- อ่านระเบียบให้รอบครอบ ดูสิ่งที่ต้องเตรียมไปให้ดีว่าต้องยื่นเอกสารอะไรบ้าง จัดเตรียมไว้ล่วงหน้าใส่ซองไว้ เอกสารต่างๆ เอาให้ครบ
- แต่งกายให้เราคิดว่าเราจะสุภาพเรียบร้อยที่สุดได้ อย่าทำให้ตัวเราเองเกิดความกังวลใจ ให้เรามีสมาธิในการสอบสัมภาษณ์อย่างเดียว เช่น ใส่รองเท้าผ้าใบได้ไหม คัทชูไปเลยครับสบายใจ ใส่เสื้อแขนสั้นได้ไหม เสื้อเชิ้ตแขนยาวไปเลยครับสบายใจ ใส่กางเกงที่ไม่ใช่สีดำได้ไหม สีดำไปเลยครับสบายใจ ผู้หญิงใส่กางเกงได้ไหม ใส่กระโปรงไปเลยครับสบายใจ ปล่อยผมได้ไหม รวบไปเลยครับ อย่าให้เรื่องเล็กๆ น้อยเหล่านี้มารบกวนสมาธิเรา ทำให้เหมาะสมไปเลยครับ
- แผนพับ เรซูเม่ ถ้าเราอยากทำ ทำให้อยู่ในหนึ่งแผ่น ทำไปสัก 4 แผ่น กรรมการสัมภาษณ์บางสนามก็ 2 คน บางสนามก็ 3 คน ทำไปเผื่อร่วง เผื่อหาย ทำให้สุดฝีมือเท่าที่เราทำได้ แต่ขอบอกไว้ว่าผมไม่เคยทำไปเลยสักสนาม ผมมีมุมอง เรื่องเกณฑ์การตัดสินในการสัมภาษณ์ว่าต้องยุติธรรมสำหรับทุกคน อะไรที่ไม่ได้กำหนดในระเบียบไว้ให้ปฏิบัติหรือไม่ให้ปฎิบัติ จะต้องไม่มีผลต่อคะแนนในการสัมภาษณ์ เพราะถ้าแผนพับหรือเรซูเม่ มีคะแนนพิเศษทั้งที่ระเบียบไม่ได้กำหนด แบบนี้ไม่ยุติธรรมกับทุกคน แต่เป็นเพียงมุมมองส่วนตัวนะครับ ผมอาจจะคิดผิดก็ได้ ทำไปอาจได้คะแนนเพิ่มก็ได้ครับ ถ้าใครจะทำก็ไม่ผิด ได้โชว์ความสามารถฝีมือ ก็ทำให้เต็มที่ เอาที่เราสบายใจครับ ไม่ผิดไม่ถูก
ขอบรรยาย บรรยากาศ ภาพรวมกันก่อน เพื่อให้เห็นภาพตาม ส่วนใหญ่แต่ละสนามจะกำหนดให้เวลาในการสัมภาษณ์ม่เกิน 3 ถึง 5 นาที ต่อคน แล้วแต่ว่าคนผ่านข้อเขียนมาสัมภาษณ์เยอะแค่ไหน เพราะต้องบริหารการสัมภาษณ์ให้จบในหนึ่งวัน ถ้าสนามไหนคนผ่านเยอะมากๆ ก็อาจถึง 2-3 วัน การสัมภาษณ์ก็จะแบ่งเป็นโต๊ะๆ แต่ละครั้งอาจมีมากถึง 20 โต๊ะ เพื่อความรวดเร็วในการสัมภาษณ์
- สิ่งแรกคือการแนะนำตัวเอง ไม่เกิน 2 นาที ไปถึงก็กล่าวทักทายสวัสดี เดี๋ยวกรรมการจะเชิญเรานั่ง ถ้าเขาไม่เชิญเราก็ก็กล่าวขออนุญาตนั่งไปเลยบางที่เขาจะกำหนดว่าไม่ต้องรอให้กรรมการถามเรื่องการแนะนำตัว เมื่อเรานั่งเราก็ขออนุญาตแนะนำตัวเองเลยครับ บอกชื่อ สกุล ชื่อเล่น อายุ เติบโตจากจังหวัดใด (จบสาขา คณะ มหาวิทยาลัยอะไร เอาแค่วุฒิล่าสุดอันเดียวพอ) ประสบการณ์การทำงานต่างๆ ถ้าน้องจบใหม่ก็บทบาทในรั้วมหาวิทยาลัย ถ้าใครคิดไม่ออกก็ข้ามไปพูดเรื่องจุดเด่นในตัวเอง และจุดที่อยากพัฒนาในตนเอง ประสบการณ์ที่ประทับใจในตัวเอง ความสามารถด้านอื่นๆ เป็นคนชอบเล่นกีฬา ร้องเพลง อ่านหนังสือ หรืออะไรก็ตามสะดวก บรรยายให้ผู้ฟังรู้จักนิสัยใจคอเราในเวลาที่จำกัด สายตาเรากวาดไปที่กรรมการทุกท่าน อย่าก้มหน้า นั่งให้เรียบร้อย ยิ้มแย้มอยู่ตลอดเวลา เมื่อเราแนะนตัวเสร็จก็จะเป็นฝ่ายกรรมการที่จะถามเรา
คำถามที่อาจเจอได้ และนี้มีเป็นการแนะนำคำตอบ ถ้าเพื่อนๆ มีคำตอบดีกว่านี้จัดเต็มได้เลยครับ
