ไข้เลือดออก อาการแบบไหนที่ต้องไปหาหมอ!! | พยาบาลแม่จ๋า

Тәжірибелік нұсқаулар және стиль

ช่วงนี้เข้าสู่หน้าฝนแล้วไข้เลือดออกกำลังระบาด
#ไข้เลือดออกเกิดจากอะไร
ไข้เลือดออกเกิดจากการติดเชื้อไวรัสเดงกีซึ่งเป็นไวรัสชนิดหนึ่งมียุงลายเป็นพาหะนำโรค
เมื่อยุงลายกัดคนที่เป็นโรคไข้เลือดออก ก็จะมีเชื้อไวรัสเดงกีอยู่ในตัว แล้วไปกัดคนอื่นๆที่อยู่ใกล้เคียงก็จะเป็นการแพร่เชื้อไปสู่คนอื่นๆต่อไป
#อาการของโรคไข้เลือดออกแบ่งเป็น 3 ระยะได้แก่
ระยะที่ 1 ระยะที่ 1 ระยะไข้สูง ผู้ป่วยจะมีไข้สูงเกิดขึ้นฉับพลันและไข้จะสูงลอยตลอดเวลาอยู่ประมาณ 2-7 วัน กินยาลดไข้ ไข้มักจะไม่ลด หน้าแดง ตาแดง ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดศีรษะ กระหายน้ำ เบื่ออาหาร อาเจียน ซึม บางรายอาจปวดท้องบริเวณใต้ลิ้นปี่หรือชายโครงขวาหรือปวดท้องทั่วไป และอาจมีท้องผูกหรือถ่ายเหลวร่วมด้วย ส่วนมากมักไม่มีอาการคัดจมูก น้ำมูกไหลหรือไอมากแต่บางรายอาจมีอาการเจ็บคอ คอแดงและไอเล็กน้อยประมาณวันที่ 3 อาจมีผื่นแดง ไม่คันขึ้นตามแขนขาและลำตัวอยู่ประมาณ 2-3 วัน บางรายอาจมีจ้ำเขียวหรือจุดเลือดออกเกิดขึ้นซึ่งมีลักษณะเป็นจุดสีแดงเล็กๆ ขึ้นตามหน้า แขนขา ซอกรักแร้ ในช่องปาก และอาจคลำพบตับโตกดเจ็บเกิดขึ้นได้ ในระยะนี้ถ้ามีอาการรุนแรงจะปรากฏอาการระยะที่ 2 ต่อไป
ระยะที่ 2 ระยะช็อกและมีเลือดออก อาการมักจะเกิดช่วงวันที่ 3 - 7 ของโรคซึ่งถือว่าเป็นช่วงวิกฤต โดยอาการไข้จะลดลงอย่างรวดเร็วแต่ผู้ป่วยมักมีอาการทรุดหนักและมีภาวะช็อกเกิดขึ้น คือ กระสับกระส่าย เหงื่อออก ตัวเย็น มือเท้าเย็น ปัสสาวะออกน้อย ชีพจรเต้นเบาแต่เร็ว ความดันเลือดต่ำ ซึม นอกจากนี้อาจมีเลือดออกตามผิวหนังหรือมีจ้ำเขียวพรายย้ำขึ้น เลือดกำเดาไหล อาเจียน และถ่ายอุจจาระเป็นเลือดสดๆ หรือเป็นสีกาแฟ ระยะนี้กินเวลาประมาณ 24 - 48 ชม. ถ้าไม่ได้รับการรักษาที่ทันท่วงทีอาจอันตรายถึงชีวิตได้ แต่ถ้าผู้ป่วยสามารถผ่านช่วงวิกฤตนี้ไปได้ก็จะเข้าสู่ระยะที่ 3
ระยะที่ 3 ระยะฟื้นตัว ในรายที่ได้รับการรักษาถูกต้องและทันท่วงที ภาวะช็อกไม่รุนแรงอาการต่างๆจะเริ่มดีขึ้น และอาการที่แสดงว่าผู้ป่วยดีขึ้น คือ เริ่มรับประทานอาหารได้ ลุกนั่งได้ และร่างกายจะค่อยๆฟื้นตัวสู่สภาพปกติ ระยะนี้อาจกินเวลาประมาณ 2-3 วัน รวมระยะเวลาของโรคไข้เลือดออกที่ไม่มีภาวะแทรกซ้อนประมาณ 7-10 วัน
