วิญญาณสิงอยู่ที่ไหน...? หัวข้อน่าสนใจมากครับ มีคนมากมายที่สงสัยและอยากรู้ครับ จิต (เรียกว่าวิญญาณก็ได้--[แต่ไม่ได้หมายถึงวิญญาณในขันธุ์ 5], หรือเรียกว่ามโนก็ได้) เรียกว่า "จิต" ดีกว่า เพราะเข้าใจได้ง่ายกว่า ในปุถุชนคนทั่วไปจิตทาบทับตลอดร่างมนุษย์ตั้งแต่หัวถึงเท้า ตอนนอนจิตเข้าภวัง ไม่มีสติ เพราะไม่ได้ฝึกสติ ไม่ได้ฝึกจิตตภาวนา จิตไม่ได้ฝังอยู่ในอวัยวะใดอวัยวะหนึ่ง (อย่างที่หมอวีอธิบายว่าไม่ได้ฝังอยู่ในสมองกลีบใดกลีบหนึ่ง) และมีขันธุ์ 5 เชื่อมถึงกันหมด กิเลสเอามารวมกันหมดพอคลอดออกมาก็รวมกันเป็นหนึ่งเดียวเลย ความรู้สึกต่างๆแล่นถึงกันหมดทั่วร่าง ทําให้คนที่ไม่เคยเจริญจิตตภาวนาแยกไม่ออก พาลให้เข้าใจกันไปว่าเราคือร่างกายและร่างกายคือเรา จะแยกจิตออกจากกายได้ด้วยจิตตภาวนาเท่านั้น เพราะมีแต่จิตตภาวนาที่แก้กิเลสได้ องค์หลวงตามหาบัวเคยสอนว่าจิตตภาวนาเหมือนการดึงแหจับปลาคือดึงจิตที่ฟุ้งซ่านให้ย่นเข้ามาๆ และรวมเป็นดวงเดียวไม่กระจายไปทั่วร่างเหมือนตอนที่ไม่ได้ภาวนา เมื่อจิตรวมแล้วจึงแยกออกจากกายได้ด้วยปัญญา จึงเห็นว่าร่างกายนี้และจิตเป็นคนละส่วนกัน จากนั้นจึงเจริญปัญญา (วิปัสสนา) แยกขันธุ์ 5 (มีรูปหนึ่งและนามสี่) ออกทีละส่วนๆ แยกรูป (กาย) เวทนา (ความรู้สึกสุข ทุกข์ เฉยๆ) สัญญา (ความจํา) สังขาร (การปรุงแต่ง) วิญญาณ (เกิดที่ตา หู จมูก ลิ้น กายสัมผัส เป็นต้น) ออกจากกัน แยกออกได้ด้วยกําลังของวิปัสนาญาณ และพิจารณาดูความเป็นอนิจจังของขันธุ์ 5 เห็นการเกิดดับของขันธุ์ 5 อย่างชัดเจน เห็นรูปนามเป็นสมมุติ เหลือแต่จิตที่เป็นธาตุรู้สว่างจ้าเด่นอยู่ ถึงตรงนี้แล้วเรียกว่าเปิดประตูไปสู่พระนิพพานได้สําเร็จ และเมื่อถึงจุดนี้แล้วจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าจิตและกายเป็นคนละส่วนกัน ไม่ได้รวมเป็นอย่างเดียวกันตามที่กิเลสหลอกล่ออยู่ กิเลสหลอกแบบนี้หลอกให้เกิดมาหลายภพหลายชาติแล้ว ถ้าแก้ตรงนี้ไม่ได้ต้องเกิดต่อไปแบบนับไม่ถ้วนคือเกิดแบบไม่จํากัด ถ้าแก้ได้ภพชาติจะสั้นเข้าๆ จนพ้นเกิดไปได้ มีแต่วิปัสนาญาณที่ทําให้เห็นการเกิดดับของขันธุ์ 5 ที่แปรไปแปรมาอยู่ตลอดเวลา เป็นสมมุติชัดเจน ยึดไม่ได้ ถัดจากนี้ก็ไปเจริญจิตตภาวนาต่อให้ละเอียดยิ่งขึ้นเพื่อละกิเลสที่ละเอียดเข้าไปอีกในลําดับต่อไป เช่น ราคะ ปฎิฆะ เป็นต้น อยากรู้ต้องลงมือปฎิบัติเองถึงจะหายสงสัยว่าวิญญาณสิงอยู่ที่ไหน ไม่เช่นนั้นก็สงสัยกันต่อไป

@Min-yq8dc

2 жыл бұрын

สาธุๆๆทุกต้องคะต้องหมั่นฝึกถึงจะเข้าใจคะสาธุๆๆคะ

@narisapongklang6809

2 жыл бұрын

เขียนได้ดีมาก ภาษาสละสลวย สะกดถูกต้อง อ่านเพลินและสุขใจจัง ขอบคุณสำหรับคำอธิบายค่ะ

@tawat3322

2 жыл бұрын

คำอธิบายชัดเจน เป็นอะไรที่เข้าใจด้วยการปฎิบัติ แต่ก็มิได้หมายความว่าทุกคนที่ปฎิบัติจักเข้าใจแก่นแท้ได้ ขอบคุณ comment นี้ที่ชี้แนะ

@user-wr3qn6oy5h

2 жыл бұрын

สาธุเข้าใจยิ่งขึ้นมากมายค่ะ

@user-wr3qn6oy5h

2 жыл бұрын

ต้องเข้าใจเลยว่าจิตไม่ใช่เรา

คุณหมอมีความเข้าใจธรรมได้ดีจริง เก่งทั้งทางโลกและทางธรรม น่ายกย่องมากครับ

คุณหมอเอาเรื่องนามรูปในศาสนาพุทธมาเทียบกับทางแพทย์​ จะแสดงให้ชาวพุทธเข้าใจหลักธรรมของพุทธองค์​

อนุโมทนาสาธุค่ะ เป็นหมอคนแรกที่ให้ความรู้ทั้งทางโลกและทางธรรมขอให้ได้บรรลุธรรมขั้นสูงสุดในพุทธศาสนานะคะ นิพพานะสุขัง นิพพานะปัจจะโย โหตุ สาธุ สาธุ สาธุ

ขอบพระคุณคุณหมอมากค่ะ ที่นำเสนอแบบสุภาพ อ่อนน้อม ถ่อมตน สำนวนฟังง่าย ไม่เพ่งโทษใคร ไม่ยกตนข่มท่าน บุคคลิกไม่โอ้อวด ฟังแล้วสบายใจ ผ่อนคลาย ไม่เครียด แม้นเป็นวิชาการ คุณหมอสุภาพพอที่จะไม่ระบุชัดถึงใคร ขอบพระคุณมากค่ะ

@gjhchkvdgucbkh5599

Жыл бұрын

ยต

@user-fw4pd4en3e

Жыл бұрын

ไ

คุณย่าขอบคุณและชื่นใจกับการถ่ายทอดด้วยเมตตา(รับรู้ได้)​ในเรื่องพุทธ_วิทย์​ และก็เห็นด้วยกับวลี"เล่าเรื่องบนฟ้าให้ปลาฟัง" ส่วนย่าก็มุ่งศึกษาธาตุ4ขันธ์5ของตน​ โดยพยายามจัดการผัสสะที่มากระทบทางอายตน6​ ให้เป็นอุเบกขาเวทนาให้ได้โดยเร็วที่สุด​ ไม่ให้จิตปรุงฟุ้งกระเจิดกระเจิง​ แค่นี้ก็ยากสุดแล้วค่ะ(บททดสอบเยอะเสียจริง​ การเกิดเป็นทุกข์แท้ๆ)​

@user-rk6el9ou1x

2 жыл бұрын

สวัสดี​ค่ะ​คุณ​ย่า​ ดิฉัน​ แม่ส้ม​ ชอบ​ ในรายการ​ ที่คอมเม้นท์​ มาที่​ ห้องคุณหมอ​ วี​ อ่านทุกครั้ง​ นะคะ​ แม่ส้ม-โอ​ อายุ​ 66​ ปีแล้วก็ใส่ใจ​ ทางพุทธธรรม​ อยู่​แล้ว​ และได้ติดตามคุณ​ หมอ​ วี​ มา​ 2​ ปีกว่า​ ก็​ ได้เรียน​ รู้​ ทางวิทย​าศาสตร์​ พอดี​ฟังแล้ว​ ลงตัว​ ก็เลยชอบ​ เหมือน​ คุณ​ย่า​ แหละค่ะ สุดท้ายนี้​ ขอให้คุณ​ ย่ามีสุขภาพ​ แข็งแรง, แข็งแรง นะคะ​ สาธุ​ค่ะ​ 🙏🙏🙏

@koonyar5552

2 жыл бұрын

คุณย่า​ขอบใจ​ใน​พร​ที่​​แม่ส้มมอบให้​ย่า​และ​ย่า​ขอพร​นั้น​สะท้อน​ย้อนกลับ​ไป​ยัง​ครอบครัวหนูด้วยนะคะ(ย่าก็อ่านmentของหนูเช่นกัน)​.ย่า70ปีค่ะ​ เริ่มฟังคุณหมอมี.ค.63ช่วงต้นๆของโควิด​ รับรู้ได้ถึงการพูดด้วยเมตตาค่ะและปี64ท่านกราบนิมนต์พระอ.สุชาติมาให้ธรรมะ​ ย่าอ๋อเลยค่ะ​ คุณหมอก็ไม่ธรรมดาในทางธรรมเลย​ และ3epนี้แหละคือคำตอบค่ะ​ แม่ส้มคะ​หนูมาถูกทางแล้วค่ะ​ คำสอนของพระพุทธองค์ช่วยให้รอดได้จริงๆ(ย่ามีทุนเบื้องต้นคือกตัญญูกตเวทีเลี้ยงพ่อ, แม่จนปิดตาให้ท่านค่ะ)​เป็นกำลังใจในการเดินทางข้ามฝั่งจาก"โลกีย​ สู่​ โลกุตร" นะคะ.จาก👩‍🦳

@user-oy1kp1nt8g

2 жыл бұрын

1

@user-bb8ry5gr7t

Жыл бұрын

อาจารย์อธิบายได้รู้แจ้งในมิติวิทยาศาสตร์การแพทย์+กับหลักวิทยาศาสตร์ทางธรรมของพุทธศาสนา เป็นความรู้ที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น(อย่างมากไม่มีผู้ใดที่นำมาเปิดเผยและอธิบายมาก่อน)ถือว่าเป็นท่านแรกของปนะเทศไทย(หรือเป็นหนึ่งเดียวในโลก)ซึ่งพระผู้มีพระภาคเจ้าได้รู้แจ้งดีแล้วอย่างไม่มีประมาณ สาธุ ครับ

