สงคราม ๙ ทัพ ที่ไม่รู้จัก - [ประวัติศาสตร์นอกขนบ II] EP.01 | Sarakadee-Muangboran PODCAST
กลับมาอีกครั้งกับพอดแคสต์ "ประวัติศาสตร์นอกขนบ" ซีรีส์ 2
ตอนแรก "สงคราม ๙ ทัพ ที่เราไม่รู้จัก"
.
ฟังเรื่องราวประวัติศาสตร์มุมมองใหม่
กับสุเจน กรรพฤทธิ์ นักเขียนและกองบรรณาธิการนิตยสารสารคดี
ในซีรีส์พอดแคสต์ #ประวัติศาสตร์นอกขนบ
___
🎙 สารคดี-เมืองโบราณ PODCAST
พบกันทุกวันอังคาร และวันพฤหัสบดี
เวลา 20.00 น.
At KZread Channel : สารคดี-เมืองโบราณ-นายรอบรู้
☝️ / @sarakadee_mb
--------------------------------------------------------------------------
Follow สารคดี-เมืองโบราณ :
Facebook: / sarakadeeboranrobroo
Twitter: / sarakadee_mb
TikTok: / sarakadee_shop
Пікірлер: 288
ผมขอแย้งนะครับ 1.ถ้าคุณยังไม่เข้าใจว่าทำไมทหารสมัยก่อนต้องตั้งแถวยิง แสดงว่ายังไม่เข้าใจเรื่องขีดความสามารถอาวุธและยุทธวิธีในยุคนั้น ซึ่งมันเป็นเหตุเป็นผลสำคัญที่ทหารต้องตั้งแถวยิงแบบนั้น 2.เรื่องของการอ้างการขาดเสบียง กับเรื่องช่องทาง เรื่องนี้วิเคราะห์ได้จาก 2.1 คำพูดของพระเจ้าประดุงที่ว่า"มันมีแผ่นเหล็กขวางพวกมึงอยู่หรือจึงไม่รีบยกทัพไป" มันชัดเจนว่าไม่ใช่เรื่องของการขาดเสบียง แต่เป็นเรื่องช่องทาง เพราะหลักการรบ หน่วยที่ทำการรบต้องเคลื่อนไปข้างหน้าก่อนและทิ้งระยะห่างจากหน่วยสนับสนุน(ส่งเสบียง)เป็นระยะทางพอสมควร เพื่อไม่ให้มีผลกับตัวเสบียง ฉะนั้นการที่มีกลุ่มมากองที่จุดจ่ายเสบียงแสดงว่า หน่วยรบที่อยู่ด้านหน้าถูกลดความกว้างในการเคลื่อนที่ ทำให้เคลื่อนที่ได้ช้า ทำให้ส่วนสนับสนุนเคลื่อนที่ไม่ได้ ต้องติดอยู่ที่จุดจ่ายเสบียง 2.2 ภูมิประเทศบริเวณนั้น เป็นช่องที่มีความแคบลดขนาดลงจากเส้นทางเดินทัพเข้ามาชัดเจน ด้วยปัจจัยต่างๆเหล่านี้ จะเห็นได้ว่า มุมมองของนักวิชาการที่ไม่เข้าใจยุทธวิธี จะตีความจากคำพูด,วิธีการจัดทัพและภูมิประเทศไม่แตกฉาน ทำให้เกิดความตีความแบบผิดพลาด ผมไม่ได้จะมาดิสเครดิตนักวิชาการนะ แต่ผมอยากให้นักวิชาการควรจะหาข้อมูลและปรึกษาผู้ชำนาญการยุทธที่เค้าเข้าใจเรื่องนี้ ซึ่งก็คงจะเป็นกลุ่มอาจารย์ในโรงเรียนทหาร โรงเรียนเสนาธิการ(เน้นย้ำกลุ่มอาจารย์นะ) ท่านเหล่านี้เป็นบุคคลที่มีความรู้ ความเข้าใจทั้งทางโลกและในสังคมทหาร(รับรองว่าไม่เหมือนทหารทั่วไปตามหน่วยแน่ๆ)
@akkalopamratisha3642
9 ай бұрын
ได้ความรู้ที่เคยมองข้าม ขอบคุณมากครับ
@nam1nam241
8 ай бұрын
ทุกวันนี้ก็ตั้งแถวยิง
@Wutty1993
8 ай бұрын
@@nam1nam241ยิงข้าศึก? 😅😅😅
