
พระศิวะกับพระนารายณ์ เพิ่งแต่งขึ้นหลังพุทธกาลอีกจ้า
ถ้าให้พูดกันตรงๆ เป็นความจริงเลยก็คือในสมัยพุทธกาล ตัวของเจ้าชายสิทธัถเองก็เป็นนับถือฮินดูเช่นกัน แต่มึงอาจหลุดพ้นจากการเวียนไหว้ตายเกิดได้ ตัดมาตอนที่ตรัสรู้เป็นอวค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเลยก็แล้วกัน ถ้าอ่านในพระไตรปิฤกจิงๆ คนที่รับเอาพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ เป็นสรณะนั่น ล้วนแต่เป็นฮินดูทั้งหมด ต้องยอมรับกันตรงๆว่า สาศนาฮินดูนั้นเก่าแก่มากกว่าสาศนาพุทธ แล้วก็เริ่มมีคนมานับถือมากขึ้น และเริ่มถึงกาบเสื่อมของฮินดู จึงบอกว่า ตถาคตเป็นร่างอวาตาลอีกร่างของพะะนาราย ซึ่งเป็นไปไม่ได้
@user-tc2qi1bi9t
2 ай бұрын
ถ้าศีลมึงยังไม่มีสักข้อ..กรุณาอย่าสามหามให้มาก
@user-gn9mw1es4y
Ай бұрын
พระพุทธเจ้ามีมาไม่มีรู้กี่ล้านองค์แล้วครับพระสมณโคดมแค่องค์นึงเท่านั้นครับ จะคิดว่าศาสนาฮินดูเกิดก่อนได้ไง
พระอุปคุต พระโมคราณะสององค์. แค่สองพระองค์ท่านทั้ง2นี้ก็พอแล้ว
สาธุๆครับ
ท้าวมหาพรหมชินะปัญชะระผู้มีฤทธิ์มากยังเคยเป็นสาวกของลูกศิษย์ตถาคตเลย ท้าวมหาพรหมชินะปัญชะระเสด็จไปที่ไดจะมีแสงสว่างเท่ากับพระอาทิตย์7ดวงท่านเป็นพรหมที่มีฤทธิ์มาก😊
@MrEmChannel
2 ай бұрын
🙏❤️😊😊สาธุครับ
@user-nf5he5cx3u
2 ай бұрын
พระพรหมองค์นั้นมีอายุเท่าไหร่มีอายุกี่กับป์
@Mjwp1234
2 ай бұрын
@@user-nf5he5cx3uพรหมมีอายุมากเลยค่ะ นานมาก มี แบบมีรูปกะไม่มีรูป แต่เราจำไม่ได้แล้วค่ะจำได้แค่นี้
เก่งมากและดีมาก คุณM
@MrEmChannel
2 ай бұрын
ขอบคุณมากๆครับ จะพยายามพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นๆนะครับ 😊🙏❤️
ท่านแบ่งภาค ครับ ไม่ใช่เวียนว้ายตายเกิด ศึกษวใหม่เพิ่มอีกหน่อยน่ะจะด้ายรูัจริง
(3). ..... อนึ่ง ผู้ที่มีความเชื่อถือแต่ในฝ่ายรูปธรรมอย่างเดียวนั้น ย่อมจะพิจารณาค้นคว้าหาเหตุผลที่เกี่ยวกับรูปฝ่ายเดียว ฉะนั้น เมื่อนักวิทยาศาสตร์ได้ทำการค้นคว้าหาเหตุผลที่เกี่ยวกับรูปตั้งแต่สิ่งที่ใหญ่ที่สุด แล้วค่อย ๆ ลดลงไป ๆ ตามลำดับ ๆ จนกระทั่งถึงเล็กที่สุดที่อนุมานเรียกกันว่าปรมาณู แต่ถึงกระนั้นก็ยังมิอาจที่จะพิจารณาได้ว่าในปรมาณูเม็ดหนึ่ง ๆ นั้น มีสภาพของรูปอะไรบ้างที่รวมกันอยู่ จึงทำให้เม็ดปรมาณูเกิดขึ้นได้ สำหรับพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าของชาวเรานี้ พระองค์ย่อมทรงทราบถึงความเป็นไปอยู่ของเม็ดปรมาณูอันหนึ่ง ๆ ว่า มีรูปอะไรบ้างที่รวมกันอยู่จึงทำให้ปรมาณูมีขึ้น พระองค์ทรงสามารถแยกจำนวนรูปในเม็ดปรมาณูที่เล็กที่สุดอยู่แล้ว ออกเป็น ๘ ส่วนได้อีก กล่าวคือเป็น ปถวี อาโป เตโช วาโย วณฺโณ คนฺโธ รโส โอชา และปรมาณูที่เล็กที่สุดนี้ ยังเป็นไปด้วยอำนาจของปัจจัยอีก ๕ ปัจจัย คือ สหชาตปัจจัย อัญญมัญญปัจจัย นิสสยปัจจัย อัตถิปัจจัย อวิคตปัจจัย