@qtogether1675

Жыл бұрын

ทำไมไทยพม่าอินเดีย ไม่ได้ครองโลกครับ

27:35 จิต เป็นสภาวะที่ถูกบันทึก(อยู่ในคลื่นกระแสแม่เหล็กไฟฟ้า ที่มีอยู่ตามธรรมชาติทุกหนแห่ง) สภาวะที่ถูกบันทึกไว้นี้ เกิดขึ้นจากเหตุปัจจัยของความคิดที่เกิดขึ้นในสมอง ส่งออกไปเป็นคลื่นสมอง(brain wave) เปรียบง่ายๆเหมือนคลื่นเสียงถูกเปล่งเสียงออกไปและถูกเก็บบันทึกไว้แถบผงแม่เหล็กในเครื่องบันทึกเสียงสมัยก่อน จิตก็ถูกบันทีกไว้ในลักษณะคล้ายกันเพียงแต่ไม่มี รูปธรรมของจิต ที่จับต้องใด้เหมือนแถบผงเหล็กบนเครื่องบันทึกเสียงสมัยก่อน แม้ปัจจุบันการบันทีกเสียงจะเป็นรูบแบบดิจิตอลแล้วก็ตาม หลักการถูกบันทีกจากคลื่นพล้ง งานแม่เหล็กไฟฟ้าก็เกิดแบบเดียวกันในทุกๆที่ทุกไแห่งในโลก เพราะฉนั้นการกระทำใดๆ ที่เกิดขึ้น ย่อมเกิดมาจากความคิด (คนไทยเรียกว่าใจ) เป็นเบื้องต้น แล้วจึงเกิดการกระทำด้วย กาย/วาจาตามมา และสิ่งที่ คิดพูดทำ ก็จะถูกบันทึกไว้เป็น รูปสภาวะในคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ในรูปของพลังงาน ซึ่งไม่สามารถเปลี่ยนแปลงใด้ ซึ่งเป็นที่มาของ กฎแห่งกรรม ของมนุษย์รวมถึงสัตว์ทุกชนิดด้วย แต่พุทธะท่านใด้เข้าใจ ถึงสภาวะนี้ และใด้ค้นพบวิธ๊ที่จะหลุดพ้น จากวังวนของสภาวะไม่รู้จบจนใด้ บรรลุใด้เป็น พุทธะ จากการปฎิบัติและอบรมกายวาจาใจ ตามหลักแปดประการที่พระองค์ทรงค้นพบนั่นเอง

@xxx966553

Жыл бұрын

ถูกแต่ไม่ทั้งหมด สมองนี้มีหน้าที่แค่แปลกระแสจิตแล้วไปสั่งงานร่างกายอีกที จิตอยู่ตรงไหนบ้างจิตมันก็อยู่ทั่วร่างกายนะแหละ แต่จิตดวงประธานของจิตทั้งหมดมันอยู่ที่หัวใจครับมันอิสระนะไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของหัวใจจิตตัวนี้เท่านั้นที่หลุดพ้นไปนิพพาน(จิตประธานเป็นธาตุรู้และบันทึกเปรียบเสมือนรอม) แล้วจิตนึกคิดละหรือจิตสังขารอยู่ที่สมองโลภโกรธหลงอยู่ที่จิตตัวนี้แต่มันแค่นึกคิดนะคือเป็นตัวสร้างอารมณ์แต่ไม่ใช่ตัวรู้อารมณ์ตัวรู้อารมณ์คือจิตดวงประธานที่หัวใจนั่นละ จิตสังขารมันทำงานร่วมกับรูปเวทนาวิญญาณและสัญญา สัญญาในที่นี้คือความจำชั่วคราวอยู่ที่สมองนะแหละสัญญานี้เปรียบเสมือนแรมทำงานร่วมกับจิตสังขาร จิตดวงประธานถ้าไม่มีรูปเวทนาสัญญาสังขารวิญญาณก็ทำอะไรไม่ได้ก็คือนิพพาน นิพพานคือสภาวะจิตที่ไม่มีองค์ประกอบของรูปเวทนาสัญญาสังขารวิญญาณ เป็นสุญญตา

@homesmoll

Жыл бұрын

@@xxx966553 อนาคต ถ้ามีผู้เป็นโรคหัวใจ หมอต้องตัดหัวใจทิ้งและบรรจุหัวใจเทียม(เครื่องจักรกล) จิต วิญญาณ จะยังคงอาศัยอยู่ในหัวใจเทียมหรือเปล่าครับ

@12345678987654321537

Жыл бұрын

@@homesmoll 5555 เข้าใจถาม ชอบ

@xxx966553

Жыл бұрын

@@homesmoll จิตมันแต่สถิตอยู่อย่างอิสระครับไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของหัวใจ จะผ่าตัดหรือเปลี่ยนอวัยวะส่วนไหนทำได้หมดขอแค่อย่าทำให้ธาตุทั้งสี่แยกกันจิตก็ยังอยู่ได้และมันก็อยู่ที่เดิมนะแหละจะเปลี่ยนหัวใจใหม่จิตก็สถิตอยู่ในหัวใจใหม่นะแหละจะเป็นหัวใจแท้หัวใจเทียมจิตอยู่ได้หมด

@xxx966553

Жыл бұрын

@@12345678987654321537 จิตมันแต่สถิตอยู่อย่างอิสระครับไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของหัวใจ จะผ่าตัดหรือเปลี่ยนอวัยวะส่วนไหนทำได้หมดขอแค่อย่าทำให้ธาตุทั้งสี่แยกกันจิตก็ยังอยู่ได้และมันก็อยู่ที่เดิมนะแหละจะเปลี่ยนหัวใจใหม่จิตก็สถิตอยู่ในหัวใจใหม่นะแหละจะเป็นหัวใจแท้หัวใจเทียมจิตอยู่ได้หมด

ปัจจัตตัง​ ผู้รู้ก็รู้ได้เฉพาะตน ทำไปเถาะคุณหมอเราต้องศึกษาเพื่อที่จะได้รู้ความจริง ( ถ้าไม่ศึกษาก็ไม่รู้ )​ สู้ ๆนะ 🌷🌹🌺🌼🤍💚💛💛💚🤍🌼🌺🌹🌷

ดีใจจัง เพราะพี่เองเคยสงสัยมาตลอด กับคำถามนี้ ไม่รู้ทำไม

ส่วนตัวนะคะคิดว่า วิญญาณคือพลังงาน ไม่ใช่สสาร เคลื่อนที่โดยอิสระ ไม่ประจำตำแหน่งใด ธาตุดินทั้งยี่สิบ เป็นองค์ประกอบในธาตุสี่ ดิน น้ำ ลม ไฟ เมื่อจิตเข้าสู่พังค์ญาณจึงได้รู้ ซึ่งอธิบายไม่ได้ ทุกสิ่งหาย สังขารหาย แต่มีตัวรู้ รู้ในความว่างเปล่า

@user-mf8mo7vc6w

2 жыл бұрын

ที่เรียกสังขารนั้นคนทั่วไปเข้าใจถึงร่างกายคนเรา แต่ที่จริงหมายถึงการปรุงแต่ง ถ้าทางกายเรียกกายสังขารเช่น ไข่แดงเมื่อได้รับการผสมพันธุ์ ก็จะเกิดการแบ่งเซลขึ้น สารพันธุกรรมก็จะปรุงแต่งรูปกายขึ้นมาเป็น เป็ด ไก่ นก หนู ลิง ส่วนจิตนั้นก็มีการปรุงแต่งเช่นกันเรียกจิตสังขาร เป็นคนใจดี ใจร้าย ขี้อิจฉา ขี้โกง ส่วนภังคญาณ เป็นความรู้สึกที่พิจารณาแต่สภาวะที่ดับไป เช่นเมื่อเกิดความรู้สึกเจ็บปวด หิว บางท่านเก่งสมถะท่องพุทโธๆๆๆ ปวด หรือหิวหรือโกรธก็หายได้ด้วยสมถะ พิจารณาสภาวะดับไป ถ้าเป็นวิปัสสนาจะเห็นอาการปวดมากขึ้นๆๆจนแทบจะขาดใจ ที่สุดแล้วอาการปวดก็หายไป เรียกว่าเห็นอนิจจัง ท่านพุทธทาสเรียกฝึกตายก่อนตาย เรียกเวทนานุปัสสนาสติปัฏฐาน

@ksoo1299

2 жыл бұрын

ขอบคุณค่ะ คิดแบบนี้เหมือนกันค่ะ

ในความเข้าใจของผม(คนเดียว)นั้น ผมเข้าใจว่า วิญญาณนั้นมีอยู่ทั่วร่างกายทุกอนูเลยก็น่าจะเป็นความเข้าใจที่รับฟังได้นะครับ เพราะมันเกิดขึ้นและดับไปในที่ตรงนั้นทุกครั้ง คือเกิดรู้ขึ้นตรงใหนมันก็ดับไปตรงนั้นทุกครั้งไป ด้วยความเคารพครับ

ขอบคุณหมอวีครับ ที่ช่วยทำให้มีความเข้าใจ กระจ่างมากขึ้นในเรื่องของรูป นาม จิต วิญญาณ ทั้งทางวิทยาศาสตร์ และพุทธศาสตร์

เพิ่งรู้ว่าจิตไม่ได้อยู่ที่เราค่ะ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ดังที่พระพุทธสอนไว้ สาธุค่ะ 🙏🙏🙏ขอบคุณคุณหมอที่ทำคลิปดีๆได้ความรู้ทางธรรมเชื่อมกับชีวิต ขอให้ทำคลิปแบบนี้ต่อไปนะคะ🙏❤️

คุณหมอแสดง วิทยาศาสตร์กับพุทธศาสนาได้เป็นเลิศ ถ้าคุณหมอจะแสดง ปฎิจจสมุปบาทในเชิงวิทยาศาสตร์กับพุทธศาสนาอีกสักเรีื่อง จะเป็นสิ่งที่ประเสริฐสุด ครับ ขอแสดงความนับถือครับ

วิญญาณก็อยู่ที่เดียวกับจิตนั้นแหละครับ แล้วถามต่อว่าจิตอยู่ตรงไหน ตอบคือจิตอยู่ทุกที่ รับรู้ตรงไหนก็อยู่ตรงนั้น เมื่อไรที่ไม่รับรู้นั้นคืออาการจิตลอย คนส่วนมากเป็นอย่างนั้นแหละจิตชอบล่องลอย ชอบหลง ทางศาสนาพุทธถึงบอกว่าการทำสมาธิถึงมีบุญมากที่สุดเพราะทำให้ไม่หลง การที่เราไม่หลงก็จะรู้ตัว รู้ตื่น มองเห็นความเป็นจริงของร่างกายนี้

