ขอกราบคารวะ คุณความดี บุญบารมีของอจ ด้วยดวงใจ❤❤❤
ภูมิใจมากครับที่ได้บวชเณร🙏🙏
สาธุ อนุโมทนาในธรรมทาน ครับ
ดิฉันป่วยเป็นเนื้องอกในสมอง คุณหมอบอกอยู่ลึกใกล้ก้านสมอง .จิตใจย่ำแย่มาก..อาศัยธรรมะเพื่อออกทุกข์ทรมานความเจ็บปวดขยับตัวไม่ได้ มีโอกาสเคยปฏิบัติธรรม มาก่อน ใช้ธรรมะภาวนาแยกจิตกับกายจนผ่านพ้นมาได้..เหมือนได้เกิดใหม่อีกครั้ง
สาธุ
สาธุๆๆๆ
กราบสาธุๆๆ
🙏🙏🙏
❤🙏👍
🙏🏻🙏🏻🙏🏻กราบอนุโมทนาสาธุเจ้าค่ะ
❤🙏🙏🙏😇❤️
ข้อสังเกตเกี่ยวกับคำว่า“สติ” 1 คำแปลของสติคือ“การระลึกรู้” 2 ผู้ที่ระลึกรู้คือ“จิตผู้รู้” 3 สิ่งที่เราระลึกรู้ได้มีสามประการคือ 3.1รู้วัตถุนอกตัวเรา เมื่อระลึกรู้แล้ว จะรู้จักว่าอะไรเป็นอะไรตามความสำคัญมั่นหมายของสังคม ช่วยให้การดำเนินชีวิตราบรื่น เป็นไปตามความต้องการของเรา(ส่วนใหญ่คือรู้ทางตา) 3.2รู้ตัวเอง เมื่อรู้ตัวเองแล้วจะเกิดความรู้สึกตัว หรือสัมปชัญญะ ซึ่งมีน้อยคนที่จะรู้จักสติรู้ตัวเอง ส่วนใหญ่จะรู้ข้อ3.1 ซึ่งเพียงพอต่อการดำเนินชีวิตแล้ว เมื่อรู้ตัวเองบ่อยๆจิตผู้รู้จะกลับเข้าในตัวเองเป็นรู้ตัวทั่วพร้อมตลอดเวลา จะตั้งใจลืมตัวเองไม่ได้เลย แต่ก็มีเผลอได้บ้าง 3.3รู้ใจหรือรู้หทัยวัตถุ คือจุดศูนย์รวมของอารมณ์ปรุงแต่งความรู้สึกต่างๆ 4 คนทั่วไปจะรู้จักข้อ3.1มาตลอดชีวิตจึงไม่สนใจที่จะรู้3.2 และบางทีก็คิดว่าตนเองรู้ข้อ3.2เพราะใช้ตามองตัวเอง แล้วคิดว่าตัวเองรู้เห็นตัวเอง ซึ่งจริงๆแล้วมันไม่ใช่ เพราะการรู้ข้อ3.2ต้องรู้ด้วย“จิตผู้รู้” 5 พระท่านสอนให้มีสติ คนทั่วไปก็จะเข้าใจได้เพียงข้อ3.1 6 หลวงปู่ดูลย์ อตุโลสอนว่า“อย่าส่งจิตออกนอก” แสดงว่า“จิตผู้รู้”ต้องอยู่นอกตัวเรา 7หลวงพ่อเทียน จิตตสุโภ สอน“กระพริบตารู้สึกตัว” “ทำความรู้สึกตัว” “เคลื่อนไหวไปมาให้รู้สึก” “ให้ตื่นตัวเอง”คือให้เข้าถึงข้อ3.2 8เมื่อเข้าถึงข้อ3.2 ข้อ3.3จะตามมา ในระหว่างทางของการเจริญสติ ก็จะเห็นพฤติกรรมของจิตเป็นครั้งคราวแล้วแต่มันจะแสดงให้เห็นมันเป็นไปเอง แล้วแต่ละบุคคล ต่อไปก็ทำได้เพียง รู้ตัวทั่วพร้อมกับรู้ลงที่ใจหทัยวัตถุ(กลางอก) รู้ไปเรื่อยๆ จนจบกิจ 羅坤泉เรียบเรียง 6มีนาคม2567
กราบสาธุครับ
กราบสาธุคับ
สาธุ..ครับ
ขอกราบอนุโมทนาบุญด้วยค่ะ