ที่เข้าช่วยอุปการะในคราวเดียวกัน จึงทำให้ปรมาณูเม็ดหนึ่ง ๆ นั้นปรากฏเป็นไปได้ตามสมควรแก่เหตุปัจจัย ดังที่กล่าวมาแล้ว ..... วิทยาศาสตร์อย่างสูงสุดนี้ พระพุทธองค์ได้ทรงแสดงไว้แล้วเฉพาะหน้ามวลหมู่เทพยดา, มาร, พรหมทั้งหลายที่ในดาวดึงสาเทวโลก ซึ่งชาวเราทั้งหลายเรียกกันว่า อภิธรรมปิฎก นั้นเอง ..... ในสมัยที่ลัทธิต่าง ๆ กำลังแพร่หลายอย่างไพศาล ดังที่เราได้เห็นกันอยู่ ณ บัดนี้นั้น บุคคลใดมาเคารพนับถือเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา บุคคลนั้นก็นับว่าเป็นผู้มีโชคดีอย่างที่สุดหาอะไรจะมาเปรียบเทียบมิได้ ต่อมาถ้าหากว่า ผู้นั้นได้รับการศึกษาเล่าเรียน ท่องจำ ในพระอภิธรรม มหาสติปัฏฐานสูตร ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร อนัตตลักขณสูตร มงคลสูตร เหล่านี้เป็นต้นได้อีก ก็ย่อมเป็นสิริสวัสดิมงคลแก่ตนของตนอย่างสูงสุด ต่อมาถ้าผู้นั้นได้มีโอกาสปลีกตน หลีกเร้นออกไปอยู่แต่ผู้เดียวในสถานที่ที่ห่างไกลจากเสียงอื้ออึง เอิกเกริก เฮฮา ต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับชาวบ้าน คงได้รับแต่ความเงียบสงัดมีแต่เสียงสายลมพัดผ่านไปมา ในท้องอากาศพร้อมกับใบไม้ไหวในขณะที่ต้องลม ซึ่งกำลังเป็นไปตามธรรมชาติอย่างเดียวเท่านั้น เเล้วก็จะพิจารณาเห็นการเกิดขึ้นติดต่อกันตามลำดับแห่งนามรูปวิถีของชนทั้งปวงที่มีอยู่ในโลกว่า กายใจของเราและของคนอื่นที่เกิดขึ้นติดต่อกันเป็นแถว ๆ ที่เป็นนามรูปวิถีนี้นั้น เป็นธรรมที่เกิดขึ้นโดยอาศัยปัจจัย ปัจจยุปบันเกี่ยวเนื่องกันโดยไม่มีผู้ใดผู้หนึ่งเข้ามาจัดเเจง คงเป็นไปตามธรรมนิยาม จิตตนิยาม (ความแน่นอนแห่งจิตที่ต้องเป็นไปอย่างนั้น) เท่านั้น ..... เมื่อได้พิจารณาเห็นเช่นนี้ ก็อาจที่จะอำนวยประโยชน์โสตถิผลให้บุคคลนั้นได้รับความสำเร็จตามความประสงค์ของตน ๆ คือเป็นสาวกโพธิญาณ ปัจเจกโพธิญาณ สัมมาสัมโพธิญาณ สมดังที่บัณฑิตทั้งหลายได้กล่าวไว้ว่า .. สยํ พุทฺโธ สมฺโพเธสิ __ ธมฺเมปี ธมฺมสตฺติโย .. อโห โน ตสฺส สุตตฺตํ __ อโห โน ธมฺมจินฺตนํ ฯ ..... แปลความว่า สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์ใด เป็นผู้ทรงมีชัยชนะต่อเวรภัย ทั้งที่เป็นภายในและภายนอก พระองค์นั้นย่อมทรงรู้แจ้งนามรูปวิถีที่เกิดขึ้นแล้วก็ดับไปสืบเนื่องกัน ติดต่อกันไม่ขาดสายตามธรรมชาติของจิตตนิยาม และทรงรู้แจ้งอำนาจปัจจยธรรมทั้ง ๒๔ ประการ ที่ช่วยอุปการะให้ผลเกิดขึ้นโดยลำพังพระองค์เอง กับทรงแสดงให้เวไนยสัตว์ทั้งหลายได้รู้เห็นในเรื่องเหล่านี้ด้วย โอ เป็นที่น่ายินดีจริงหนอ ที่พวกเราทั้งหลายได้รับผลอันล้ำเลิศในการที่ได้มาเป็นสาวก สาวิกา แล้วได้รับการอบรมฟังธรรมคำสั่งสอนของพระองค์นี้ และเป็นที่น่าปลื้มใจยิ่งจริง ๆ หนอ ในเมื่อเราได้พิจารณาถึงเหตุผลที่เกิดขึ้นติดต่อกันตามสภาพธรรมล้วน ๆ โดยไม่ใช่เป็นสัตว์เป็นบุคคลแต่ประการใดแล้ว ทำให้เราได้รับผลคือเกิดปัญญารู้เห็นแจ่มเเจ้งกว้างขวางในธรรมที่เป็นอนัตตะ
