วันนี้ทาง Auction House จะมาแชร์ 5 วิธีในการสังเกตนาฬิกาแท้ปลอม ให้ทุกคนสามารถสังเกตได้ด้วยตัวเองในเบื้องต้น
อันดับแรก มาทำความเข้าใจตลาด Replica watch กันก่อน ซึ่งคำว่า “Replica” หากแปลออกมาเป็นภาษาไทยจะให้ความหมายว่า สำเนา, ของจำลอง ถ้าเรียกให้เข้าใจง่าย ๆ ก็คือของเทียบเคียงหรือก๊อบปี้นั่นเอง ซึ่งคนในวงการนาฬิกาจะใช้คำนี้เรียกนาฬิกาที่ถูกทำเลียนแบบขึ้นมาโดยเฉพาะ
แน่นอนว่านาฬิกา Replica มีหลากหลายเกรด ตามความนิยม และตามหลักการ Demand & Supply โดยรุ่นที่มีความต้องการในตลาดสูง เช่น Rolex Submariner, Daytona หรือ Patek Philippe Nautilus ซึ่งรุ่นเหล่านี้ก็จะมีการลงทุนเพื่อสร้างนาฬิกาก๊อบปี้เกรดสูงขึ้นมา โดยนาฬิกาที่ก๊อบปี้นี้จะเป็นงานเลียนแบบระดับ AAA หรือ Super Clone ซึ่งทำให้มือใหม่สับสนได้ง่าย แต่ถ้าเป็นรุ่นอื่น ๆ ที่ไม่ได้มีความต้องการในตลาดมาก นาฬิกาเลียนแบบก็จะเป็นเกรดต่ำลงมา ทำให้มองออกได้ง่ายกว่า ซึ่งหากใช้วิธีการสังเกตนาฬิกาตามที่เราจะแนะนำต่อไปนี้ ก็จะทำให้มองออกได้ไม่ยากเลยว่าเรือนไหนแท้ เรือนไหนปลอม
1. สังเกตที่การเก็บงานบนกลไก
Movement หรือ กลไก เป็นจุดสังเกตที่ง่ายที่สุดเพื่อดูนาฬิกาแท้ - ปลอม และเป็นจุดที่ผู้เชี่ยวชาญนิยมดูเป็นที่แรก เพราะการเก็บงานของกลไกนาฬิกาแบรนด์หรูอย่าง Patek Philippe, Vacheron Constantin, หรือ Audemars Piguet จะมีการเก็บงานระดับ “haut de gamme” ซึ่งหมายความว่า “ที่สุดของที่สุด” คือยึดมั่นในมาตรฐานการผลิตนาฬิกาที่เหนือชั้น โดยทุกชิ้นส่วนของนาฬิกาตั้งแต่ตัวเรือน เข็มนาฬิกา ปุ่มเม็ดมะยม ไปจนถึงชิ้นส่วนกลไกด้านใน ทางแบรนด์ก็ให้ความสำคัญทั้งหมด รวมถึงการใช้วัสดุมีค่าอย่างเช่นทองมาทำเป็น Rotor Weight และส่วนต่าง ๆ อย่างเช่นตัวอักษรบนกลไก เป็นต้น ทั้งหมดนี้เป็นการเก็บงานที่มีความประณีตขั้นสุด เป็นต้นทุนที่นาฬิกาเลียนแบบ หรือ Replica ไม่สามารถทำได้
2. สังเกตเทคโนโลยีเฉพาะด้าน
กลไกถือเป็นหัวใจสำคัญของนาฬิกาหรู เพราะถูกสร้างสรรค์มาโดยใช้เทคนิคและเทคโนโลยีที่ถูกพัฒนามาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้มีความแม่นยำสูงสุด พร้อมทั้งมีการจดสิทธิบัตรเฉพาะอีกด้วย ดังนั้นจึงทำเลียนแบบขึ้นมาได้ยากมาก จุดสังเกตที่เด่นชัด คือ Balance Wheel ที่แบรนด์ Rolex และ Patek Philippe นำมาใช้ ซึ่งถูกเรียกว่า Free-Sprung Balance Wheel เป็นเทคโนโลยีขั้นสูงที่มีความสลับซับซ้อน และมีความแม่นยำเหนือชั้น ส่วนของเลียนแบบ (Replica) ถึงแม้จะเป็นระดับงาน Super Clone ก็ยังต้องใช้ Balance Wheel ที่มี Curb Regulator ซึ่งมีราคาที่ถูกกว่า เพื่อช่วยประหยัดต้นทุนให้สามารถขายได้ในราคาถูก ดังนั้นตรงส่วนนี้จึงกลายเป็นจุดสังเกตง่าย ๆ เพื่อแยกนาฬิกาแท้หรือปลอม
3. สังเกตที่ลักษณะรูปแบบเฉพาะของตัวอักษร
ตัวเลขและตัวอักษรของแต่ละแบรนด์จะถูกออกแบบให้มีความเฉพาะตัว ไม่ว่าจะเป็นความโค้งมนของตัวอักษร, ความหนา และลูกเล่นต่าง ๆ เช่น บริเวณตรงหัวหรือปลายของตัวอักษรจะมีการตวัดอย่างเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งต่างจากฟอนต์ทั่วไปที่เราเห็นเป็นประจำ โดยลักษณะของตัวอักษรนี้เองที่กลายเป็นจุดสังเกตทำให้สามารถแยกนาฬิกาแท้ออกจากนาฬิกาปลอมได้ถึง 90% เลยทีเดียว
4. สังเกตที่ Lume หรือ พรายน้ำ
ในปัจจุบันหลาย ๆ แบรนด์จะใช้สารเรืองแสง Super-LumiNova® ที่มีความโดดเด่นให้แสงสว่างมากพอเมื่ออยู่ในที่มืด แต่นาฬิกาเลียนแบบ (Replica) ต้องการลดต้นทุนในส่วนนี้จึงไม่สามารถใช้วัตถุนี้ได้ ส่วนวิธีการสังเกต คือให้ดูว่าสารเรืองแสงทำงานได้สว่างพอหรือไม่เมื่ออยู่ในที่มืด อีกวิธีหนึ่ง คือ สังเกตพื้นผิวของพรายน้ำที่จะมีลักษณะเหมือนเม็ดทรายเล็ก ๆ เป็นรายละเอียดเฉพาะตัวของสารเรืองแสง Super-LumiNova® จึงยากมากที่จะเลียนแบบให้เหมือนได้ ดังนั้นของเลียนแบบจึงไม่สามารถเก็บรายละเอียดในส่วนนี้ได้เลย
5. สังเกตที่ร่องรอย หรือ จุดตำหนิต่าง ๆ
จุดเด่นที่สำคัญอีกจุดหนึ่งของนาฬิกาหรู คือ ความสมบูรณ์แบบ เพราะถึงแม้จะมองผ่านกล้องขยายก็จะไม่เห็นร่องรอยตำหนิใด ๆ ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น รอยขีดข่วน, รอยเปรอะเปื้อน, การเก็บสีที่ไม่คมชัด, หรือแม้กระทั่งฝุ่นในหน้าปัดก็จะไม่มีให้เห็น เพราะแบรนด์นาฬิกาหรูมีมาตรฐานในการผลิตสูงมากตามมูลค่าของนาฬิกา ซึ่งมาตรฐานการผลิตที่สูงนี้เองที่กลายเป็นจุดสังเกตนาฬิกาแท้ปลอม
ติดตามคอนเทนต์นาฬิกาที่น่าสนใจได้ที่
IG: / auctionhouse_official
FB: / auctionhouse.th
อย่าลืมกดติดตามเพื่อรับชมวิดีโอที่น่าสนใจก่อนใคร
#วิธีดูนาฬิกาปลอม #ReplicaWatch #rolex
#AuctionHouse #WatchReview #WatchInsights #ลงทุนนาฬิกา #รีวิวนาฬิกา