ช่วงผมไปท่านไม่ได้อบรมศิษย์แล้ว แต่ได้พบท่านอยู่
Justice
สาธุๆๆ อนุโมทนา
การบรรลุธรรมเป็นแค่คำพูด การไม่มีทุกข์คือของจริง
พร้อมแล้วอยากออกบวชค่ะ
น้อมกราบสาธุค่ะ
กราบสาธุค่ะ
โชคดีมากค่ะที่เคยได้ไปปฎิบัติที่สำนักวัดป่าสุคโต 3ครั้งเข้าคอร์ส ปฎิบัติเข้ม7-9วัน เป็นบันไดก้าวแรกสู่การเริ่มปฎิบัติธรรม สาธุๆ ลูกกราบน้อมรำลึกถึง พ่อแม่ครูอาจารย์ สาธุๆ
กราบสาธูๆคะหลวงปู่
ให้กำลังใจอ.กำไล สู้ สู้
สาธุๆๆๆๆ ครับอาจารย์
สาธุๆๆ ครับ ขออนุโมทนาบุญด้วย ครับ
น้อมกราบอ.กำพลด้วยใจยิ่งครับ
กราบสาธูๆคะ
🙏🙏🙏🌻🐔😇🙈🙉🙊ขอพระอาจารย์มีสุขภาพ พลานามัย แข็งแรง เป็นที่พึ่งทางธรรมต่อต่อไปค่ะ
🙏🙏🙏🌻🐔😇🙈🙉🙊พระอาจารย์โปรดรักษาสุขภาพด้วยนะค่ะ
เหมือนกับ ไอ้ นายกโย่ง เลย มาถึงเปลี่ยนพรมขนแกะ ราคาร้อยล้าน ตัวมันเอาแต่เที่ยวต่างประเทศ
ไม่ต้องใส่ชุดขาวก้อได้หรือค่ะ
🙏🙏🙏🌻🐔😇🙈🙉🙊
กราบนมัสการพระอาจารย์กราบสาธุ
กราบสาธุ ๆๆที่ท่านทำงานเผยแพร่พระธรรมเพื่อปวงชน สาธุ อนุโมทามิ❤❤❤
กราบพระอาจารย์หลวงพ่อด้วยความเคารพยิ่ง🙏🙏🙏
กราบสาธุ ๆๆคณะกัลยาณํรรมเจ้าค่ะท😊จัดรายนี้สาธุ ขออนุโมทนาค่ะ❤❤❤❤
น้อมกราบนมัสการ สาธุ สาธุ สาธุเจ้าค่ะ
กราบสาธุสาธุสาธุคะ
สัตว์เลี้ยงยอดนิยมต่างๆ เช่น หมา แมว ก็จะมีเชื้อโรค พยาธิ เห็บ ฯลฯ ซึ่งสามารถทำอันตรายให้คนได้ค่ะ สมัยก่อนคนและสัตว์เลี้ยงจะไม่ได้คลุกคลีกันแบบกินด้วยกัน นอนด้วยกัน อะไรแบบนั้น / แต่ในยุคปัจจุบันนี้ ค่านิยมของคนสมัยนี้ ไม่ว่าจะคนไทยหรือต่างชาติ ก็จะนิยมนำสัตว์เลี้ยงมาอยู่ใกล้ชิด มานอนด้วยในห้องนอน มาอยู่เป็นส่วนนึงในบ้าน กินข้าวช้อนเดียวกับสัตว์เลี้ยงก็ได้ จุ๊บกันก็ได้ / ซึ่งการทำแบบนี้ มันมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ ค่ะ แต่ใครไม่เจอกับตัวเอง ก็คงไม่ใส่ใจอะไร เพราะเห็นคนทั่วไปก็ทำแบบนี้กันมากมาย ซึ่งไม่เห็นเค้าเจ็บป่วยเป็นอะไรกันเท่าไหร่ ก็เตือนกันยากค่ะ โดยเฉพาะการเลี้ยงแมวแล้วปล่อยอิสระ แมวไปคุ้ยเศษขยะ ไปกัดซากนกตาย ไปย่ำสิ่งสกปรกต่างๆ ไปสร้างความเดือดร้อนให้บ้านผู้อื่น ฯลฯ คุณก็ไม่ได้ตามไปเห็น แต่พอมันกลับมาหาเรา เราไม่รู้หรอกค่ะว่า เค้าไปสร้างความเดือนร้อนให้ใครมาบ้าง หรือเค้าพาสิ่งสกปรกอะไรมามากมายค่ะ / ปัญหาก็แยกหลักๆ เป็น 2 กรณี คือ 1. เลี้ยงสัตว์แบบปล่อยปละละเลย ไปสร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่นในสังคม เรื่องนี้ยาวค่ะ เจอกันเยอะ ขอไม่กล่าวถึงในรายละเอียด 2. การเลี้ยงสัตวฺ์แบบไม่เหมาะสม สร้างปัญหาโรคภัยให้ครอบครัวของผู้เลี้ยง / การอยู่กินกับสัตว์เลี้ยงโดยไม่มีขอบเขต มันกลายเป็นค่านิยมของคนยุคนี้ไปแล้ว ทั้งๆ ที่ในแง่สุขอนามัย สมัยก่อนก็เตือนกันอย่างเข้มข้น แต่ยุคนี้ บางคนเชื่อมั่นว่า ดูแลสัตว์อย่างดี ไม่ปล่อยไปเผ่นผ่าน ก็อาจลดความเสี่ยงได้บ้าง แต่สุดท้ายแล้ว คือ ถ้าใครไม่ได้เจอปัญหาอะไรด้วยตัวเอง บางทีก็ไม่ตระหนักถึงสิ่งนั้นค่ะ / ความรักสัตว์ การมีเมตตาต่อสัตว์ ความมีกิเลสที่อยากจะเลี้ยงสัตว์เพื่อความเพลิดเพลินของตัวเอง ...ฯลฯ เรื่องพวกนี้ ต้องแยกแยะดูค่ะว่า เราจะใช้สติปัญญาหาความพอดีได้อย่างไรค่ะ / ถ้ารักสัตว์ เมตตาสัตว์ มันก็ต้องมีความพอดีที่จะไปปฏิสัมพันธ์กับพวกเขา มันก็ต้องมีขอบเขตที่เหมาะสม / เราก็เป็นคนชอบเลี้ยงสัตว์มาก่อน ภายหลังเลิกเลี้ยงสัตว์เพื่อความเพลิดเพลินแล้ว เพราะพบว่าปัญหามันเยอะ ไม่ว่าจะธุรกิจการเพาะพันธ์ุสัตว์มาเพื่อให้คนเลี้ยง ปัญหาสัตว์จรจัด (ซึ่งก็มาจากสัตว์ที่คนเพาะพันธ์ุ หรือเอามาเลี้ยงนี่แหละ) ฯลฯ รวมทั้ง กิเลสในใจเราเอง ที่อยากเลี้ยงสัตว์ ไม่ใช่เพราะเมตตานำหน้า แต่เพราะอยากได้อะไรบางอย่างตอบแทนมา เช่น อยากได้เพื่อน อยากได้ความเพลิดเพลิน หรือแม้แต่อยากได้กุศล อยากเมตตาสัตว์ เราก็ต้องหาทางเลี้ยงและจัดการกับพวกเขาอย่างเหมาะสม ไม่งั้นความเมตตาที่ขาดสติปัญญา ก็สร้างโทษให้ตนเอง รวมถึงสร้างโทษต่อสังคมได้ อย่างที่เห็นเป็นข่าวและไม่เป็นข่าวอีกมากมาย ประมาณว่า เมตตาสัตว์ แต่ช่วยเหลือแบบไม่เหมาะสม กลายเป็นสร้างปัญหาอื่นๆ ตามมาให้กับคนอื่นๆ ในสังคม เมตตาสัตว์แต่ไม่เมตตาคนอื่นๆ ที่อยู่ร่วมกันในสังคม เป็นต้น / หลายสิบปีมานี้ ปัญหาสัตว์เลี้ยงและสัตว์จรจัด มันเป็นปัญหาหมักหมม และหนักขึ้นมากๆ ค่ะ และประเทศไทยก็ยังไม่มีแนวทางที่ชัดเจน ไม่มีกฎหมายที่รอบคอบ เพื่อจัดการเรื่องพวกนี้ / ย้ำว่า ยังไงแล้ว ความเมตตาก็ต้องไม่ขาดสติปัญญาค่ะชาวพุทธ!!
น้อมกราบสาธุครับ
ใช่ค่ะยิ่งฟังยิ่งใจฟูมีหวังมีสติเสมอมีกำลังใจ🙏🙏🙏
ดีมากวัดนี้ไม่มีตู้บริจาคสักตู้
สาธุค่ะ
อจ.คือไลฟ์โค้ชที่ผมมีอินเน่อร์ที่สุดครับ
น้อมกราบสูงสุดในบุญกุศลทุกๆบุญของหลวงพ่อคำเขียนเจ้าค่ะสาธุ สาธุ สาธุ
ท่านหลุดพ้นจากวัฏฏสงสารแล้ว ท่านคือ อรหันต์ไม่ต้องโกนหัวห่มเหลือง ขอบพระคุณอาจารย์ที่มอบวิชาให้แสงสว่างในการดำเนินชีวิต🙏🙏🙏
Пікірлер
ขอกราบคารวะ คุณความดี บุญบารมีของอจ ด้วยดวงใจ❤❤❤
ภูมิใจมากครับที่ได้บวชเณร🙏🙏
สาธุ อนุโมทนาในธรรมทาน ครับ
ดิฉันป่วยเป็นเนื้องอกในสมอง คุณหมอบอกอยู่ลึกใกล้ก้านสมอง .จิตใจย่ำแย่มาก..อาศัยธรรมะเพื่อออกทุกข์ทรมานความเจ็บปวดขยับตัวไม่ได้ มีโอกาสเคยปฏิบัติธรรม มาก่อน ใช้ธรรมะภาวนาแยกจิตกับกายจนผ่านพ้นมาได้..เหมือนได้เกิดใหม่อีกครั้ง
สาธุ
สาธุๆๆๆ
กราบสาธุๆๆ
🙏🙏🙏
❤🙏👍
🙏🏻🙏🏻🙏🏻กราบอนุโมทนาสาธุเจ้าค่ะ
❤🙏🙏🙏😇❤️
ข้อสังเกตเกี่ยวกับคำว่า“สติ” 1 คำแปลของสติคือ“การระลึกรู้” 2 ผู้ที่ระลึกรู้คือ“จิตผู้รู้” 3 สิ่งที่เราระลึกรู้ได้มีสามประการคือ 3.1รู้วัตถุนอกตัวเรา เมื่อระลึกรู้แล้ว จะรู้จักว่าอะไรเป็นอะไรตามความสำคัญมั่นหมายของสังคม ช่วยให้การดำเนินชีวิตราบรื่น เป็นไปตามความต้องการของเรา(ส่วนใหญ่คือรู้ทางตา) 3.2รู้ตัวเอง เมื่อรู้ตัวเองแล้วจะเกิดความรู้สึกตัว หรือสัมปชัญญะ ซึ่งมีน้อยคนที่จะรู้จักสติรู้ตัวเอง ส่วนใหญ่จะรู้ข้อ3.1 ซึ่งเพียงพอต่อการดำเนินชีวิตแล้ว เมื่อรู้ตัวเองบ่อยๆจิตผู้รู้จะกลับเข้าในตัวเองเป็นรู้ตัวทั่วพร้อมตลอดเวลา จะตั้งใจลืมตัวเองไม่ได้เลย แต่ก็มีเผลอได้บ้าง 3.3รู้ใจหรือรู้หทัยวัตถุ คือจุดศูนย์รวมของอารมณ์ปรุงแต่งความรู้สึกต่างๆ 4 คนทั่วไปจะรู้จักข้อ3.1มาตลอดชีวิตจึงไม่สนใจที่จะรู้3.2 และบางทีก็คิดว่าตนเองรู้ข้อ3.2เพราะใช้ตามองตัวเอง แล้วคิดว่าตัวเองรู้เห็นตัวเอง ซึ่งจริงๆแล้วมันไม่ใช่ เพราะการรู้ข้อ3.2ต้องรู้ด้วย“จิตผู้รู้” 5 พระท่านสอนให้มีสติ คนทั่วไปก็จะเข้าใจได้เพียงข้อ3.1 6 หลวงปู่ดูลย์ อตุโลสอนว่า“อย่าส่งจิตออกนอก” แสดงว่า“จิตผู้รู้”ต้องอยู่นอกตัวเรา 7หลวงพ่อเทียน จิตตสุโภ สอน“กระพริบตารู้สึกตัว” “ทำความรู้สึกตัว” “เคลื่อนไหวไปมาให้รู้สึก” “ให้ตื่นตัวเอง”คือให้เข้าถึงข้อ3.2 8เมื่อเข้าถึงข้อ3.2 ข้อ3.3จะตามมา ในระหว่างทางของการเจริญสติ ก็จะเห็นพฤติกรรมของจิตเป็นครั้งคราวแล้วแต่มันจะแสดงให้เห็นมันเป็นไปเอง แล้วแต่ละบุคคล ต่อไปก็ทำได้เพียง รู้ตัวทั่วพร้อมกับรู้ลงที่ใจหทัยวัตถุ(กลางอก) รู้ไปเรื่อยๆ จนจบกิจ 羅坤泉เรียบเรียง 6มีนาคม2567
กราบสาธุครับ
กราบสาธุครับ
กราบสาธุคับ
สาธุ..ครับ
ขอกราบอนุโมทนาบุญด้วยค่ะ
ช่วงผมไปท่านไม่ได้อบรมศิษย์แล้ว แต่ได้พบท่านอยู่
Justice
สาธุๆๆ อนุโมทนา
การบรรลุธรรมเป็นแค่คำพูด การไม่มีทุกข์คือของจริง
พร้อมแล้วอยากออกบวชค่ะ
น้อมกราบสาธุค่ะ
กราบสาธุค่ะ
โชคดีมากค่ะที่เคยได้ไปปฎิบัติที่สำนักวัดป่าสุคโต 3ครั้งเข้าคอร์ส ปฎิบัติเข้ม7-9วัน เป็นบันไดก้าวแรกสู่การเริ่มปฎิบัติธรรม สาธุๆ ลูกกราบน้อมรำลึกถึง พ่อแม่ครูอาจารย์ สาธุๆ
กราบสาธูๆคะหลวงปู่
ให้กำลังใจอ.กำไล สู้ สู้
สาธุๆๆๆๆ ครับอาจารย์
สาธุๆๆ ครับ ขออนุโมทนาบุญด้วย ครับ
น้อมกราบอ.กำพลด้วยใจยิ่งครับ
กราบสาธูๆคะ
🙏🙏🙏🌻🐔😇🙈🙉🙊ขอพระอาจารย์มีสุขภาพ พลานามัย แข็งแรง เป็นที่พึ่งทางธรรมต่อต่อไปค่ะ
🙏🙏🙏🌻🐔😇🙈🙉🙊พระอาจารย์โปรดรักษาสุขภาพด้วยนะค่ะ
เหมือนกับ ไอ้ นายกโย่ง เลย มาถึงเปลี่ยนพรมขนแกะ ราคาร้อยล้าน ตัวมันเอาแต่เที่ยวต่างประเทศ
ไม่ต้องใส่ชุดขาวก้อได้หรือค่ะ
🙏🙏🙏🌻🐔😇🙈🙉🙊
กราบนมัสการพระอาจารย์กราบสาธุ
กราบสาธุ ๆๆที่ท่านทำงานเผยแพร่พระธรรมเพื่อปวงชน สาธุ อนุโมทามิ❤❤❤
กราบพระอาจารย์หลวงพ่อด้วยความเคารพยิ่ง🙏🙏🙏