สุดยอดหมอ เก่งทั้งทางโลกและทางธรรม

คุณหมอมีจิตใจที่น่ารักมาก ขอบคุณนะคะที่ให้ความรู้

ใช่เลยคุณหมอครับ ปัญหาฉงนนี้เกิดขึ้นกับผมเมื่อ20ปีที่แล้ว น้องชายผมขี่มอไซด์ไปชนท้านกระบะตอนเที่ยงคืนไปแล้ว ที่กลางสะพานนวลฉวีปากเกล็ด แล้วผมรู้ข่าวตอนหกเช้าก้านสมองร้าวไม่รู้สึกตัวต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ หายใจเองไม่ได้ เป็นเรื่องหนึ่งในจุดเริ่มต้นที่ผมสนใจในพระศาสนาคำสอนของพระพุทธเจ้า จนมาถึงปัจจุบันครับ

คุณหมอ มีปัญญามากทั้งทางโลกและทางธรรม เป็นบุคคลตัวอย่างอย่างแท้จริง ขอให้เป็นครูอาจารย์ แก่บุคคลทั้งหลายไปนานๆไปครับ

สุดท้านคลิปนี้ คุณหมอ ให้ข้อคิดที่ดีมาก เรื่องบัณฑิตไม่ควรเพ่งโทษผู้อื่น แต่ให้คอยเพ่งโทษตนเอง

หมอวีครับ ครั้งหนึ่งผมเคยสัมผัสได้ถึง การไม่มีตัวเรา รู้ตัวอยู่ในทุกขณะจิต แต่เห็นว่าที่เป็นอยู่และใช้ชีวิตอยู่ก็ไม่ใช่ตัวเรา เพียงแค่มันเป็นของมันแบบนั้นตามความเป็นจริง ตามวัฏสงสาร ตามกาลและเวลา ตามธรรมชาติของมัน... ไม่ได้อวดรู้ อวดดีนะครับแค่อยากบอกกับทุกท่านว่า ลมหายใจ คือเรื่องจริง คือของจริง ดูแค่ลมหายใจ แค่นั้น เข้า และ ออก เรื่องอื่นไม่ต้องสงสัย ไม่ต้องอยาก ถ้ามีอยาก คุณจะไม่รู้อะไรเลย ....สติมา ปัญญาเกิด สาธุครับทุกๆท่าน

ขอบคุณ คุณหมอวีครับ ได้สาระความรู้ทั้งทางวิทยาศาสตร์ ทางแพทย์ และทางธรรม ควบคู่กันไป ขออนุโมทนาสาธุบุญด้วยครับ "นิชฌัตติพลาปัณฑิตา บัณฑิตมีความไม่เพ่งโทษเป็นกำลัง"

เวรกรรมชดใช้ทำไมสัตว์หลายชนิดต้องเกิดเป็นอาหาร หลายคนเกิดมาอยู่ไม่นาน บางคนโชคร้ายเกิดในช่วงสงครามโลกตายเหมือนผักปลา บ้างเกิดมามีวาสนาสุขสบายทุกอย่าง ขอบพระคุณครับ.

อีก​สอง​ประเด็น​ครับ​ 1.​ คุณ​หมอ​จบ​แบบ​อลังการ​มาก​ครับ​ อนุโมทนา​สาธุ​ 2.​ น่าจะ​เอา​เนื้อหา​ใน​ series​นี้​ไป​ตีพิมพ์​ใน​วารสาร​ตปท.​ ได้​นะ​ครับ​

@user-eh3iy4gz8d

2 жыл бұрын

สาธุ สาธุจร้า

วิญญาณคือความทรงจำครับ อยู่ในรูปแบบของกระแสไฟฟ้าในสมอง ถ้าย้ายหัวไปต่ออีกคนได้เราก็จะย้ายร่างได้ หรือถ้าเราส่งต่อกระแสไฟฟ้าในสมองไปอยู่ในอีกสมองนึงได้เราก็จะย้ายร่างได้ครับ ความเห็นส่วนตัวของผมนะครับ ทุกคนคือความทรงจำเกี่ยวกับตัวเองครับ

@12345678987654321537

2 жыл бұрын

พลังงานแม่เหล็กไฟฟ้าครับ ที่มีอยู่ในทุก อนูของอากาศบนโลก เป็นที่เก็บบันทึกคลื่นสมอง(brain wave) ของคนและสัตว์ ที่เราใช้ศัพท์ที่เรียกกันว่า "จิต" นั่นเองครับ ตัวอย่างที่เห็นเป็นรูปธรรม ก็คือ คลื่นเสียงทุกๆชนิดที่สามารถบันทึกไว้ใด้โดยใช้เทปบันทึกเสียงบนแถบผงเหล็กสมัยก่อน แต่ปัจจุบันก็สามารถบันทึกเสียงด้วยพลังงานแม่เหล็กไฟฟ้าภายในมือถือผ่าน chips และระบบดิจิตอลในเครื่องมือถือนั่นแหละครับ เพราะ ฉนััน พุทธองค์ทรงตร้สว่า "ไม่มีความลับในโลก" ก็เพราะว่า ความคิด การกระทำทางกายวาจาเริ่มมาจากความคิด (ใจ )ซึ่งเป็นคลื่นสมองที่ทางการแพทย์ก็มีการใช้เครื่องมือตรวจคลื่นสมอง(brain scan)เพื่อดูคลื่นสมอง ในการวินิจฉัยโรค และอาการที่เกี่ยวกับโรคสมองใด้ (แม้ว่าจะบันทึกใด้ในรูปคลื่นสมองแบบหยาบๆไม่สามารถบันทึกใด้ละเอียดอย่างที่ถูกบันทึกอยู่ในอนูอากาศ แต่ก็สามารถใชัแปลผลของสมองๆใด้ในระดับหนึ่งเพื่อใช้ในการรักษาโรคเท่านั้น) ดังนั้นเมื่อ กายวาจาใด้กระทำออกไปตามความคิดแล้ว ความคิดจึงเป็นกรรมที่ถูกบันทึกไว้เรียบร้อย แก้ไข เปลี่ยนแปลงไม่ใด้ คิดดีเป็นกุศลจะเปลี่ยนเป็นอื่นไม่ใด้ ทำนองเดียวกันคิดไม่ดีเป็นอกุศลก็เปลี่ยนแปลงไม่ใด้ เช่นกัน

กายวิญญาณ อยู่ที่หัวใจ มโนวิญญานอยู่ที่ศรีษะ (ท้ายทอย) สังเกตได้จากที่อริยบุคคลบางจำพวกทำลายมโนวิญญานได้แล้วจะปวดท้ายทอย วิญญานก็มีลักษณะเป็นแสงสีเงินยวงคล้ายไฟฟ้า ต้องทำจักขุให้เกิด จึงจะเห็นวิญญาณได้ - จักขุวิญญานก็เป็นกลม ๆ อยู่รอบดวงตาเรา มองไม่เห็นด้วยตาปล่าว เราจะเห็นได้ก็ต่อเมื่อเราเจริญกสิณ จักขุวิญญานก็จะขยายเป็นวงกลมใหญ่ออกมาจากตา เหมือนกับกายวิญญานถ้ามันถ้าเราได้ฌาน ๔ กายวิญญานก็จะแผ่ออกมาเป็นวงกลมล้อมตัวเราไว้ ดวงวิญญานทุกดวง ไม่ว่าวิญญาณทางหู จมูก ล้วนมีสัญฐานเป็นวงกลมทั้งนั้น

@user-mf8mo7vc6w

2 жыл бұрын

ถูกต้องครับสำหรับมีกายหยาบ ทราบได้จากการเจริญกายานุปัสสนาสติปัฏฐาน ขณะเจริญสตินั่งหนอๆ กล้ามเนื้อที่น่องกระตุกๆคล้ายอาการหนังตากระตุก เกิดข้อสังเกตว่ากล้ามเนื้อจะทำงานได้ต้องมีผู้สั่ง แล้วผู้สั่งอยู่ที่ไหน น่องก็กระตุกในขณะที่สติตรวจกายอยู่พบว่าที่ในหัวใจก็มีการกระตุกเป็นจังหวะเดียวกับที่น่องกระตุก ตรงกับที่หลวงพ่อสดสอนว่า กายวิญญาณอยู่กลางน้ำเลี้ยงหัวใจ แต่ถ้าเป็นกายละเอียด เช่นเทวดา กลุ่มของวิญญาณจะมารวมกันโดยมี (จิตที่พร้อมด้วย เวทนา สัญญา สังขาร ) จิตกับวิญญาณจึงต่างกันด้วยสภาวะ เช่น ขณะนั่งหลับตา แล้วมีแสงมากระทบเปลือกตา เราจะรู้สึกสว่างเป็นอาการรู้ของจิต เมื่อลืมตา จะเกิดเวทนาขึ้นมาได้ว่าชอบ ไม่ชอบหรือเฉยๆ เกิดสัญญาจำได้ว่าเป็นแสงสีอะไร และมีการปรุงแต่งทางจิตและทางกายเช่นแสงจ้ามาก เราก็จะหรี่ตาลง(สังขาร) วิญญาณก็จะประมวลผลว่าจะทำอะไรต่อ

คุณหมอพูดได้น่าฟัง มีเหตุมีผล บางเรื่องที่คุณหมอไม่เห็นด้วยก็สามารถพูดคัดค้านได้อย่างละมุนละไมเป็นกัลยานิมิตที่ดี โชคดีที่มีเพื่อนเป็นหมอนะคะ ขอบคุณสำหรับความรู้ทั้งทางโลกและทางธรรมค่ะ

เคยฟังพระอาจารย์ท่านนึง พูดเกี่ยวกับจิตไว้แบบนี้ค่ะคุณหมอ ตอนนี้จิตสิงอยู่ในร่างกายมนุษย์เราก็เป็นมนุษย์ พอตายไม่มีร่างกายมนุษย์ ก็จะเหลือแต่วิญญาณหรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่าผี หลังจากนั้นก็แล้วแต่ว่าจิตสุดท้ายก่อนตายเราคิดอะไรอยู่ ยกตัวอย่างเช่น มีพระรูปหนึ่งหวงจีวรมาก ตายไปก็ยังยึดติดกับจีวรผืนนั้นอยู่ จิตก็จำแต่จีวร ทำยังไงจะได้กลับมาอยู่กับจีวร ก็ต้องเลือกมาเกิดเป็นอะไรก็ได้ที่เกิดเร็วและได้ใกล้ชิดกับจีวรเองมากที่สุด จึงได้เกิดมาเป็นไรเกาะจีวรตัวเองอยู่แบบนั้น ไม่ว่าตอนที่เราเป็นมนุษย์เราจะทำความดีมากมายแค่ไหน ถ้าจิตสุดท้ายก่อนตายของเราคิดไม่ดี ชาติภูมิที่เราจะได้ไปก็จะเป็นเหมือนจิตสุดท้ายที่เราจำได้ ความดีที่ทำเป็นเหมือนเสบียงอาหาร ทำดีทำบุญทำทานมากกลับมาเกิดใหม่ก็จะสุขสบายทางกาย เช่น ผู้หญิงคนนึงเคยขับรถชนหมาตาย เค้าชอบทำบุญ จิตใจดี แต่เค้าก็จำแล้วโทษตัวเองอยู่นั่นว่าเพราะตัวเองทำให้หมาตาย อยากชดใช้ให้หมา จนวันที่เค้าตาย จิตก็ยังจำและยังเสียใจกับเหตุการณ์วันที่หมาตาย ผู้หญิงคนนี้มาเกิดใหม่ ร่ำรวยสุขสบาย แต่เค้ากลับไม่เคยมีความสุขในชีวิตเลย พ่อแม่ตายจากตั้งแต่เค้ายังเด็ก ท้องก็แท้งลูก เพราะจิตเค้าในชาติก่อนคิดแต่เรื่องเสียใจจะชดใช้ให้หมาที่ตาย พระพุทธศาสนาจึงเน้นสอนให้ฝึกจิต นั่งสมาธิ เพื่อให้จิตว่าง ให้ความว่างเป็นความปกติของจิต เพื่อที่ตายไปจะได้ไม่ต้องมาเวียนว่ายตายเกิดรับทุกขเวทนาอีก ทำความดี คิดดี พูดดีทุกวัน เราจะเคยชินกับการทำดี จิตก็เหมือนเมมโมรี่การ์ด รับสิ่งดีตลอดเวลาก็จำแต่สิ่งดี ตายไปจิตก็รับรู้แต่สิ่งดี ทำดีและจิตผ่องใส ที่ที่จิตของเราจะได้ไปสิงอยู่ใหม่ก็จะเป็นภพที่สูงกว่ามนุษย์ เช่น เทพ เทวดา ชั้นพรม หรืออื่นๆ ทำดี และจิตยึดติดไม่ผ่องใส ที่ที่จิตของเราจะไปสิงอยู่ใหม่ก็อาจจะเป็นโลกมนุษย์ หมูหมากาไก่คนได้หมด แล้วแต่บุพกรรม ทำไม่ดี จิตไม่ผ่องใส ตายไปจิตก็จะได้ไปในภพภูมิที่ตำกว่า เช่น สัตว์เดรัจฉาน หรือถ้าหนักก็เป็นสัมภเวสีผีเปรต แล้วมาฟังที่คุณหมออธิบายตามหลักวิทยาศาสตร์ด้วย สรุปตามความเข้าใจของตัวเองที่ฟังคุณหมอพูด 2 รอบนะคะ 😂 เข้าใจว่า จิตวิญญาณคือแก่นของตัวเรา จิตวิญญาณอยู่ที่ไหนก็ได้ที่มีความรู้สึก เพราะฉะนั้น จิตอาจจะไม่ใช่ของเรา เพราะไม่มีตัวเรา ร่างกายเราเปรียบเหมือนบ้านเช่า ที่จิตวิญญาณมาเช่าอาศัยอยู่ ตอนยังไม่ตาย ร่างกายเรากับจิตวิญญาณอยู่ด้วยกัน เหมือนเป็นพาสเนอร์กัน ถ้าเราใช้สมองบริหารจิต ใช้วินัยฝึกและควบคุมจิต จิตก็จะส่งเสริมให้เราไปในทางที่ดี แต่ถ้าเราตามใจจิต เช่นจิตบอกว่าเหนื่อยไม่อยากทำงานล่ะ สมองร่างกายพักตาม ชีวิตเราก็จะแย่ ถ้าจะบอกว่า สมองร่างกายคือเหตุผล จิตวิญญาณ คืออารมณ์ แบบนี้จะได้มั๊ยคะ คิดซะว่า สมองกับร่างกาย คือบ้านเช่า จิตวิญญาณคือผู้มาอาศัย ถ้าบ้านเช่าสวยงามแข็งแรงมีกฏระเบียบชัดเจน ผู้มาอาศัยก็จะมีระเบียบวินัย อาจเป็นที่มาของคำว่า ทางสายกลาง ถ้าเจ้าของบ้านเช่าและผู้มาเช่ามีความพอดี ก็จะส่งเสริมกันให้เจริญ พอถึงเวลาที่ต้องตาย คือบ้านหลังนี้เก่าแก่ผุพังตามอายุ จิตก็ออกไปหาบ้านเช่าหลังใหม่ จะได้บ้านเช่าที่ดีที่แพงที่ถูกใจมากแค่ไหน ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาที่อยู่ในบ้านเช่าหลังที่เพิ่งพังไป เราสะสมทรัพย์ไว้มากแค่ไหน (บุญกุศล) นึกได้อีกคำค่ะ ไอคิวกับอีคิว สองอย่างนี้เหมือนและต่าง และจำเป็นที่จะต้องอยู่ด้วยกัน สรุปอีกรอบ ไม่มีอะไรมีจริงเลย ทุกสิ่งคือสิ่งสมมุติ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป 😊 สุดท้ายนี้ อยากบอกว่า นี่คือครั้งแรกที่ฟังเรื่องวิทยาศาสตร์จนจบพร้อมฟังทบทวนค่ะ 😂 คุณหมอมีความสามารถในการถ่ายทอดเรื่องยากให้ง่ายขึ้น เข้ามาฟังเพราะคำว่าวิญญาณเลยค่ะ 😄 คลิปเปิดสมองมากๆค่ะ ชอบค่ะ 😊

ด้วยความเคารพ คุณหมอวีครับ ผมตามคลิปของ คุณหมอเกี่ยวกับ สุขภาพหลายๆคลิป ครับ และได้ฟังคลิปธรรมะ โดย เฉพาะเรื่องวิญญาณครับ ผมพอมีองค์ ความรู้ของ พระพุทธเจ้าที่ ทรงตรัสอธิบาย บอกสอนเรื่อง จิต มโน วิญญาณ ไว้ชัดเจนมาก มีพระสูตรรองรับ ครับ พระอาจารย์ คึกฤทธิ์ โสตถิผโล วัดนาป่าพง คลอง 10 ปทุมธานี ได้นำพระสูตร เหล่านี้มาถ่ายทอด บอกต่อ โดยไม่มี การแต่ง หรือ บิดเบือนคำสอน นำคำสอนตรงๆ ในพระไตรปิฏก ส่วนที่เป็นพุทธ วจน ล้วนๆ มาบอกต่อ เข้าใจ ง่าย จะเข้าใจ ว่า แท้จริงแล้ว เราเป็นใคร จิต มโน วิญญาณ กับเรา เกี่ยวข้อง กันอย่างไร เราไม่ใช่จิต ไม่ใช่มโน ไม่ใช่วิญญาณ แล้วเราคือใคร พระสูตรทรงตรัส ว่า เราคือ *สัตว์* ผู้มีอวิชชาเป็น เครื่องกั้น มีตัณหา เป็นเครื่องผูก เป็นผู้ท่องเที่ยว ไปในสังสารวัฏ อย่างไม่มีที่สิ้นสุด จนกว่าจะได้เกิด มีปัญญารู้เห็น เข้าใจอริยสัจ4 แล้วมาปฏิบัติตาม อริยมรรคมีองค์8 แล้วจะสามารถ ออกจากสังสารวัฏ หรือระบบสมมุติ ไปสู่ฝั่งวิมุติ หรือนิพพานได้ (พุทธ วจน)สาธุ

ขอบคุณ คุณหมอวี ทั้งความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ และทางธรรม

เป็นเรื่องทางจิตล้วนๆเลย ต่อให้เราไม่มีร่างกาย ความรุ้สึกนึกคิด ทุกข์ สุข ยังอยุ่ ถ้าอธิบายทางพุทธ นี้ยาวครับ

ผมขอยืนยันว่าวิญญาณมีจริงทั้ง2แบบ แบบที่1 วิญญาณผู้รู้ แบบที่2วิญญาณที่เราเข้าใจกันว่าเมื่อตายแล้วจะมีวิญญาณนี้แหละ มีวิธีที่จะเข้าไปเห็นวิญญาณตัวนี้ก่อนที่เราจะตาย วิธีการคือเมื่อเวลาเรานอนให้มีสติอยู่ที่ลมหายใจเข้า-ออก อยู่ตลอดก่อนที่เราจะหลับอาจจะมีสักครั้งที่มันพอดีที่ความหลับกับตื่นจะขาดจากกัน คือร่างกายหลับแต่สติตื่นเมื่อมันพอดีเป๊ะจะหลุดจากกัน คนหนึ่งนอนอยู่ อีกคนหนึ่งหลุดออกไป ท่องเที่ยวไปได้และก็กลับเข้ามาได้ ลองพิสูจย์ดูครับ

@tong789.

2 жыл бұрын

ผมเคยนอนพิจารณาลมหายใจเข้าและออก ปกติทั่วไปถ้านอนหลับก็จะหลับไปเลย แต่มีวันนึง หลังจากพิจารณาลมหายใจเข้าออก รู้สึกว่าร่างกาย หลับตอนลมหายใจออก และหลังจากนั้นก็รู้ว่าร่างกาย หลับไปแล้ว เพราะมีเสียงเหมือนเสียงหายใจกรนอยู่ เหมือนคนหลับสนิท แล้วตัวที่รู้อยู่นี้มันคืออะไร มันสงบ รู้ตัวอย่างชัดเจน ในขณะที่ร่างกายมัน เหมือน ติดเครื่องเบาเบาอยู่ เหมือนท่อนไม้ท่อนหนึ่ง แต่ตอนนั้นไม่ได้ลองลุกขึ้นดู เพราะยังงงอยู่ ครับ

@techinleck7798

2 жыл бұрын

มันมีจริงครับ แต่เป็นสิ่งที่รู้ได้เฉพาะตนจริงๆ ยากที่จะให้คนอื่นเชื่อปกติจึงไม่กล้าเล่าให้คนอื่นหรือคนที่รู้จักฟังเขาอาจจะว่าบ้าหรือแค่ฝันไปไหม ถ้าจะพิสูจย์ว่าเป็นเรื่องจริงหรือแค่ฝันลองให้คนที่อยู่ด้วยกันเขียนข้อความอะไรใส่กระดาษวางไว้โดยที่เราไม่รู้ข้อความนั้นถ้าหลุดออกไปได้ไปดูข้อความนั้นไว้เมื่อตื่นขึ้นมาลองดูว่าถูกต้องไหม ถ้าจำข้อความได้ถูกต้องก็คงไม่มีอะไรให้ต้องสงสัยครับ ท่านถึงตรัสว่าเป็นของสาธารณะที่บุคคลจะเข้าถึงได้ถ้ามีความเพียร โดยที่ยังไม่ต้องบรรลุอะไรทั้งนั้นครับ(แต่โอกาสที่จะพอดีแปะหลุดออกไปได้เป็นจังหวะที่เป็นได้ยากมากสุดๆเหมือนกัน)

