อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ผู้คิดค้นทฤษฎีฟิสิกส์เปลี่ยนโลก ‘แรงโน้มถ่วงไม่มีจริง’ | 8 Minute History EP.86

นอกจากผู้ให้กำเนิดทฤษฎีอันเป็นพื้นฐานของระเบิดปรมาณูแล้ว ​หนึ่งในบุคคลสำคัญของโลก ‘อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์’ ยังเป็นผู้ที่รักสันติภาพ เป็นผู้เขียนบทความวิชาการอย่าง ‘Annus Mirabilis Papers’ ที่กลายมาเป็นทฤษฎีฟิสิกส์สมัยใหม่ และผู้สร้างองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ที่ถูกนำไปพัฒนาด้านการสงคราม
เอพิโสดนี้จะพาไปดูการพิสูจน์ทฤษฎีสัมพัทธภาพของไอน์สไตน์ ซึ่งเป็นผลให้การหักล้างทฤษฎีความโน้มถ่วงของ ‘เซอร์ ไอแซก นิวตัน’ ที่เปลี่ยนแปลงโลกไปตลอดกาล
Time Index
00:00 Introduce
02:14 Albert Einstein
04:13 Annus Mirabilis Papers
07:07 ทฤษฎีแรงโน้มถ่วง
10:26 องค์ความรู้วิทยาศาสตร์ในการสงคราม
12:33 การทดสอบสมมติฐานของไอน์สไตน์
---------------
ติดตาม 8 Minute History ในช่องทางต่างๆ
Apple Podcasts: apple.co/3cfxNjL
Spotify: spoti.fi/3ejXUsM
Website: thestandard.co/podcast_channe...
SoundCloud: bit.ly/8minutes-history
#ประวัติศาสตร์ #ไอน์สไตน์ #8MinuteHistory #TheStandardPodcast

Пікірлер: 1 000

  • @TheStandardPodcast
    @TheStandardPodcast2 жыл бұрын

    Time Index 00:00 Introduce 02:14 Albert Einstein 04:13 Annus Mirabilis Papers 07:07 ทฤษฎีแรงโน้มถ่วง 10:26 องค์ความรู้วิทยาศาสตร์ในการสงคราม 12:33 การทดสอบสมมติฐานของไอน์สไตน์ สามารถรับชมตอนที่ 2 ต่อได้ที่ kzread.info/dash/bejne/mYqbs9mgZ8W2d6g.html

  • @user-hq5er7ie4f

    @user-hq5er7ie4f

    2 жыл бұрын

    งงง

  • @wilaipranchaipat6610

    @wilaipranchaipat6610

    2 жыл бұрын

    คุณครูผมบอกว่าความเร็วแสงคือ 30ล้าน กิโล ต่อวิอะครับ😅

  • @user-wx4op9yg8i

    @user-wx4op9yg8i

    2 жыл бұрын

    คำคำคำคำคำคำคำคำคำคำคำคำคำคำคำคำคำ

  • @bbb4654

    @bbb4654

    2 жыл бұрын

    หลานไอน์สไตน์ ยังต้องเป็นครูสอนแมงสาปเลย

  • @zerodawn4820

    @zerodawn4820

    2 жыл бұрын

    ววววววววววว

  • @pmcd379
    @pmcd3792 жыл бұрын

    ตอนนั้นไอสไตน์ได้พบกับ ชาลี แชปลิน ที่อเมริกา ไอสไตน์จึงชื่นชมชาลีว่า "คุณน่าทึ่งมาก คุณไม่ต้องพูดสักคำแต่สามารถทำให้คนทั้งโลกหัวเราะได้" ชาลีจึงกล่าวกลับไปว่า "คุณน่าทึ่งกว่าอีกนะ สิ่งที่คุณคิดขึ้น บางคนไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันคืออะไรแต่ กลับชื่นชมคุณทั้งโลก"

  • @asaneewasan4503

    @asaneewasan4503

    2 жыл бұрын

    ^^

  • @user-oe2dm4st1l

    @user-oe2dm4st1l

    2 жыл бұрын

    อันนี้ได้..!!!

  • @World-hotnews

    @World-hotnews

    2 жыл бұрын

    555 พี่ชาลีผม แก๋วจริงๆ

  • @pmcd379

    @pmcd379

    2 жыл бұрын

    อันนี้เรื่องจิงนะเนี่ย5555 ผมเคยดูสารคดี

  • @bbb4654

    @bbb4654

    2 жыл бұрын

    @@World-hotnews แมงสาปบ้านผมเก่งกว่า ได้เป็นลูกศิษย์หลานไอน์สไตน์

  • @domezazaza
    @domezazaza2 жыл бұрын

    ขออนุญาตเพิ่มเติมครับ คือการพิสูจน์ด้วยสุริยุปราคาในครั้งนั้นไม่ได้จะดูแสงอาทิตย์โค้งตามดวงจันทร์นะครับ แต่ต้องการจะดูดาวที่อยู่ข้างหลังดวงอาทิตย์ ถ้าทฤษฎีความโค้งของกาลอวกาศของไอน์สไตน์ถูกต้อง แสงจะเลี้ยวเบนตามได้ เราก็จะเห็นแสงดาวข้างหลังนั่นทั้งๆที่โดนดวงอาทิตย์บังอยู่ครับ …แล้วก็ตามนั้นครับ ถูกตามที่เฮียแกทำนาย

  • @joy0126

    @joy0126

    2 жыл бұрын

    มีภาพปลากรอบไหมคับไม่อันเดอสแตนคับ.

  • @liangaugust5448

    @liangaugust5448

    2 жыл бұрын

    ใช่ครับฟังแล้วเพี้ยนๆ ที่จริงต้องตามที่คุณdomeo บอกครับ เค้าเทียบดวงดาวที่มองเห็นรอบดวงอาทิตย์เวลาปกติกับการบิดเบี้ยวของแสงทีเฉียดรอบดวงอาทิตย์มายังตาเราเพราะมีแรงโน้มถ่วง ทีนี้ปกติจะถ่ายไม่ได้เพราะแสงอาทิตน์จ้าเกินไป ต้องรอให้ดวงจันทร์ยังไงครับ แรงโน้มถ่วงยังมีจริงครับ แต่แนวโน้มถ่วงทำให้อวกาศบิดเบี้ยว คลิปเพี้ยนมากๆ

  • @domezazaza

    @domezazaza

    2 жыл бұрын

    ขออภัยครับในยูทูปมันแนบภาพปลากรอบไม่ได้ (ทั้งๆที่ผมอยากแนบใจจะขาด 555) ลองเสิร์ชว่า “ไอน์สไตน์ สุริยุปราคา” ไม่ก็ “einstein solar eclipse” ดูนะคนับๆ

  • @kopterbenz5771

    @kopterbenz5771

    2 жыл бұрын

    ที่ผมเคยอ่านมาก็ตามที่คุณ domeo- บอกเลยครับ หลักการคืออยากรู้ว่า Massive Mass สามารถทำให้แสงโค้งได้ไหม และสิ่งที่ Massive ที่สุดในระบบสุริยะคือดวงอาทิตย์ แต่เวลาปกติแสงจ้ามากจนไม่เห็นดาวที่อยู่ด้านหลัง จึงต้องรอเกิดสุริยุปราคาให้เห็นดาวที่อยู่ข้างหลังก่อน จากนั้นวัดว่าดาวที่อยู่ข้างหลังดวงอาทิตย์นั้นตำแหน่งเบี้ยวไปจากเวลาปกติหรือไม่หรือไม่ ถ้าเบี้ยวแปลว่าถูกมวลของดวงอาทิตย์บิดให้แสงโค้งไปครับ

  • @Sittivaekin

    @Sittivaekin

    2 жыл бұрын

    ขอบคุณมากเลยครับ เป็นประโยชน์มากครับ คลิปนี้ เป็น คลิป ประวัติศาสตร์ การได้ ผู้รู้ที่แม่นยำทาง ฟิสิกส์ ช่วยทำให้เติมเต็มได้เยอะเลยครับ

  • @taechinthin5912
    @taechinthin59122 жыл бұрын

    ชื่นชมการทำคลิปคุณภาพ มีคุณค่าให้ความรู้ดีเยี่ยมกับผู้ชมครับ

  • @user-vb6pb3vc7p
    @user-vb6pb3vc7p Жыл бұрын

    ข้าพเจ้าขอขอบคุณพระเจ้าของไอน์สไตน์ และขอพระเจ้าของไอสไตน์คุ้มครองครอบครัวไหวสว่างด้วย และขอให้ครอบครัวของ ไอสไตน์ ฉลาดรอบด้าน และประสบความสำเร็จในทรัพย์สิน แล้ว ทางด้านการงาน และการเงิน และขอบคุณพระราชาพระราชินีรอบโลก เลิกขอบคุณศาสนารอบโลก เลิกขอบคุณลัทธิรอบโลก และขอบคุณชนเผ่า รอบโลก และขอบคุณผู้นับถือบรรพบุรุษ รอบโลก และขอบคุณพระเจ้าและพระเยซูคริสต์

  • @user-ru6nc5rz6o

    @user-ru6nc5rz6o

    6 ай бұрын

    ไอน์สไตน์ไม่เชื่อเรื่องพระเจ้านะครับ

  • @wwedoomchan6128
    @wwedoomchan61282 жыл бұрын

    ตอนที่ไอน์สไตน์จากโลกใบนี้ ไปสมองของไอน์สไตน์ ยังเหมือนเดิมเหมือนกับสมองคนหนุ่มๆที่ยังแน่นอยู่ และ วิระกรรมของลุงแกมีอีกเยอะเลย 🙏🙏

  • @pepechenogug
    @pepechenogug2 жыл бұрын

    ชอบแอดออกเสียงภาษาเยอรมันมากครับ อยากพูดเป็นบ้างจริงๆ

  • @poomlertpinyowong9187
    @poomlertpinyowong9187 Жыл бұрын

    ตามความเข้าใจของผม (ในทางเทคนิค) ไอน์สไตน์ไม่ได้บอกว่าไม่มีแรงโน้มถ่วง และตกของสิ่งของก็ไม่ได้เกิดจาก 'ผิวโลกโค้ง' แต่มันเกิดจากกาลอวกาศโค้ง กฎความโน้มถ่วงของนิวตัน(โดยทั่วไปแล้ว)ใช้งานได้ตามปกติ แต่ปัญหาที่คาใจนิวตันคือทำไมแรงโน้มถ่วงของวัตถุหนึ่งถึงกระทำต่ออีกวัตถุหนึ่งที่อยู่ห่างออกไปได้โดยไม่ต้องสัมผัส นักวิทยาศาสตร์รุ่นหลังนิวตันเอาปัญหาข้อนี้ซุก ๆ ไว้ แล้วใช้กฎแรงโน้มถ่วงของนิวตันอย่างสบายใจ กรอบความคิดในกลศาสตร์แบบนิวตันอย่างหนึ่งคือมุมมองที่ว่ามี space และ time อยู่เหนือวัตถุที่อาศัยอยู่ในนั้น space และ time เป็นฉากหลังที่เป็นเอกเทศต่อทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในตัวมัน อีกทั้ง space และ time แผ่ตัวอย่างเป็นอนันต์ ราบเรียบ และเหมือนกันในทุกที่ ทุกทิศทาง มุมมองของไอน์สไตน์ที่พลิกวงการคือการมองว่า space กับ time รวมเป็นหนึ่งคือกาลอวกาศ 4 มิติ และมองว่าตัวกาลอวกาศไม่ได้เป็นแค่ฉากหลัง แต่มีบทบาทต่อวัตถุที่อาศัยอยู่ข้างใน ในขณะเดียวกัน(มวลของ)วัตถุที่ดำรงอยู่ภายในกาลอวกาศก็ส่งผลกระทบกลับไปที่ตัวกาลอวกาศด้วย กล่าวคือมวลของวัตถุทำให้กาลอวกาศโค้งงอ ไอน์สไตน์บอกว่า ความโค้งงอนี้เองคือแรงโน้มถ่วง (curvature=gravity) ดังนั้นในสมการสัมพัทธภาพทั่วไป ตัวแปรที่แสดงถึงความโค้งของกาลอวกาศจึงเข้าแทนที่ตัวแปรที่แสดงถึงแรงโน้มถ่วง มันเลยอาจฟังดูเหมือนว่าแรงโน้มถ่วงไม่มีอยู่ ในมุมมองนี้ gravity อาจไม่ใช่แรงหรือ force อีกต่อไป ดังนั้นประเด็นนี้เลยอาจเป็นประเด็นถกเถียงในเชิงภาษาไทยที่แปลคำว่า gravity ว่า "แรง" โน้มถ่วง 55 (เข้าใจว่าหลัง ๆ จะพยายามปรับมาใช้คำว่า "ความโน้มถ่วง" แทนแล้ว) ในประเด็นเรื่องการทดลองพิสูจน์ต่าง ๆ นั้นที่จะดูการเดินทางของแสงช่วงเกิดสุริยุปราคา สิ่งหนึ่งที่ให้นึกไว้ในใจก่อนคือแสงเดินทางเป็น "เส้นตรง" เสมอถ้าไม่ไปชนอะไรเข้า แสงมันไม่ได้มีมวล ดังนั้นแสงมันไม่ควรได้ผลกระทบจากแรงโน้มถ่วงในมุมมองแบบนิวตัน แต่การทดลองบ่งชี้ว่าแสงจากดาวดวงอื่นที่วิ่งเฉียดผ่านดวงอาทิตย์ (สามารถวัดได้ตอนที่เกิดสุริยปราคา เพราะแสงจากดวงอาทิตย์เองถูกบดบัง) มันเลี้ยวมาอย่างกับว่ามันโดนดวงอาทิตย์ดูด ในมุมมองของไอน์สไตน์ แสงไม่ได้โดนดูด และแสงก็ไม่ได้เลี้ยวด้วย แต่แสงเดินทางเป็นเส้นตรงในกาลอวกาศที่โค้ง เส้นตรงในความหมายนี้หมายถึงเส้นที่สั้นที่สุดบนอวกาศที่โค้ง ลองนึกภาพว่าเวลาเราลากเส้นที่สั้นที่สุดจากจุดหนึ่งไปจุดหนึ่งบนผิวลูกบอล มันย่อมออกมาเป็นส่วนโค้ง ความสำคัญของงานชิ้นนี้ของไอน์สไตน์คือมันทำให้เราต้องเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับอวกาศเสียใหม่ (เหมือน ๆ กับที่กฎของนิวตันยกเครื่องความคิดเกี่ยวกับจักรวาลในสมัยนั้น) นอกจากนี้ไอน์สไตน์ก็ได้ตอบปัญหาคาใจนิวตันในประเด็นที่ว่าแรงโน้มถ่วงกระทำโดยไม่ต้องสัมผัสได้อย่างไร ในความเป็นจริงแล้วมีนักคณิตศาสตร์ที่ศึกษาหัวข้อเรขาคณิตหลายมิติของ space ที่โค้งงอมาก่อนหน้าไอน์สไตน์นานแล้ว โดยเฉพาะในแวดวงคณิตศาสตร์เยอรมัน ผู้ริเริ่มคือรีมันน์ ลูกศิษย์ของเกาส์ ที่สำคัญรีมันน์เองยังเปรยถึงแนวคิดที่ว่าเราอาจสามารถตรวจสอบความโค้งของอวกาศที่เราอาศัยอยู่ได้หรือไม่ ถึงกระนั้นนักคณิตศาสตร์ก็ศึกษาเรื่องพวกนี้ในเชิงนามธรรมล้วน ๆ จนมาถึงไอน์สไตน์ที่หยิบเอาเรื่องนี้มาสู่โลกรูปธรรม