@khonlaoruang
7 ай бұрын
ยุคนั้น ขีดจำกัดของปืนคาบศิลาที่ยังคงใช้กระสุนแบบเมล็ดกลมทำจากตะกั่วที่ศูนย์ถ่วงและความหนาแน่นไม่มีมาตรฐานพอ การถูกขับด้วยดินปืนจนวิ่งไปในอากาศจึงมีโอกาสที่จะเสียศูนย์และเสียทิศทาง แล้วสิ่งสำคัญ คือ ปริมาณ คุณภาพ และฝีมือการบรรจุดินปืนที่ต้องลงทางปากกระบอกปืนเท่านั้น ซึ่งแน่นอนว่าพลปืนแต่ละคนจะมีสมรรถนะที่แตกต่างกัน จึงเป็นไปได้ยากที่การแยกกันยิงจะเกิดประสิทธิภาพได้ ดังนั้น การยิงของกองทัพในยุคนั้นจึงต้องรวมหมู่จัดแถวกันยิงกันจะจะ แต่ของเราไม่ได้ทำอย่างนั้นบ่อย ๆ อย่างที่เห็นในหนังฝรั่งครับ เพราะสมรภูมิของเรามักเป็นป่าเขาลำเนาไพรซึ่งมักมีสิ่งกีดขวางวิถีกระสุนได้มากกว่าทุ่งราบที่มองเห็นกันแต่ไกล หรือตำราพิชัยสงครามไม่ได้กำหนดไว้ ส่วนการใช้ปืนใหญ่นั้นเป็นอาวุธสำคัญในการจัดตั้งแถวรบแบบประจัญหน้าทั้งฝ่ายรุกและรับ ในการรบแบบโฉบฉวยหรือกึ่งโฉบฉวย ปืนใหญ่คือภาระที่หนักอึ้งต่อการดำเนินยุทธวิธีแบบนั้นครับ
@zakk761
3 ай бұрын
เห็นด้วย เรื่องยุทธวิธี นักวิชาการก็ใช้ปากกาเขียนไปเรื่อย ยังจะไปด้อยค่าเพื่อ รบจริงตายจริงเสียสละ คนยกย่อง รบใช้กลยุทธ์ภูมิปัญญาที่มี
พูดได้ดี แต่คุณก็ต้องไม่ลืมว่าตัวคุณเองก็อ่านข้อเขียนและบันทึกของคนอื่น ๆ มาเช่นกัน ครูบาอาจารย์ท่านว่า คำพูด ข้อเขียน กลิ่น อาหาร หรือแม้แต่สัมผัส เมื่อผ่านเข้ามาทางตา หู จมูก ปาก และต้องเข้ากับผิวกาย ล้วนเป็นสัจธรรมปฏิรูป คือมันถูกปรุงแต่งไปตามความนึกคิด และอัตตาส่วนตัวของตัวเอง จะเชื่อถือเอาเป็นสรณะไม่ได้ ความจริงในเรื่องแต่ละเรื่อง ล้วนมีเพียงผู้อยู่ในเหตุการณ์เท่านั้นที่รู้ แม้แต่คุณเองอ่านตำรามาเล่า คุณก็ไม่ได้เล่าทุกตัวอักษรในตำรานั้น ความจริงมันมีเพียงแค่ เรารบกับพม่า ด้วยเส้นทางไหน ใครนำทัพมาเท่านั้น ส่วนรายละเอียดที่เหลือ มีเพียงคนที่อยู่ในการทำศึกเท่านั้น ทั้งคุณและผู้ฟัง รวมถึงบุคตลที่คุณไปอ่านตำราเขามา ก็เป็นเพียงผู้รับสารมา แล้วก็มานั่งนึกเอาเอง
อาจารย์สอนประวัติศาสตร์คุณคืออาจารย์สุจิตน์ใช่ไหม ดูคุณไม่ค่อยภูมิใจเลยเนอะ เรื่องบางเรื่องอาจจะปรุงแต่งเป็นเรื่องปกติอาจจะมีเกินเลยไปบ้าง แต่ไม่น่าเกินจริงไปมาก ชี้จุดให้ชวนคิดได้ แต่ไม่ใช่ชี้นำให้เลิกเชื่อ นอกจากคุณมีหลักฐานในเชิงประจักษ์ ดีใจนะที่คุณเกิดมาจากเขมร
@khonlaoruang
7 ай бұрын
การศึกษา ปวศ. ก็เพื่อการค้นคว้าหาข้อมูล วยิพากษ์ วิจารณ์และอภิปรายโดยเหตุและผลที่มีน้ำหนักหลักฐานด้วยบริบทของเรื่องราวและสังคมในยุคนั้น ไม่ใช่เอามาเชื่อมกับยุคปัจจุบันที่ทุก ๆ อย่างเปลี่ยนแปลงไปจนไม่เหลือเค้าเดิมแล้ว ซึ่งประเทศชาติเขมร พม่า ลาว เวียดนาม ฯลฯ อะไรต่อมิอะไร มันก็เกิดจากรูปแบบรัฐชาติในยุคปัจจุบันทั้งนั้นแหละครับ
