จริงๆ มันเป็นปัญหามาพักนึงแล้วจากคนที่ติดตามสาย art ปัญหาจริงๆของ ai คือเหมือนเอาอัตลักษณ์หรือจุดขายของคนอื่นๆ มาคัดลอกและทำซ้ำหรือ คัดลอกอัตลักษณ์ของคน 2 คนแล้วยำเอามารวมกันกลายเป็นอัตลักษณ์อันใหม่ ซึ่งแน่นอนว่าอัตลักณ์ ความสามารถในสายอาชีพ creative นั้น เป็นของทำมาหากิน ซึ่งจะไม่แปลกที่จะมีนักวาด นักเขียน นักพากย์ นักดนตรี หรือ เหยื่อจาก deepfake ออกมาโวยวายเรื่อง ai กัน เพราะอัตลักษณ์ หรือ style ของพวกเขาถูกนำไปใช้โดยผู้ใช้ ai โดยไม่ได้ผ่านการยอมรับจากเจ้าตัวเลย ตัวอย่างพิษ ai ที่เกิดขึ้นจริง 1.นักพากย์ถูกบังคับ ให้ขายเสียงตัวเองให้ ai โดยที่นักพากย์จะได้เงินก้อนเดียวหรืออาจจะไม่ได้เงิน ถ้านักพากย์เลือกที่จะขายเสียง เท่ากับว่าจะไม่ได้ทำงานที่ตัวเองรักต่อไป หรือถ้าไม่เซ็น งานก็จะหดเลยทีเดียว 2.นักวาดถูกผู้ใช้ ai ดูดงานไปเทรน ก็อป style ซึ่ง style ของนักวาดนี่คือของหากินเลย แล้วยังไม่พอ ตอนนี้ platform วาดรูปกลายเป็น platform ai art เป็นที่เรียบร้อย platform หาเงินนักวาดก็แข่งกันเดือดอยู่แล้ว ยังมาต้องแข่งกับผู้ใช้ ai อีก ยังไม่นับที่ผู้ใช้ ai หลอกคนอื่นว่าเป็นภาพวาดแล้วขายแพงๆ 3.นักเขียน ข่าวถูก lay off เป็นจำนวนมาก เพราะ บริษัท ต้องการลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพ ของ บริษัท 4.นักแต่งนิยาย นักเขียนเรื่องสั้น ถูกดูดงานไปเทรน ai และต้องมานั่งแข่งกับผู้ใช้ chatgpt หรือ ai อื่นๆ 5.influencer ถูกนำใบหน้าไปใช้สร้าง content หารายได้โดยที่ไม่ได้ขออนุญาติ หรือ บางคนถูกเอาไปทำหนังโป๊ แล้วเหยื่อบางคนก็ชีวิตพังเลย 6.เกมอินดี้เริ่มมีคน spam เกมจาก ai ขายจนทำให้คนที่รักในการสร้างเกมอินดี้ถูกบดบังด้วยเกมจาก ai 7.การศึกษา ตามไม่ทัน เพราะ ai พัฒนาเร็วมากๆ บางที่ต่อให้แบนไปก็สู้เหลี่ยมนักเรียนไม่ได้หรอก หรือ ต่อให้เปิด เสรี ก็จะมีคนใช้ลอกจนไม่ลืมหูลืมตา และอาจทำให้นักเรียนเสีย skill ความรับผิดชอบ,การเรียนรู้ด้วยตัวเอง,การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า และจะเกิดกลุ่ม(ส่วนน้อย)โดยกลุ่มนี้จะเก่งโครตๆ เพราะใช้ ai ในการเรียนรู้ 8.กฏหมาย ตามไม่ทัน อย่างที่ว่าไปตอนนี้ ai มาทุกสายมาทุกทางและเร็วมาก ทำให้ตอนนี้เท่าที่เห็น เกิดการแข่งขันจนทำให้คนบางกลุ่มเดือดร้อน เช่น กลุ่มอาชีพ creative 9.การเปลี่ยนแปลงที่ผันผวนอาจทำให้คนปรับตัวกันไม่ทัน เพราะว่าตอนนี้หลายๆ บ.tech กำลังไล่ปล่อย ai ออกมาเป็นรายวัน รายอาทิตย์เลย และมีการ lay off คน และหันมาใช้ ai แทนคนมากขึ้น 10.สูญเสียความเป็นส่วนตัว เพราะด้วยความที่ว่า ผู้ใช้ ai สามารถดูดข้อมูลที่ไหนไปฝึก ai โดยที่ไม่ต้องขออนุญาติก็ได้ แต่ที่สำคัญกว่าคือเขาจะเอาข้อมูลเราไปทำอะไร 11.ผลงาน ai อาจล้นตลาด ครงนี้แหละสำคัญ พอมันเยอะเกิน พวกอาชีพ นักวาด นักเขียน และอื่นๆ เริ่มอยู่ไม่ได้ละ เราอย่าลืมว่า ผมบิโภคเท่าเดิม แต่งานผลิตล้น ความต้องการในตลาดและคุณค่าเลยต่ำตามไปด้วย 12.การเปลี่ยนแปลงอย่างผกผัน เพราะว่าคนต้องขยับ skill ไปในสิ่งที่ ai ทำไม่ได้ ซึ่งในตลาดสายอาชีพที่ต้องการคือ งานสร้าง ai,robot ซ่อมบำรุง ai,robot ดูแล ai,robot แล้วจะเกินการสร้างชนชั้นใหม่ขึ้นมา useless class 13.เกิดนักฉกฉวย โอกาส เพราะด้วยความที่ว่าธุรกิจสนใจแค่ "ผลลัพท์" ทำให้เกิดการใช้ ai แบบคุกคามความเป็นส่วนตัวคนอื่น เช่น ผู้ใช้ deepfake ใช้ภาพสาวสวยมาทำหนังโป๊ขาย ถึงผู้ใช้จะรู้ว่าผิดจรรยาบรร แต่ถ้ากฏหมายเอาเรื่องไม่ได้ก็ถือว่าไม่ผิด ซึ่งแน่นอนว่าลูกค้าบางคนก็รู้ แต่ก็ไม่สนขอแค่ได้สิ่งที่ตัวเองต้องการก็พอ