  • @Hope024lnwza

    @Hope024lnwza

    Жыл бұрын

    ชอบมากครับ

  • @nawinkulpha4447

    @nawinkulpha4447

    Жыл бұрын

    🙏🏻 ขอบคุณมากครับ

  • @whychanel98
    @whychanel982 жыл бұрын

    พากย์​ได้น่าฟังมากๆครับ​ ฟังได้เพลินมาก

  • @zincezzec
    @zincezzec2 жыл бұрын

    กฎของนิวตัน ยังใช้คำนวณได้เพราะบนโลก กฎของไอสไตล์ใช้ได้กับจักรวาลครับ

  • @trading_75

    @trading_75

    2 жыл бұрын

    ถูกต้องที่สุด

  • @user-fy6bb7wh5p

    @user-fy6bb7wh5p

    2 жыл бұрын

    ใช่มีส่วนใช่

  • @nasak007-5

    @nasak007-5

    2 жыл бұрын

    ใช่ครับ มันเป็นการต่อยอดไปเรื่อยๆครับ ถ้าไอสไตล์จุติเกิดในยุคนี้ ผมว่าอีกสัก30ปีข้างหน้า โลกจะเปลี่ยนไปอย่างที่ไม่มีมาก่อน เช่นมนุษย์จะเดินทางข้ามโลกโดยไม่ใช้เครื่องบินและเดินทางในเสี้ยววินาที ซึ้งปกติต้องใช้เวลานับ1000ปีถึงจะสำเร็จ

  • @Vanhelsing543

    @Vanhelsing543

    2 жыл бұрын

    กฎของนิวตันบางข้อก็ใช้ได้ในระบบสุริยจักรวาลนะครับ นั่นก็คือแรงพิสัยไกล Long-Range Force F=Gm1m2/R^2 โดยที่ G คือ Universal Gravitational Constant เป็นค่านิจสากลโน้มถ่วง นั่นก็หมายความว่า เราสามารถหาแรงดึงดูดระหว่างดวงดาวได้ครับ (คำว่า universal คือเป็นค่าที่ใช้ได้ครอบคลุม)

  • @siriwan2529

    @siriwan2529

    2 жыл бұрын

    @@Vanhelsing543 เกินไปปปปปปปปป

  • @nmaiiam93
    @nmaiiam932 жыл бұрын

    อยากให้ทำประวัติคนดังแบบนี้อีกเยอะไ เลยค่ะ สนุกมากๆค่ะ ชอบมากๆค่ะ

  • @panyachunnanonda6274
    @panyachunnanonda62742 жыл бұрын

    ขอบคุณมาก ชอบมาก สนุกมากๆๆครับ

  • @sup.b9953
    @sup.b99532 жыл бұрын

    จากที่ฟังคลิป ไม่ได้อธิบายในทางฟิสิกส์ให้ชัดเจน และกระจ่าง แต่ก็ชอบการเล่าเรื่องถ้ามองในมุมประวัติศาสตร์ของช่วงชีวิตนะคะ แต่ถ้าใครอยากเข้าใจในคำว่า ทฤษฎี ของไอน์สไตน์ที่คลิปได้พูดถึงนี้แนะนำไปค้นหา เสริชคำว่า ไอน์สไตน์กับสุริยปราคาค่ะ

  • @johnlee8863

    @johnlee8863

    2 жыл бұрын

    ครับ

  • @user-hu1bh5um1i

    @user-hu1bh5um1i

    2 жыл бұрын

    @@johnlee8863 .

  • @TheMobile-ti3en

    @TheMobile-ti3en

    Жыл бұрын

    น่าสนใจค่ะ

  • @user-pn1wi3hg7m

    @user-pn1wi3hg7m

    Жыл бұрын

    อย่าไปดูในยูทูป เพ้อเจ้อ ปั่น โฆษณาเกินจริงเอายอดวิว เรัยกว่าเว่อร์ไว้ก่อน อย่างสมการeอะไรนี่ ก็สมการพื้นๆ กำหนดมาตรฐานวัดแรงกระทำเท่านั้น ไม่ได้ใช้คำนวนอะไรเลย ไม่ได้ใช้คำนวนนิวเคลียร์ เลเซอร์ ท่องดวงดาว ขี้โม้ทั้งนั้น

  • @sunnip9060

    @sunnip9060

    Жыл бұрын

    @@user-pn1wi3hg7m แหล่งข้อมูลชั้น1 จากต่างประเทศก็มีเยอะแยะครับ เปิดหูเปิดตากว้างๆเข้าไว้นะครับ คิดหลายๆมุมดู เผื่อจะเจอความคิดใหม่ๆ อย่าปักไว้แค่ความติดของตัวเองครับ

  • @sartpk
    @sartpk2 жыл бұрын

    คลิ๊ปนี้ มีแทรกคำพูดภาษาอะไรไม่รู้ฟังไม่รู้เรื่องทำให้ดูน่าเชื่อถือดี แต่ อธิบายความเข้าใจเกี่ยวกับฟิสิกส์ไม่ค่อยถูกนะครับ เช่น บอกว่าเพราะโลกเป็นทรงโค้งจึงทำให้เกิดการเคลื่อนที่แบบโปรเจคไทน์ คือจริงๆต่อให้โลกแบนเป็นระนาบ หรือเป็นสี่เหลี่ยม วัตถุในโลกก็เคลื่อนที่แบบโปรเจคไทน์อยู่ดี จริงๆเป็นเพราะโลกมีมวล เลยมีแรงดึงให้เคลื่อนที่โค้ง หรือถ้ามองแบบไอสไตน์ก็คือ โลกมีมวลจึงทำให้กาลอวกาสโค้ง ครับ... ... การเคลื่อนที่แบบโปรเจคไทน์ หรือ วงกลม ก็เกิดขึ้นได้ โดยไม่มีผิวโค้ง เช่น อนุภาคมีประจุเคลื่อนที่ในสนามไฟฟ้า หรือในสนามแม่เหล็ก ครับ ...เรื่องส่องกล้องดูสุริยุปราคา เค้าจะดูดาวที่ตำแหน่งควรอยู่ด้านหลังดวงอาทิตย์ว่าจะมองเห็นได้ไหมถ้าเห็นได้แสดงว่าแสงเคลื่อนที่โค้งได้ ...แสงไม่มีมวลแต่เคลื่องที่โค้งได้แสดงว่าแรงดึงดูดที่เกิดจากมวลดูดมวลตามความคิดของนิวตันไม่ถูกแต่เกิดจากกาลอวกาศโค้งเนื่องจากมีมวลอยู่ตามที่ไอสไตล์เข้าใจ ... แต่เรื่องประวัติศาสตร์คงถูกต้องมั้งครับพอดีผมไม่ค่อยรู้...

  • @utthorntothasik

    @utthorntothasik

    2 жыл бұрын

    เห็นด้วยครับ

  • @dum5855

    @dum5855

    Жыл бұрын

    อันนี้อธิบายได้ถูกต้องเลยครับ

  • @nbtc3region355

    @nbtc3region355

    Жыл бұрын

    ภาษาเยอรมันครับ

  • @THE_David-Nattapong.K_n.

    @THE_David-Nattapong.K_n.

    Жыл бұрын

    ผมสามารถไข ปริศนา ได้ทั้งจักรวาลครับ....ถ้าโลกพร้อม..ผมก็พร้อมที่จะบอก...ทฤษฎีสัมพันธภาพ...เป็นทฤษฎีเด็กๆ...สำหรับผม...🌎😊

  • @01-kf9ng

    @01-kf9ng

    Жыл бұрын

    ​@@THE_David-Nattapong.K_n. ก่อนอื่นเขียนให้ถูกก่อนครับ มันอ่านว่าสัมพัท

  • @prawitseri5910
    @prawitseri59102 жыл бұрын

    การทดลองครั้งนี้ไอน์สไตน์ไม่ได้พูดว่าแรงโน้มถ่วงไม่มี แต่ไอน์สไตน์บอกว่าแสงไม่ได้เดินทางเป็นเส้นตรงอย่างเดียวอย่างที่นิวตันเคยพิสูจน์ไว้ แต่สามารถเลี้ยวเบนได้หรือแสงสามารถเดินทางเป็นเส้นโค้งได้ครับ

  • @tarmac_rock7389

    @tarmac_rock7389

    2 жыл бұрын

    ใช่ครับ ไม่งั้น แกจะเขียน ทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไป ทำไม ถ้า ไม่มีแรงโน้มถ่วง

  • @Nol2MalOrlglNaL

    @Nol2MalOrlglNaL

    2 жыл бұрын

    ไอน์สไตน์สงสัยเรื่องการตกลงของลิฟมาก่อนครับ ว่าทำไมคนในลิฟจึงไร้แรงโน้มถ่วง ทำไมแค่ลิฟตกแรงโน้มถ่วงถึงไม่ทำงาน ความสงสัยนี้ต่อยอดไปถึงกาลอวกาศที่โค้งครับ นำมาซึ่งทฤษฎีสัมพัทธภาพ และ ยืนยันด้วยการเคลื่อนที่ของดาวพุธว่าแรงโน้มถ่วงไม่มีจริง แรงโน้มถ่วงเป็นเพียงแค่มวลที่กระทำกับการอวกาศ เป็นผลให้วัตถุต่างๆ เคลื่อนที่ไปตามกาลเวลา ดังนั้น เวลา ความเร็ว มวล จึงเป็นสิ่งที่สัมพัทธ์กัน

  • @user-vf2hw1dv8h

    @user-vf2hw1dv8h

    2 жыл бұрын

    @@Nol2MalOrlglNaL ไอสไตล้ำลึกจริงๆครับ ขนาดในบัจจุบัญคนยังเชื่อในนิวตัน เพราะมันคือแนวคิดง่ายๆ คือแรงดึงดูด แต่แรงโน้มถ่วงของไอสไตนี้ คนธรรมดาคงคิดไม่ได้ นอกจากการจินตนาการ แล้วพิสูตรด้วยคณิตศาส คนแบบไอสไตนิเหละคือความรู้ใหม่

  • @rotarysuperstar5774

    @rotarysuperstar5774

    2 жыл бұрын

    @@Nol2MalOrlglNaL หาข้อมูลแบบนี้เพิ่มเติมจากไหนได้ครับ

  • @dum5855

    @dum5855

    Жыл бұрын

    คือ ไอสไตน์ไม่ได้มองว่าการที่วัตถุสองชิ้นหรือมวลสองอันเคลื่อนที่เข้าหากันเกิดจากแรงโน้มถ่วงระหว่างกัน แต่มันเป็นเพราะมวลของวัตถุที่ทำให้กาลอวกาศรอบๆ บิดเบี้ยว มวลทั้งสองจึงเคลื่อนที่เข้าหากัน