#ช่วงที่อันตรายที่สุดของโรคไข้เลือดออก
ในช่วงที่รักษาตัวจนไข้ลด ภายใน 48 ชั่วโมง ผู้ป่วยที่มีอาการหนักอาจเกิดอาการช็อก หรือเลือดออกตามร่างกาย ซึ่งสาเหตุจากการเสียชีวิตในโรคนี้ก็มาจากอาการช็อก ร่างกายขาดน้ำอย่างรุนแรง (แม้เราจะไม่เห็นผู้ป่วยมีอาการขาดน้ำจากภายนอกแต่ย่างใด) น้ำในหลอดเลือดจะไหลไปอยู่ในเนื้อเยื่อข้างเคียง ความดันเลือดลดลง จนเกิดอาการช็อกตามมา แต่หากไม่แสดงอาการใดๆ ก็จะถือว่าปลอดภัยแล้ว
#โรคไข้เลือดออกติดต่อได้อย่างไร
#ยุงลายที่เป็นพาหะของโรคไข้เลือดออก คือ ยุงลายตัวเมีย มีลักษณะเป็นลายสีขาวสลับดำที่ท้อง ลำตัวและขา พบมากตามบ้านอยู่อาศัยและในสวน ออกหากินในเวลากลางวันและขยายพันธุ์โดยวางไข่ในน้ำนิ่ง พบบ่อยตามภาชนะที่มีน้ำขัง เช่น โอ่งน้ำ แจกันดอกไม้ จานรองขาตู้กับข้าว ยางรถยนต์เก่า และเศษวัสดุอื่นๆ เป็นต้น
#การป้องกันตนเองไม่ให้ถูกยุงลายกัด
นอนในมุ้งหรือห้องที่มีมุ้งลวด
จุดยากันยุงหรือใช้ยาทาหรือยาฉีดกันยุง และควรใช้อย่างระมัดระวัง
ไม่ควรอยู่ในบริเวณที่อับลมหรือเป็นมุมมืด มีแสงสว่างน้อย
หมั่นอาบน้ำชำระร่างกายให้สะอาดเพราะเหงื่อจะดึงดูดให้ยุงกัดมากขึ้น
#วิธีควบคุมแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย ทำได้ดังนี้
กำจัด - ทำลาย - ฝัง - เผา เศษภาชนะที่ไม่ใช้ภายในบ้านและบริเวณรอบบ้านไม่ให้มีน้ำขัง
ควรปิดฝาโอ่งน้ำดื่ม น้ำใช้ ให้สนิท
ใส่ผงซักฟอกหรือน้ำส้มสายชูหรือเกลือแกงหรือขี้เถ้าหรือทรายอะเบต หรือเทน้ำเดือดลงในจานรองขาตู้ทุกสัปดาห์
ใส่ปลาหางนกยูงลงในอ่างบัว ถังเก็บน้ำในห้องน้ำเพื่อกินลูกน้ำ
ขัดล้างภาชนะเก็บกักน้ำ เพื่อขจัดยุงลาย
เปลี่ยนน้ำในแจกันดอกไม้ทุก 7 วัน เพื่อทำลายไข่ยุงลาย
ทำความสะอาดรางระบายน้ำฝนให้สะอาด
ปรับปรุงสภาพแวดล้อมรอบบ้าน ชุมชน ให้สะอาด
#การดูแลตนเองหากเป็นโรคไข้เลือดออก
ในระยะ 2 - 3 วันแรกของการเป็นไข้ถ้ายังรับประทานอาหารและดื่มน้ำได้ ไม่อาเจียน ไม่ปวดท้อง ไม่มีจ้ำเลือดขึ้นและยังไม่มีอาการเลือดออกหรือภาวะช็อกเกิดขึ้น ควรปฏิบัติดังนี้
- ให้ผู้ป่วยพักผ่อนมากๆ