- ทำไมถึงอยากรับราชการ เพราะความมั่นคงในตัวเอง และคนในครอบครัว จากเหตุการณ์โควิดที่ผ่านมา ทำให้เห็นว่างานราชการเป็นงานมั่นคงมากๆ และอีกเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กันคือการได้รับใช้ประชาชน ได้ดูแลทุกสุขของประชาชน
- ถ้าคนเป็นราชการอยู่แล้วก็จะถามว่าทำไมถึงอยากย้าย ที่เก่าเป็นอย่างไร เราก็ตอบไปว่าเพราะอะไร เพราะเราชอบงานนี้ เพราะมันตรงกับสายงานที่เราเรียน หรือเพราะเรากำลังค้นหาดูว่าเราชอบงานไหนมากกว่ากันจึงอยากหาความรู้ ความท้าทายใหม่ หรือมองเรื่องความก้าวหน้าก็ว่ากันไป พูดในเรื่องที่ดีไว้นะครับ ถ้าเราเอาแต่บ่นที่เก่าแบบนี้ไม่เหมาะแน่ครับ ทุกที่มีเรื่องที่ดีเรื่องที่แย่ทั้งนั้น
- รู้ไหมตำแหน่งที่เราสอบได้มีหน้าที่ทำอะไร ข้อนี้เราต้องทำการบ้านมาแล้วจากการสอบถาม หาข้อมูล หรืออ่านมาตรฐานกำหนดตำแหน่ง หรือถ้าไม่แน่ใจให้โทรไปถามคนภายในเลยครับ ขอสายกองการเจ้าหน้าที่แจ้งว่า พอดีเราสอบได้สนามนี้ และอยากได้ข้อมูลเพื่อเตรียมตัวไปวันสอบสัมภาษณ์ อยากทราบว่าตำแหน่งนี้หน้าที่อะไรบ้าง ผมว่าเจ้าหน้าที่พร้อมให้ข้อมูลน้องๆ แน่นอนครับ เพราะมันแสดงถึงความตั้งใจของน้องที่อยากจะรับราชการในตำแหน่งนี้ อย่างวันนี้ผมขอยกตัวอย่างตำแหน่ง นักวิชาการแรงงานปฏิบัติการ ของกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน บอกว่าเท่าที่ผมทราบและหาข้อมูลมา จะทำหน้าที่ในการตรวจแรงงาน ดูแลคุ้มครองลูกจ้าง และช่วยเหลือให้คำปรึกษาแก่นายจ้างภายใต้กฎหมายกำหนด ดำเนินการทางด้านคดีแรงงานในการสืบข้อมูล สืบพยาน รวบรวมเอกสารหลักฐาน พิจารณาออกคำสั่งเรื่องค่าจ้าง หรือเงินที่อยู่ภายใต้ภาระหน้าที่ของกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน นี่คือตัวอย่างในการตอบ พนักงานราชการในตำแหน่งนี้ก็ตอบแบบนี้ได้เช่นกัน
- คุณจะนำความรู้และประสบการณ์มาประยุกต์ใช้กับตำแหน่งอย่างไร
คุณต้องหาความเชื่อมโยงของประสบการณ์ของคุณกับงานให้ได้ มันต้องมีสักจุดแหละที่มันจะเชื่อมโยงกันได้ ยกตัวอย่างตำแหน่งเดิมและกัน นักวิชาการแรงงาน เนื่องจากผมมีประสบการณ์ด้านฝ่ายบุคคลมาก่อน หรือเคยทำงานเป็นลูกจ้างมาก่อน ในระหว่างที่ทำงานก็มีบางเรื่องที่รู้สึกว่าทางนายจ้างปฏิบัติไม่ถูกต้อง หรือลูกจ้างก็เอาเปรียบนายจ้างเกินไป ก็จะนำประสบการณ์ตรงนั้นมาเป็นข้อแนะนำให้กับนายจ้าง ใช้อำนาจทำสิ่งที่ถูกต้อง และถ่ายทอดสิ่งที่ถูกต้องแก่นายจ้างและลูกจ้างต่อไป คำถามนี้เป็นคำถามวัดว่าคุณสามารถนำเรื่องราวมาสอดคล้องหรือเชื่อมโยงได้ดีแค่ไหน
- มีอะไรจะถามกรรมการหรือไม่ ถ้าเรามีคำถามอะไรก็ถามได้เลย แต่ถ้าไม่มีก็กล่าวขอบคุณกรรมการไป ก็บอกว่า เราไม่มีคำถามแต่ อยากขอบคุณกรรมการ และทางหน่วยงานที่ได้จัดสอบ ทำให้เรามีโอกาสได้มาสัมภาษณ์ ได้มีโอกาสที่จะได้รับราชการในองค์กรที่เราตั้งใจต่อไปด้วยครับ ค่ะ
ส่วนคำถามไหน ที่เราไม่รู้หรือไม่แน่ใจ ให้ตอบไปตรงๆเลย อย่าโกหกพูดมั่ว ไม่ใช่สิ่งที่ควรทำเลย การพูดตรงๆ ว่าไม่รู้ แสดงถึงความซื่อตรงของเรา