  • @piasanapiya7662
    @piasanapiya7662 Жыл бұрын

    อยากให้เล่าเรื่อง มารี กูว์รี ผู้ค้นพบ เรเดียมและพลูโทเนียมครับ

  • @trump989
    @trump9892 жыл бұрын

    ขนาดผู้ ชาญฉลาด อัจฉริยะ ที่สุดในโลก ยัง ยอมรับว่า พุทธศาสนา เป็น ศาสนา ที่ ดีที่สุด ในโลกแห่งความเป็นจริง เปิดใจยอมรับอย่างจริงใจ 🙏🙏🙏

  • @user-ey7db2gn1e

    @user-ey7db2gn1e

    2 жыл бұрын

    ไม่เคยครับ ไอสไตน์ไม่เคยพูด

  • @user-tp6go3do5z

    @user-tp6go3do5z

    2 жыл бұрын

    @@user-ey7db2gn1e ผมเห็นเวลาพูดเกี่ยวกับไอสไตน์ทีไร ชอบมีคนเอามาพูดว่า ไอสไตน์บอกว่าศาสนาพุทธดีที่สุดในโลก ทั้งที่ไอสไตน์ไม่เคยพูดเลย หลักฐานอ้างอิงก็ไม่มีพูดเองเออเองตลอดนี่แหละคนไทย

  • @user-ey7db2gn1e

    @user-ey7db2gn1e

    2 жыл бұрын

    @@user-tp6go3do5z มีไอ้บ้าตัวนึงเสือกเอาไปเติมในคำพูดเขา แถมเป็นคำพูดสำคัญด้วยและทีนี้เผยแพร่ออกไป ทำให้คนเข้าใจผิดโดยเฉพาะคนไทย ไอสไตน์ไม่เคยพูดเลยจริงๆ อยากมากก็แค่บอกว่า มันต้องมีอะไรสักอย่างที่ทำให้จักรวาลเกิดขึ้นมา

  • @NormalVillager

    @NormalVillager

    2 жыл бұрын

    พุทธโธเลี่ยน ผู้เคลมวิทยาศาสตร์เกือบทุกแขนงว่าเป็นไปตามพระพุทธเจ้า

  • @horus442

    @horus442

    2 жыл бұрын

    @@user-ey7db2gn1e แค่มันใกล้เคียงง

  • @user-pq8ii3cb6l
    @user-pq8ii3cb6l2 жыл бұрын

    ไม่ไช่เพราะผิวทรงกลมทรงโค้ง แต่คือมวลของวัตถุทำให้ กาลอวกาศโค้ง ยิ่งมีมวลมากยิ่งทำให้กาลอวกาศยิ่งโค้งมาก เช่น ดวงอาทิตย์ ลูกปิงปองทรงกลมเหมือนกัน แต่มวลน้อยจึงดึงกาลอวกาศน้อยมากๆ...

  • @domeneosecret

    @domeneosecret

    2 жыл бұрын

    ใช่ครับ ถูกต้องตามนี้

  • @infinitylogic1164

    @infinitylogic1164

    2 жыл бұрын

    และการจะบิดเบือนกาลอวกาศจำเป็นต้องใช้พลังงานที่สร้างพื้นที่บิดเบือนกาลอวกาศได้มาก หรือก็คงเป็นการสร้างวงจรของดาวๆหนึ่ง ซึ่ง ถ้าเราสร้างการบิดเบือนได้สำเสร็จ เราก็สามารถสร้าง UFO ที่เป็นของมนุษย์ได้

  • @infinitylogic1164

    @infinitylogic1164

    2 жыл бұрын

    ...อยากรู้จริงๆเมื่อไหร่โลกจะหมดยุคทุนนิยม มันทำให้มีการแข่งขันก็จริง แต่ถ้าไม่มีคู่แข่ง ก็แทบไม่ขยับไปไหนเลย...

  • @PrincessOmegzz

    @PrincessOmegzz

    2 жыл бұрын

    อันนี้ถูกต้องเลยครับผม

  • @airobot913

    @airobot913

    2 жыл бұрын

    ถ้าไม่ได้มาอ่านเม้นจะทำให้เข้าใจผิดนึกว่าผิวทรงกลมทำให้เกิดแรงดึงดุด ขอบคุณครับ

  • @brook9455
    @brook94552 жыл бұрын

    ชอบคำพูดของไอสไตที่คุยกับชาลีแชรปปิ้น ที่งานประกาศรางวัล โรเบิร์ต พูดว่า ชาลีผมวส่าคุณสุดยอดเลยไม่ต้องพูดอะไรสักคำแต่ทุกคนเข้าใจสิ่งที่คุณจะบอก ชาลี พูดว่า ผมว่าคุณสุดยอดยิ่งกว่าไม่มีคนเข้าใจสูตรของคุณแต่ทุกคนเชื่อว่ามันเป็นไปได้จริง

  • @Whoami1988_

    @Whoami1988_

    2 жыл бұрын

    เหอๆๆ มั่วมากนะคุณ😒

  • @user-pg3kf6hq6u

    @user-pg3kf6hq6u

    2 жыл бұрын

    *_นักคิดระดับโลก¡¡¡¡เวลาเขาพูดคุยกัน มันช่างเป็นคำพูดที่ลึกล้ำเเละลึกซึ้งจริงๆ_*

  • @user-pg3kf6hq6u

    @user-pg3kf6hq6u

    2 жыл бұрын

    @@Whoami1988_ *_มั่วยังไงอ่ะเขาพิมพ์ ถูกเเล้ว_* *_คุณเเหล่ะ¡¡¡¡มั่ว¡¡¡¡_*

  • @sesona-man9895

    @sesona-man9895

    Жыл бұрын

    Seson ❤️❤️

  • @KingrpgNet

    @KingrpgNet

    Жыл бұрын

    ผมอยู่ในเหตุการณ์

  • @PlanetSoftx
    @PlanetSoftx Жыл бұрын

    ฟังเพลินๆ ความรู้แน่นๆ กับบางอย่างที่ลืมไป

  • @fenderfreezz
    @fenderfreezz2 жыл бұрын

    ผมคิดว่าสื่อความหมายผิดนะครับ ตอนนั้นที่ทดลองกับสุริยุปราคากัน เพราะว่าต้องการส่องดูดวงดาวที่ถูกดวงอาทิตย์บดบังอยู่ เพราะจากการคำนวนมวลของดวงอาทิตย์แล้ว มีมวลมากพอที่จะบิดแสงจากดวงดาวให้โค้งและตกไปยังโลกได้ เมื่อแสงมาถึงโลกเราก็จะสามารถมองเห็นดวงดาวนั้นได้ไงครับ ถ้าอวกาศไม่โค้งเพราะดวงอาทิตย์เราก็จะมองไม่เห็นดวงดาวนั้นเพราะตัวดวงอาทิต์บังอยู่ และไม่ใช่เพราะว่ามันอยู่ข้างๆเราจึงมองเห็น แต่เป็นการคำนวณตำแหน่งดาวนั้นแล้วว่ามันจะโคจรมาข้างหลังดวงอาทิตย์จริงๆ และที่ต้องทำตอนเกิดสุริยุปราคาก็เพราะว่าแสงจากดวงอาทิตย์จะกลบแสงดาวนั้นจนมองไม่เห็น ไม่ใช่แสงอาทิตย์โค้งเพราะถูกหักเหโดยดวงจันทร์เพราะดวงจันทร์มีมวลไม่จากจนสังเกตด้วยเครื่องมือยุคนั้นไม่ได้

  • @kopterbenz5771
    @kopterbenz57712 жыл бұрын

    18:25 ถ้าจำไม่ผิดไม่ใช่ทุกทีมจะถ่ายภาพสำเร็จนะครับ ดังนั้นไม่น่าจะใช้คำว่า "ภาพของกล้องทั้ง7กล้อง" ได้นะครับ

  • @aliuqA
    @aliuqA Жыл бұрын

    คลิปนี้เล่าได้ดีมากๆครับ🥰 รู้สึกเสียดายตามเลย😭

  • @markfishy1
    @markfishy12 жыл бұрын

    ฟังเพลินยามเช้า

  • @user-ty6xj9tx8o
    @user-ty6xj9tx8o2 жыл бұрын

    สิ่งที่ ตะลึงที่สุดคือ แต่ล่ะที่ แต่ละดวงดาว จะมีการบิดเบือนของเวลา ในจำเพาะของตัวมันเอง และการเดินทางข้ามเวลา นั้นมีจริง ทำให้ทั่วโลกสมัยนั้น ตะลึงเป็นอย่างมาก ในช่วงยุค 1900s

  • @m-m9185

    @m-m9185

    2 жыл бұрын

    สองสิ่งที่มนุษย์ไม่สามารถเอาชนะได้ คือ ความตายเเละเวลา อนาคตคือสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นคือความว่างเปล่านั่นเองเเล้วเราจะเดินทางข้ามเวลาไปอนาคตได้ยังไง

  • @user-el7ys6tx1h

    @user-el7ys6tx1h

    2 жыл бұрын

    ถ้าจริงทำไมคนจากอนาคตไม่เดินทางกลับมาบ้างล่ะ

  • @SANGSANTi

    @SANGSANTi

    2 жыл бұрын

    @@user-el7ys6tx1h เงื่อนไขคือต้องมีคนไปอยู่ที่ดาวนั้นๆให้ได้ก่อนหน่ะสิ แล้วดาวแต่ละดวงที่จะทำให้คนเป็น "คนแห่งอนาคต" ตามทฤษฏีสัมพันธภาพนั่นไม่ได้อยู่ใกล้เราขนาดนั้น ซึ่งยังไม่มีใครสามารถไปตรงนั้นได้ เลยยังไม่มีใครกลับจากอนาคตได้ แต่ตามทฤษฎีนั้นเป็นไปได้

  • @user-el7ys6tx1h

    @user-el7ys6tx1h

    2 жыл бұрын

    @@SANGSANTi เห็นอดีตนะเป็นไปได้เช่นเห็นการระเบิดของดาวที่อยู่ไกลแต่พอแสงเพิ่งเดินทางมาถึงจึงเห็นได้แค่อดีตของมัน

  • @bunchawongjun2402

    @bunchawongjun2402

    2 жыл бұрын

    อดีตคือสิ่งที่ล่วงไปแล้ว อนาคตคือสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น การเดินทางข้ามเวลาเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ สิ่งที่ทำได้คือการคิดถึงสิ่งที่ล่วงไปแล้วในอดีตและการคิดถึงสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต อะไรที่ไม่ได้ทำก็คือทำไม่ได้ เราจะบอกว่าสิ่งนั้นทำได้ก็ต่อเมื่อเราได้ทำมันแล้วเท่านั้น

  • @j-sci-XZR-71
    @j-sci-XZR-712 жыл бұрын

    ผมรู้สึกว่า คลิปนี้เนื้อทางด้านฟิสิกส์ ค่อนข้างแย่ ส่วนด้านประวัติศาสตร์เล่าได้ดีครับ

  • @KittiPhopichayakul
    @KittiPhopichayakul2 жыл бұрын

    ขอบคุณ..สำหรับสาระดีดีครับ

  • @veechat
    @veechat2 жыл бұрын

    ชอบฟังเรื่องวิทยาศาสตร์ครับ

  • @NichaChanin
    @NichaChanin2 жыл бұрын

    อัจฉริยะที่ทฤษฎีของเขาใช้จนถึงปัจจุบัน..เหมือนคนหรือเด็กพิเศษที่เป็นอัจฉริยะด้านใดด้านหนึ่ง....สุดยอด

  • @liangaugust5448
    @liangaugust54482 жыл бұрын

    คลิปสรุปมั่วครับ แรงโน้มถ่วงยังมีอยู่ กฎนิวตันก้ไม่ได้ผิดในเรื่องนี้ ไอน์สไตน์ขยายแรงโน้มถ่วงให้ชัดเจนขึ้น

  • @kopterbenz5771

    @kopterbenz5771

    2 жыл бұрын

    อธิบายเพิ่มเติมได้ไหมครับ

  • @govaleng.2411

    @govaleng.2411

    2 жыл бұрын

    @@kopterbenz5771 ขอฟังด้วยคนครับ

  • @PrincessOmegzz

    @PrincessOmegzz

    2 жыл бұрын

    กฎของไอน์สไตน์คือ วัตถุจะตกจากจุดที่เวลาเดินช้า สู่จุดที่เวลาเดินเร็วกว่าเสมอ จะไม่ได้พูดถึงแรงโน้มถ่วงเลย และยังสามารถใช้อธิบายวงโคจรของดาวบางชนิดได้ โดยที่ถ้าใช้ทฤษฎีแรงโน้มถ่วงของนิวตันไม่ได้เลย