มนุษย์ เป็นสัตว์เซลล์เดียว กำเนิดในน้ำ เมื่อ 250-300 ล้านปีก่อน ซึ่งคือ ยุคสุดท้าย ของ ไดโนเสาร์ 1. ไทรแอสสิค ปลายยุคนี้ เป็นยุคทองอันรุ่งเรือง ของ ไดโนเสาร์ เรียกว่า ยุค เมโสโซอิค 2. จูราสสิค 3. ครีเอเชียส ตะกาย ขึ้นมาอยู่บก พัฒนา จนเป็นสัตว์บก กลายเป็น เอปส์(ลิงไม่มีหาง) จนวิวัฒนาการ มาเป็น โฮโมเซเปียนส์ ในที่สุด ผ่านยุคหินเก่า หินกลาง หินใหม่ จวบจนเข้าสู่ยุคเหล็ก เมโสโปเตเมีย อียิปต์ จีน จะไล่ๆ กัน คอเคซอยด์ ยังไม่เข้ายุคสำริดเลย ช้ามากวิวัฒนาการ ต้องอ้าง พวกเซมิติค เป็นต้นอารยธรรม เช่น ฮิทไทท์ ใช้เหล็กพวกแรก ฮิคโซส ใช้ม้าพวกแรก พวกนี้ อยู่ในอาณาเขต ไทกริส ยูเฟรติส แหล่งเกิด อารยธรรมเมโศโปเตเมีย อารยธรรมไหนๆ ก็มี พลเมือง ชั้น2 หากินสู้ ชั้น1 ไม่ได้ ยุโรป ก็เหตุนี้ จึงหนีไปหาดินแดนใหม่ อเมริกา หลอกเจ้าของดินแดนมาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ วันของคุณพระเจ้า เมโสโปเตเมีย ก็ อพยพย้ายถิ่นฐาน ออกเป็น 2 สาย สาย ตะวันตก และ สายตะวันออก พวกนี้ นำเอา ลัทธิ พหุเทวนิยม ไปปกครอง ชนพื้นเมืองเดิม ตะวันตก เริ่ม ที่ กรีก มี 3 เทพเจ้าสูงสุด คือ ซูส โปไซดอน ฮาเดส 3 พี่น้อง ครอง สวรรค์ ทะเล นรก สายตะวันออก ที่อินเดีย ชนพื้นเมืองเก่า คือ ดราวิเดียน มีลักษณะ ผิวดำ ผมหยิก ซึ่งก็คือ เชื้อพันธุ์นิกรอยด์ พวกนี้ จะอาศัยแถบเส้นศูนย์สูตร รอบโลก เพราะเป็นจุดป่องของโลก ทำให้ใกล้ดวงอาทิตย์ที่สุด ทำให้ เชื้อพันธุ์เส้นศูนย์สูตร จะมีผิวคล้ำ มากๆ แบ่งวรรณะ ในอินเดียเป็น 1.พราหมณ์ 2. กษัตริย์ 3. แพศย์ 4. สูท หากแต่งงานข้ามวรรณะ จะเรียก จัณฑาล เป็นชนชั้นที่คนในสังคมฮินดู รังเกียจ หนีไปตั้งดินแดนใหม่ ตั้งกฎปกครอง ฉลาด และ ไม่อำมหิต ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ยึดดินแดน
🎉🎉🎉🎉🎉
@MrEmChannel
2 ай бұрын
❤️❤️🙏
เปรียบเทียบ เจ้าอาวาสมีลูกศิษย์จำนวนมาก ต่อมามีผู้มาบอกว่าเจ้าอาวาสเป็นลูกศิษย์ฉันเอง เจ้าอาวาสเลยฟอร์มตก วิธีกลืนศาสนาแบบแยบยล
สวัสดีมิสเตอร์เอ็ม
ผมนับถือศาสนาพุทธ เชื่อในคำสอนพระพุทธเจ้าครับสาธุครับ
ถ้าวัดจากสเกลพลังจากมุมเอธิสต์(ที่ไม่ใช่ผม ผมคนพุทธ) พระพุทธ(เถรวาท)
(1). คำว่า ศาสนา นั้น ..... มาจากคำบาลีที่ว่า สาสน นั่นเอง ฉะนั้น คำว่า ศาสนา นี้ จึงหมายความว่า เป็นธรรมที่เบียดเบียนประทุษร้ายต่อกิเลสทั้งปวง ดังมีวจนัตถะแสดงว่า กิเลเส สาสติ หึสตีติ = สาสนํ (สสุ ธาตุ, ยุ ปัจจัย, สสุ = หึสายํ) หรืออีกนัยหนึ่ง คำว่าศาสนา หมายความว่า ธรรมที่เป็นที่ตั้งแห่งการอบรมสั่งสอนมนุษย์ พร้อมทั้งเทวดาและพรหม ชื่อว่า สาสนะ หรือธรรมที่เป็นเหตุแห่งการอบรมสั่งสอนมนุษย์ พร้อมเทวดาและพรหม ชื่อว่า สาสนะ ดังมีวจนัตถะแสดงว่า สเทวกํ โลกํ สาสติ เอตฺถาติ = สาสนํ (วา) สเทวกํ โลกํ สาสติ เอเตนาติ = สาสนํ (สาส ธาตุ ยุ ปัจจัย, สาส = อนุสิฏฺฐิมฺหิ) ..... ศาสนาคือคำสอนซึ่งเป็นที่นิยมนับถือของชาวโลกนั้น มีอยู่หลายศาสนาด้วยกัน บรรดาผู้ที่นับถือศาสนาต่าง ๆ เหล่านี้ ต่างก็มีหน้าที่ที่จะต้องชี้แจงแสดงถึงบุคคลที่เป็นศาสดาของตน ๆ พร้อมทั้งประวัติ กับคำสอน และระเบียบเสมอไป สำหรับประวัติและคำสอนของศาสดาอื่น ๆ เหล่านั้น อาตมาจะไม่ขอกล่าว เพราะท่านทั้งหลายก็คงจะทราบดีอยู่แล้ว ..... เมื่อได้พิจารณาเปรียบเทียบระหว่างประวัติ คำสอน ระเบียบ ของพระพุทธองค์กับศาสดาอื่น ๆ เหล่านั้น ก็จะพึงเห็นได้ว่ามีความแตกต่างกันคือ #ว่าโดยประวัติ เหมือนหนึ่งการเกิดขึ้นของแก้วมณีและเพชรที่ดีเลิศกับก้อนกรวด #ว่าโดยคำสอน แล้วเหมือนหนึ่งหลักสูตรในมหาวิทยาลัยกับหลักสูตรในโรงเรียนประชาบาล #ว่าโดยระเบียบ เหมือนหนึ่งระเบียบของกษัตริย์กับของชาวป่า ..... ฉะนั้น ความเห็นความเข้าใจและการปฏิบัติของผู้ที่นับถือศาสนาต่าง ๆ จึงมีความแตกต่างกันคือ ความเห็น ความเข้าใจ และการปฏิบัติของผู้ที่นับถือศาสนาพุทธนั้น เหมือนของผู้ที่เดินไปในท่ามกลางแสงสว่างส่วนความเห็น ความเข้าใจ และการปฏิบัติของผู้ที่นับถือศาสนาอื่น ๆ เหล่านั้น เหมือนกับผู้ที่เดินไปในท่ามกลางความมืด ..... อนึ่ง คำสอนของศาสดาอื่น ๆ ที่นอกจากพระพุทธองค์ ไม่มีการสอนถึงความเป็นไปของสิ่งที่มีชีวิตและไม่มีชีวิต ซึ่งเป็นรูป นาม โดยความเป็นอนัตตะ มีแต่การแสดงยกอัตตทิฏฐิที่เห็นว่า รูป นาม เป็นตัวตนขึ้นแสดงตามโวหารชาวโลก อันเป็นเหตุให้เกิดแต่มิจฉาทิฏฐิต่าง ๆ และความสนุกสนานเพลิดเพลินกับความหลง ความถือตัว ความสงสัย เหล่านี้ให้เจริญขึ้นเท่านั้น อนัตตสัมมาทิฏฐิไม่มีโอกาสที่จะปรากฎขึ้นได้ ดังที่อาตมาภาพได้ยกขึ้นเปรียบเทียบไว้ ณ เบื้องต้นว่าบรรดาชาวโลกที่นับถือศาสนาดังกล่าวแล้วนี้ อุปมาเหมือนหนึ่งผู้ที่ได้เดินทางไปในท่ามกลางความมืด ..... ส่วนคำสอนของพระบรมศาสดาแห่งชาวเรานี้ นอกจากอาณาเทศนา (การแสดงธรรมในลักษณะเป็นข้อบังคับ คือ พระวินัยปิฎก) โวหารเทศนา (การแสดงความยักย้ายสำนวนให้เหมาะสมแก่จริตอัธยาศัยของผู้ฟัง คือ พระสุตตันตปิฎก) แล้ว ยังมีการสอนการแสดงถึงปรมัตถเทศนา (การแสดงเจาะจงเฉพาะเนื้อหาของธรรมชั้นสูง ไม่เกี่ยวด้วยท้องเรื่องหรือโวหาร ซึ่งมีประโยชน์อย่างยิ่งแก่การดับทุกข์ คือ พระอภิธรรมปิฎก) อีกด้วย ได้แก่ความเป็นไปของสิ่งที่มีชีวิตและไม่มีชีวิต ซึ่งเป็นรูปกับนามที่เกิดขึ้นตามสภาพธรรมนิยาม (ความแน่นอนแห่งธรรมที่ต้องเป็นไปอย่างนั้น) โดยอาศัยเหตุปัจจัยต่าง ๆ เพื่อจะให้ผู้ฟังหรือผู้ศึกษาได้รับความรู้ความเข้าใจที่จะทำลายล้างอัตตทิฏฐิที่เป็นมูลรากของมิจฉาทิฏฐิ พร้อมกับบรรเทาความเพลิดเพลิน ความถือตัว ความสงสัย ให้หมดสิ้นไป แล้วกลับให้อนัตตสัมมาทิฏฐิซึ่งเป็นมูลรากแห่งความเลื่อมใส ความพยายาม ความระลึก ความตั้งมั่น ความเห็น ความเข้าใจในสิ่งที่สมควรเกิดขึ้น ดังที่อาตมาภาพได้ยกขึ้นเปรียบเทียบไว้ ณ เบื้องต้นว่าบรรดาชาวโลกที่นับถือศาสนาพุทธนั้น เหมือนหนึ่งผู้ที่ได้เดินทางไปในท่ามกลางแสงสว่าง
