"อัญชลี" เปิดใจทุกสิ่ง ปางช้างแม่สา ไปต่อหรือพอแค่นี้

"อัญชลี" เปิดใจทุกสิ่ง ปางช้างแม่สา ไปต่อหรือพอแค่นี้
เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2566 ที่ปางช้างแม่สา นางอัญชลี กัลมาพิจิตร ผู้บริหารปางช้างแม่สา พาคณะสื่อมวลชน เดินดูโดยรอบบริเวณ ปางช้างแม่สา พร้อมแถลงข่าวเปิดใจ
นางอัญชลี กัลมาพิจิตร ผู้บริหารปางช้างแม่สา เปิดเผยว่าที่ผ่านมาตนเองก็ได้พยายามอย่างที่สุดแล้วทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะรักษาปางช้างแม่สา ที่บิดาของตนเองคุณพ่อชูชาติ กัลมาพิจิตร ผู้ก่อตั้งปางช้างแม่สา ได้สร้างเอาไว้ ซึ่งในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา เราประสบปัญหาสถานการณ์ โควิด19 จนทำให้ต้องปิดปางช้าง และปิดการแสดงช้างนานร่วม 4 ปี พอ สถานการณ์ปัญหาเรื่องโควิด 19 ลดลง และประเทศไทย ได้เปิดให้มีการผ่อนคลายในมาตรการต่างๆ จึงสามารถเปิดให้บริการปางช้างแม่สาได้ แต่เราก็ไม่สามารถจัดการแสดงช้างได้อย่างเช่นที่ผ่านมา แต่
โดยในวันนี้ที่ตนเองได้นำคณะสื่อมวลชนเดินทางร่วมตรวจสอบ​ดูบริเวณในส่วนต่างๆของปางช้างแม่สาไม่ว่าจะเป็นในส่วนของโครงการมูลนิธิอนุรักษ์ช้างไทยปางช้างแม่สา รวมไปถึงลานจัดให้อาหารช้าง ที่นักท่องเที่ยวสามารถให้อาหารช้าง ที่ได้รับตะกร้าอาหาร ผ่านทางเข้าประตูหรือจุดจำหน่ายบัตรเข้าเที่ยวชมปางช้างแม่สา เพื่อมาให้อาหารช้างในบริเวณนี้ พร้อมกับได้พาคณะสื่อมวลชนไปดูโรง ผลิตวัตถุดิบที่นำมาคัดแยกเพื่อนำไปใส่ในตะกร้าให้แก่นักท่องเที่ยวมามอบเป็นอาหารให้ช้าง ซึ่งต้องผ่านการคัดกรองและทำความสะอาดอย่างละเอียด เพื่อให้ปราศจากจากสารเคมี ก่อนที่จะนำไปบรรจุในตะกร้า เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้นำไปให้ช้างได้รับประทาน รวมไปถึงได้พาไปดูศูนย์พยาบาลที่คอยตรวจและดูแลช้างทุกเชือก ซึ่งยอมรับตรงๆว่า ในปัจจุ​บัน​สภาพอาคารต่างๆเหล่านั้น ได้ชำรุดทรุดโทรมลงไปมาก ภายหลังจากที่ได้ปิดปางช้างแม่สาลงไปในช่วงระยะหนึ่งประกอบกับไม่มีรายได้พอที่จะเข้ามาพัฒนาดูแลซ่อมแซมได้อย่างเพียงพอ ซึ่งตนเองยอมรับว่าปัญหาส่วนหนึ่งก็เกิดมาจากการจัดการมรดกที่ไม่ลงตัว และยังมีปัญหาในการฟ้องร้องกัน ซึ่งตนเองใน ฐานะทายาทของปางช้างแม่สา ได้ต่อสู้ในด้านกฎหมายมา 5 ปีกว่าแล้วจนถึงปัจจุบัน​
นางอัญชลีฯ ยังได้พาคณะสื่อมวลชนไปดู อุปกรณ์แหย่งนั่งช้างที่ชำรุดทรุดโทรมแทบทั้งหมดและอาคารที่ให้บริการให้นักท่องเที่ยวขึ้นหลังช้างก็ชำรุดทรุดโทรมเช่นกัน รวมไปถึงลานแสดงช้าง ก็แทบ ไม่สามารถจัดแสดงได้อีกต่อไป ซึ่งโดยรวมทั้งหมด ตนเองขอบอกตรงๆว่าแทบจะต้องทำใหม่ทั้งหมด ซึ่งต้องใช้เงิน เป็นจำนวนมาก
นางอัญชลี ได้เปิดเผยต่อไปว่า ภายหลังจากที่ตนเองได้เข้ามาบริหาร พบว่ามีเงินที่อยู่ในธนาคารที่ใช้หมุนเวียนเลี้ยงช้าง ของบริษัทปางช้างแม่สาอยู่จำนวนหนึ่ง และเมื่อตรวจสอบพบว่ามีการเบิกเงินจำนวนนั้นออกไปเกือบหมดบัญชีที่มี 6 บัญชี จำนวนร้อยกว่าล้าน ตนในฐานะผู้จัดการมรดกจึงได้แจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่​ตำรวจเพื่อดำเนินคดี ซึ่งพบมีผู้ร่วมกระทำผิดจำนวน 6 คน มีทั้งคนที่เป็นทายาทและพนักงานฝ่ายการเงินของบริษัทปางช้างแม่สา