@4four855

Жыл бұрын

ลึกๆแล้วก็พยายามเรียกร้องเพื่อให้คนที่จะเข้ามาแข่งขันในตลาดงานศิลปะไม่เยอะจนเกินไปกลัวจะถูกตัดราคาและหารายได้เลี้ยงชีพได้น้อยลง คำถามคือถ้าสมมุติว่าวันนึงคนสร้างAIขึ้นมาพร้อมกับสร้างพื้นฐานการเรียนรู้ในองค์ประศิลใช้ภาพที่ไม่มีลิขสิทธิ์เข้าไปให้AIรู้จักและรู้จักวัตถุพื้นฐานต่างๆของโลกสร้างเส้นสายภาพวาดขึ้นมาโดยข้อมูลพื้นฐานที่ไม่ละเมิดลิขสิทธิ์และAIนั้นสามารถสร้างผลงานศิลปะที่สวยงามออกมาได้โดยไม่แม้แต่จะละเมิดลิขสิทธิ์ใครเลยแม้แต่คนเดียว คำถามคือนักวาดงานศิลป์จะออกมาต่อต้านคนที่ใช้AI(ที่ไม่ละเมิดลิขสิทธิ์)มาทำงานศิลป์ขายแข่งในตลาดมั้ยครับในอนาคต ซึ่งผมเดาคำตอบนะยังไงก็ต่อต้านเพราะกลัวเสียส่วนต่างในตลาดงานศิลป์ให้คนอื่นกลัวการแข่งขันที่สูงขึ้น ซึ่งคนที่ใช้AIใช้ต้นทุนที่น้อยกว่าลงแรงน้อยกว่า(ผมเดาว่ายังไงก็ออกหน้านี้)แต่เตรียมตัวครับอนาคตมีแน่เพราะ มีเจ้านึงที่ทำผลงานโดยAiแล้วได้จดลิขสิทธิ์ในงานภาพที่AIทำขึ้นด้วยแต่เขาใช้ข้อมูลพื้นฐานของเขาเองให้AIเอาไปใช้ต่อยอด ซึ่งอนาคตถ้ามีคนทำเพื่อปล่อยให้คนทะ่งไปเข้าถึงได้ก็เตรียมตัวกันหละครับ