ศาสนา ในโลก แบ่งเป็น 1.เทวนิยม 1.1 พหุเทวนิยม - ฮินดู พราหมณ์ 1.2 เอกเทวนิยม ยูดาห์ คริสต์ อิสลาม 2.อเทวนิยม เช่น พุทธ และ ซิกข์
(1). คำแนะนำก็ดี คำสั่งสอนตักเตือนก็ดี เหล่านี้ได้ชื่อว่า ศาสนา สิ้น ..... ดังนั้นคำสอนนี้ไม่ว่าจะเป็นของศาสดาใด ๆ เมื่อพิจารณาดูเพียงผิวเผินก็กล่าวได้ว่า เป็นการดีทั้งสิ้น แต่ถ้าหยิบขึ้นมาพิสูจน์ดูกันโดยรอบคอบแล้ว ก็หาเป็นเช่นนั้นไม่ ทั้งนี้เพราะบุคคลที่ตั้งตนเป็นศาสดาของชาวโลกมีคุณธรรมและความรู้ ไม่เหมือนกันนั้นเอง คือ ศาสดาบางท่านความรู้ยังไม่ละเอียดถี่ถ้วน จิตใจก็ยังไม่บริสุทธิ์ เศร้าหมองอยู่ด้วย ตัณหา มานะ ทิฏฐิ โทสะ โมหะ อิสสา มัจฉริยะ วิจิกิจฉา และสติสัมปชัญญะก็ไม่สมบูรณ์ ฉะนั้น ศาสนาของศาสดาจำพวกนี้ แม้ว่ามีคนนับถือบูชามากมายเพียงใดก็ตาม จะตัดสินชี้ขาดลงไปว่า เป็นคำสอนที่ถูกต้องสมบูรณ์ดีทุกประการโดยอาศัยจำนวนคนนั้นหาถูกต้องไม่ ที่ถูกจะต้องยกคำสอนนั้น ๆ ขึ้นมาพิสูจน์ดูด้วยเหตุผลว่าจะผิดหรือถูกเพียงใด เมื่อพิสูจน์แล้วก็จะเห็นว่าเป็นคำสอนที่มีข้อความในเบื้องต้น ท่ามกลาง และที่สุดที่ต้องตัดออก แก้ไข และเพิ่มเติมก็มี ..... ส่วนศาสดาบางท่าน มีพระโคตมพุทธะ พระกัสสปพุทธะ เป็นต้นนี้ ความรู้ก็ละเอียดถี่ถ้วน จิตใจก็บริสุทธิ์ผ่องใส ปราศจากตัณหา มานะ ทิฏฐิ โทสะ โมหะ อิสสา มัจฉริยะ วิจิกิจฉา และสติสัมปชัญญะก็สมบูรณ์ เหตุนั้น ศาสนาของศาสดาจำพวกนี้แม้ว่าจะมีคนเคารพนับถือเป็นจำนวนน้อยก็ตาม แต่ก็ถือว่าเป็นคำสอนที่ถูกต้องและสมบูรณ์โดยแน่นอนเพราะมีข้อความในเบื้องต้น ท่ามกลาง และที่สุด ไม่ต้องตัดออก แก้ไข หรือเพิ่มเติมโดยประการใด ๆ เลย ในเรื่องนี้ ถ้าผู้มีปัญญาในเหตุผลดีพอ และมีจิตใจเป็นกลางมิได้มุ่งอยู่แต่ในเรื่องลาภ สักการะ ยศ สรรเสริญแล้ว ก็จะพิจารณาเห็นได้โดยชัดแจ้ง ..... เมื่อเป็นเช่นนี้ก็อาจมีผู้ถามว่า ถ้าศาสนาของพระโคตมพุทธะนี้ดีเลิศถึงปานนั้นแล้ว เหตุไฉนประชาชนชาวโลกจึงมิได้ยอมรับนับถือและประพฤติปฏิบัติตามทั่วไปทั้งหมดเล่า คงมีเพียงแต่บางส่วนเท่านั้นที่เคารพนับถือ ที่เป็นดังนี้ก็เนื่องด้วยเหตุที่เกี่ยวกับภายในพระพุทธศาสนา กับเหตุที่เกี่ยวกับประชาชนชาวโลกติดต่อเนื่องกันทั่วไปไม่ได้นั้นเอง ดังนั้น จึงเป็นที่เคารพนับถือแก่ชาวโลกทั่วไปหมดไม่ได้
อริยสัจคือของแท้
อันหนึ่งเรื่องแต่ง อันหนึ่งจริง
พระพุทธเจ้า ทรง เป็น ครู ของ เทวดา และ มนุษย์ ทั้ง หลาย
พระพุทธเจ้ายิ่งใหญ่เกรียงไกรเอกในอนันตจักรวาล สาธุ สาธุ
กลับมาอีกนะ🇹🇭❤️😭
อีกท่านนึงเป็นผู้ที่่หมดกิเลสแล้ว เป็นผู้รู้ผู้ตื่นผู้เบิกบาน อีกท่านนึงยังเป็นเทพผู้ที่ยังวงเวียนอยู่ในกิเลสอยู่เลย...