กราบสาธุ ๆๆคณะกัลยาณํรรมเจ้าค่ะท😊จัดรายนี้สาธุ ขออนุโมทนาค่ะ❤❤❤❤
น้อมกราบนมัสการ สาธุ สาธุ สาธุเจ้าค่ะ
กราบสาธุสาธุสาธุคะ
สัตว์เลี้ยงยอดนิยมต่างๆ เช่น หมา แมว ก็จะมีเชื้อโรค พยาธิ เห็บ ฯลฯ ซึ่งสามารถทำอันตรายให้คนได้ค่ะ สมัยก่อนคนและสัตว์เลี้ยงจะไม่ได้คลุกคลีกันแบบกินด้วยกัน นอนด้วยกัน อะไรแบบนั้น / แต่ในยุคปัจจุบันนี้ ค่านิยมของคนสมัยนี้ ไม่ว่าจะคนไทยหรือต่างชาติ ก็จะนิยมนำสัตว์เลี้ยงมาอยู่ใกล้ชิด มานอนด้วยในห้องนอน มาอยู่เป็นส่วนนึงในบ้าน กินข้าวช้อนเดียวกับสัตว์เลี้ยงก็ได้ จุ๊บกันก็ได้ / ซึ่งการทำแบบนี้ มันมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ ค่ะ แต่ใครไม่เจอกับตัวเอง ก็คงไม่ใส่ใจอะไร เพราะเห็นคนทั่วไปก็ทำแบบนี้กันมากมาย ซึ่งไม่เห็นเค้าเจ็บป่วยเป็นอะไรกันเท่าไหร่ ก็เตือนกันยากค่ะ โดยเฉพาะการเลี้ยงแมวแล้วปล่อยอิสระ แมวไปคุ้ยเศษขยะ ไปกัดซากนกตาย ไปย่ำสิ่งสกปรกต่างๆ ไปสร้างความเดือดร้อนให้บ้านผู้อื่น ฯลฯ คุณก็ไม่ได้ตามไปเห็น แต่พอมันกลับมาหาเรา เราไม่รู้หรอกค่ะว่า เค้าไปสร้างความเดือนร้อนให้ใครมาบ้าง หรือเค้าพาสิ่งสกปรกอะไรมามากมายค่ะ / ปัญหาก็แยกหลักๆ เป็น 2 กรณี คือ 1. เลี้ยงสัตว์แบบปล่อยปละละเลย ไปสร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่นในสังคม เรื่องนี้ยาวค่ะ เจอกันเยอะ ขอไม่กล่าวถึงในรายละเอียด 2. การเลี้ยงสัตวฺ์แบบไม่เหมาะสม สร้างปัญหาโรคภัยให้ครอบครัวของผู้เลี้ยง / การอยู่กินกับสัตว์เลี้ยงโดยไม่มีขอบเขต มันกลายเป็นค่านิยมของคนยุคนี้ไปแล้ว ทั้งๆ ที่ในแง่สุขอนามัย สมัยก่อนก็เตือนกันอย่างเข้มข้น แต่ยุคนี้ บางคนเชื่อมั่นว่า ดูแลสัตว์อย่างดี ไม่ปล่อยไปเผ่นผ่าน ก็อาจลดความเสี่ยงได้บ้าง แต่สุดท้ายแล้ว คือ ถ้าใครไม่ได้เจอปัญหาอะไรด้วยตัวเอง บางทีก็ไม่ตระหนักถึงสิ่งนั้นค่ะ / ความรักสัตว์ การมีเมตตาต่อสัตว์ ความมีกิเลสที่อยากจะเลี้ยงสัตว์เพื่อความเพลิดเพลินของตัวเอง ...