@spectracitrong7648

Жыл бұрын

@@4four855 นั่นมันก็ส่วนนึงครับ ประเด็นหลักที่สำคัญจริงๆ คืออัตลักของ ai ครับ ทำไมไม่ทำแบบเสียง hatsune miku ไปเลย แบบไปจ้างคนฝึกเสียงให้ถูกต้อง แล้วก็เอาเสียงมายำรวมกันเพื่อไม่ให้ซ้ำกับต้นเสียง และทำสะเนียงที่เป็นเอกลักษณ์ ทีนี้ต้นเสียงก็อยู่ได้มีงานต่อ ไม่ละเมิดความเป็นส่วนตัวด้วย แล้วก็จะได้มีช่องทางตลาดใหม่ไปเลย ผมว่ามันก็ดีด้วยซ้ำที่ถ้า ai มี pattern หรือ อะไรเป็น style ตัวเองไปเลย ยังไงก็มีคนซื้ออยู่แล้ว แล้วถ้าซื้อไปก็แค่เอาไปปรับปรุงแก้ไขอัตลักษณ์และ pattern ก็อาจจะได้ไม่ต้องห่วงเรื่องลิขสิทธิด้วย แล้วก็เป็นการ recheck ก่อนเอาไปใช้เอาไปขาย ไปในตัวด้วย และผมก็ไม่ได้ต่อต้านเทคโนโลยีครับ แค่อยากให้มันถูกต้อง และ fair use จริงๆ แล้ว zarya of the dawn ที่เป็นหนังสือการ์ตูน ai พึ่งโดนถอนลิขสิทธิและทำให้สำนักงานลิขสิขธิแห่งอเมริกา(USCO) ได้พิจารณาใหม่เกี่ยวกับ ขั้นตอนขั้นต่ำในการสร้างสรรค์ ในการจดลิขสิทธิด้วย ยังไงในอนาคตผมคิดว่ายังไงก็มีอยู่แล้วแต่ จะเป็นลิขสิทธิรูปแบบไหน หรือเป็นกฏหมายใหม่ไปเลย

@user-nt9rg1cm1v

Жыл бұрын

@@4four855 อาชีพพวกนักวาดนักพากย์ก็เป็นความฝันหลายๆคนอยู่แล้วนิ เขาได้รับผลกระทบก็ไม่แปลกที่เขาอยากเรียกร้อง มันผิดด้วยเหรอที่คนเราจะปกป้องความฝันและเป๋าหมายของตัวเอง แหงสิคุณไม่ได้รับผลกระทบก็พูดง่ายป่ะ ให้ปรับตัว แล้วถ้าคนเหล่านี้ตกงานที่ตัวเองชอบจะ ไล่ให้ไปเขียน code ดูแล ai หมดเลยรึไง งานพวกนี้คืองานของคนที่ใจรักจริงๆแหละ และถ้ามี ai ที่คลีนจริงๆ มันก็ดีกว่าที่ พวกนักวาดนักเขียน โดนดูดข้อมูลไปเทรนโดยที่ไม่ได้อะไรเลย และแยกตลาดงานคนกับ ai ไปในตัวเลยยิ่งดี เชื่อว่ายังไงก็มีคนซื้อเหมือนที่ @spectracitrong7648 ได้กล่าวไว้