คำว่าสัตว์สัตตานังมีได้ด้วยเหตุเพียงเท่าไรพระเจ้าข้า สัตตานังยึดขันธ์ 5 ตลอดเมื่อใดที่สัตตานังไม่ยึดขันธ์ 5 เมื่อนั้นนิพพาน ไม่ทราบว่าผมเข้าใจแบบนี้ถูกต้องไหมครับ

เป็นภาคสามที่อเมสซิ่งมากจ๊ะพี่หมอ .. เหมือนนั่งฟังเลคเช่อร์อยู่ที่ศิริราชแล้วก็มีวัดระฆังอยู่ในที่เดียวกันเลย .. เมื่อวานได้น้ำพริกไปแล้ววันนี้พี่หมอจัดผักจัดปลาทูตัวโตมาให้อิ่มอร่อย.. แต่เหมือนยังขาดๆอะไรอยู่นะ อ๋อ ของหวาน พี่หมอช่วยแถมในวันพรุ่งนี้เป็นภาคสี่สักครึ่งภาคก็ดีนะจ๊ะ อย่าว่าเราได้คืบจะเอาศอกเลย อยากได้เป็นเมตรเลย ก็พี่หมอทำให้เป็นอย่างนั้นจริงๆ อยากฟังอีก ว่างั้น.. วันเสาร์จะไปทำบุญที่นครพนมและจังหวัดใกล้เคียงสามวัน คงไม่ได้มาไลฟ์จ๊ะ .. ชอบที่ฝรั่งตั้งตัวPineal Gland เป็น Seat Of Soul อันนี้แปลกดี .. ขอบพระคุณพี่หมอจ๊ะ .. บัณฑิตไม่มีการเพ่งโทษ เป็นกำลัง.. สุดมากจ๊ะ ... ..

@user-fc1xc8iq3w

2 жыл бұрын

คุณหมอค่ะปวดกล้มเนี้อมันอักเสบสาเหตุป้าแขนข้างขาวดึงปักไฟเส้นเอ็นมันเลยเส้นอักเสบมากไปให้คนิกฉีดสองเข็มแต่ดีขึ้นแต่ป้ากินยาแก้อักเสบมีรู้สึกยังเจ็บป๊บไม่อย่ากินยาเยอะไปแน่นำด้วยค่ะ

@chaivitphijit3664

2 жыл бұрын

เกิดอาการเบื่ออาหารต้องทำยังไงครับ

มาฟังอีกแล้ว

คุณหมอ....คุณหมอเข้าใจผิดของธรรมชาติ....สิ่งในโลกนี้มีจุดกำเนิดของมันหมด....แม้แต่โลกก็มีจุดกำเนิด.....วิญญาณอยู่ทุกส่วนของร่างกายเพราะวิญณาณเป็นพลังงานชนิดหนี่ง......ทำลายวิญญาณได้ก็ทำลายจุดเริ่มต้นของการเป็นมนุษย์.....คือนิพพานนั่นเอง....หมอลืมไปว่าของในโลกนี้มีจุดกำเนิด.....ทำลายจุดกำเนิดคือทำลายตัวตนนั่นเอง....ทำลายตัวตนคือทำลายจุดกำเนิดของมัน

ตั้งแต่คุณหมอวี คุยเรื่อง ธรรม... ผมกดติดตาม และ เป็นfc คุณหมออีกคนนึงเลยครับ

สวัสดีครับคุณหมอวี..ฟังเพลินได้ความรู้ใหม่ไม่เคยได้ยินได้ฟังมาก่อน ยากให้นักเรียนนักศึกษาได้เข้ามาฟัง เชื่อว่าวิญญาณมีจริงเป็นพลังงานมหัศจรรย์ที่มองไม่เห็นด้วยตาเนื้อ..เล่าได้สนุกมาก ๆ " อนุโมทนาสาธุครับ "

สวัสดีตอนเช้าค่ะตามp3ต่อ

หมอเอาออกเพียงบางส่วนเอง ลองเอาสมองส่วนหน้าออกทั้งหมดตรงมโนทวาน เป็น สมองส่วนหน้าตรงระหว่างลูกตาเข้าไป 2 นิ้วครึ่ง ดูจ้า

ขอบคุณ Dr.V ครับ การศึกษาพระพุทธศาสนาในแนวทางวิทยาศาสตร์นั้นถูกต้องที่สุด เพราะพระพุทธเจ้านั้นค้นพบหลักการของความจริงและการดำเนินตามความจริงที่สามารถพิสูจน์ได้ ขอให้ทำคลิป "ปัญญา" แบบนี้ไปเรื่อยๆนะครับ สาธุ

คุณหมอครับสำหรับผมแล้วถ้าพูดถึงวิญญาณแล้วมันไม่ได้อยู่ที่สมองและก็ไม่ได้อยู่ที่หัวใจครับ..แต่วิญญาณมันอยู่ที่.การยังมีชีวิตอยู่นั่นเองและเมื่อลมหายใจดับวิญญาณก็ออกจากร่างครับ

@mravatarcrab

2 жыл бұрын

สิ่งที่ท่านกล่าว คือ ความหมายของวิญญาณทางโลก ลองศึกษาเรื่องวิญญาณทางธรรม เพิ่มเติมครับ จะได้เป็นข้อพิจารณา เปรียบเทียบ ครับ ..

สาธุ ๆ ๆ ได้ความรู้เรื่องสมองแล้ว ยังได้ ธรรมะ ด้วย บัณฑิตมีความไม่เพ่งโทษ เป็นกำลัง

สาธุ สาธุ สาธุค่ะ

เยี่ยมมากเลยครับคุณหมอ เก่งมากครับที่สามารถโยงความรู้ทางแพทย์และทางธรรมเข้ากันได้ ขอชื่นชมจริง ๆ หายากมากที่หมอจะเข้าศาสนาไปพร้อมกัน

ขอขอบพระคุณคุณหมอ มากๆค่ะ ที่ มาให้ความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ แล้วให้ความรู้ ด้านธรรมมะด้วยค่ะ ขออนุโมทนาสาธุ ด้วยค่ะ

ขอบคุณค่ะหมอวี

อยู่จิตใต้สำนึก คือ จิตวิญญาณค่ะ เช่น ทำร้ายจิตใจ ทำให้วิญญาณเสียใจ จิตวิญญาณกำลังร้องไห้ ดีใจ มีความสุข

สวัสดีดีครับคุณหมอ ผมดีใจที่ได้ไขความกระจ่างเรื่องพระที่เป็นอัลไซเมอร์ และได้มีเพื่อนเป็นพหูสูตแบบคุณหมอครับ ผมฟังมาถึงEP.นี้ คุณหมอพูดเรื่อง ขันธ์5 รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ กับสมอง ผมชอบมากครับ EP.ต่อไป ขอเรื่องพระอรหันต์ ที่สิ้นสังโยชน์เบื้องต่ำและเบื้องสูง 10 ข้อ ทำงานเกี่ยวข้องกับสมองอย่างไร ขอความเมตตาคุณหมอหาคำตอบ ช่วยอธิบายให้ทีครับ🙏🏼🙏🏼🙏🏼

หมอเรียนสิ่งที่จับต้องได้ สิ่งที่อธิบายที่มาที่ไปได้ แต่หมอเชื่อเรื่องที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ อย่างเรื่องที่ว่าจิต วิญญาณ หรือเจตภูต อยู่ที่ใดที่นึงที่ไม่ใช่ร่างกายนี้ ถ้าเชื่ออย่างนี้ นี่ก็คือเชื่อว่าจิตเป็น อาตมัน คือมีอยู่คงทนถาวร(เป็นสัสสตทิฏฐิ) มันก็ไปตรงกับความเชื่อของศาสนาพราหมณ์ คริสต์ อิสลาม เพียงแต่ศาสนาเหล่านี้จะบอกว่า ถ้าบรรลุแล้วจิตจะไปรวมอยู่กับพระเป็นเจ้า แล้วอย่างนี้พุทธศาสนาจะเกิดขึ้นมาได้อย่างไรตั้งแต่แรกในเมื่อมีศาสนาพราหมณ์อยู่ก่อนแล้ว หมอน่าจะรู้จักกาลามสูตรเป็นอย่างดี พระพุทธเจ้าท่านไม่ให้เชื่ออย่างงมงาย ต้องเอาความเชื่อนั้นไปพิสูจน์ด้วยปัญญา หมอก็จะแย้งว่า ก็เรื่องนี้หมอยังไม่บรรลุเลยพิสูจน์ไม่ได้ สิ่งที่พระพุทธเจ้าสอน ท่านก็บอกเอาไว้แล้วว่า สันทิฏฐิโก อะกาลิโก เป็นสิ่งที่ผู้ศึกษาจะรู้ได้ด้วยตนเอง ไม่จำกัดกาล มันย่อมไม่เกินวิสัยที่วิญญูชนจะรู้ได้ ถ้าแม้แต่หมอเองยังไม่สามารถพิสูจน์เรื่องนี้ด้วยตรรกะได้ ก็น่าคิดว่าความเชื่อนี้มันเป็นสิ่งที่ถูกต้องหรือไม่ แนวความคิดทำนองว่ามีวิญาณคอยท่องเที่ยวไปควบคุมร่างกายนี้ที ร่างกายโน้นที พระพุทธเจ้าท่าก็เคยตรัสกับ ภิกษุสาติ มาแล้วว่า "วิญญาณอาศัยปัจจัยประชุมกันเกิดขึ้น เรากล่าวแล้วโดยปริยายเป็นอเนกมิใช่หรือ ความเกิดแห่งวิญญาณ เว้นจากปัจจัย มิได้มี" .. ผมเข้าใจเป็นอย่างนี้ จึงขออธิบายเพื่อแลกเปลี่ยนครับ

ตอนเป็นเด็ก ตอนรู้สึกเสียใจ เคยนึกสงสัยว่าใจอยู่ที่ไหน เคยนึกเข้าไปถึงหัวใจก็ยังรู้สึกว่าไม่ใช่ใจ ถามใครก็ตอบไม่ได้ ได้แต่นั่งคิดๆๆ แล้วก็เครียดอยู่คนเดียว เป็นความอึดอัดที่ตอบตัวเองไม่ได้ พอโตมาก็เลิกสงสัย แต่ก็ไม่รู้อยู่ดี จนมาฝึกภาวนา ฟังพระที่ท่านพูด พอเข้าใจเชิงทฤษฎีแต่ก็ นั่นแหละยังไม่เคยตอบคำถามตอนเด็กได้จนถึงทุกวันนี้ ขอบคุณที่คุณหมอที่ช่วยอธิบาย ทำให้เด็กคนนั้นได้รู้ว่าไม่มีแค่เราคนเดียวที่บ้าสงสัยอะไรแบบนี้