  • @squallleonheart9860

    @squallleonheart9860

    2 жыл бұрын

    คลิปมั่วจริงครับ ไม่เกี่ยวกับความโค้งเลย เกิดจากมวลขนาดใหญ่ บิดกาลอวกาศ

  • @Nol2MalOrlglNaL

    @Nol2MalOrlglNaL

    2 жыл бұрын

    แรงโน้มถ่วงของนิวตั้นผิดเต็มๆ ครับ เพราะถ้ากฎของนิวตั้นไม่ผิด ปรากฎการไร้แรงโน้มถ่วงที่ทำในเครื่องบินจะเกิดขึ้นไม่ได้ แต่การคำนวณในแบบนิวตั้นยังใช้ได้ในแบบความละเอียดต่ำ หรือ ใช้กับวัตถุมวลต่ำ

  • @wiyakanratanametee6348
    @wiyakanratanametee6348 Жыл бұрын

    เล่าเรื่องสนุกมากค่ะ ❤

  • @mniti183
    @mniti183 Жыл бұрын

    5:57 ผมชอบมหาลัยนี้มากครับ (Kaiser-Wilhelm-Gesellschaft zur Förderung der Wissenschaften)

  • @user-cb6xq8jg5t
    @user-cb6xq8jg5t2 жыл бұрын

    ชอบความใส่ใจในภาษามากๆครับ เป็นกำลังใจ ทำต่อไปเรื่อยๆนะครับ

  • @pattariyasarnsawad6982
    @pattariyasarnsawad69822 жыл бұрын

    ฟังมาหลายคลิป ชอบคนพากย์ออกเสียงDeutschมาก เหมือนเจ้าของภาษาเลยค่ะ sehr gut 👍🏻

  • @user-ye6es7iy5s

    @user-ye6es7iy5s

    2 жыл бұрын

    เห็นด้วย น่าฟังมาก เยี่ยม

  • @TheChat911

    @TheChat911

    Жыл бұрын

    ท่านคือ ดร.วิทย์ สิทธิเวคิน ครับ

  • @user-vb6pb3vc7p
    @user-vb6pb3vc7p Жыл бұрын

    ขอบคุณพระเจ้า และขอบคุณพระเจ้าไอสไตน์ และขอบคุณพระเจ้า กีฬา เม็กซิกัน ขอให้ทุกท่านมีความสุขความเจริญ มีความมั่นคง มีความเจริญในหน้าที่การงาน ประสบความสำเร็จในด้านความรัก และประสบความสำเร็จ ด้านความรักของครอบครัว และประสบความสำเร็จ ต่อความรักเพื่อนรอบโลก ขอบคุณพระเจ้า

  • @hisojamsai
    @hisojamsai2 жыл бұрын

    ข้อมูลส่วนที่เป็นฟิสิกส์หลังๆค่อนข้างผิดเพี้ยนไปเยอะนะครับ มีสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจของไอสไตน์คือเขาคิดว่ามีตัวแปรหนึ่งในสมการคำนวณเกี่ยวกับเอกภพวิทยา ซึ่งต่อมาเขาคิดว่ามันผิดและเป็นตราบาปของเขาจนเขาเสียชีวิต แต่ในปัจจุบันตัวแปรนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมากในการศึกษาเอกภพวิทยา จะถือว่าเป็นความชาญฉลาดของเขาที่น่าสนใจมากๆเลยก็ว่าได้

  • @user-xl2rq2iu9v

    @user-xl2rq2iu9v

    2 жыл бұрын

    ครับๆ ติดต่อรับรางวัลโนเบลที่ศรีธัญญาเลยครับ

  • @user-hy1bc3fv8m

    @user-hy1bc3fv8m

    2 жыл бұрын

    @@user-xl2rq2iu9v ผมว่าคุณนั่นแหละเปิดกะลาบ้างนะ

  • @luckydevil5908
    @luckydevil59082 жыл бұрын

    ลงเช้าจังเลยคับ

  • @MissTYou
    @MissTYou2 жыл бұрын

    ขนาดเสียชีวิตไปแล้ว แต่ยังมีคนเก็บรักษาสมองของเค้าไว้ สุดยอดจริงๆ

  • @user-me3md6cv4l

    @user-me3md6cv4l

    2 жыл бұрын

    พวกขโมยไปกินอีกนะ สุดยอดจิงๆ555

  • @fregftv8030

    @fregftv8030

    2 жыл бұрын

    @@user-me3md6cv4l สรุปสมองเค้ายังอยู่ไหม

  • @user-me3md6cv4l

    @user-me3md6cv4l

    2 жыл бұрын

    ไม่แน่ใจครับว่ายังอยู่ไหม แต่ที่แน่ๆไอคนดูแลอ่ะมันขโมยสมองไปกินบางส่วน5555

  • @user-zt3dt9yf3w

    @user-zt3dt9yf3w

    9 ай бұрын

    อยากกินเเอ๊ปอ่องออไอสไตล์​ครับ

  • @user-re5lp8in6g
    @user-re5lp8in6g2 жыл бұрын

    ผมเชื่อมาโดยตลอดว่าโลกไม่มีแรงดึงดูดเป็นของตัวเอง เพียงแต่โลกเป็น สื่อมาก คือความเป็น ฉนวน มีน้อย จึงรับเอาแรงผลัก หรือแรงเหวี่ยง ที่ส่งเข้ามาจากนอก จักรวาลแบบรอบตัว360องศา ซึ่งผมสามารถอธิบายได้ว่าเพราะอะไร ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น แต่ไม่มีโอกาสชี้แจงได้ นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้ระบายนิดเดียวเท่านั้น

  • @utthorntothasik

    @utthorntothasik

    2 жыл бұрын

    คิดเหมือนกันครับ ไอนสไม่ได้ถูกทั้งหมด ถ้าหากเรานำวัตถุทรงกลมเช่นเหล็กขนาดเล็กมีมวลความหนาแน่นไกล้เคีบงกับโลก แล้วนำไปปล่อยในอวกาศจากนั้นนำวัตถุอีกอันไปอยู่ไกล้ๆมันคงดูดเข้าดหากัน แต่ผมว่ามันไม่ดูดเข้าหากันแน่ แต่ถ้าวัตถุอันใหญ่มันหมุนด้วยความเร็วสูง มันจะสามรถสร้างแรงดูดหรือจริงแล้วคือแรงผลักขึ้นมาได้ ซึ่งแรงคึงดูดคือการเคลื่อนที่เกิดขึ้นตามทรงกลม และทำให้มันเคลื่อนที่เป็นวงกลมรอบดวงอาทิตย์ด้วย ถ้าโลกและดวงอาทิตย์มีแรงดูดจริงเราคงถูกดวงอาทิตย์ดูดเข้าไปจนไหม้เกรียมแล้ว แต่เพราะแรงผลักซึ่งกันและกันทำให้มันยังคงอยุ่ในตำแหน่งเดิมตลอดไม่หลุดจากวงโคจร

  • @walkafterworkwaw7641

    @walkafterworkwaw7641

    2 жыл бұрын

    @@utthorntothasik ไม่ครับ ต่อให้ขนาดเล็กเท่าฝุ่น แต่มวลเท่าโลก กาลอวกาศก็โค้งครับ ไอน์สไตน์ บอกว่า ถ้าทฤษฎีของเขาผิดหนึ่งข้อ ทุกข้อก็จะผิดหมด

  • @dum5855

    @dum5855

    Жыл бұрын

    @@utthorntothasik เก่งกว่าไอน์สไตน์สินะ อธิบายได้มั่วมาก ที่โลกโคจรรอบดวงอาทิตย์ หรือ ดวงจันทร์โคจรรอบโลก เพราะการเคลื่อนที่ด้วยความเร็วรอบมวลที่ใหญ่กว่าคือสิ่งที่ทำให้(ยัง)ไม่ถูกดูดเข้าไปในทันที

  • @peeramuanwaja8457
    @peeramuanwaja8457 Жыл бұрын

    เสียง สุดยอด อาจารย์

  • @Cm-ju7zj
    @Cm-ju7zj Жыл бұрын

    ☕️🐼 สุดยอด ข้อมูล ครับ ฟังเพลิน และ ได้ ความรู้ ครับ 👍💕😇💎🙏

  • @kuuhaku3503
    @kuuhaku35032 жыл бұрын

    เพิ่มเติม ไอสไตน์ ได้รับรางวัลโนเบล เรื่อง ปรากฎการณ์โฟโตอิเล็กทริก (photoelectric effect) ไม่ใช่ทฤษฎี สัมพัทธภาพ

  • @Anittha262

    @Anittha262

    2 жыл бұрын

    ช่าย

  • @tanathipchanwattana9487
    @tanathipchanwattana94872 жыл бұрын

    ขัดใจเวลาได้ยินว่า สัมพันธภาพ ทั้งที่จริงมันคือ สัมพัทธภาพ

  • @peeramuanwaja8457
    @peeramuanwaja8457 Жыл бұрын

    ชอบมากครับ

  • @oogarenachannel2987
    @oogarenachannel29872 жыл бұрын

    เข้าใจหลายอย่างเลยครับ

  • @sayanladsalung9870
    @sayanladsalung98702 жыл бұрын

    ไอน์สไตน์ประกาศตน เป็นผู้ไม่นับถือศาสนาใดในโลก แต่หากจะพูดว่า ศาสนาใดที่เข้าได้กับปรัชญาของเขาแล้วละก้อ ศาสนาพุทธเข้าได้กับปรัชญาของเขาที่สุด

  • @user-hd5re3uc8n

    @user-hd5re3uc8n

    Жыл бұрын

    ผมเคยอ่านหนังสือพระพุทธพบไฮสไตน์เห็น หรือกลับกันไฮสน์พบพระพุทธเจ้าเห็น...ลองไปหาอ่านดูครับ

  • @sayanladsalung9870

    @sayanladsalung9870

    Жыл бұрын

    @@user-hd5re3uc8n อ่านมาแล้วครับ เมื่อปี57

  • @sarawutkhemthong5242
    @sarawutkhemthong5242 Жыл бұрын

    ฟังเพลินมากครับ

  • @user-uw7bm4cz3k
    @user-uw7bm4cz3k Жыл бұрын

    แรงโน้มถ่วงไม่มีอยู่จริง มีแต่แรงหมุนรอบตัวเองของโลกและดวงดาวในจักรวาลเท่านั้นที่มีอยู่จริง และคนเราไม่มีศาสนาก็ไม่เป็นไร แต่ขอให้มีคุณความดีติดตัว คิดดี พูดดี ทำดี จะมีแต่ความสบายใจ ไม่เชื่อลองปฏิบัติดู

  • @kittidechcharoenkri5731
    @kittidechcharoenkri57312 жыл бұрын

    เรายืนหรือทรงตัวอยู่ได้ด้วยแรงเหวี่ยงของโลก แรงเหวี่ยงนี้ก่อให้เกิดกระแสลมเฉื่อยชนิดหนึ่ง เสมือนที่เรายืนอยู่ข้างทางแล้วมีรถสักคันวิ่งผ่านไปทำให้เราตัวเอนตามแรงลม หากเป็นแรงดึงดูดของโลกซึ่งใบใหญ่มหาศาล เราอาจจะยกสิ่งใดไม่ขึ้นจากพื้นโลก // โน้มไปด้านหน้าทรงตัวด้วยน้ำหนัก เช่นเดียวกับที่โลกใบนี้หมุนไปในทิศทางเดียวไม่แปลเปลี่ยน 🤭🤗🤓