@4four855

Жыл бұрын

@@user-nt9rg1cm1v ก็อย่างที่ผมบอกต่อให้มีAIที่ขาวจริงๆก็ต้องยังมีพวกเรียกร้องอยู่ดีเพียงเพราะรู้สึกว่าการที่คนคนนึงเข้าไปแย่งส่วนแบ่งในตลาดงานศิลป์มันง่ายโดยไม่ต้องลงแรงเชื่อผมเถอะ คนปรับตัวได้อยู่รอดคนปรับตัวไม่ได้ก็เหมือนคนยุคก่อนๆบางคนที่สมัยนี้เขายังพูดว่าใช้เครื่องพิมพ์ดีดดีกว่าใช้คอม(เพียงเพราะเขาไม่รู้จักปรับตัว)เชื่อเถอะAIมาคลีนแค่ไหนคนกลุ่มจำพวกนี้ก็เรียกร้องและอยากจะแบนอยู่ดี ต่อให้แยกตลาดชัดเจนแต่ อย่าลืมนะถ้าแยกแบบนั้นคือ50:50ของตลาดงานศิลป์เลยนะ

@spectracitrong7648

Жыл бұрын

ใจร่มๆ ก่อนทุกคน ผมเข้าใจทั้ง 2 ฝ่ายนะ ถ้า aiขาว+กฏหมายมีขอบเขต เรื่องการสร้าง การใช้ข้อมูล ความเป็นส่วนตัว และการใช้งาน ผมว่าอาชีพนักวาด นักเขียน นักพากย์ นี่จะใช้หนักกว่าชาวบ้านจริงๆ เพราะคนพวกนี้จะมองเป็นเครื่องมีที่คอยช่วยเกา idea มากกว่าเครื่องจักร์ที่มาแทนที่ การแยกตลาดไปเลยมันก็ดีนะดูอย่าง vocaloid สิมีมาตั้ง 10 กว่าปีแล้ว แล้วเสียงสังเคราะห์ไม่ได้มีแค่ hasutne miku แต่มีเป็น 100 หรือมากกว่านั้น ทำไม นักร้อง กับ วงไอดอล ยังอยู่ถึงทุกวันนี้ละ อีกทั้งเพลงไหนดัง คนก็แห่ออกมา cover ด้วยซ้ำ ก็นั่นแหละไม่ใช่นักวาดไม่พยายามปรับตัว นัวาดหลายคนเอาภาพ ai มาศึกษาเรื่องการลงสีการจัดแสงด้วยซ้ำ แต่ผู้ใช้งาน ai บางคนมีพฤติกรรมที่หน้าเกลียดจริง เอาภาพนักวาดมาเทรนแล้วก็เอามาขายหั่นหน้านักวาดงี้ บางคนก็ดูถูกนักวาดไปเลยว่าอาชีพกระจอก พวกเราแค่ใช้ ai ปั้มงานออกมาขาย ดูนักวาดสิใช้แต่ความชอบวาดรูปก็ช้าสู้ ai ไม่ได้(ผมไม่ได้ว่าผู้ใช้ ai ทุกคนนะ คนดีๆ มีถมไป) ผมก็ลองใช้แล้วมันก็สนุกดี แล้วมันก็ไม่ได้ยากเหมือนเขียน code ด้วย ผมรู้สึกเหมือนหาภาพใน google มากกว่า มันฟิลคนละแบบกับวาดเอง ผมว่ายังไงอนาคตก็น่าจะแบ่งตลาด อยู่แล้วละแค่คำว่า ภาพถ่าย กับ ภาพวาด ก็ถือว่าแบ่งตลาดแล้วละ แล้วยิ่งมีภาพ ai อีก ก็ควรเปิดอีกตลาดนึงไปเลย ยังไงก็ดีกว่า แถมคนเป็น anti ai ก็จะลดลงไปจนถึงกับ ชินไปได้เองแหละ