ฟังสนุกมากเลยค่ะ

อจ.หมอพูดสุดยอดมากเข้าใจง่ายเจ้าคะ ศาสนาพุทธพิสูจน์ได้ทางวิทยาศาสตร์ ท่านใดมีศีลเสมอกันเข้าใจได้ท้นทีเจ้าคะ ขอแชร์เจ้าคะ

ขอเห็นต่างนะคะวิญญานตัวนี้หมายถึงธาตุรู้ใช่ไหมคะเห็นว่าที่พักของวิญญานน่าจะอยู่ที่หัวใจ เพราะเวลาเราตกใจจะเกิดอาการใจหายแวบๆ แต่ด้วยวิญญานเป็นธาตรู้เคลื่อนที่ได้สามารถอยู่ตรงไหนก็ได้เมื่อผ่าจึงไม่เจอ แต่ที่ประจำน่าจะอยู่ที่หัวใจค่ะ ความเห็นส่วนตัวนะคะ

สาธุๆ ๆคะ​

ตั้งแต่เกิดมาผมพึ่งได้ยินประโยคที่ทำให้ผมรู้สึกทึ่ง ว่าจิตกับร่างไม่ได้อยู่ด้วยกัน เหมือนได้บรรลุระดับปัญญาอีกขั้นเลย สอนดีกว่าพระปลอมๆหลายๆคนอีก ติดตามคุณหมอครับผม

รูป ไม่ใช่กายครับ รูปในขัยธ์5มันคือ"นามรูป" ทั้งรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ล้วนไม่มีตัวตน อยู่ในโลกุตระ ที่คุณหมอพูดมาถูกต้องครับ บัณฑิตย่อมไม่เพ่งโทษผู้อื่น แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือ บัณฑิตย่อมเป็นผู้แนะนำชี้แนะเพื่อให้เกิดปัญญาแก่ผู้อื่น อย่ามองว่าการชี้แนะเป็นการเพ่งโทษน่ะครับ.

อนุโมทนากับคุณหมอ ขอแลกเปลี่ยนความรู้ทางธรรม จิต มโน วิญญาณ เป็น นามธรรม จับต้องไม่ได้ มีหน้าที่รับรู้อารมณ์ทางสัมผัส ๖ คือ ตา หู จมูก ลิ้น กายใจ นามธรรมนี้ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ตลอดเวลา ส่วนที่ตั้ง ของวิญญาณ เมื่อวิญญาณเกิด เกิดที่หทัยวัตถุ หทัยวัตถุ มีขนาดเท่าเมล็ดบุญนาค เป็นที่ขังอยู่แห่งน้ำโลหิต ปริมณเท่าซองมือ เมื่อมีโทสะ สีจะเข้ม หทัยวัตถุ มี 2 ส่วน คือ 1มังสหทยรูป คือรูปหัวใจ (ดอกบัวตูม) 2 วัตถุหทยรูป คือ สิ่งที่อาศัยมังสหทยรูปเกิด (พอสังเขป) เมื่อตกใจ เสียใจ แรงๆ จะรู้สึกแปลบๆ ตรงนั้นแหละ - ส่วนการรับรู้ เช่น ตา จะต้องประกอบด้วย อวัยวะตาสมบูรณ์ 1 มีรูป และแสงสว่างพอ 1 วิญญาณ (คือความใส่ใจสนใจในรูปนั้น ถ้าไม่สนใจ ถึงมีตาดี ก็ไม่เห็น ) คุณหมอ ลองเทียบ ความรู้ทางวิทยาศาสตร์

ขอบคุณครับ

สาธุ อนุโมทนาบุญกับคุณหมอผู้เป็น "บัณฑิต" ด้วยความปรารถนาดีที่คุณหมอเพียรแบ่งปันความรู้และธรรมะเป็นวิทยาทานนี้ จะส่งผลให้คุณหมอเจริญยิ่งๆขึ้นทั้งทางโลกทางธรรมค่ะ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า คุณหมอจะได้ศึกษา "พุทธวจน" ให้มากขึ้น จะได้นำมาแบ่งปันให้มากขึ้น จะได้ชัดเจนว่า พระพุทธองค์กล่าวถึง สัตตานัง คือใคร ใครเป็นผู้เวียนว่ายตายเกิด จิต มโน วิญญาณ เป็นอย่างไร และ สำคัญสุด อนุสาสนีปาฏหาริย์ จากคำสอนของพระศาสดา เป็นอย่างไร แล้วคุณหมอจะช่วยผู้คนให้ได้พยหนทางอันประเสริฐ พ้นจากวัฏสงสารได้มากขึ้นแน่นอน สาธุค่ะ 🙏🙏🙏

หัวใจ สำคัญที่สุด เพราะถ้าไม่ทำงาน ตายทันที แต่สมองเสีย หัวใจทำงานปกติ มันไม่ตาย แต่ไม่มีปัญญา วิญญาณคล้ายๆจิต ตอนมีลมหายใจมีสัญญาณชีพ ยังเกาะเกี่ยวกับร่างสมมติอยู่ แต่พอธาตุแตก ดิน น้ำ ลม ไฟ ดับหมด จิต เผ่นไปไหน ไปตามพระบอกก็ ขึ้น กับ ลง แต่ส่วนมากจะลง อย่างที่พระพุทธเจ้าบอก คนดี มีเท่า เขาโค มีแค่ สอง และ คนชั่วมีเท่า ขนโค ส่วนมากคนตายก็จะไปไหน ไปถามพระ เพราะเราจำไม่ได้ เช่น ตายจากการโกง ตายจากความกลัว ไปถามพระ เราฟังแล้วไม่ค่อยสบายใจ ขนาดอยู่ในศีล ธรรม แต่เราไม่รู้ว่าเรามีกรรมเก่า หรือ เรื่องราวในชาติที่ผ่านมา เราจึงอยู่กับปัจจุบัน และเติมบุญด้วยทำดีไม่ทำชั่ว😇

เป็นประโยชน์กับชาวพุทธมากครับ พุทธแท้ควรเป็นความจริรงตามหลักวิทยาศาสตร์ ก่อนถามว่าวิญญาณอยู่ที่ไหนควรเข้าใจก่อนว่าวิญญาณคืออะไร

อนุโมทนาสาธุ ยิ่งฟังยิ่งรักคุณหมอ บัณฑิตทั้งทางโลกทางธรรมค่ะ

ขอบคุณ🙏💕แบบหาที่สุด❤🙏🧘‍♀️🎁ใม่ได้ #เพาะคุนหมอคือ🎁ของฝัน🎉/ขอบคุนๆๆ🙏🧘‍♀️ทุกๆการศึกษาใฝ่ในธรรม#จนเกิดคำว่า #ใม่มีคำว่าบังเอิญบนโลกใบนี้ค่ะ❤❤❤❤❤🎁🎁🎁🎁🎁🎁🎁🎁

ในทางพระพุทธศาสนา วิญญาณเวียนว่ายตายเกิดไม่มีครับ ชาวพุทธเข้าใจผิดกันโดยมาก ในทางพุทธศาสนา "จิต มโน วิญญาณ" คือสิ่งเดียวกันในด้านสภาวะ แต่ชื่อใช้เรียกเท่านั้นที่ต่างกันในขั้นการเกิด เหมือนน้ำแข็งเราก็เรียกว่าของแข็งพอโดนความร้อนมันละลายก็เรียกของเหลวพอเดือดก็ระเหยเราก็เรียกว่าไอ ...จิต มโน วิญญาณ ก็คล้ายๆ กัน ที่เรียกต่างกันเพราะใช้สอนในสภาวะต่างกัน วิญาญาณเป็นธาตุตามธรรมชาติเกิดดับต่อเนื่องรวดเร็วมากมายตลอดเวลาตลอดคืน ดังพระพุทธดำรัสว่า “ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็แลธรรมชาติใดที่เรียกว่าจิตบ้าง มโนบ้าง วิญญาณบ้าง ธรรมชาตินั้น ขณะที่ดวงเก่ากำลังดับ ดวงใหม่ก็กำลังเกิดขึ้น เป็นอย่างนี้เรื่อยไปตลอดวันและคืน” (สํ.นิ. 16/231/115)

โดยหลักธรรม" จิตไม่ใช่ตัวตน" เป็น"นามฐาตุ"ที่อาศัยเกิดตั้งอยู่ดับไปในปสาทรูป ในเวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ(ตัวจิตและสิ่งประกอบจิตชึ่งรวมความไม่รู้เข้าใจผิดไว้ด้วย)คำนี้มันชัดเจนว่าไม่ต้องไปค้นหาว่ามันมีอยู่ตรงไหน... ....ขณะที่กายแตกดับ จิตยังอาศัยเกิดดับอยู่ในเวทนา/สัญญา/สังขารปรุงแต่งความปรารถนาอยากได้อยากมีอยากเป็นผสมอยู่ในจิต(เจตสิก)สถานะนี้เรียก"วิญญาน"เป็น"สัตตานัง"ผู้ที่จะยังมีสังสารวัฏตามคุณสมบัตินั้น ....ลำพัง."จิต"พูดง่ายๆว่าตาย/เกิดอยู่ตลอดเวลาพร้อมจะดับสนิทเมื่อกายแตกทำลาย แต่ไม่เป็นอย่างนั้นเพราะมีสิ่งที่เข้าไปประกอบจิตคือเจตสิกธรรมทำหน้าที่มีภาวะสืบต่อ พระอรหันต์คือผู้ดับ"เจตสิกธรรม"ที่เข้าไปประกอบในจิตลงได้นั่นแหละครับสรุปให้ง่าย