  • @dum5855

    @dum5855

    Жыл бұрын

    เลอะเทอะ

  • @infinixx1800

    @infinixx1800

    Жыл бұрын

    มีความเป็นไปได้สูงมากนะคะ ด้วยความที่โลกเป็นทรงกลม แรงเหวี่ยงก็มาได้ทุกทิศ มาตีกับเรา คือแรงเหวี่ยงของโลก+กระแสลมเฉื่อย ทำให้เราทรงตัวตรง ใช่พี่น่าสนใจ แล้วทีนี่ มีวัตถุเคลื่อนที่ ซึ่งมีน้ำหนักมากกว่า ก็ทำให้เรา เคลื่อนที่ไปตามสิ่งๆนั้นคือ รถ ที่คุณบอก แต่ก็ไงอะโลกหมุนรอบตัวเองตลอดครบ24ชม.จึงเริ่มใหม่หมุนจุดเริ่มต้นใหม่เรื่อยๆ ร่างกายเราคือมีผลต่อพลังงานทุกทิศที่มีกระแสลมโจมตีมาเท่าๆกัน แล้ว ที่เขาเรียก ภูมิต้านทานของคนป้ะพี่ ก็คือ ความทนทานของร่างกาย ที่ทนต่อสิ่งที่มาโจมตี ไม่ว่าจะลม โรคภัย ทุกอย่าง มีผลต่อพลังงานรอบๆตัว ไม่ว่าจะวัตถุ ต้นไม้ ธรรมชาติ แต่สิ่งไหนที่มีน้ำหนักมากกว่าก็จะมีผลกับสิ่งนั้นๆเช่น เวลาหนูวิ่งผ่านทิชชู่คือทิชชู่ปลิวค่ะ แต่เวลาเดินไม่เพราะฉะนั้น ด้วยความที่โลกเป็นวงกลม กระแสลมเฉื่อยที่มีรอบทิศรอบตัวเราหรือวัตถุอื่นๆที่ยืนอยู่จุดตรงกลางแล้วถ้าวัตถุไหนมีน้ำหนักมากกว่าวัตถุไหนๆ เช่นนะพี่ เราคือวัตถุอยู่ตรงกลาง แล้วรถวิ่งผ่านเราแต่ด้วยความที่กระแสลมเฉื่อยหรือเกิดกระแสลมจากสิ่งอื่น คือ รถกำลังปะทะกับลมทำให้เกิดการหักเหของลมและลมนั้นกระทบกับเราที่อยู่ตรงกลางคือทำให้เราเอียงไปตามรถผ่านแต่ด้วยความที่เกิดขึ้นแป้บเดียวเราก็สามารถกลับมายืนตรงที่จุดเดิมได้นอกจากว่าจะมีรถที่น้ำหนักกว่ารถที่ขับผ่านเราแต่เป็นน้ำหนักที่มากกว่าหลายเท่ามีสิทธิ์ทำให้เราล้มกองกับพื้นได้ แต่กระแสลมเฉื่อยมีน้ำหนักน้อยกว่าเรา ทำให้เราล้มไปกองกับพื้นได้ด้วยการที่เราก็โจมตีกระทบกับลมนั้น แต่ถ้าตรงนั้นมีวุตถุเช่นทิชชู่มันก็ทำให้ทิชชู่โดนลมหักเหจากเราที่กระทบกับลมเฉื่อยแต่ว่าด้วยเรามีน้ำหนักมากกว่าทั้งสอง ก็ดูทิชชู่ว่าจะปลิวช้าๆหรือปลิวไวๆ ใช่พี่ ความคิดพี่น่าสนใจมากค่ะ แต่ท้าทายสมองหนูมากว่า พี่อาจจะหมายถึงอะไร คิดไปทางไหน ใช่ไหมคะพี่ แต่หนูไม่เห็นด้วยกับคำวิจารณ์ว่า เลอะเทอะนะคะ เราก็วิจารณ์คุณบ้างว่า คิดไม่เป็น ไม่ได้รู้ความหมายของทฤษฎีหรือสิ่งไหนอย่างลึกซึ้งแม้แต่ใจคน

  • @infinixx1800

    @infinixx1800

    Жыл бұрын

    สรุปพี่ โลกมีน้ำหนักมากกว่ามีผลกับวัตถุ+วัตถุที่มีน้ำหนักมากกว่ามีผลกับเรา+เรามีผลต่อวัตถุที่มีน้ำหนักน้อยกว่า จึงเกิดการหักเหของลม เหตุคือ ลมที่นำไปสู่ความแรง ว่าด้วยโลกก็เจอลมจากทุกทิศแล้วก็หมุนรอบตัวเองไปทางเดียวกันตลอด ไม่ว่าจะเป็นพลังงานแสงอาทิตย์หรืออื่นๆที่มีน้ำหนักมากกว่าก็มีผลกับโลก ใช่ไหมคะพี่ แล้วลมเกิดจากอะไรกันแน่?เดี๋ยวหนูไปศึกษาต่อนะคะอันนี้คือความสงสัยของหนูค่ะ😂🙏 หนูเข้าใจถูกไหมคะ แต่ว่าเคยเรียนมานะคะไม่ได้ตั้งใจเลยค่ะ😅 พึ่งค้นพบบุคลิกตัวเองและก็มีคำว่าทฤษฎีแต่เคยได้ยินมาอยู่บ้างค่ะ ไม่เคยได้เข้าใจแบบถูกต้อง หนูพึ่งมาศึกษาจริงๆจังค่ะ จนได้รู้ว่า มันน่าสนใจมากกกกกพี่🥰🙏

  • @patiyutsanor7371

    @patiyutsanor7371

    Жыл бұрын

    คุณหยิบของเล่นมาเหวี่ยง และให้วัตถุปลายที่ไม่ได้จับ ปล่อยฝห้มันเคลื่อนที่อิสระดูครับ

  • @patiyutsanor7371

    @patiyutsanor7371

    Жыл бұрын

    หลักจากที่เราหยิบของเล่นมาเหวี่ยง วัตถุปลายจะเคลื่อนที่ถ่ายแรฃเหวี่ยง และโลกก้จะหมุนรอบตัวเอง

  • @user-tr1dg1pf2r
    @user-tr1dg1pf2r2 жыл бұрын

    แรงโน้มถ่วง แรงดึงดูด แรงผลักดัน แรงแม่เหล็ก แรงแผ่รังษี คลื่นรังษี มีอยู่ในมวลของวัตถุอวกาศหรือดวงดาวทุกดวงในจักรวาล ยกตัวอย่าง โลก เป็นดวงดาวในระดับแพลนเนทหรือดาวเคราะห์ดวงหนึ่ง คุณสมบัติของโลกมีมวลทรงกลมเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 12,000 กม. มวลของวัตถุรวมตัวกันก่อให้เกิดแม่เหล็กที่ไม่ใช่แม่เหล็กไฟฟ้า มีแรงดึงดูดของตัวเอง เช่น โลกมีแรงดึงดูดรอบตัวประมาณ 700 กม.เหนือพื้นดิน แต่เราเรียกว่าแรงโน้มถ่วง ส่วนที่เกินเลยออกไปเป็นเขตแดนของอวกาศ หรือคอสมิคฟิลด์ ของจักรวาล โลกสามารถส่งแรงแม่เหล็กในรูปแบบลายเส้นรอบโลกอันเป็นแรงล็อกที่มีทั้งแรงดึงดูดและแรงผลัก ล็อกวัตถุให้หมุนรอบโลกอย่างเช่นดวงจันทร์ ส่วนที่เลยไกลออกไปอีกเป็นแรงแผ่รังสีที่ส่งเป็นคลื่นออกไปทั่วจักรวาล {ส่วนที่เหลือพิจารณาเองว่า เซ่อไอแซกนิวตัน กับ ไอน์สไตนน์ ใครผิดใครถูก}

  • @user-ed1ir9hn8h

    @user-ed1ir9hn8h

    2 жыл бұрын

    ยุคก่อนปี 1980 ทุกคนเชื่อว่านิวตันฉลาดสุดในโลก พอ1981ถึง1982 ตอนที่ สามารถสร้างแสงเลเซอร์​ได้สำเร็จ และสามารถพิสูจ​น์ได้หลายอย่าง ตั้งแต่นั้นมา ไอสไตล์​คือที่1

  • @dum5855

    @dum5855

    Жыл бұрын

    มั่วละ อะไรคือแรงผลัก ที่ดวงจันทร์โคจรรอบโลกเพราะ กาลอวกาศรอบโลกกับดวงจันทร์ที่บิดโค้ง ดวงจันทร์จึงเคลื่อนที่วนไปรอบโลกตามแนวของกาลอวกาศที่โค้งรอบโลก เช่นเดียวกับที่โลกโคจรรอบดวงอาทิตย์

  • @user-tr1dg1pf2r

    @user-tr1dg1pf2r

    Жыл бұрын

    การโคจรรอบดาวแม่เกิดจากดาวแม่ส่งแรงแม่เหล็กลายเส้นออกไปรอบตัว ลายเส้นนี้เป็นแรงล็อกโดยมีทั้งแรงดึงดูดและแรงผลักดัน ยกตัวอย่างให้เห็นได้ง่าย ดาวเสาร์มีวงแหวน นั่นคือแรงแม่เหล็กที่ล็อกวงแหวนให้อยู่กับที่ ไม่ให้เข้าหาและลอยออกไป สำหรับคำว่ากาลอวกาศ ที่จริงเป็นของสองสิ่ง กาลก็คือเวลา อวกาศคือสเปส ตรงกับภาษาอังกฤษ spacetime ซึ่งแยกเป็น space และ time อวกาศ หรือเอกภพหรือจักรวาลคือสิ่งที่เรามองเห็นรูปของดวงดาวและแกแลกซี่ ส่วนเวลาที่เราเข้าใจอดีตปัจจุบันและอนาคต ถ้าspacetime รวมกันน่าจะหมายถึงจักรวาลตั้งแต่เริ่มต้นในอดีตปัจจุบันและอนาคต การย้อนอดีตกลับไปอย่างเช่นรูหนอนย่อมทำไม่ได้ ส่วนการบิดโค้งรอบโลกนั้นเกิดขึ้นได้เพราะโลกหมุนรอบตัวเองลายเส้นแม่เหล็กรอบโลกจึงเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาและเป็นรูปโค้งตามเปลือกโลก.

  • @dum5855

    @dum5855

    Жыл бұрын

    @@user-tr1dg1pf2r เอาที่พี่สบายใจเลยครับ สมอง 555555

  • @KrutoeyD

    @KrutoeyD

    Жыл бұрын

    @@dum5855 เขาอ่านมาแต่เข้าใจไม่หมดอ่ะครับ 5555 แค่รู้ว่า ส้มคือส้ม มะนาวคือมะนาว แต่ไม่รู้ว่าส้มกับมะนาวเกิดมาได้ยังไง

  • @user-no2dm8pt9m
    @user-no2dm8pt9m Жыл бұрын

    สุดยอดมากครับ

  • @gooddairyfarm3123
    @gooddairyfarm31232 жыл бұрын

    ขอบคุณครับ

  • @Ninlakarn
    @Ninlakarn2 жыл бұрын

    สวัสดีครับ ไอส์ไตน์ เป็น ไอดอลผมครับ ผมเรียน วท.ม.ฟิสิกส์ เกษตร ใช่ละครับ หลายคนบอกว่า ไอส์ไตน์สร้างระเบิดนิวเคลียร์ ไม่ใช่เลย คนสร้างคือ ออปเทนไฮเมอร์

  • @user-pn1wi3hg7m

    @user-pn1wi3hg7m

    Жыл бұрын

    และเขาก็ไม่ได้ใช้ทฤษฏีของไอสไตสร้างระเบิด

  • @mingchelsea3720
    @mingchelsea37202 жыл бұрын

    บางสิ่งที่เราคิดว่าใช่ แต่อาจจะไม่ใช่ก็ได้ ...ประวัติศาสตร์ทำให้เราเรียนรู้ในอดีต แต่จะจริงหรือไม่ก็อีกเรื่องหนึ่ง