- หากมีไข้สูงให้ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดตัวบ่อยๆและให้ยาลดไข้พาราเซตามอล
ห้ามให้ยาแอสไพริน โดยเด็ดขาด เพราะอาจทำให้มีเลือดออกได้ง่ายขึ้น
- ถ้าเป็นผู้ป่วยเด็กและเคยชัก ควรให้รับประทานยากันชักไว้ก่อน
- รับประทานอาหารอ่อนๆ เช่น ข้าวต้ม โจ๊ก และดื่มน้ำมากๆ
- เฝ้าสังเกตอาการผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด
ถ้าผู้ป่วยอาเจียนมากหรือมีเลือดออกหรือมีภาวะช็อกเกิดขึ้นควรรีบส่งโรงพยาบาล
เรื่องที่ต้องรู้เกี่ยว ไข้เลือดออก
ถึงแม้ว่าเราจะรู้สาเหตุว่า 'โรคไข้เลือออก' นั้นเกิดมาจากอะไร และควรที่จะปฏิบัติตัวเพื่อให้ห่างไกลสิ่งเหล่านั้นอย่างไร แต่ก็ยังข้อมูลอีกไม่น้อยที่เป็นความเชื่อผิด รวมถึงสิ่งที่ยังไม่รู้อีกมาก วันนี้เราจะลองเอาให้ได้ทบทวนกันอีกครั้ง เพื่อให้การป้องกันไข้เลือดออกสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น
#เมื่อเป็นไข้เลือดออกแล้วจะไม่กลับมาเป็นอีก
จริงๆ เรื่องนี้ก็มีทั้งถูกและผิด เพราะเมื่อเป็นไข้เลือดออกครั้งแรกแล้ว ร่างกายของเราก็จะมีภูมิคุ้มกันเพื่อป้องกันไม่ให้กลับมาเป็นอีก แต่ ! เชื้อไว้รัสที่เป็นต้นตอของไข้เลือดออกนี้มีอยู่ 4 สายพันธุ์ หากติดเชื้อจากสายพันธุ์ใดสายพันธุ์หนึ่งแล้วก็จะมีภูมิคุ้มกันของสายพันธ์นั้น ถ้าหากเราติดเชื้อเป็นครั้งที่ 2 ซึ่งเป็นคนละสายพันธุ์กันกับในตอนแรก ภูมิคุ้มกันที่มีก็จะป้องกันสายพันธุ์ใหม่นี้ไม่ได้ทั้งหมด ก็อาจทำให้เป็นไข้เลือดออกได้อีก และอาจรุนแรงกว่าเดิมมาก
#กลุ่มอายุที่มักป่วยเป็นไข้เลือดออก
คือ กลุ่มอายุ 5 - 14 ปี ซึ่งผู้ป่วยที่พบได้มากที่สุดจะเป็น นักเรียน ฉะนั้น เมื่อไปโรงเรียน อย่าไปอยู่ในที่ที่มียุงลายที่ที่มีน้ำขังหรือมุมมืด
Cr.กรมควบคุมโรค

Пікірлер: 4

  • @pcr9971
    @pcr997119 күн бұрын

    ของผมนี่2วันแรกไข้ขึ้นสูงมากเลยไปหาหมอ เอายามากินเช้าวันที่3ไข้ลดเลย แต่ก็ยังปวดหัวปวดตาอยู่นิดหน่อยตอนนี้วันที่4แล้วยังกินข้าวไม่ได้กินแต่ผลไม้

  • @arongberaheng4019
    @arongberaheng40194 жыл бұрын

    ขอบคุณครับ

  • @user-ip4li8vk2t
    @user-ip4li8vk2t21 күн бұрын

    ผึ้งต่อแตนเป็นพาหะมั้ยครับ?

  • @Mamy_Nurse

    @Mamy_Nurse

    20 күн бұрын

    พาหะโรคอะไรคะ

Келесі