ศาสนาทุกศาสนา..และพระเจ้าทั้งหลาย..จะสอนให้ทำแต่ความดี....ถ้าสอนให้ฆ่าคนแสดงว่าเป็น...ซาตาน
@user-gb7nj7uc6u
Ай бұрын
ลัทธิที่ชอบปาหิน
(2). #เหตุที่เกี่ยวกับภายในพุทธศาสนานั้น คือ ..... ๑. เป็นศาสนาที่ดีเลิศ กล่าวคือ ทำการอบรมขัดเกลา กาย วาจา ใจ ของชาวโลกด้วย ศีล สมาธิ ปัญญา ตั้งแต่ขั้นต่ำจนถึงขั้นสูงสุด ..... ๒. มีเนื้อความละเอียด สุขุม คัมภีรภาพ ..... ๓. ทำให้ผู้ปฏิบัติตามได้รับผลอย่างมหาศาล คือ พ้นจากอบายภูมิทั้ง ๔ ได้รับความสุขทั้งในโลกนี้และโลกหน้า ตลอดจนเข้าสู่พระนิพาน ..... ๔. เป็นคำสอนที่ทำลายล้าง ตัณหา มานะ ทิฏฐิ โทสะ อิสสา มัจฉริยะ วิจิกิจฉา ..... ๕. การเผยแผ่ของพุทธศาสนิกชนไม่กว้างขวางทั่วไป ทั้งในทางภูมิประเทศและทางภาษา ..... ๖. การรู้ในปริยัติและปฏิบัติของพุทธศาสนิกชนไม่สมบูรณ์ ยังมีขาดตกบกพร่องอยู่มาก ..... ๗. ทายกทายิกาที่มีอำนาจและไม่มีอำนาจ ทำการสงเคราะห์ อนุเคราะห์ แก่ภิกษุสามเณร ก็หาได้ปรารภถึง ศีลคุณ สมาธิคุณ ปัญญาคุณ หรือ คันถธุระ วิปัสสนาธุระ ของภิกษุสามเณรแต่อย่างใดไม่ มีแต่การปรารภไปในเรื่องชอบพอ รักใคร่ คุ้นเคย หรือสมณศักดิ์ ตำแหน่ง ..... ๘. ความสามัคคีภายในวงเเห่งพุทธศาสนิกชน ทั้งคฤหัสถ์ และบรรพชิต ก็มีน้อย
เปรียบเที่ยบ กันไม่ได้ เพราะต่างศาสนา ต่างลัทธิ ต่างความเชื่อ
สักกะโคตมพุทธเจ้าเป็นวิชาการและนักวิทยาศาสตร์ พระนารายณ์เป็นนักวิทยาคอมพิวเตอร์และตำรวจโลก
อ้างกันแต่เรืองวัฎฎะ แต่ไม่มีใครรู้เรื่องนอกวัฎฎะ ยกเว้นนิพพานถึงจะเห็น
ในศาสนาฮินดูฯพระพุทธเจ้าเป็นหนึ่งภาคอวตารพระวิษณุในทางพุทธศาสนาการอวตาร ในบาลีพุทธศาสนาที่ว่า เอก จิตตัง จิตมีดวงเดียวชวาพุทธที่ดีต้องปฏิเสธการมีอยู่จริงของภาคอวตารตาร
@wironchannel3255
20 сағат бұрын
ไม่ใช่ครับ
คนละศาสนา เคยเห็นพระนารายณ์ไหว้พระพุทธเจ้าไหมในตำราไม่มีนะครับ นารายณ์ในลัทธิไวษณพนิกายคือใหญ่ที่สุดแล้วในจักรวาลฮินดู ที่เหนือไปกว่านั้นในตำราก็มีพระกฤษณะเทพแห่งความหลุดพ้นและโมกษะที่แปลว่า(นิพพาน)เพราะใหญ่สุดทุกจักรวาลที่เรียกว่าสากลจักรวาลในฐานะปรมาตมันพระเจ้าสูงสุด พระกฤษณะเป็นรูปอันอุดมสูงสุดของพระเป็นเจ้า จะเรียกพรหมก็ไม่ใช่ เพราะนารายณ์คือปรพรหมันหรือพรหมัน คือความเป็นจริงสูงสุด เป็นสิ่งสัมบูรณ์ ไม่มีรูปร่าง ไร้ขีดจำกัด เป็นพระวิญญาณบริสุทธิ์
สิ่งที่เหลือมือาจคาดเดาได้
เอาเป็นโมคัลลานะ ก็ได้นะครับ