  • @YoshiNoProperty1996
    @YoshiNoProperty1996 Жыл бұрын

    สนุกมากครับ

  • @bigbrand811
    @bigbrand811 Жыл бұрын

    มีความเป็นได้ ที่ ภรรยาของไอซ์สไตน์ เก่งมาก แค่ไม่ถูกบันทึกไว้

  • @KidkoroKnan
    @KidkoroKnan2 жыл бұрын

    ยิ่งฟังยิ่งชอบประวัติศาสตร์+วิทยาศาสตร์ทั่วไปรอบตัว

  • @user-tf9pi8sk2z

    @user-tf9pi8sk2z

    2 жыл бұрын

    ำำำำำำำำำำำำำำำำำำำำำำำำำำำำำำำำำำ

  • @kanielouits8672

    @kanielouits8672

    2 жыл бұрын

    ตอนนี้ดูยุอีกมั้ย_

  • @sprazer
    @sprazer2 жыл бұрын

    ความเข้าใจว่า "แรงดึงดูดนั้นไม่ได้มีอยู่จริง" ไม่ได้ตั้งขึ้นจากความจากเหตุผลที่ว่า "จักรวาลมีผิวเรียบ แต่โลกมีทรงกลม" ครับ จักรวาลมีผิวอย่างไรนั้นมันซับซ้อนที่จะบอกออกมาว่าเป็นอย่างไร และหากจะเข้าใจเรื่องนี้ได้ดีขึ้น เราต้องเข้าใจเรื่องการมองเห็นเสียก่อน โดยพื้นฐานเราจะเข้าใจว่าตาเรามองเห็นวัตถุจากการมองวัตถุ แต่จริงๆแล้วตาเราไม่สามารถมองเห็นวัตถุอะไรได้ สิ่งที่เรามองเห็นจริงๆนั้นคือ แสงครับ ยกตัวอย่างหากเราอยู่ในห้องที่มืดเราจะมองไม่เห็นอะไรเลยหากไม่มีแสง ถ้าหากตาเราใช้มองวัตถุจริงๆ เราควรจะต้องมองเห็นในห้องมืดถูกมั้ย และสมมุติต่อว่าในห้องนั้นมีส้ม 1 ลูก เมื่อเราเปิดไฟ เราจะเห็นส้ม ทันที แต่เอาจริงๆมันคือแสงทบผ่านส้มมาก่อนมากระทบกับตาเรา เราจึงเห็นได้ว่ามันเป็นส้มนั่นเอง เนื่องจากแสงนั้นเปลี่ยนกายภาพของมันเมื่อกระทบกับอะไรซักอย่าง และตาเราใช้ประโยคจากตรงนี้ ในการอ่านข้อมูลของแสงว่ากระทบอะไรมาก่อน ทำให้เรารู้ได้ว่าก่อนแสงจะมากระทบตาเรานั้นมันกระทบอะไรมาก่อน เราวิวัฒนาการมาแบบนั้น จริงๆแล้วเรามองไม่สามารถมองเห็นวัตถุอะไรได้ สิ่งทีตาเรารับได้จริงๆคือ แสง นั่นเอง หากเข้าใจส่วนข้างบนที่กล่าวเราจะคิดต่อได้ว่า หากแสงนั้นไม่สามารถกระทบวัตถุนั้น หรือทะลุผ่านไป เพราะมันไม่ใช่วัตถุ เมื่อมันมาถึงตาเรา เราก็จะไม่สามารถมองเห็นได้เลยว่ามันมีลักษณะแบบไหน เช่น อากาศหรืออวกาศนั่นเอง ด้วยเหตุนี้ เราจึงอวกาศที่เรามองเห็นจริงๆ มันจึงไม่ได้มีหน้าตาอย่างที่เราเห็น เพราะแสงเดินทางมาในทิศทางผ่านอวกาศมาแบบไหนนั้น เช่นหากแสงนึงกระทบดาบพลูโตและพุ่งมายังโลก แต่ระหว่างทางมันเบี้ยวซ้ายขวาตามเส้นทางของอวกาศ แต่ไม่โดนวัตถุอะไรเลย ไม่ว่ามันจะเลี้ยวกี่แบบตามความเบี้ยวของอวกาศก็ตาม สิ่งที่เราจะเห็นเมื่อแสงนั้นมาถึงตาเราจะมีเพียงดาวพลูโต เนื่องจากเราไม่สามารถเห็นอะไรที่แสงไม่ตกกระทบได้ เราวิวัฒนาการมาอย่างนั้น และไอน์ไสตน์เชื่อว่าความบิดเบี้ยวนี้มันจะเกิดขึ้นในอากาศจากมวลหรือน้ำหนักของวัตถุที่วางอยู่ในอากาศ ยิ่งวัตถุมีน้ำหนักยิ่่งมาก เช่นดาวเคราะห์ต่างๆ ความเบี้ยวนั้นจะส่งผลชัดเจนขึ้น โดยความเบี้ยวที่เกิดจากวัตถุที่ไปวางไว้บนอวกาศนี้เองมันส่งผลกระทบของวัตถุโดยรอบให้เคลื่อนที่ไปตามพื้นผิวที่บิดเบี้ยวนั้น เช่น พระอาทิตย์ที่วางอยุ่ ทำให้พื้นที่รอบๆ เบี้ยวตามและทำให้ดาวอื่นๆ โคจรรอบดวงอาทิตย์ หลักการเดียวกันกับที่ดาวเทียมหมุนรอบโลกของเราด้วยการให้ดาวเทียมวิ่งในลักษณะวิ่งผ่านโลก แต่ความบิดเบี้ยวของอวกาศบริเวณรอบโลก(จากน้ำหนักของโลก) ทำให้ดาวเทียมวิ่งผ่านไปไม่ได้ กลายเป็นวิ่งโค้งรอบโลกแทน โดยความต่างของทฤษฎีนี้มันต่างกับของนิวตันตรงที่ ทฤษฎีของนิวตั้นนั้นวางอยุ่บนที่วัตถุนั้นต้องมีน้ำหนัก(มวล) ถึงจะโดนแรงโน้มถ่วงดูดได้ แต่ของไอซ์ไสตน์นั้น ความเบี้ยวนี้จะส่งผลกับวัตถุทุกชนิด ไม่จำเป็นต้องมีน้ำหนักหรือมวล หากมีการเคลื่อนที่ผ่านบริเวณบิวเบี้ยวนี้จะต้องเดินทางเบี้ยวตามอยู่ดี เพราะพื้นที่มันเบี้ยว และมันดันมีวัตถุ(อนุภาค) ที่ไม่มีมวล ซึ่งมันก็คือแสงนั่นเอง แสงนั้นเป็นได้ทั้งคลื่นและอนุภาคที่ไม่มีน้ำหนัก หากทฤษฎีของนิวตั้นนั้นถูกต้องแรงดึงดูดนั้นจะต้องไม่ส่งผลกับแสงเนื่องจากแสงไม่มีน้ำหนัก แต่ในทางกลับกันทฤษฎีของไอไสตน์นั้นเชื่อว่า แสงนั้นจะต้องเบี้ยวเลี้ยว เพราะพื้นที่ตรงนั้นเบี้ยว และทฤษฎีของไอนไสตน์นั้นถูกพิสูจน์ว่าจริงจากการทำนายของเค้าจากสุรยุปราคา ก็คือ เมื่อสุรยุปราคาเกิดขึ้น ตามทฤษฎีของนิวตั้น เราจะมองไม่เห็นดวงดาวบางดวงเพราะว่าพระอาทิตย์นั้นจะบังดาวดวงนั้นไว้ (โลก) (พระอาทิตย์) (ดาวA) แต่หากเราเห็นดาวนั้น ก็จะตรงตามที่ทฤษฎีของไอไตน์อธิบายว่า ที่เราเห็นเพราะแสงมันปั่นโค้งผ่านดวงพระอาทิตย์การปั่นโค้งของแสงนั้นไม่ได้เกิดจากแรงดึงดูดแน่นอน (เพราะแสงไม่มีมวล) แต่แสงโค้งจากความโค้งของพื้นผิวอวกาศที่เกิดการบิดเบี้ยวจากมวลของพระอาทิตย์นั่นเองนั่นเอง

  • @jaekleker8914

    @jaekleker8914

    2 жыл бұрын

    เข้าใจเลยอธิบายได้ยอดมากคับ

  • @user-el7ys6tx1h

    @user-el7ys6tx1h

    2 жыл бұрын

    แสงโค้งเพราะแรงโน้มถ่วงของดวงดาวต่างหาก

  • @sprazer

    @sprazer

    2 жыл бұрын

    @@user-el7ys6tx1h แสงเป็นอนุภาคที่ไม่มีน้ำหนักหรือไม่มีมวล แสงไม่สามารถโดนแรงดึงดูดดูดได้ครับ(หากเราสมมุติว่าแรงดึงดูดมีจริง)​ แต่ที่เราเห็นแสงโค้งเพราะ พื้นที่ที่บิดเบี้ยวของอวกาศ หรือ The curvature of spacetime ครับ

  • @user-el7ys6tx1h

    @user-el7ys6tx1h

    2 жыл бұрын

    @@sprazer แล้วหลุมดำคิดว่าไม่มีแรงโน้มถ่วงงั้นหรอ

  • @SVUONT9596

    @SVUONT9596

    Жыл бұрын

    @@user-el7ys6tx1h สูตรการคำนวณแรงโน้มถ่วงระหว่างวัตถุ 2 ชนิดคือ G(m1*m2)/r^2 หมายความว่าแรง G คูณอยู่กับผลคูณของมวลของวัตถุที่1 กับมวลของวัตถุที่2 หารด้วยระยะห่างของวัตถุทั้งสองกำลังสอง ทีนี้ ถ้าแสงโดนแรงดึงดูดของดวงดาวทำให้โค้ง มวล1 คือมวลของดวงดาว ส่วนมวล2 เราจะไม่สามารถหาค่ามาแทนได้ เพราะแสงไม่มีมวลครับ ดังนั้นจึงเป็นการพิสูจน์ว่ากฎแรงโน้มถ่วงของนิวตันนั้นใช้ไม่ได้กับกาลอวกาศ

  • @q_wz8591
    @q_wz8591 Жыл бұрын

    พูดถึง Antonin Artaud หน่อยครับ

  • @chaladpuntprai3259
    @chaladpuntprai3259 Жыл бұрын

    ขอบคุณมากครับ เปิดสมองดี

  • @radhanasiri
    @radhanasiri2 жыл бұрын

    เรื่องคนตกสู่โลก เป็นเรื่องมวลที่กระทำต่อกาลอวกาศไม่ใช่หรือครับ แต่การใช้พื้นที่ผิวโค้งพิสูจน์การกระทำและผลของการกระทำนั้นโดยแสงอาทิตย์ก็ตามนั้นครับ

  • @realityprogressive4400

    @realityprogressive4400

    2 жыл бұрын

    จริงๆแล้ววัตถุมันอยู่ในตำแหน่งที่สมดุลของมันอยู่แล้วครับ แต่กาลอวกาสมันบิดโค้งทำให้ดูเหมือนวัตถุเคลื่อนที่ครับ ตอนนี้เรานั่งอยู่เฉยๆ แต่พื้นโลกดันเรากำลังเร่งด้วยอัตรา 9.8 เมตร ต่อวินาทีกำลังสองขึ้นข้างบนอยู่ครับ

  • @realityprogressive4400

    @realityprogressive4400

    2 жыл бұрын

    คุณลองปล่อยโทรศัพท์ของคุณโดยที่ไม่มีอะไรลองใว้ข้างล่างสิครับ ตอนนั้นคือ โทรศัพท์อยู่ในความเร่งที่เป็น0 และเป็นกรอบอ้างอิงเฉื่อย คือมีความเร่งเป็น 0 memory card และซิม ในนั้นจะอยู่ในสภาวะไร้น้ำหนัก เหมือนอยู่ในอวกาศ

  • @realityprogressive4400

    @realityprogressive4400

    2 жыл бұрын

    แต่ในที่สุดพื้นโลกเจ้ากรรมก็ดันเร่งขึ้น ด้วยอัตราเร่ง9.8เมตรต่อวินาที มาชนหน้าจอผมแตกจนได้😭

  • @beemiily
    @beemiily2 жыл бұрын

    ชอบน้ำเสียงและการออกเสียงของเจ้าของคลิปค่ะ น้ำเสียงชัดถ้อยชัดคำดี

  • @user-lq6gz1qi3l

    @user-lq6gz1qi3l

    Жыл бұрын

    ครับ

  • @user-xb2cs5qb5g
    @user-xb2cs5qb5g Жыл бұрын

    ฟังเพลินดีครับ

  • @nanoee8028
    @nanoee8028 Жыл бұрын

    เสียงน่าฟังมากมีเอกลักษณ์

  • @asaneewasan4503
    @asaneewasan45032 жыл бұрын

    อัจฉริยะ​มากกกก.. ความคิดที่คิดได้ยังงัยกันนั่น... สุดๆ

  • @Phutthison10818
    @Phutthison10818 Жыл бұрын

    ผมไม่เรียกเขาว่า อัจฉริยะ นะ ผมเรียกเขาว่าคนเก่งเรื่องคิดคำนวณและฉลาดมาก มากกว่า เพราะคำว่า อัจฉริยะ คือต้องทำได้ทุกทุกอย่าง

  • @Gintoki2006

    @Gintoki2006

    Жыл бұрын

    มันแบ่งประเภทได้ครับว่าอัจฉริยะด้านไหนถ้าจะทุกด้านแบบนั้นคือสมบูรณ์แบบครับไม่มีจุดบกพร่องสักจุดแต่ตั้งแต่โลกถือกำเนิดมายังไม่มีสิ่งมีชีวิตไหนเลยที่ไกล้กับคำว่าสมบูรณ์แบบ

  • @ritaririri
    @ritaririri2 жыл бұрын

    อยากให้ทำ sub eng ค่ะ 😢

  • @Gamer-ji8qb
    @Gamer-ji8qb2 жыл бұрын

    อ้ายคือเว่าอังกฤษเก่งแท้ มักหลายครับคลิปแนวนี่

  • @user-wt9pz3li1c
    @user-wt9pz3li1c2 жыл бұрын

    ไม่รู้..ไม่รู้

  • @realityprogressive4400
    @realityprogressive44002 жыл бұрын

    ไม่ใช่ความโค้งของโลกครับ แต่เป้นเพราะการกระจุกตัวของมวลจำนวนมากในปริมาตรหนึ่งๆ ทำให้กาลอวกาสบิดโค้งซึ่งสสารดำรงอยู่จึงทำให้สสารที่มีมวลนั้นๆเคลื่อนที่

  • @ppp-xw7lp
    @ppp-xw7lp2 жыл бұрын

    อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ เป็นทั้งผู้สร้างและผู้ทำลาย โลกนี้จะสูญสิ้นมลายหายไปจากระบบจักรวาลอย่างสิ้นเชิง