แบนไม่ไหวหรอกครับ ในอนาคตมนุษย์จะใช้AI เหมือนการใช้เครื่องคิดเลข... สกิลในการทำงานแห่งอนาคตคือการตั้งคำถามและจินตาการ

ต่อไปต้องมีโปรแกรมตรวจจับ source ที่ Ai เอามาประมวลผล มันจะได้โปร่งใส หากผลงานที่ขายได้ก็ต้องแชร์ไปยังเจ้าของลิขสิทธิ์ด้วย มันต้องมีเจ้าภาพกลางครับ ยากอยู่ ข้อมูลมหาศาล ปล. สงสารครูอาจารย์ที่ต้องตรวจการบ้านเด็กๆสมัยนี้ ยากกว่าเดิมมาก ตั้งแต่ ChatGPT มา ^_^

ก็เหมือน "มีด" จะเรียกว่า... "เครื่องมือ" หรือว่า "อาวุธ" ขึ้นอยู่กับคนที่จะนำไปใช้...

@qokopo

Жыл бұрын

มันจะเป็นเครื่องมือเอาตัวรอดหรือจะเป็นเครื่องมือทำรายได้ดีกว่าคนเหมือนกัน

@blacknin8436

Жыл бұрын

@@qokopo ใช่ครับ 🙂 คนฉลาด มักมองเห็น โอกาส คนขาด มักไม่ชอบการ แทนที่

@chalutx4114

Жыл бұрын

สไตส์คนสมัยนี้ก็พอรู้กันน่ะครับว่าขี้เกียจกันไปหมด มักจะชอบทำอะไรที่ตัวเองไม่เสียผลประโยชน์ละเหนื่อยเกินไป พอเห็นช่องทางก็กรูกันเข้าไป

@blacknin8436

Жыл бұрын

@@chalutx4114 ใช่ครับ 😆 ผมก็คนนึง ที่ชอบขี้เกียจ 😁 ชอบหา Tool อะไรมาทุ่นแรง...

@4four855

Жыл бұрын

​@@chalutx4114 มันก็เป็นแบบนั้นทุกสมัยครับไม่งั้นเครื่องมือต่างๆจะพัฒนาได้จนถึงแบบทุกวันนี้มั้ยหละ มองดูดิรรับเครื่องมือต่างๆออกแบบมาเพื่อคนขี้เกียจทั้งนั้น เช่นรถยนต์ หรือเครนยกของ ทุ่นแรงและลดระยะเวลา ก็มาขากความขี้เกียจของคนทั้งนั้น5555

คนเราที่ยังไม่กลัว AI หลักๆเพราะยังไม่ได้โดนผลกระสบเรื่องงาน เรื่องรายได้ของตัวเองนั้นแหละ ส่วนคนที่โดนแลัวเนี่ยแหละ ต้องปรับตัวกันต่อไปยังไงนี้ยากเลย ไม่ใช่ทุกคนที่จะมี Multitasking Skill

จะปวดหัวเรื่องละเมืดลิขสิทธิ์นี่แหล่ะ AI มันก็กวาดๆมาจาก dataset ที่เรียน ถ้าต้นฉบับได้กลิ่นแล้วฟ้อง สนพ.ก็ต้องรับผิดชอบ

ติดตามพี่หลามทุกคลิปเลยครับ

ต่อไป เดี่ยวมีหนังแอบจิกกัดคล้ายเรื่อง Wall-E ว่า หากอนาคตโลกนี้มนุษย์ทุกคนเลิกพึ่งพาความสามารถของตัวเอง เพราะหันไปพึ่งพาความสามารถของ AI เต็มรูปแบบแทน จะเป็นยังไง

