Seiko แบรนด์นาฬิกาสัญชาติญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงระดับโลก มีนาฬิกาหลากหลายรุ่นที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก จนแฟน ๆ ได้ตั้งฉายาให้กับนาฬิการุ่นนั้น ๆ อย่างสร้างสรรค์ เป็นเหมือนชื่อเล่นที่แฟน ๆ ตั้งให้จากลักษณะภายนอกที่บ่งบอกคาแรกเตอร์ของคอลเลกชัน
ซึ่งในครั้งนี้ เราจะพาทุกคนมาดูความเป็นมาของ ชื่อเล่น นาฬิกา Seiko ในแต่ละรุ่น ว่ามีที่มาอย่างไรบ้าง
0:00 Intro
0:37 Seiko Tuna ( ทูน่า )
Story Of Tuna Can - ที่มาของชื่อเล่น Seiko Tuna ( ทูน่า )
ที่มาขอชื่อ Tuna นั้น มาจากรูปแบบตัวเรือนที่มีดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ โดยตัวเรือนเป็นทรงกระบอก มีขอบหน้าปัดที่จมอยู่ในตัวเรือน เวลามองจากด้านข้างจะทำให้นึงถึงขอบกระป๋องปลา Tuna และอีกจุดหนึ่งที่ทำให้นึกถึงกระป๋อง Tuna ก็คือ ด้วยความที่ตัวเรือนเป็นแบบ Monocase ไม่มีฝาหลัง เมื่อนำนาฬิกาไปเซอร์วิสก็จะต้องใช้วิธีเปิดกระจก เพื่อนำเครื่องออกมา ซึ่งเหมือนกับการเปิดฝากระป๋องเพื่อเอาเนื้อปลาออกมานั่นเอง ทั้งหมดนี้จึงกลายเป็นที่มาของชื่อเรียกที่ว่า Tuna Can
3:09 Seiko Turtle ( เต่า )
Story Of Turtle - ที่มาของ ชื่อเล่น Seiko Turtle ( เต่า )
สำหรับฉายาที่ถูกเรียกว่า "Turtle" มาจากการที่นาฬิการุ่นนี้เป็นทรงคุชชั่น มาพร้อมเม็ดมะยมขนาดใหญ่อยู่ที่ตำแหน่ง 4 นาฬิกา ที่ฝังอยู่ในตัวเรือนเพื่อป้องกันไม่ให้เม็ดมะยมเคลื่อนโดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งหากมองโดยรวมแล้วนั้น รูปทรงของตัวเรือนจะมีลักษณะคล้ายกับรูปทรงกระดองเต่าที่ปกคลุมตัวของเต่าอยู่ ไม่ว่าจะมองมุมไหน ทุกสัดส่วนของนาฬิกานี้ก็จะมีภาพลักษณ์ของเต่าติดมาด้วยในทุกมิติ
5:40 Seiko Monster ( มอนสเตอร์ )
Story Of Monster - ที่มาของ ชื่อเล่น Seiko Monster ( มอนสเตอร์ )
ที่มาของชื่อ “Monster” นั้น มาจากตัวเรือนที่บึกบึนและหน้าตาที่ดุดัน ทำให้เหมือนสัตว์ประหลาดหลายตัวผสมอยู่ ซึ่งหากมองจากด้านบนก็จะเห็นเป็นเหมือนสัตว์ประหลาดที่อ้าปากกว้างและแยกเขี้ยวอยู่ แต่หากมองไปด้านข้างของตัวเรือนจะคล้ายกับซี่ฟันอันแหลมคมของไดโนเสาร์ ดูมีพลังและมีอำนาจ สมกับฉายา Monster อย่างแท้จริง
8:28 Seiko Samurai ( ซามูไร )
Story Of Samurai - ที่มาของ ชื่อเล่น Seiko Samurai ( ซามูไร )