  • @electoday
    @electoday Жыл бұрын

    อ่านได้เยี่ยมมากครับ

  • @kkabinlapat9672
    @kkabinlapat96722 жыл бұрын

    แรงโน้มถ่วงที่ว่ามีอยู่และทั้งที่ไม่มีอยู่ย่อมเป็นสิ่งที่ไม่มีอยู่จริง ความมีอยู่ทั้งหมดของรูปสะสาร และปรากฏการณ์คือความไม่มีอยู่ของสิ่งนั้นๆ ความจริงแห่งธาตุทั้งสี่ดินน้ำไฟลมย่อมมีอากาศธาตุ(ความว่าง)เป็นฐานเดิมของทุกๆธาตุ ในมหาจักรวาลนี้ เพราะฉะนั้น ทั้งแรงโน้มถ่วงและความไม่มีอยู่ซึ่งแรงโน้มถ่วง มันจึงเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่มีอยูจริง สิ่งเหล่านั้นมันเป็นเพียงสิ่งเกิดดับที่เปลี่ยนขั้วกลับไปกลับมา เรียกว่าสัมพันธภาพแห่งระบบจักรวาล หากมีดาวดวงหนึ่งระเบิดอย่างรุนแรงเศษแห่งดาวดางนั้นก็มีโอกาสไปตกที่ดาวดวงอื่นก็เป็นได้ เช่นกัน หากโลกนี้เกิดระเบิดอย่างรุนแรง เศษโลกนี้ก็มีโอกาสไปตกที่ดาวดวงอื่นได้เช่นกัน หากแรงโน้มถ่วงมีอยู่จริงการระเบิดของดวงดาวหรือโลกนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างที่แตกกระจายต้องคืนกลับสู่รูปเดิมทั้งหมด แต่หากแรงโน้มถ่วงไม่มีอยู่จริงโลกและดวงดาวทั้งหมดในระบบแห่งมหาจักรวาลนี้ก็คงกระเด็นกระดอนแตกกระจายแหลกเป็นผุยผงไปหมดแล้วเช่นกัน เราจึงมิอาจกล่าวได้ว่าทั้งแรงโน้มถ่วงและความไร้ซึ่งแรงโน้มถ่วงนั้นมีอยู่จริง แต่มันเป็นเพียงปรากฏการณ์แห่งสัมพันธภาพในระบบจักรวาลนี้เท่านั้น และสัมพันธภาพนี้ก็มิได้หยุดนิ่งเป็นจริงอยู่อย่างตายตัวแต่ประการใด ที่สำคัญคืออากาศธาตุ(ธาตุว่าง-หรือความว่าง)นี้เท่านั้นที่เป็นความจริงแต่เดิมของทุกธาตุและทุกปรากฏการณ์ มหาจักรวาลที่ไร้ขอบเขตโดยอนันต์ย่อมมีความว่างเป็นฐานรองรับในทุกๆสรรพสิ่งและทุกๆปรากฏการณ์ หากไม่มีความว่างโลกและดวงดาวอันหาประมาณมิได้ย่อมจะไม่มีที่ไห้อาศัยอยู่ เพราะฉะนั้นทุกๆปรากฏการณ์ ทั้งแรงโน้มถ่วง และความไร้ซึ่งแรงโน้มถ่วง ทั้งความเร็วแสง การหักเหของแสง ทั้งเสียงฟ้าผ่า คลื่นเสียง ทุกสิ่งย่อมมี(ความว่าง)หรือช่องว่างเป็นสิ่งไห้ได้ก่อกำเหนิดหรือตั้งอยู่เพียงชั่วขณะเท่านั้น ทุกสิ่งที่เห็น ได้ยิน ได้สัมผัส อาศัยอยู่ ล่องลอยอยู่ในมหาสากลจักรวาลจึงเป็นเพียงปรากฏการณ์แห่งสัมพันธภาพแห่งระบบจักรวาลอันมีสภาพไม่เที่ยงคือเปลี่ยนแปรได้ตลอดอยู่เสมอ และความที่มีอยู่ที่เป็นอยู่นั้นย่อมจะบัญญัติไม่ได้ว่ามันมีอยู่และเป็นอยู่จริงๆ เพราะสภาพเหล่านั้นถึงที่สุดแล้วก็ย่อม(อนัตตา)ดับไปสู่ความว่างเช่นกัน

  • @sompornsiengpoo771

    @sompornsiengpoo771

    2 жыл бұрын

    จริงแท้

  • @kittinanpakboon8129

    @kittinanpakboon8129

    2 жыл бұрын

    แรงโน้มท่วงมันมาจาก สะสารที่มีมวลมากๆครับ อย่างโลกเรา แต่พอมันระเบิดไป สะสารก็แตกกระจายเป็นชิ้นๆ ชิ้นเล็กๆ มวลแต่ละชิ้นมันเลยมีไม่มากพอ ที่จะสร้างแรงโน้มถ่วงแบบปกติได้ ก็เลยแตกออก กระเด็นไปคนละทิศละทาง ในอวกาศ

  • @apinanaubolsak

    @apinanaubolsak

    Жыл бұрын

    ก็อธิยายได้ระดับหนึ่งครับ เราตัดสินใจไม่ได้จริง ถ้าใช้การอนุรักกัน 5555เพราะทุกคน มีความจริงความเข้าใจไม่เหมือนกัน เป็นความจริงเลยแหละ

  • @lancelot6618
    @lancelot66182 жыл бұрын

    ถ้าฟัง แบบไม่ใช้จินตนาการ ไอน์สไตน์ ก็แค่คนเพี้ยนๆคนนึง ถ้าใช้แต่ความรู้ เราก็รู้เท่าความรู้บนโลกที่มีอยู่ เคยดูสารคดีเกี่ยวกับ ไอน์สไตน์ ในสารคดีเล่าว่า ไอน์สไตน์ คุยกับแฟนว่า ถ้าคนเราเดินทางได้ไวเท่าแสงจะเป็นยังไง แฟนพี่บอกว่า ไปน์สไตร์ว่าบ้าหรอ ใครจะไปเดินเท่าแสงได้ ไอน์สไตน์บอก แล้วถ้าอนาคตคนเราทำได้แล้วหล่ะ ตอนแรกเราดูคนบ้าอะไรจะหเร็วเท่าแสงได้ พอมานั่งคิดๆดู เออแล้วถ้าทำได้จะเป็นไงว่ะ แล้วก็นอนดูต่อ กลายเป็นแบบชอบจินตนาการของพี่แกมากๆ คือแม่งว้าวได้ตลอดอ่ะ

  • @PrincessOmegzz

    @PrincessOmegzz

    2 жыл бұрын

    ถ้าเดินทางได้เร็วเท่าแสง เราจะเห็นทุกอย่างอยู่นิ่งแบบหยุดเวลา แต่มวลของตัวเราจะเป็นอนันต์ทันที

  • @kuuhaku3503

    @kuuhaku3503

    2 жыл бұрын

    @@PrincessOmegzz ไม่ใช่ละครับ มวลเราก็เท่าเดิม

  • @PrincessOmegzz

    @PrincessOmegzz

    2 жыл бұрын

    @@kuuhaku3503 มวลที่ผมกล่าวไป หมายถึงมวลสัมพัทธ์ครับ เพราะกล่าวถึงมวลในระบบทฤษฎีสัมพัทธภาพ มันจึงสามารถเพิ่มขึ้นได้จนเป็นอนันต์ จึงต้องใช้พลังงานเท่ากับอนันต์ในการผลักให้มันเคลื่อนที่ครับ ไม่ใช่มวลที่เราชั่งน้ำหนักกัน ขอโทษทีครับผม

  • @kuuhaku3503

    @kuuhaku3503

    2 жыл бұрын

    @@PrincessOmegzz ok ครับผม

  • @mind_Aekgaphop

    @mind_Aekgaphop

    2 жыл бұрын

    ถ้าเราทางแสงได้ เราจะสามารถเดินทางไป ไม่อดีต ก็อนาคตครับ

  • @user-sn6ls3oq2x
    @user-sn6ls3oq2x6 ай бұрын

    สุดยอด

  • @SANDANMHA999
    @SANDANMHA999 Жыл бұрын

    แอดครับขอ ประวัติ J. Oppenheimer

  • @adamrobert9049
    @adamrobert90492 жыл бұрын

    ชนชาติลูกหลานอับบราฮัมฉลาดทุกคน ผมมีเพือนยิวหลายคนแต่ละคนฉลาดมาก....

  • @alphathada6402

    @alphathada6402

    2 жыл бұрын

    อาเมน

  • @nut.t
    @nut.t2 жыл бұрын

    ผมพยายามฟังแต่ได้ยินไม่ชัด เอาเป็นว่าที่ถูกคือ สัมพัทธภาพ ไม่ใช่ สัมพัน ครับ ถ้าถูกอยู่แล้วขออภัย

  • @SamsungAs-df7rg
    @SamsungAs-df7rg11 ай бұрын

    เยี่ยมๆ สุดๆยอด ของ ❤❤❤ อัจฉริยะ ❤❤❤❤❤

  • @blinks_thailand273
    @blinks_thailand2732 жыл бұрын

    ฟังเเล้ว เจ็บคอเเทน

  • @blacktv3072
    @blacktv30722 жыл бұрын

    ผู้สร้างความลำบากให้กูในการเรียน 55555

  • @Ybo_9785

    @Ybo_9785

    2 жыл бұрын

    🤣🤣🤣🤣ใช่

  • @70y89

    @70y89

    Жыл бұрын

    ใช่ปวดหัวมากโดดประจำ😅😂

  • @FirstKunCH

    @FirstKunCH

    Жыл бұрын

    ไม่ได้ยากนะ

  • @T2N-King

    @T2N-King

    11 ай бұрын

    ​@@FirstKunCHไม่เหลือครับติด0ครับ12ตัว

  • @arnole1218

    @arnole1218

    11 ай бұрын

    @@FirstKunCHครับโดดเรียนไม่ยากเท่าไหร่

  • @armerabidal5097
    @armerabidal50972 жыл бұрын

    ลูกหลานแก เป็นอาจารย์ที่ MIT ใช่ไหมครับ555

  • @tanapol3s
    @tanapol3s2 жыл бұрын

    คุณภาพคับแก้วเหมือนเดิมครับ

  • @c.c.swimming8677
    @c.c.swimming8677 Жыл бұрын

    ขอเรื่อง อลัน ทัวริ่ง หน่อยครับ

  • @dolprapapkamnerdsiri9116
    @dolprapapkamnerdsiri91162 жыл бұрын

    ผิวโลกที่โค้งไม่ได้ทำให้กาลอวกาศโค้งนะครับ มันขึ้นอยู่กับมวลของวัตถุ ยิ่งมากยิ่งโค้งมากครับ แล้วก็สัมพัทธภาพ ไม่ใช่สัมพันธภาพ ตรงนี้คนอ่านผิดบ่อยมาก

  • @sayanlemlaeh9006
    @sayanlemlaeh9006 Жыл бұрын

    คุณ อัลเบิร์ตไอสไตน์ วีระบุรุษ แห่งแสงสว่าง ไม่มีท่านก็ไม่มีแสงสว่าง แสงแห่งความสะดวก แสงที่ทำให้ลูกหลานควรจดจำและขอบคุณ

  • @SiamThai19

    @SiamThai19

    Жыл бұрын

    แล้วเอดิสันคิดค้นอะไรละ ถ้าไอสไตน์ คิดค้นแสงสว่าง 🤣🤣🤣

  • @happytoyou8424

    @happytoyou8424

    11 ай бұрын

    @@SiamThai1955555555 ขำกรากเลย มีคนจำผิดคนด้วย

  • @user-ke6pb6fd5x
    @user-ke6pb6fd5x2 жыл бұрын

    ส่วนผสมของปรมนูมีแร่ธาตุอะรัยบ้างครับเผื่อว่าผมจะชวนเพื่อนฝูงลองทำบ้าง​ ปูน​ ทราย​ หิน​ เท่ารัย​ ครับ​ บอกด้วยนะ​ ถ้าเป็นแร่ธาตุที่หายากหาได้ที่ไหนครับด้วยบอกครับ.