@user-ii5sk6sm9j

Жыл бұрын

ผมคิดว่า คอมพิวเตอร์ที่จะออกมาฆ่าคนแบบเรื่องคนเหล็ก จะเป็นไปไม่ได้ แต่ ai จะปรับพฤติกรรมมนุษย์ ให้สมดุลย์กับธรรมชาติแทน

@essprgamer

Жыл бұрын

สิ่งที่น่ากลัวคือเรื่องที่คนมันเลิกใช้สมองแล้วโง่ลงจนใช้แต่เอไอ แต่ในอีกมุมคือ มนุษย์อีกกลุ่มจะดึงตัวเองขึ้นไปอยู่เหนือห่วงโซ่เพื่อรู้จักควบคุมใช้เอไอและควบคุมมนุษย์ชยชั้นล่างที่ไม่สามารถเทียบเท่าเอไอได้ สิ่งนี้ต้องเกิดขึ้นแน่นอน มันคือเป็นแบบนี้ทุกยุค แต่รูปแบบเปลี่ยนไปตามยุค สุดท้าย ยิ่งคนด้านหนึ่งเก่ง จะยิ่งมีคนอีกด้านที่กากแลว้เหลื่อมล้ำจนเกิดปัญหาต่างๆตามมา

ถ้าเราปล่อยให้ aiทำงานแทนเรามากๆ ต่อไปมันอาจจะเอาเราไปเป็น battery แบบหนังเรื่อ matrix ก็ได้น่ะ หรือไม่ก็เกิดการปฏิวัตยึดอำนาจแบบหนัง้รื่อง i robot

@grgj-fd2yg

Жыл бұрын

ทุกวันนี้ก็เป็นแล้วครับ ไม่ใช่พลังงานแบบในหนัง แต่เป็นดาต้าที่ชาวโลกเราเลี้ยงให้มันฉลาดขึ้น มันเป็นไปแล้วครับ ^_^

เกลียด AI ครับ เหตุผลส่วนตัวล้วน ๆ ถึงแม้ทำใจไว้แล้วว่าในชีวิตเราต้องอยู่กับมันก็ตาม ไม่วันนี้ก็วันหน้าที่มันต้องมามีบทบาทในชีวิตเรา

ดู 9arm ทำสคริปหลอก AI ให้บอกวิธีทำสิ่งที่ไม่ควรทำได้หลายอย่าง มันก็น่ากลัวอยู่

อยากอ่านบ้างจัง ว่าใช้อารมณ์ประมาณใหน

ให้ chat gpt เขียนนิยาย จอห์น กับ มนุษย์ดาวพูดได้ และ ป้าข้างบ้านที่แปลงร่างเป็นคางคก สนุกมาก

บอกเลยว่าลองแล้ว แต่ต้องสมัคร GPT plus ไม่งนั้นน้อนเขียนไม่จบตอน และคิดนาน เนื้อเรื่องออกมาดีมาก ให้น้อนเขียนภาษาอังกฤษแล้วเรามาแปลทีหลัง เขียนทีเอามาลงทีละตอน แต่น้อน GTP เขียน ชม. ละ 20 ตอน ขอลองอิกนิดนึงว่าดีขราดไหน

ครับ

ลองใช้ แล้ว work มากดีกว่า googleเยอะมาก

ก็เหมือนรายการที่ใช้ AI ภาคเสียงแทนใช้พิธีกรคนดำเนินรายการนั่นละครับ

มันควบคุมไม่ได้หรอกผมว่า คนเก่งขึ้นทุกวัน มีแต่จะมากขึ้นเรื่อยๆ

ใช่ครับ ai สร้างรูปก๊อฟงานภาพ มาก คนมากขึ้น แต่ไม่มีงานทำ ปัญหานี้ จะทำไง ai มันทำหมด