รวมทั้งเจ้าหน้าที่ธนาคาร ซึ่งทางตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาคนทั้งหมดไว้แล้ว ซึ่งตนก็รอให้ทางตำรวจได้ดำเนินการก่อน ส่วนในคดีอื่นทางศาลที่ฟ้องร้องกันอยู่ก็ยังรอ ตนในฐานะเป็นผู้ดูแลช้างทั้งหมดอยู่ ต้องแบกรับภาระหนี้สินไว้ จำนวนมากในช่วงระยะเวลา 5 ปีแล้ว จนในวันนี้ตนยอมรับว่าแทบจะหมดหนทางที่จะบริหารปางช้างแม่สาให้อยู่รอดต่อไปได้ และไม่กี่วันมานี้ตนเองข่าวร้ายอีก คือปางช้างแม่สาได้รับเอกสารและประสานมาจากทางเจ้าหน้าที่ราชพัสดุ ทวงถามถึงค่าเช่าที่ในปางช้างจำนวน 31 ไร่ และอีก 200 ไร่ รวม 35 แปลงรอบๆปางช้าง ที่ต้องจ่าย ปีละ 6 แสนบาท ก็ยังค้างจ่าย รวมทั้งเงินเดือนพนักงาน ที่รวมค่าใช้จ่ายในปางช้างต่อเดือน เดือนละ 3 ล้านบาท แต่ปางช้างมีรายได้ประมาณเดือนละ 1.5 ล้านบาทเท่านั้น และยังได้รับข่าวร้ายอีกเรื่องหนึ่งคือมีหนังสือให้เร่งรัดในการโอนอาคารพาณิชย์​บริเวณประตูท่าแพ ที่ทางปางช้างแม่สาได้ ประกาศขายอาคารพาณิชย์ เพื่อนำเงินมาใช้หมุนเวียนในปางแม่สา โดยผู้ที่ซื้อได้วางมัดจำมาแล้วส่วนหนึ่ง ซึ่งตนเองก็ได้เอามาหมุนเวียนบริหารจัดการในปางช้างแม่สา แต่ยังติดปัญหาในเรื่องของการโอนอาคารพาณิชย์ ​ซึ่งมีปัญหา​ในเรื่องของผู้จัดการมรดกร่วมไม่ให้ความร่วมมือไปดำเนินการ​โอนอาคารพาณิชย์​ ซึ่งตนเองพึ่งได้รับเอกสารในการเร่งรัดการโอนเมื่อวันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา และที่ตนเองด้วยเดินทางมาในวันนี้เพื่อพาสื่อมวลชนดูสถานที่ต่างๆในปางช้างแม่สา รวมถึงพูดคุยเพื่อให้รับทราบถึงปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นกับปางช้างแม่สา ซึ่งตนเองได้ทำในสิ่งตนเองต้องทำมาตลอดระยะเวลาเกือบ 5 ปี ทำมาหมดแล้วไม่ว่าจะเป็นการหาแหล่งเงินมาจากที่อื่น รวมไปถึงการแปลงทรัพย์สินเพื่อที่จะนำมาต่อยอดประคับประคองและบริหารปางช้างแม่สา ที่คุณพ่อของตนสร้างขึ้นมา ตนเองในฐานะลูกสาวทายาทรุ่นที่ 2 ของปางช้างแม่สา และที่มาพูดคุยในวันนี้ไม่ใช่ว่าเรา "สิ้นหวัง" หรือไม่มีหวัง "เรามีหวัง" ในการที่จะพึ่งคนอื่นหรือพึ่งสังคม หรือพึ่งเจ้าหน้าที่ที่เขามีอำนาจ ในการสั่งการให้เรา ที่เราสามารถจะจัดการในสิ่งต่างๆเหล่านี้ให้ได้ต่อไป โดยที่ผ่านมามันเหมือนเราถูกทำให้ลำบาก ทั้งๆที่ไม่ควรจะลำบาก ซึ่งเรายอมทำทุกๆอย่างแล้ว และอดทนมามาก มันไม่ควรที่จะล่มสลาย เพราะคนที่เห็นแก่ตัวไม่กี่คน ที่ต้องการอย่างโน้นอย่างนี้ คุณพ่อชูชาติท่านได้สร้างเอาไว้ให้เรา พร้อมมอบทุกอย่างเอาไว้ให้เราเพื่อสืบทอดดูแลปางช้างแม่สาตามพินัยกรรมที่ท่านได้ทำเอาไว้ วอนให้ทายาททุกคนทำตามเจตนารมณ์​ของท่านด้วยเพื่อเห็นแก่ช้าง ตนเองได้ทำทุกอย่างตามเจตนารมณ์​ของท่านแล้วอย่างเต็มที่เพื่อที่จะรักษาปางช้างแม่สาเอาไว้ วอนขอคนที่เกี่ยวข้องให้ช่วยกันทำตามเจตนารมณ์​ของคุณพ่อชูชาติด้วย เพื่อที่จะให้ปางช้างแม่สาอยู่คู่กับคนไทยไปตราบนานเท่านาน.

Пікірлер: 3

  • @user-wj8uw6fz4r
    @user-wj8uw6fz4r11 ай бұрын

    เป็นกำลังใจให้ทำต่อไปค่ะ

  • @user-wj8uw6fz4r
    @user-wj8uw6fz4r11 ай бұрын

    สู้ฯสู้ฯค่ะ

  • @user-wj8uw6fz4r
    @user-wj8uw6fz4r11 ай бұрын

    ❤❤❤❤❤เป็นกำลังใจให้ค่ะ

Келесі