ฯลฯ เรื่องพวกนี้ ต้องแยกแยะดูค่ะว่า เราจะใช้สติปัญญาหาความพอดีได้อย่างไรค่ะ / ถ้ารักสัตว์ เมตตาสัตว์ มันก็ต้องมีความพอดีที่จะไปปฏิสัมพันธ์กับพวกเขา มันก็ต้องมีขอบเขตที่เหมาะสม / เราก็เป็นคนชอบเลี้ยงสัตว์มาก่อน ภายหลังเลิกเลี้ยงสัตว์เพื่อความเพลิดเพลินแล้ว เพราะพบว่าปัญหามันเยอะ ไม่ว่าจะธุรกิจการเพาะพันธ์ุสัตว์มาเพื่อให้คนเลี้ยง ปัญหาสัตว์จรจัด (ซึ่งก็มาจากสัตว์ที่คนเพาะพันธ์ุ หรือเอามาเลี้ยงนี่แหละ) ฯลฯ รวมทั้ง กิเลสในใจเราเอง ที่อยากเลี้ยงสัตว์ ไม่ใช่เพราะเมตตานำหน้า แต่เพราะอยากได้อะไรบางอย่างตอบแทนมา เช่น อยากได้เพื่อน อยากได้ความเพลิดเพลิน หรือแม้แต่อยากได้กุศล อยากเมตตาสัตว์ เราก็ต้องหาทางเลี้ยงและจัดการกับพวกเขาอย่างเหมาะสม ไม่งั้นความเมตตาที่ขาดสติปัญญา ก็สร้างโทษให้ตนเอง รวมถึงสร้างโทษต่อสังคมได้ อย่างที่เห็นเป็นข่าวและไม่เป็นข่าวอีกมากมาย ประมาณว่า เมตตาสัตว์ แต่ช่วยเหลือแบบไม่เหมาะสม กลายเป็นสร้างปัญหาอื่นๆ ตามมาให้กับคนอื่นๆ ในสังคม เมตตาสัตว์แต่ไม่เมตตาคนอื่นๆ ที่อยู่ร่วมกันในสังคม เป็นต้น / หลายสิบปีมานี้ ปัญหาสัตว์เลี้ยงและสัตว์จรจัด มันเป็นปัญหาหมักหมม และหนักขึ้นมากๆ ค่ะ และประเทศไทยก็ยังไม่มีแนวทางที่ชัดเจน ไม่มีกฎหมายที่รอบคอบ เพื่อจัดการเรื่องพวกนี้ / ย้ำว่า ยังไงแล้ว ความเมตตาก็ต้องไม่ขาดสติปัญญาค่ะชาวพุทธ!!
น้อมกราบสาธุครับ
ใช่ค่ะยิ่งฟังยิ่งใจฟูมีหวังมีสติเสมอมีกำลังใจ🙏🙏🙏
ดีมากวัดนี้ไม่มีตู้บริจาคสักตู้
สาธุค่ะ
อจ.คือไลฟ์โค้ชที่ผมมีอินเน่อร์ที่สุดครับ
น้อมกราบสูงสุดในบุญกุศลทุกๆบุญของหลวงพ่อคำเขียนเจ้าค่ะสาธุ สาธุ สาธุ
ท่านหลุดพ้นจากวัฏฏสงสารแล้ว ท่านคือ อรหันต์ไม่ต้องโกนหัวห่มเหลือง ขอบพระคุณอาจารย์ที่มอบวิชาให้แสงสว่างในการดำเนินชีวิต🙏🙏🙏