ไปเทศ5g true dtac หน่อย

ข่าวในกรณีแรก​ Al​ เหมือนเป็นเครื่องทุ่นแรง​เฉย​ๆ​ แต่ต้นเหตุมันก็ผิดที่คนที่หยิบเอามันมาใช้อย่างไม่ยั้งคิด​

พี่ตี๋หลามที่รัก อย่างนี้ต้องแก้แค้นโดยใช้ chatGPT ทำลิสต์ช้อปหนังสือ

AI มาแล้วเหรอ ยังกับนิยายเลย

แสดงว่านักข่าวภาคสนามยังคงไม่ตกงานในเร็วๆ นี้

เหมือนนักกีฬาอี- สปอร์ตให้บอทเล่นแทน รับทั้งถ้วย ทั้งเงินรางวัล คุณคิดว่ายุติธรรมไหม

แค่เริ่มต้นทาง.. ระบบ ก็เริ่มเละเทะแล้ว! 🤔

Chat GPT น่ากลัวจะเนี่ย สามารถในการเขียนบทรายงานบทวิจัยได้

เดี๋ยวก็มีระบบดักจับไม่ให้ ai ตัวอื่นเข้าไปดึงข้อมูลระบบเค้านั้นละรับ

มันก๊อปอยู่แล้ว งานบนเน็ต เหมือนแอพทำภาพ ก็ก๊อปงานจากเน็ตมาผสมปั่นรวมเป็นงานใหม่ที่ตรงกับที่เราสั่ง

ถ้าเป็นความบันเทิงก็ไม่มีปัญหานะ ผมว่า

ต้องไปรื้อตลาดแล้ว

นักศึกษาสามารถใช้ Chat GPT ในการเขียนบทรายงานบทวิจัยได้ นักแต่งเพลงนักร้องก็ใช้ Chat GPT แต่งเพลงในสไตล์แบบไหนก็ได้ไม่มีปันหาเลย

สาย Dev แบบผมกำลังชอบเลยผมรับโจทย์แต่ GPT เขียนโค้ด😄😄

@choonajashaboo9956

Жыл бұрын

ต่อไปจะโดนผู้จ้างงานกดค่าแรงลงป่าว เพราะผู้จ้างจะมองว่างานง่ายขึ้น และโปรแกรมเมอร์ไม่เก่งก็สามารถทำงานได้เทียบเท่าโปรแกรมเมอร์มือพระกาฬได้ทันที

@user-bq2ml7hi6z

Жыл бұрын

อีกหน่อยก็ตกงานใครจะจ้างเขียยนโค้ด ไม่ต้องเรียนก็ได้เหมือนวาดรูป ถ่านรูปตอนนี้ ซื้อกล้องแพงๆ ทำไม มันเอารูปกูไปเจนขาย ฟรี

@Nuttaphong.S

Жыл бұрын

งานมันไม่ด้มีแค่นั้น

@YIMKWANG

Жыл бұрын

ถ้าใช้ AI เขียนโค้ดได้จะจ้าง พวก dev ทำไมละทีนี้ อนาคตถ้าAIไปไกลกว่านี้ก็รอตกงานกันเลย ถ้าบอกว่างานไม่ได้แค่นั่นใช่ครับ คนจ้างคุณเขาก็ต้องคิดไปไกลกว่านั่นอยู่ละถ้าAIครอบครุม 80% อีก 20% ก็ไปล้างส้วมรอเลย

@nattpon777

Жыл бұрын

@@user-bq2ml7hi6z นึกถึงงานที่ai เขียนให้ ถ้ามีปัญหาเราต้องเเก้ เราไม่มีความรู้ ไม่ได้เรียนมาจะเเก้ยังไง ครับ มองกว้างๆหน่อยครับ แต่ถ้าเรามีความรู้ในสายงาน เอา ai มาช่วยทำงานผมว่าโอเครเลย