ผมขออนุญาตนะครับ ผมเองชอบศึกษาธรรมมาตั้งแต่เด็กเพราะตอนเด็กชอบดูหนังจักรๆวงศ์ๆเลยชอบเรื่องฤทธิ์อภินิหาร พอโตขึ้นมาหน่อยก็ไปสักยันต์เพราะเชื่อว่าคุ้มครองเราได้เป็นความเชื่อสมัยเด็ก พอโตขึ้นมาอีกจนอายุยี่สิบห้าขึ้นไปหันมาสนใจครูบาอาจารย์ ทั้งสายทึ่ฝึกมากับอาจารย์มั่น และเริ่มมาสนใจหลวงพ่อฤาษีลิงดำวัดท่าซุงและเริ่มมาฟังคำสอนหลวงพ่อพุธ มาปฏิบัติกับหลวงปู่หลอด ปโมทิโต(เป็นศิษย์หลวงปู่มั่นสมัยที่ท่านยังเป็นเณรอยู่ครับ) จนมาปัจจุบันผมฟังพุทธวจนที่พระอาจารย์คึกฤทธิ์ โสตฺถิผโล ผมพอเริ่มจะเข้าใจธรรมมากขึ้นครับ สรุปคือ พระสมัยเก่าๆสมัยก่อนๆนั้น ท่านจะใช้การเพ่ง การนั่งสมาธิ เดินจงกลม เพื่อให้ผู้ฝึกเริ่มมีความสงบ พอสงบแล้วท่านก็จะเริ่มสอนธรรมเริ่มสอนเรื่องจิตเรื่องที่เราไปสัมผัสเวลานั่งสมาธิหรือทำจิตนิ่งๆ ท่านจะค่อยๆแนะนำไปเรื่อยๆ พระสมัยก่อนจึงบอกเสมอมีอะไรให้ถามครูบาอาจารย์ และให้มีครูบาอาจารย์ไว้คอยสอบจิตครับ พอผมมาฟังพุทธวจนมากๆจนพอจะเข้าใจบ้างครับ คือ จิต มโน วิญญาณ คือธาตุรู้และรู้อะไรไม่เกินไปกว่าที่ตนเองไปสัมผัสหรือไปศึกษามาครับ แต่ถ้าจะให้รู้มากไปกว่านี้คือต้องนั่งสมาธิให้จิตสงบนิ่งจนเหลือแต่จิตเราแค่นั้นเราจึงจะไปสัมผัสอะไรๆได้แต่ต้องปฏิบัติให้ได้จนชำนาญระดับหนึ่งก่อนนะครับ พอมาฟังพุทธวจน จึงเข้าใจขึ้นไปอีกว่า เรามีสัตตานังตัวเราจริงๆคือสัตตานัง และสัตตานังนั่นล่ะคือ(ผู้ยึดติดครับ) เมื่อก่อนสัตตานังก็อยู่ในฝั่งอสังขตธาตุครับ คือโลกที่ไม่มีการเกิดไม่มีการตายไม่มีเปลี่ยนแปลงใดๆ แต่ตอนนั้นยังมีอวิชชาครับ จึงหลงเข้ามายึด จิต มโน วิญญาณ(ยึดผู้รู้) และก็เวียนว่ายตายเกิดไปตาม จิต มโน วิญญาณ พอเราตายไปจิตเราไปเสพคบอะไรไว้มากมันก็ตามจิตดวงนั้นไปหรือสร้างกรรมอะไรไว้มากเราก็ตามจิตดวงนั้นไป นี่คือธรรมชาติครับ เวียนเกิดเวียนตายไม่จบไม่สิ้นครับตราบใดที่ตัวเราคือ(สัตตานัง)ไม่ถอนการยึดติด(อุปทาน)ในขันธ์ห้ามันก็ต้องเวียนเกิดเวียนตายไปตามขันธ์ห้าครับ สรุปคือเราต้องถอนตัวเรา(สัตตานัง)ออกจาก รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ว่าไม่ใช่ของเรา ไม่เป็นเรามันจะเหลือสัตตานังเมื่อเราถอนออกมาจากขันธ์ห้า เราก็หลุดจากสังขตธรรม(โลกที่มีการเปลี่ยนแปลง โลกที่มีการปรุงแต่ง)เราจึงจะกลับไปสู่จุดเดิมที่เรามาเมื่อเราเข้าใจวิธีการกลับไปสู่จุดเดิม เราก็ไม่ใช่สัตตานัง(ผู้ยึดติด)แล้ว เราคือวิมุติญาณทัสสนะคือผู้รู้วิธีการเข้าสู่นิพพานประมาทนี้ครับ ผิดถูกประการใดกราบขออภัยด้วยครับ เสนอตามความเข้าใจของตนเองไม่ใช่อยากอวดเก่งหรืออวดรู้ใดๆครับ

จิต หรือวิญญาณ มีหนึ่งเดียว อยู่ในตัวเราตั้งแต่ในครรภ์มารดา มีหนึ่งความคิด แยกจิต ออกจากความคิดแล้วคุณหมอจะรู้ว่าคืออะไร มันเป็นสิ่งมหัศจรรย์ มนุษย์เป็นของขวัญที่มหัศจรรย์ และร่างกายเราเป็นอัจฉริยะ มันฟื้นฟูตัวเองได้

กรุณาส่งพุทธพจน์นี้ให้ นายศรี....ที่ชอบแซะคนดี คนทำงานด้วยค่ะ

วิญญาณ ไม่ได้สิง วิญญาณมีที่เกิด เกิดแล้วก็ดับ เกิดได้ทางทวารทั้ง6 มีตาหูจมูกลิ้นกายและใจ

วิญญาณ เกิด-ดับ ใน ธาตุทั้ง 4 ทีละธาตุเกิดที่ไหนดับที่นั้น วนไปวนมา กาย(ร่างกาย-ลมหายใจ) เวทนา(สุข-ทุกข์-เฉยๆ) สัญญา(ปรุง-อดีต) สังขาร(ปรุง-อนาคต)....ถ้าบอกว่าวิญญาณอยู่นอกเหนือ 4 ธาตุนี้เป็น พุทธเจ้าบอกว่าเป็น โมฆะบุรุษ

ติดตามฟังหมออยู่ครับ…แปลกใหม่ดี

ท่านคือนักจิตวิญญาณ ท่านคือนักพุทธศาสน์ ท่านคือนักวิทยาศาสตร์ เบื้องบนกำหนดให้ท่าน​ ลงมาช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

@DrVChannel28

2 жыл бұрын

สาธุ

@beetlehouse3542

2 жыл бұрын

บนไหนอีกกก!!!

ติดตามคุณหมอมานาน.. น่าจะรับธรรมะ..มาแล้ว.. ถ้าคุณหมอยังไม่ได้รับธรรมะ..แปลว่าคุณหมอเกิดมาเพื่อ..สิ่งนี้โดยเฉพาะ..กราบอนุโมทนาบุญด้วยนะค่ะ

หมอท่านนี้ พูดมีหลักเกณฑ์ของ วิภัชชวาท อยู่มาก ยากที่จะหาเจอในคนทั่วไป คล้ายๆจะได้แนวของท่านเจ้าคุณอาจารย์พุทธทาส...แต่ไม่สิ ได้แนวท่านเจ้าประคุณสมเด็จพุฒโฆษาจารย์ (ปอ.ประยุตโต ) มาเต็มที่เลย...

ฟังจนจบ สนุกดี ขอออกความเห็นมั่งสนุกๆนะ อย่าไปยึดถือมั่นนะ อนัตตาแปล่าว่าไม่ใช่ตัวตนไม่ควรไปยึดถือมั่น แต่ตอนนี้มันเป็นความเห็นของเรา หากเราไม่ไปยึดถือไว้มันก็ไม่ใช่เราไม่ใช่ตัวตนอะไร ก็แค่ความเห็น ถูกก็ดี ผิดก็ดี เพื่อความเข้าใจที่ดีต่อกัน ตามนี้นะ .....เข้าเรื่องละนะ จิต มโน ใจ วิญญาณ เป็นพลังงานอย่างหนึ่งที่เป็นนามธรรมเกาะเกี่ยวทำงานร่วมกันกับพลังงานอีกชนิดที่เป็นรูปธรรมคือร่างกายทุกส่วน สสารทั้งหมดในโลกคือพลังงานไม่สูญสลายไปเพียงแค่แปรรูปเป็นสถานะอื่นๆ จิตและร่างกายเปรียบเหมือน อะตอมต่างๆที่เกาะกันกลายเป็นสิ่งต่างๆมากมายเป็นพลังงานเช่นกัน และจิตมีเพียงหนึ่งเดียวอยู่ในกายนี้ตอนมีชีวิต เมื่อตายลงก็แปรรูปไปในสถานะอื่นๆตามกฏแห่งการกระทำ จิตคือการรับรู้จาก จุดรับสัมผัสต่างๆทั่วตัว และไหลไปรวมลงที่ใจซึ่งมีการรับรู้สิ่งต่างๆร่วมกันเหมือนเทน้ำ5ชนิดผสมกันจนเกิดผลของการผสมนั้นและเกิดความรู้สึกชอบหรือไม่ชอบหรือเฉยๆแล้วบันทึกไว้ในรูปแบบของรูปธรรมเนื้อสมอง หากไปตัดเนื้อสมองบางส่วน พลังงานอะตอมที่ใช้ร่วมกันอยู่ทั้งความจำ นิสัย อื่นๆ ก็เปลี่ยนแปลงไปบางส่วน หากยังไม่ตายพลังงานจิตก็ยังอยู่ แต่อาจสูญเสียความจำไปบางส่วนนิสัยจึงอาจเปลี่ยน ความจำต่างๆถึงแม้จะมีในเนื้อสมองแต่เมื่อตายลง จิตก็สามารถระลึกและเข้าถึงอดีตได้ เรียกว่ารู้ว่าระจิตตนเองได้หากฝึกอบรมสติมากพอ ดังจะเห็นในพระไตรปิฏกว่า เทวดา จะเล่าการกระทำในสมัยเป็นมนุษย์ได้......สนุกๆนะ เราเป็นเราอยู่ และมีจิตเดียวอยู่ในกายนี้

ฟังครั้งแรกครับ เข้าใจว่าคุณหมอน่าจะภาวนาด้วย อนุโมทนาครับ🙏🏼

ท่านหมอผู้นี้เป็นผู้ที่ควรจะได้รับการยกย่องจากกระผมว่า เป็นผู้มีความรอบรู้ในทางโลก(ความรู้ทางการแพทย์)และความรอบรู้ทางธรรม มีคุณสมบัติค่อนข้างสูงในระดับอริยบุคคล วิญาณที่เข้าไปตั้งอยู่ในสัญญาของท่าน สามารถถ่ายทอดออกมาให้เข้าได้ดีตรงตามคำสอนในพุทธวจน ผมขอชื่นชมท่านอย่างจริงใจครับ

ขอบคุณสำหรับความรู้ความเข้าใจที่ควบคู่กันไปทั้งทางวิทยาศาสตร์และพุทธศาสน์ ฟังเข้าใจง่ายดีค่ะ

สาธุ ในธรรมะ และความรู้ของท่านที่ให้สะดับรับฟังเป็นประโยชน์ทั้งในโลกนี้และโลกหน้าทำให้เกิดปัญญามองเห็นเส้นทางไปสู่ประตูสวรรค์ และนิพพาน และการใช้ชีวิตในปัจจุบันด้วยความไม่ประมาท ดั่งคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธะเจ้าที่ทรงแสดงไว้ครั้งสุดท้ายก่อนปรินิพพาน “หันทะทานิ ภิกขะเว อามันตะยามิ โว วะยะธัมมา สังขารา อัปปมาเทนะ สัมปาเทถะ”