ที่มาของชื่อ "Samurai" ไม่ได้มาจากลักษณะหน้าตาของนาฬิกาที่เหมือนกับ Samurai แต่มาจากรูปร่างและเส้นสายของนาฬิกา ที่มีความคมราวกับโดนดาบญี่ปุ่นนั้นเฉือนออก ซึ่งจะเห็นได้จากการออกแบบที่มีการเล่นเส้นสายเป็นเส้นตรงและองศาที่ดูคมเป็นพิเศษ ทำให้มีเหลี่ยมคมที่ชัดเจนในทุกสัดส่วน และทั้งหมดนี้ก็สื่อถึงความเป็นญี่ปุ่น และบ่งบอกถึงความเป็น Samurai ได้เป็นอย่างดี
10:44 Seiko Sumo ( ซูโม่ )
Story Of Sumo - ที่มาของ ชื่อเล่น Seiko Sumo ( ซูโม่ )
ที่มาของฉายา "Sumo" ที่แฟนคลับตั้งให้ อาจมาจากลักษณะเด่นหลายอย่างที่เหมาะเจาะกับนักสู้ผู้ทรงพลัง เช่น ตัวเรือนที่กลมอ้วน แต่กลับมีขานาฬิกาที่ลีบเล็ก ภาพรวมจึงดูเหมือนกับคนรูปร่างใหญ่ที่มีขาเล็กเสมือนนักกีฬาซูโม่ จึงกลายเป็นที่มาของชื่อ Sumo ที่เอาไว้เรียกแทนนาฬิการุ่นนี้
13:17 Seiko Shogun ( โชกุน )
Story Of Shogun - ที่มาของ ชื่อเล่น Seiko Shogun ( โชกุน )
ที่มาของฉายา "Shogun" มาจากการที่นาฬิการุ่นนี้มีรูปลักษณ์อันแข็งแกร่งคล้ายกับชุดเกราะของท่านโชกุน สังเกตได้จากรูปร่างของข้อต่อที่ใช้กับสายนาฬิกาจะถูกต่อเข้าด้วยกันเป็นมุมในลักษณะที่เรียกว่า ยาบาเนะ (ลูกศรขนนก) ทำให้นึกถึงอาวุธและชุดเกราะของโชกุน นอกจากนี้แล้ว รอยบากสามเหลี่ยมตรงขอบตัวเรือนก็มีความคล้ายกับเครื่องประดับบนหมวกของโชกุนอีกด้วย
16:00 Seiko Panda ( แพนด้า )
Story Of Panda - ที่มาของ ชื่อเล่น Seiko Panda ( แพนด้า )
ที่มาของชื่อ Panda นั้น มาจากรูปลักษณ์ของนาฬิกา Speedtimer ของรุ่นที่มีพื้นหน้าปัดสีขาวและมีหน้าปัดย่อยสีดำ เรียงตัวกันที่ตำแหน่ง 3 นาฬิกา 6 นาฬิกา และ 9 นาฬิกา ทำให้เกิดรูปร่างเค้าโครงคล้ายกับหน้าของหมีแพนด้าที่มีขนสีขาวทั่วใบหน้า แต่มีการแต่งแต้มสีดำที่บริเวณตา และตำแหน่งจมูกกับปาก โดยชื่อเล่นของนาฬิกาที่ถูกเรียกว่าหมีแพนด้านั้น มักจะมาพร้อมกับคอลเลกชันนาฬิกาโครโนกราฟที่มีฟังก์ชันการจับเวลา เพราะนาฬิกาที่มีฟังก์ชันนี้จะมีการจัดวางหน้าปัดย่อย อันเป็นที่มาของฉายา Panda นั่นเอง
ประวัติความเป็นมาของ Seiko Speedtimer นาฬิกา Chronograph สัญชาติญี่ปุ่น
• ประวัติความเป็นมาของ S...
ติดตามคอนเทนต์นาฬิกาที่น่าสนใจได้ที่
IG: / auctionhouse_official
FB: / auctionhouse.th
อย่าลืมกดติดตามเพื่อรับชมวิดีโอที่น่าสนใจก่อนใคร
#seiko #seikowatch #seikoturtle #seikothailand
#AuctionHouse #WatchReview #WatchInsights #ลงทุนนาฬิกา #รีวิวนาฬิกา #SeikoAKA
#seikosolar #seikoaddiction #นาฬิกาข้อมือผู้ชาย