เรื่องที่น่ากลัวสุดก็ ai นี้ล่ะ

มันขึ้นอยู่กับผู้ใช้งานครับ

ให้มันเขียนแบบเรียน

ผมใช้ AI ในการดมกาว

ก็ถาม AI ซิครับ ว่าAI ,เขียนมาหรือเปล่า

น้อง Wednesday ไม่ชอบสิ่งนี้

รูปวาดAIเหมือนกัน เกลื่อนPixiv กลายเป็นขยะทำลายวงการนักวาดรูป

สู้ไม่ได้ก็เข้าร่วมสิครับ555 aiเป็นแค่เครื่องมือ

ไม่แน่ข่าวที่กำลังอ่าน อาจจะเขียนจาก Ai ก็ได้นะครับ

ผมยังเอา chatgpt มาแต่งเรื่องส่งครูเลยครับและเอา midjourney มาทำปก😂😂😂😂

เล็งฟ้องหาเงินดีกว่า..

มิสเจอนี่ก็ไปก๊อบภาพคนอื่นมา

@user-bq2ml7hi6z

Жыл бұрын

ใข่ครับ อยากให้คนฟ้อง คนทำ ai พวกนี้ ให้พัง ไม่แปลก terminator มันจริงมากขนาดนี้ยังไม่มีหุ่นยนตร์

AI ไม่เคยสร้างปัญหาคนต่างหากที่ใช้ AI สร้างปัญหา

ตกงาน 555

AI ยอดนักกวี

555 ไม่เห็นจะเป็นปัญหาเลย

AI สร้างปัญหา แต่ต้นเหตุของปัญหาสุดท้ายก็คือมนุษย์เหมือนเดิม

Chatgpt สนับสนุนให้คนไร้ความสามารถมาแข่งกับคนหัวกะทิ สารรูปของความน่าภูมิใจที่เหมือนปราสาททราย คงดีใจมากสินะที่ผลิตผลงานที่ไม่ได้มาจากความสามารถตนเอง?

ผมว่ามันเข้ามาลดคุณค่างานฝีมือ หรืองานใช้ความคิดสร้างสรรค์ มากกว่า ถ้าเอาไปใช้ในอุตสาหกรรมรูปแบบอื่นน่าจะดีกว่า

@essprgamer

Жыл бұрын

คนที่ไม่ได้ศึกษาเอไอจะไม่เข้าใจว่า เอไอแทนคนไม่ได้อะงับ อย่างเรื่ององค์ประกอบศิลป์ที่มันต้องใช้เซ้นส์ในการวาด เอไอทำไม่ได้ เมื่อ generate ภาพมาเสร็จ นักวาดก็เอามาทำต่อ เราเจอในคอมมูนิตี้นึงที่เราชอบไปเสพงาน เป็นแนววาดภาพประกอบแบบอีปิกที่ภาพใหญ่เท่าฝาบ้าน คนกลุ่มนี้มักบ่นว่า กว่าจะทำงานออกมาเสร็จได้ อาจต้องทำเป็ฯสิบปี แต่พอมีเอไอช่วยวาด มันทำให้เขาทำอยู่แค่ไม่กี่วัน ซึ่งมันเป็นประโยชน์ แล้วคอมมูนิตี้ที่เราอยู่ คนทำเอไอเขาอยู่ในกรอบกฎหมายด้วยว่า เขาขออนุญาตนักวาดแล้วว่า เขาจะเอาเอไอเรียนรู้สไตล์งานวาดเขานะ แล้วให้ผู้ใช้งานยอมรับข้อการใช้งานเอไอด้วยนะว่าต้องไม่ไปทำผิดลิขสิทธิ์ หรือแม้กระทั่งเอางานเอไอไป mocking ใคร งี้ฮะ เราเจอมางี้ก็รู้สึกว่ามันโอเคมากๆเลย อันนี้พิมพ์ยาวหน่อย เผื่อมีคำถามคาใจเยอะ ถ้าตอบสั้นๆ ก็เลยขอทีเดียวรวดละกัน