หลักคำสอนของพระพุทธศาสนาคือหลักการทางวิทยาศาสตร์โดยแท้จริงค่ะ..ขอบคุณหมอที่นำหลักการทั้ง 2 ศาสตร์ ไขข้อสงสัยความเชื่อที่ผิดๆของคนที่นับถือพระพุทธศาสนา

อนุญาต แสดงความคิดเห็นด้วยคนครับเสนอแบบง่ายๆ ถ้าเปรียบเทีบกับคอมพิวเตอร์ มันก็มีทั้ง hardware และ software ครับ ร่างกายเราเปรียบเหมือน hardware วิญญานผมเปรียบเหมือน software วิญญานนั้นก็อยู่ในร่างกายเรานี่หล่ะครับ มันเคลื่อนที่ได้จะไปนิ้วหรือไปที่ไหนก็ได้ในร่างกายเรา จะอยู่ตับไตใส้พุงก็ได้ ( เหมือน software หล่ะครับ เคลื่อนไปตามจุดต่างๆใน hardware) การเคลื่อนที่ของวิญญานนั้น มี 2 ลักษณะใหญ่ๆคือ 1.คือการถอดวิญญาน สามารถจะเข้าร่างเดิมได้ 2.คือการตาย ขอย่อๆครับเดียวจะยาวเกินไป ผมสังเกตว่าเวลาคนตายนั้นทำไมถึงหนักมาก ผมไม่เคยเอาศพไปชั่งน้ำหนัก ถ้าใครมีประสบการณ์ รบกวนแจ้งด้วยนะครับ ผมเคยยกแต่ศพอยู่ในโลงแล้วยก 4 คนอย่างหนัก นอกจากศพแล้วก็มีโลงไม้อัด แค่นั้นหรือเพิ่มเบาะนอนก็ไม่น่าจะหนักมาก ที่ผมพูดมาถึงนี่จะบอกว่าวิญญานทำให้ร่างกายเราเบาขึ้นครับ ยิ่งคนที่ทำกรรมฐานหรือพระที่ปฎิบัติสมาธิแก่กล้าแล้วร่างกายจะยิ่งเบาเหมือนจะลอยได้ ประมาณนี้ครับ ผมก็แค่คิดแบบวิศวะ ไม่รู้ว่าคิดถูกหรือไม่อย่างไร หากผิดประการใดต้องขออภัยห้องคุณหมอด้วยครับ ขอบคุณครับ

52👵คุณหมอเล่าเรี่องได้สนุกมากเลยค่ะ ขอฝากตัวเป็นลูกศิษย์ โดยส่วนตัวชอบเรื่องอภิธรรมมากเลยค่ะ แต่ยังไม่มีโอกาสได้ศึกษาอย่างจริงจัง ชอบการอบรมเจริญปัญญาซึ่งเกี่ยวกับสมองโดยตรงเป็นเรื่องที่น่าสนใจมากค่ะ ความทรงจำในชีวิตประจำวันบางครั้งก็จำไม่ได้ว่าได้พูดอะไรไปแล้ว หน้าแตกบ่อยๆที่เราถามเรื่องเดียวกัน2ครั้ง อาจเกิดจากความประหม่าหรือโรคทางสมองก็ไม่แน่ใจนะคะ ไม่เคยไปตรวจค่ะ บางครั้งก็ลืมไปว่าได้ทำอะไรไปเมือกี้นี้ บางทีก็ไปกวาดบ้าน2ครั้งจำไม่ได้ว่ากวาดไปแล้วหรือยัง เพราะกีจวัตรทำตามความเคยชินสมองไม่ได้จำค่ะ อยากฝึกสมองให้ตัวเองมีความทรงจำที่ดีเยี่ยมค่ะ จะได้ไม่หน้าแตกไปทักคนผิดค่ะ 😊

สาธุสาธุค่ะ

ตากระทบรูป เกิดการรู้สิ่งปากฏทางตา เรียกว่าจักขุวิญญาณ หูกระทบเสียง ้กิดการรู้เสียง เรียกว่า โสตะวิญญาณ

สาธุ สาธุ สาธุ ครับคุณหมอ

ลมหายใจ ครับหมอ วิญญาน อาศัย ลมหายใจอยู่

มาตามฟังอาจารย์จากเมื่อ1 ปีมาแล้ว ขอบคุณอาจารย์ค่ะ

คุณหมอมีจิตใจโอบอ้อมอารี มีเมตตา ขอให้เจริญในธรรมยิ่งๆ ขึ้นไปครับ

วิญญาณตามความหมายในศาสนาพุทธ เข้าใจง่ายๆ คืออาการรับรู้ รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส มีอาการเกิดแล้วดับไปตามธรรมชาติ เช่น ขณะเมื่อมีแสงกระทบตา ก็มีจักษุวิญญาณเกิด เมื่อกำลังคิด(ต่อยอดจากการประมวลผลของสมองเป็นภาพที่เห็น) จักษุวิญญาณนั้นก็ดับไป เช่น ขณะเมื่อได้ยินเสียง ก็มีโสตะวิญญาณเกิด เมื่อกำลังคิด(ต่อยอดจากการประมวลผลจองสมองเป็นเสียงที่ได้ยิน) โสตะวิญญาณนั้นก็ดับไป ไม่ตรงกับ วิญญาณ "SOUL" ตามความหมายในศาสนา ยิว คริสต์ อิสลาม อะไรต่างๆ ที่เชื่อว่ามีเป็นตัวตนของคนทุกคน และอาจไปลงนรกหรือได้ขึ้นสวรรค์ และในการเปรียบเทียบก็แสดงออกเป็นดวงกลมๆอะไรต่างๆ ลอยไปมาตามแต่ผู้เขียนหนังสือ หรือสร้างหนังสร้างละคอนจินตนาการกันไป ต่อมาคนไทยใช้คำว่า "วิญญาณ" โดยยืมคำในศาสนาพุทธ แต่ให้ความหมายตามความเชื่อดั้งเดิมคือเป็นเรื่อง "ขวัญ" ซึ่งไกล้เคียงกับความหมายทางศาสนากลุ่มอับราฮัมมากกว่าความหมายทางพุทธ จึงทำให้คนไทยส่วนใหญ่ไม่เข้าใจความหมายของ "วิญญาณ" ในนิยามตามศาสนาพุทธ คือเข้าใจผิดเพี้ยนกันไปครับ

ฟังธรรมเพลินค่ะสาธุ

อนุโมทนาสาธุครับท่าน จิต มโน วิญญาณ อารมณ์เป็นที่ตั้งแห่งวิญญาณ สำหรับผมก็ฝึกภาวนาอยู่ครับแต่ยังไม่ถึงไหนเลย เพราะหยุดคิดปรุงแต่งไม่ได้เลย แต่ก็พอรู้สึกได้บ้าง เมื่อเจริญอานาปานสติสติปัฏฐาน 4 บ่อยๆ สติและสมาธิมีกำลัง แต่ส่วนใหญ่จะหลงมากกว่ารู้ 🤣 แต่พวกนิมิตนี้เคยเห็นอยู่ครับมหัศจรรย์มากๆ จิตมนุษย์นี้ฯ

สวัสดีค่ะคุณหมอพูดชัดเจนฟังแล้วเข้าใจง่ายและมีข้อมูลประกอบมืออาชีพค่ะสมเป็นอาจารย์หมอพูดถึงเรื่องที่ยากให้เข้าใจง่ายชอบมากที่เชื่อมโยงข้อมูลที่เชิงลึกที่พูดถึงวิญญาณว่าคือตัวรับความรู้สึกเทียบให้เห็นความรู้ทางวิทยาศาสตร์กับพุทธศาสนาได้ยอดเยี่ยมมองเห็นภาพชัดเจนชอบมากค่ะที่คุณหมอบอกว่าสมองคือสิ่งมหัศจรรย์จิตไม่ใช่เราเข้าหลักไตรลักษณ์อนิจจัง-ทุกขัง-อนัตตา บัณฑิตย่อมไม่เป็นผู้เพ่งโทษผู้อื่น-แต่จะเพ่งโทษตนเอง แทนจะได้เป็นการพัฒนาตนเองสาธุๆๆ

จิตหรือวิญญาณเป็นตัวรู้หรือธาตุรู้ ไม่เป็นรูปเป็นร่าง จิตหรือวิญญาณเกิดขึ้นได้ รู้ได้ทาง ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ สลับกันไปอย่างรวดเร็ว คือเกิด ดับ ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ดำเนินอย่างนี้ตั้งอดีต ปัจจุบัน ถึงอนาคตก็เป็นอย่างนี้ อย่างไม่มีสิ้นสุด จะสิ้นสุดก็ต่อเมื่อเข้าถึงปรินิพพาน

ดีต่อใจ​สบายใจ... สงบสงบ... จิตอยู่ไหน... ใจฉันสงบ​ขอบคุณเค่ะ

วิญญาณ เราว่าไปทั่วทุกแห่งตามพลังที่สะสมกันมา...แม้ในกายของสัตว์โลก ที่ตาจึงเห็น หูได้ยิน รับรสที่ลิ้น สัมผัสที่ผิว ได้กลิ่นที่จมูก เป็นต้น ...ชอบฟังการวิเคราะห์ของดร.วี ... สาธุ

@satudee1614

2 жыл бұрын

จิต(วิญญาณ)และเจตสิก(เปลือกนอกหุ้มจิต)เหมือนคู่แฝดแท้ ไปด้วยกันตลอด จิตบริสุทธิ์แต่เจตฯยังมีกิเลส...

ดูคลิปนี้เป็นคลิปแรก แล้วก็ย้อนดูหลายคลิป มีประโยชน์มาก กับตัวฉัน คำว่าชาติที่แล้วชาตินี้ชาติหน้า สำหรับฉันมีคำอธิบาย ที่ลึกลงไปกว่านั้นค่ะ

ขอบคุณค่ะ ที่ทำให้ได้มาเจอกัน ถือเป็นบุญ หลายครั้ง ที่เราออกนอกทาง นอกลู่ พอได้ฟัง คุณหมอ จิตก้อน้อม เข้ามาในทางดี ในวัย ที่กำลังใกล้ฝั่ง เพียงเราได้เจอ กัลยามิตรที่เลิศ นับว่าเปน วาสนา💖

อาจารย์ครับ อันตรายมากครับถ้าสอนให้รู้ผิดๆ ในทางธรรม แต่ถ้าเกี่ยวกับสารีระร่างกายเห็นด้วยครับ

ดีใจแทนผู้ป่วยที่มีคุณหมอเป็นคนรักษานะคะท่านเป็นคนที่โชคดีมากๆที่เจอคุณหมอท่านนี้ ขอบคุณคุณหมอนะคะที่เติบโตมาได้อย่างสวยงามแบบนี้ ขอให้คุณหมอสุขภาพแข็งแรง เป็นบุคลากรที่ทรงคุณค่ามากๆแบบนี้ตลอดไป♥️