ทยอยเขมรสามชั้น : ครูเจริญใจ สุนทร​วาทิน ขับร้อง ปี่พาทย์ไม้แข็งกรมศิลปากร

ทยอยเขมรสามชั้น : ครูเจริญใจ สุนทร​วาทิน ขับร้อง ปี่พาทย์ไม้แข็งกรมศิลปากร
บันทึกเสียงเมื่อ วันศุกร์ที่ ๒๑ มีนาคม พ.ศ.๒๕๑๘
- ประวัติเพลง ทยอยเขมรสามชั้น -​
เพลงทยอยเขมร อัตราสองชั้น เป็นเพลงไทยที่มีมาแต่โบราณ บรรเลงรวมอยู่ในเพลงเรื่องทยอย บางโอกาสก็แยกออกมาใช้เป็นเพลงร้องประกอบการแสดงโขนละคอน เมื่อสมัยรัชกาลที่ ๔ ครูแตง (ปี่) ได้ขยายทำนองขึ้นเป็นสามชั้น แต่งเป็น ๒ เที่ยว โดยเปลี่ยนทำนองไม่ให้ซ้ำกัน ซึ่งได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง
ต่อมาพระประดิษฐ์ไพเราะ (มี ดุริยางกูร หรือครูมีแขก) คงพิจารณาเห็นว่าเพลงทยอยเขมร สามชั้น ของครูแตง เป็นเพลงไพเราะน่าฟังเพลงหนึ่งที่ควรสนับสนุน หากแต่เที่ยวหลังยังใกล้เคียงกับทำนองแรกมากไปหน่อย จึงแต่งเพลงทยอยเขมรสามชั้นเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งเที่ยวสำหรับบรรเลงเป็นเที่ยวกลับ และเพิ่มเติมเที่ยวแรกของครูแตงขึ้นอีกเล็กน้อยตรงลูกล้อที่ ๒ การบรรเลงตามแบบนี้ก็ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในวงการดนตรีอีกแบบหนึ่ง การขับร้องนั้นใช้คำร้องจากเรื่องอิเหนา พระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ ๒.
- ประวัติ​ อาจารย์​เจริญใจ​ สุนทร​วาทิน​ -​
อาจารย์เจริญใจ สุนทรวาทิน เป็นบุตรีคนสุดท้องของพระยาเสนาะดุริยางค์ (แช่ม สุนทรวาทิน) กับคุณหญิงเสนาะดุริยางค์ (เรือน) เกิดเมื่อวันที่ ๑๖ กันยายน พ.ศ.๒๔๕๘ อาจารย์เจริญใจเริ่มเรียนวิชาสามัญที่โรงเรียนศึกษานารี จนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ แล้วจึงย้ายไปเรียนต่อที่โรงเรียนราชินี จนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ สำหรับทางด้านดนตรี อาจารย์เจริญใจ ได้รับการถ่ายทอดการดนตรีมาตั้งแต่เด็กและด้วยเหตุนี้เองทำให้บิดาของท่าน คือ เจ้าคุณเสนาะดุริยางค์พิจารณาเห็นแล้วว่าท่านมีความสามารถทางดนตรีมาก จึงให้หยุดการเรียนในสายสามัญ มาทุ่มเทให้กับวิชาดนตรี
การเรียนดนตรีของอาจารย์เจริญใจจะเป็นการเรียนอย่างช้าๆ และซ้ำๆ เพื่อให้ซึมซับลงไปอย่างเต็มที่ โดยเจ้าคุณเสนาะดุริยางค์จะสอนอยู่ ๓ เวลา ใน ๑ วัน คือ ตอนเช้าก่อนไปโรงเรียน ตอนเย็นกลับมาจากโรงเรียน และตอนค่ำก่อนนอน ซึ่งการเรียนนี้เป็นทั้ง ๒ ทาง คือ ทางร้องและทางเครื่อง โดยทางเครื่องนั้นเจ้าคุณเสนาะดุริยางค์ ได้สอนการตีฆ้องและการตีระนาดเอกให้กับอาจารย์เจริญใจ แต่จริงแล้วเครื่องดนตรีที่อาจารย์เจริญใจได้เรียนตั้งแต่ยังเล็กอย่างแรก คือ ปี่ชวา ในปีพ.ศ.๒๔๖๖ อาจารย์เจริญใจได้เข้าประกวดปี่พาทย์ ณ วังบางขุมพรหม ขณะที่มีอายุได้ ๘ ปี และเป็นนักร้องที่มีอายุน้อยที่สุด และผลจากการประกวดนั้นอาจารย์ได้ที่ ๓ ต่อมาในรัชกาลที่ ๖ ท่านได้ถวายตัวเป็นข้าหลวงเรือนนอก ทำหน้าที่ขับร้อง และได้รับพระราชทานเสมาทองคำรัชกาลที่ ๖ ในสมัยรัชกาลที่ ๗ ท่านได้ถวายตัวเป็นข้าหลวงของสมเด็จฯพระนางเจ้ารำไพพรรณี มีหน้าที่ขับร้องและบรรเลงดนตรีของวงมโหรีหลวงในพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้รับพระราชทานเหรียญร.ภ. ในสมเด็จฯพระนางเจ้ารำไพพรรณี ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ ๘ ได้โอนย้ายไปสังกัดสำนักพระราชวัง กรมศิลปากร และโรงเรียนการเรือนพระนคร ตามลำดับ และได้สอนที่โรงเรียนการเรือนพระนคร กับโรงเรียนอนุบาลลอออุทิศ จนกระทั่งเกิดสงครามโลกครั้งที่ ๒ จึงออกจากราชการ
ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ท่านได้เริ่มเข้าสอนดนตรีไทยที่จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย ในปีพ.ศ.๒๕๐๘ จนถึงปัจจุบัน และเมื่อครั้งสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารีได้เสด็จมาทรงศึกษาในระดับปริญญาตรีที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ท่านก็ได้ถวายการสอนการดนตรีเป็นการส่วนพระองค์ด้วยในเวลาต่อมา อนึ่งในรัชกาลนี้ท่านได้ประกวดขับร้องเพลงไทยในทางวิทยุกระจายเสียงและได้รับรางวัลชนะเลิศรางวัลที่๑ ในปีพ.ศ.๒๕๑๘ ท่านได้รับเชิญจากกรมศิลปากรให้บันทึกเสียงการขับร้องและ การเดี่ยวซอสามสายพิเศษ ในแบบฉบับของดุริยางคศาสตร์ และในปีพ.ศ.๒๕๒๑ ได้รับเชิญจากโครงการพัฒนาดนตรีของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อบันทึกการขับร้องเพลงเกร็ดโบราณ และเพลงละครประเภทต่างๆ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญการขับร้องที่มีคุณค่าสมควรอนุรักษ์ และในปี พ.ศ.๒๕๒๔ ท่านได้รับแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาโครงการดนตรีไทย จากสำนักงานเสริมสร้างเอกลักษณ์ของชาติ สำนักงานเลขาธิการรัฐมนตรี
ผลงานของอาจารย์เจริญใจมีเป็นจำนวนมาก คือ ได้บันทึกเสียงไว้มีทั้งแถบเสียง แผ่นเสียง และแถบวีดีทัศน์ ผลงานการประพันธ์ท่านได้ทำทางร้องสำหรับเพลงพญาสี่เสา(เถา) เพลงสาวสุดสวย (เถา) และเพลงจินตหราวาตรี (เถา) ท่านได้รับพระราชทานบทพระนิพนธ์ จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารีให้บรรจุเพลงขับร้องถวายในฉันท์ดุษฎีสังเวยสมโภชพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร และท่านได้มีโอกาสได้จัดตั้งวงดนตรีไทย ที่สำคัญขึ้น ๒ วง คือ วงเสนาะดุริยางค์และวงเจริญใจ
ในเวลาต่อมาอาจารย์เจริญใจได้ป่วยด้วยอาการของโรคพาร์กินสันในระยะเริ่มต้น จึงเข้ารับการรักษา ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์จนมีอาการดีขึ้น แต่ก็ยังมีอาการของโรคชราสืบเนื่องมาเป็นลำดับ และได้ถึงแก่กรรม เมื่อวันที่ ๑๐ เมษายน พ.ศ.๒๕๕๔ ด้วยเส้นโลหิตในสมองแตก ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สิริอายุได้ ๙๔ ปี ๖ เดือน ๒๕ วัน.
(ที่มาประวัติครูเจริญใจ​ สุนทร​วาทิน​ : เวปไซต์​ TK Park music library)
ที่มาภาพถ่าย : อาจารย์อุรุพงษ์ บุญญาผลา
แผ่น CD ที่ระลึก งานพระราชทานเพลิงศพ นางเจริญใจ สุนทร​วาทิน (ศิลปินแห่งชาติ)​
วันอาทิตย์ที่ ๒๒ เมษายน พ.ศ.๒๕๕๕ ณ เมรุวัดเทพศิรินทราวาส กรุงเทพมหานคร
กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนรรม ผู้จัดทำ.
สำเนาเสียงจากแผ่น CD : ฉ​ั​ต​รกร​ เกตุ​มี
เพื่อการเผยแพร่อนุรักษ์​เพลงไทย​ใน​การศึกษา​ มิได้มีเจตนาละเมิดลิขสิทธิ์และแสวงหารายได้
ติดตามเพิ่มเติมได้ที่ : / @deklenkhimchannel7019

Пікірлер

    Келесі