ใครเหนือกว่าใครไม่สำคัญแต่ที่แน่ๆๆ...มนุษย์ที่ฝึกตนได้ดีแล้วคือผู้ที่ประเสริฐและสุดท้ายทุกคนก้อตายเหมือนกันหมด...คุณเองไปตั้งหัวข้อแล้วพูดเองเออเองไม่ได้มีความรู้ที่เกิดจากการปฏิบติ...อ่านจากตำหรับตำราไม่ใช่ผู้รู้จริง...ความลึกซึ้งจึงแตกต่างกันมากทางที่ดีควรนำเสนออย่างอื่นจะดีกว่านะค่ะ..😭😭😭😭
พุทธ (พุท-ธะ) คือ ผู้รู้ มีแต่สันติ
จะเหนือฟ้า หรือ ใต้หล้า ตถาคตคือผู้ประเสริฐที่สุด
ผมมีคำถามประมาณนึง แต่เพราะเพิ่งมาตามช่องจึงยังไม่ได้ดูทุกคลิป หากเรื่องอธิบายแล้วโปรดทิ้งคีย์เวิร์ดหรือลิงค์ไว้ให้หน่อยนะครับ 1. ที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้เกี่ยวกับเรื่องจักรวาลสรุปสั้นๆ คือเราถือว่าอยู่ในมิติมิติหนึ่งในมิติอันนับไม่ถ้วนเหรอครับ แล้วทำไมเราถึงโชคดีขนาดนั้นที่มิตินับไม่ถ้วนเราถึงได้เกิดมาอยู่ในมิติที่มีพระพุทธเจ้ากำเนิดขึ้นมา เพิ่มเติมตรงนี้ ย้อนกลับไปที่พระพุทธเจ้าองค์ก่อนๆ รวมถึงคลิปนึงที่พูดถึงว่าสาเหตุที่พระสมณโคดมต้องทรมานบำเพ็ญทุกรกิริยานานถึง 6 ปี เพราะไม่เชื่อในธรรมของพระพุทธเจ้าองค์ก่อนนั้น ผมมานั่งนึกว่า ในระบบทรงนั้นอยู่ในรูปมนุษย์หรือเปล่า แล้วมีเทคโนโลยีวัฒนธรรมประมาณนึง ซึ่งถ้ามาดูไทม์ไลน์โลกเรา...แปลว่าเรื่องนั้นเกิดในมิติอื่นใช่ไหม เพราะคิดง่ายๆ ว่าถอยไปสัก 50,000 ปี ก่อน มนุษย์ไม่ใช่สภาพนี้แน่นอน 2. จากคลิปนี้ประกอบกับเรื่องจักรวาลข้างบน พอจะอนุมานได้ไหมว่า ศาสนาอื่นที่นับถือในพระเจ้านั่น พระเจ้าของพวกเค้าคือ ผู้มีฤทธิ์ชั้นพรหม คราวนี้คำว่าสร้างจักรวาลนี่พอจะสรุปให้เข้าใจได้ง่ายๆ ไหมครับ สรุปสร้างจริง/ไม่จริง ถ้าจริงนี่คือหมายถึงมิติอื่นหรือมิตินี้กันแน่ สมมติเป็นมิตินี้ พระพุทธเจ้าก็แค่เวียนมาเกิดในโลกนี้มิตินี้เฉยๆ เหรอครับ 3. พอจะมีคำกล่าวเป็นนัยๆ ที่บอกว่าสรุปแล้วในจักรวาลในมิติของเรานี้ มีสิ่งมีชีวิตอื่นอยู่ในส่วนอื่นของจักรวาลหรือไม่ครับ คือแบบง่ายๆ เลยมีเอเลี่ยนไหม หรือ 1 จักรวาลเปรียบได้กับ 1 บ่อปลาใหญ่ๆ ก็มีสิ่งมีชีวิตอยู่แค่นี้แหละ ถ้าอยากจะไปเจอปลาอื่นๆ ก็ต้องโดดข้ามบ่อไป คือสรุปความสงสัยสั้นๆ อีก สิ่งที่นักวิทย์ทำคือ ตั้งสมมติฐานว่าจักรวาลกว้างใหญ่ขนาดนี้ มันต้องมีดาวที่เหมาะสมและมีสิ่งมีชีวิตคล้ายเราอยู่บ้างแหละ มันเป็นไปได้จริงไหม 4. การแสดงอิทธิฤทธิ์ไม่ควรทำหรือห้ามทำจริงๆ หรือ ในปัจจุบันจะเห็นได้ว่า