  • @itthinanlorthong1908
    @itthinanlorthong19082 жыл бұрын

    ติดตามครับ

  • @scottkennedy151
    @scottkennedy1512 жыл бұрын

    " Jeder ist ein Genie! Aber wenn Du einen Fisch danach beurteilst, ob er auf einen Baum klettern kann, wird er sein ganzes Leben glauben, dass er dumm ist. "

  • @user-hk3vu4mh4q

    @user-hk3vu4mh4q

    2 жыл бұрын

    ภาษาอะไร

  • @peeraponhomwan1169

    @peeraponhomwan1169

    2 жыл бұрын

    @@user-hk3vu4mh4q น่าจะเยอรมัน​

  • @12345678987654321537

    @12345678987654321537

    2 жыл бұрын

    Everyone's gullible if they assume that the earth if flat and the tree grows on the fish that lives in a dessert. 5555

  • @papasnumnim3231

    @papasnumnim3231

    2 жыл бұрын

    @@peeraponhomwan1169 ใช่ค่ะ เป็นภาษาเยอรมัน😊

  • @ss.3281
    @ss.32812 жыл бұрын

    ไอน์สไตน์บอกว่าคนที่ฉลาดที่สุดในโลกคือ นิโคลา เทสล่า

  • @user-bc3tp4wu1e

    @user-bc3tp4wu1e

    Жыл бұрын

    แล้วแต่คนนะชอบใครก้อว่าคนนั้นฉลาด

  • @user-rg9gd2cf2r
    @user-rg9gd2cf2r2 жыл бұрын

    2:14 เพลงอะไรมีใครรู้ไหมครับ

  • @univers2606
    @univers2606 Жыл бұрын

    เกรดไม่ดีไม่เอื้ออำนวยนี่อาจจะไม่ค่อยถูกนะครับเขาไม่ได้เป็นนักวิชาการของมหาวิทยาลัยตัวเองก็เพราะถูกอาจารย์มั่นใส่เพราะว่าไอน์สไตเป็นคนชอบเถียงอาจารย์(ตามสไตล์คนเก่ง)แต่ก่อนหน้านั้นอาจารย์ในมหาวิทยาลัยของเขาได้สัญญากับเขาว่าจะให้ตำแหน่งนักวิชาการให้กับเขา ลองไปอ่านดูในหนังสือจักรวาลในเปลือกนัทก็ได้จะมีการเล่าประวัตรของไอน์สไตและทฤษฎีของเขา แต่เดี๋ยวนี้ก็เป็นที่รู้กันทั่วแล้วว่าไอนสไตนผลการเรียนไม่ดีไม่เป็นเรื่องจริง

  • @WASANTRECORD
    @WASANTRECORD2 жыл бұрын

    จีนเอยสหรัฐเอยเยอรมันเอยอินเดียเอยลงทุนไปหลายล้านเพื่อที่จะสำรวจอวกาศ แต่เด็กข้างบ้านผมลงทุนแค่ไม่ถึง100ใช้แค่กาว3Kหลอดเดียวก็เดินทางไปได้ทั่วจักรวาลเข้าออกหลุมดำสำรวจดวงอาทิตย์เป็นว่าเล่นเลย ไอสไตน์ได้กล่าวไว้ว่าจินตนาการสำคัญกว่าความรู้น่าจะจริง

  • @brandonanan1729

    @brandonanan1729

    2 жыл бұрын

    555 เฉียบ

  • @user-jw3en1ck3z

    @user-jw3en1ck3z

    2 жыл бұрын

    55+

  • @maxwo.rattaphon6720

    @maxwo.rattaphon6720

    2 жыл бұрын

    5555 ข้าน้อยขอคาระว้ะท่านอาจารย์ ประโยคของท่านช่างล้ำลึกและตลกชิปหาย

  • @julianairestarforce

    @julianairestarforce

    2 жыл бұрын

    โคตรคมเลยครับ หูตาสว่างเลยเฉียบมาก

  • @user-bd3rf6id3i

    @user-bd3rf6id3i

    2 жыл бұрын

    ผมอ่านเสร็จหัวเราะจนคนข้างๆมองเป็นตาเดียวเลย

  • @user-we5om5mg6k
    @user-we5om5mg6k2 жыл бұрын

    ขอเศษสมองหน่อยอัลเบิร์ต

  • @-___Y___-
    @-___Y___-2 жыл бұрын

    ต้องให้ดร.เอ้หลานสายตรงมาช่วยขยายความครับ

  • @user-yo2sy9hi3i
    @user-yo2sy9hi3i6 ай бұрын

    ใด้เวลาดีๆๆมารวมกันดังเดิม

  • @imton9051
    @imton90512 жыл бұрын

    ไอน์สไตน์คือสุดยอดนักวิทยาศาสตร์ของโลก และแน่นอนว่าหลักวิทยาศาสตร์ ย่อมไปกันไม่ได้กับหลักศาสนา แต่ไอน์สไตน์แทบไม่มีข้อสงสัยใดๆในศาสนาพุทธ

  • @sengkhamyavong9840

    @sengkhamyavong9840

    Жыл бұрын

    มันเกี่ยวกับศาสนาพุทธยังไงหรอครับ

  • @apinanaubolsak

    @apinanaubolsak

    Жыл бұрын

    @@sengkhamyavong9840 แสดงว่าคุณไม่ใช่คนพุทธ

  • @apinanaubolsak

    @apinanaubolsak

    Жыл бұрын

    @@sengkhamyavong9840 คือ2500ปีที่แล้ว พระพุทธเจ้าได้พูดไว้หมดแล้วตามคำภีร์ แล้วจะถามคุณว่ายุคนั้นมีภาษาหรือ วิทยาศาสตร์แล้วยัง เฮ้อ คือเราต้องเชื่อก่อนไงสมัยนั้นอะ หลังยุคนี้และก่อนคริสตกาล ก้อมีปรัชญา นักปรัชญแรกๆของโลกก้ว่าได้นะ อริสโตเติล,เพลโต พระเยซู อะไรประมาณนี้ ชื่อที่พูดมาคือยกมาเปรียบเฉยๆ อยากรู้ ที่มาแตละคนไปหาเอาอีกแง่หนึ่งเอาเอง แต่ก้ให้เห็นภาพ ที่อธิบายมาคือ วิทยาศาสตร์เขาเชื่อในทางศาสนาแล้วครับแล้วตอนนี้เขาต้องการหาคำอธิบาย ของการมีอยู่อนุภาคนี้ ให้เข้าใจ และก่อนจะมีวิทยาศาสตร์ นั้นคือเขาก็เอาหลักปรัชญา หลักคำสอน โดยเราว่าไว้ นั้นมาประยุกต์ใช้ คิด จนเป็นวิทยาการ,วิทยาศาสตร์ มาให้เรานี่ไง สุดท้ายจะแนะนำให้ไปศึกษาว่าที่เขาพูดอนุภาคพระเจ้านั้นอธิบายกันยังไงคือให้ไปศึกษา ใน"วิทยาศาสตร์ควอนตัม"นะเพราะวิทยาศาสตร์ฟิสิกส์ที่เราใช้อยู่นี้มันใช้อธิบายไม่ได้เพราะจะทำลายกฎอนุรักพลังงานของนิวตันโดยที่ไอสไตก้ได้ต่อยอด เอาละนั้นอีกประเด็นคือการอธิบายการมีควอนตัม ตอนวาระสุดท้ายหรือก่อนที่เขาจะปลดวางทางฟิสิกของอัลเบิร์ตไอน์สไตน์นั้น จริงแล้วสิ่งที่เราค้นหายิ่งค้นมันยิ่งไม่สิ้นสุด เพราะการมีอยู่นั้น เกิดมาเพื่ออะไร ทำไมต้องเกิดขึ้นมา ถ้าไม่มีอะไรเกิดมาจะมีอะไร ฯลฯ คือก่อนนั้นวงการฟิสิกได้ถกเถียงกัน หักล้างกันไปมาระหว่างคนที่เชื่อในกฎฟิสิกเชิงอนุรักษ์พลังงานกับกฎคนเชื่อกฎของควอนตัมของเชอโลนิงเออร ทำให้ไอสไตน์ต้องกุมขมับกันเลย แต่ยังไม่มีใครชนะ แต่กฎของเชอรโลนิงเออร์มีนักฟิสิกอีกคนมาอธิบายเชเรจคอปสิ่งที่เร็วเท่าแสงนั้นจะมีช่วงคลื่นแบบเส้นตรงช่วงเดียว(ความถี่นั้นสั่นไหวความเร็วๆจนไม่เห็นช่วง)ที่ทะลุกำแพงแสงอย่างที่เสียงเดินทางทะลุกำแพงเสียง แต่ความยาวคลื่นเสียงยังเห็นช่วงๆคลื่น อยู่ ต่อมา ที่ว่าไอสไตได้เอ่ยปรัชณาไรไว้นั้นเอาประเด็นที่เม้นถานะ หลังจากที่กฎไอสไตน์ได้แพ้คะแนะ2/1เสียง ทำให้ไอสไตน์ อุทานว่านี่มันเป็นการกีะทำของภูตผี เพระตอนนั้นเขาจะปลดวางแล้วแล้วหันหน้าเข้าหาทางหลังศาสนา เพราะตัวเขาเป็นนักวิทยาศาสตร์เขาเองจะไม่บอกว่าตัวเองนั้นนับถือศาสนาได แต่เพียงให้แนวคิดคือ "มีศาสนาไดที่ประยุกต์ใช้ได้กับวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ได้นั้นคือพุทธนั้นเอง" ตามคลิปนั้นอาจใช้คำผิดที่ว่าไอสไตผิด เขาไม่ได้ผิด คือไม่มีใครผิดถูกครับ เชอร์โลนิงเอก็ไปต่อได้แต่ได้แบบว่า จะอธิบายยังไงมันก็ ไปเรื่อยอะ เพราะกฎความตัวนั้นไม่สนพลังฟิสิกไม่ต้องมีเหตุผล ปรากฏการที่ฟิสิกตกตะลึงนั้นเป็นปราฎิหารที่เกิดขึ้นและยากมากที่จะเกิดในฟิสิกทำให้เชอร์โลนิงเออร กุมขมัปไปอีกคน จะเห็นว่า อนุภาคที่เกิดกลหล แปลกประหลาด อัศจรรย์ใจแบบนี้ มันคือ "อนุภาคพระเจ้า" เป็นคำที่เขาให้จำกัดความไว้ของสิ่งที่ว่านี้ อธิบายให้เข้าใจด้วยกฎควินตัว แบบนี้ เฮ้อ เข้าใจนะ

  • @SahaphapSrihapon
    @SahaphapSrihapon2 жыл бұрын

    ประวัติศาสตร์กองทัพไทยหน่อยครับ ยุทธนาวีเกาะช้าง บ้านร่มเกล้า ไทยกับเขมรแดง

  • @kopterbenz5771

    @kopterbenz5771

    2 жыл бұрын

    +1 ครับ

  • @justyours4527

    @justyours4527

    2 жыл бұрын

    +

  • @hellomobile4986
    @hellomobile49862 жыл бұрын

    ความจริง ที่เห็นด้วย "พลังจิต" เห็นความจริงในจักรวาล ได้มากกว่า "ตา" เห็น ต้องใช้ "จินตนาการ/จินตามัยปัญญา" รู้ รู้สึก เพราะ สรรพสิ่งในโลก มี "สสาร ที่ละเอียด เกินกว่า ตาเห็น มี พลังงาน ที่ อายตนะ ๕ สัมผัส ไม่ได้ แต่ "คน มีวิญญาณ รู้" (สรรพสิ่งอื่นๆ ที่ไม่มีจิต จะไม่รู้ รู้สึก) หรือ มี"จิต ชันธ์" รู้เห็น สิ่งที่ ละเอียด/คลื่น พลังงาน การรู้ด้วยจิต ต้อง "เป็น จิต มี สติ สมาธิ ปัญญา=ญาณทัศนะ ที่ คนต้องฝึก/หรือคน อัจฉะริยะ ในโลก มี พระพุทธเจ้า ไอสไตย์ พระอรหันต์อื่นๆ และนักวิทยาศาสตร์ อีกหลายคน แต่ก็มีนัก วิทยาศาสตร์ นักวิชาการ อีกมาก "อวิชชา" เรื่อง พลังจิต การเห็น ด้วยจิต(สัมผัส) เพราะไม่รู้ แต่อวดดี จึงมัก เถียง โต้แย้ง ไอสไตย์ หรือ พุทธะ คิดเล่นๆๆๆ

  • @Anittha262

    @Anittha262

    2 жыл бұрын

    ไปอ่านแก่นพุทธของท่านพุทธทาสก่อนไป

  • @hellomobile4986

    @hellomobile4986

    2 жыл бұрын

    @@Anittha262 รู้น้อย พลอยรำคาญ หรือครับ?

  • @hellomobile4986

    @hellomobile4986

    2 жыл бұрын

    ปฏิกริยา ทำให้เกิด "พลังงาน=นาม" ทำให้ "เกิด+สังขาร" เป็น สรรพสิ่ง ทั้ง "รูป+นาม" ในจักรวาล และ โลกสังขาร มี "ผลต่อ สัตว์โลก" ให้มี "ชีวิต สันตติ" ได้ยาวๆๆแต่ชั่วคราว (ไม่อมตะ) คือ ปฏิกริยา ฟิวชั่น และ ฟิชชั่น ? มี ในจักรวาล ๒ แห่ง คือ ดวงอาทิตย์ และ ในร่างกายของ "คน"และสัตว์ อัก ๖ ภพภูมิ (มี พลังงาน ในตัวเอง สร้าง=สังขาร ขึ้นในตัวเอง" ) กฏนี้ ไอสไตย์ หยั่งรู้/เห็น ด้วย "ญาณทัศนะ"เป็น อัจฉริยะ บุคคล E=mc^2 ทฤษฏี ไอสไตย์ นำมาใช้ "สังขาร ทาง วัตถุ=เคมี +ฟิสิกค์" ช่วยคน ชนะ "Time&Space" แต่ไม่ "ชนะทุกข์" พระพุทธเจ้า รู้ พลัง "จิต" มี "อภิญญา(ฌาน) และ ญาณทะศนะวิสุทธิ์ " เอาชนะ เวลา +ระยะทาง+ความทุกข์ ได้ =นิพพาน" พ้น ขอบเขต จักรวาล ? พึงรู้แจ้ง ?

  • @eisisice9208

    @eisisice9208

    Жыл бұрын

    เบียวศาสนาเหรอครับ

  • @tehattachai4233
    @tehattachai42332 жыл бұрын

    ผมจบ ป.ตรี เอก ฟิสิกส์ 👍สุดจัด...🤗

Келесі