ด้วยวิทยาศาสตร์แล้วการแสดงหลักฐานเป็นอะไรที่ชัดเจนที่สุด และหลายคนก็พร้อมจะเชื่อขอเพียงแค่เห็นและได้สัมผัส ดังนั้นในความเห็นส่วนตัว การแสดงฤทธิ์ที่ชัดเจน จะเป็นไปเพื่อประโยชน์ในการสอนสั่งโปรดสัตว์โลกให้หลุดพ้นได้มากกว่าการไม่แสดงด้วยซ้ำ แน่นอนว่าถ้าเจตนาดีการแสดงฤทธิ์เพื่อขัดขวางจิตมารและพวกเดียรถี แล้วสอนในสิ่งที่ทำให้หลุดพ้นจริงๆ (ถึงจะมีคำสอนอยู่แล้ว แต่การปฏิบัติตาม การมีครูชี้นำย่อมได้ผลกว่า เช่นเดียวกับที่พระพุทธเจ้าใช้ญาณดูว่าวิธีกรรมฐานไหนได้ผลกับคนดังกล่าว) ทำไมถึงไม่มีใครที่บรรลุกว่าคนปกติแล้วพยายามที่จะมาช่วยในส่วนนี้ ปล่อยให้คนคิดว่าเป็นเรื่องงมงายจับต้องไม่ได้เสียทีครับ ขอบคุณครับ
โอ้ย คนหมดกิเลสกับไม่หมดกิเลสมันก็เปรียบเทียบไม่ได้แล้วครับ ถ้ายังมี โลภ โกรธ หลง อยู่ ไม่สามารถเทียบเท่าครับ ที่บอกดร่ามาน่ะครับ อยากได้ยอดไลน์มากกว่าครับ
ทำไมพระนารายณ์ไม่พ้นทุกข์ครับ
เทียบกันไม่ได้เลยแม้ปลายเล็บครับ @ ตั้งแต่ปัญญาจนถึงพละกำลัง
พระพุทธเจ้า
ใช่ล้าน%
พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ คือพระศาสดาโลกมีพระพุทธานุภาพ พระพุทธคุณ สูงสุดในสากลโลกครับ ไม่ทีสิ่งใดเทียบบารมีพระพุทธองค์ได้ คำสอนของพระพุทธองค์คือสัจธรรมเที่ยงแท้ ไม่มีสิ่งใดมาขัดแย้งได้ เทพ และเทวดาทุกๆองค์ทุกๆชั้น ยังต้องกราบแทบพระพุทธบาทครับ และอันที่จริงเพียงพระสาวกของพระพุทธองค์ที่บรรลุเป็นพระอรหันตเจ้า ผู้เด่นทางฤทธิ์ ดังเช่น พระโมคคัลลานะมหาเถระ และ พระอุปคุตมหาเถระ ท่านทั้ง2มีฤทธิ์มากกว่าเทพ เทวดาทั้งปวงหลายเท่าจนหาประมาณมิได้แล้วครับ ใครที่ดราม่าเรื่องนี้ สักวันขอให้พวกเขาจงเกิดปัญญา และมีวาสนาได้อยู่ภายใต้ร่มโพธิ์ร่มเงาของพระพุทธศาสนาครับ
เทียบกันไม่ได้ผมคงไม่บอกว่าใคร
พระพุทธเจ้า คือ พระพุทธาวตารทั้ง 16 ภาค ของพระศรีหริวิษณุนารายณ์ ผู้ทรงความมีคุณธรรม ผู้ทรงมีเมตตาธรรม ผู้ทรงเป็นผู้ปกป้องค้ำจุนทั้งสามโลก และเป็นผู้ที่มีศีลธรรมสูงสุดหาผู้ใดเปรียบมิได้ แล้วยังเป็นผู้ที่อยู่เหนือนิพพานไปแล้ว พระพุทธเจ้าจึงเป็นส่วนหนึ่งของภาคอวตารที่9 แต่จะมีทั้งหมดรวมแล้ว 16 ภาค แต่ละภาคก็จะมีแตกต่างกันไป บัดนี้อวตารมาแล้ว 4 ภาค ยังเหลืออีก 12 ภาคแห่งพุทธาวตาร แล้วแต่ละภาคจะเป็นเทวราชอินทราหรืออินทระเทพเป็นผู้อัญเชิญให้มาเป็นพุทธาวตารทุกครั้งเมื่อครบรอบในสัตยยุคทั้งหมด
ผมรับถือ โพไซดอน