จริงๆ ชอบการเล่าเรื่องของนักเล่าเรื่องคนนี้นะ เพราะคนเรียนประวัติศาสตร์รุ่นใหม่ๆ ก็ลดเรื่องมายาคติแนวหลงชาติไปพอควรแล้ว แต่พอฟังคลิปคุณคนนี้ทีไร วาทกรรมจำพวก ประวัติศาสตร์ชาตินิยม ก็กลับมาบ่อยจนแปลกใจ เหมือนลึกๆ ในใจคุณเค้าก็มี bias พอสมควร (อยากฟังประวัติศาสตร์แบบไม่ต้องด้อยค่าคนอื่นมากก็ได้ อย่างช่อง Point of View ไม่ก็ หอย อภิศักดิ์ ก็เพลินดี)
@golfliverbird3589
9 ай бұрын
+1
@thitiset
9 ай бұрын
#อยากฟังประวัติศาสตร์แบบไม่ต้องด้อยค่าคนอื่นมากก็ได้ 👍 ใช่เลย ไม่ต้องแสดงออกซ้ำๆ ใส่ชุดความคิดเชืงเหยียดย้ำๆบ่อยๆขนาดนั้นก็ได้ ลองฟัง อ.สุเนตร , อ.ฉันทัส เพียรธรรม ท่านก็เสนอแนวคิด หลักฐาน เห็นแย้งกันได้ ไม่เห็นท่านต้องเหยียบใคร ให้ตัวท่านดูสูงกว่าคนอื่น
ฟังดูดี แต่ดูเหมือนคุณจะมีอคติมากไปหรือเปล่า ถ้าไม่มีอดีตก็คงไม่มีประเทศไทยในปัจจุบันหรือเปล่า
@user-ys5fe1dj7t
9 ай бұрын
ท่านนี้ใช่เจ้าประจำครับ
ผมว่าพูดได้นะ สงคราม 9 ทัพเป็นสงครามที่สำคัญของประเทศไทย ถ้ากรุงเทพแพ้ ตอนนี้เราอาจจะเป็นแค่กลุ่มชาติพันธ์ในพม่าที่ยังต้องต่อสู้ทำสงครามเพื่อเอกราช รวมถึงล้านนาหรือหัวเมืองอื่นๆ การที่ไทยรวมแผ่นดินผมว่ามันเป็นประโยชน์โดยรวมมากกว่า อาจจะมีสิ่งที่ขัดใจคนพื้นที่บ้าง
@godking93
9 ай бұрын
ถ้ากรุงเทพเเพ้เมืองหลวงก็อาจเป็นลพบุรี
@boobowwy
9 ай бұрын
อาจจะสภาพเดียวก่ะโรฮิงจา
@zexyt3043
9 ай бұрын
@@godking93 ถ้ากรุงเทพแพ้ พม่าคงรวบหมดทั้งภาคกลาง ภาคเหนือ จากนั้นอังกฤษก็กินรวบอีกที เป็นไปได้มากว่าตอนให้เอกราชอาจจะให้ไปรวมกับพม่า
@Wutty1993
8 ай бұрын
ตอนนั้นยังไม่มี'ประเทศไทย' นี่ครับ?
@akkalopamratisha3642
7 ай бұрын
@@Wutty1993 เฮ้ออ
เรามีขอบเขตของชาติชัดเจนครับ พระราชปณิธานในรัชกาลที่ 1 ปรากฏชัดในพระราชนิพนธ์ เรื่องนิราศท่าดินแดง ว่า “ตั้งใจจะอุปถัมภก ยอยกพระพุทธศาสนา จะป้องกันขอบขัณฑสีมา รักษาประชาชนแลมนตรี”
เนื้อหา ข้อมูล คุณจะหามาอ้างอิงจากไหนผมไม่ว่า เพราะผมฟังหูไว้หู แต่การที่หลายคำพูดของคุณดูอคติ แซะ แขวะ ทั้งรด. ครูฝึก อาจารย์สอนประวัติศาสตร์ ผมไม่รู้ว่าคุณเจออะไรมายังไงในสังคมตอนนั้นของคุณแต่ให้เพลาลงหน่อย หรือไม่ต้องพูดเลย ประเด็นคือคุณมาพูด ให้ข้อมูลความรู้ประวัติศาสตร์ ตัดอคติที่คุณเจอ เป็นเสริมให้ความรู้เพิ่มเติมดีกว่ามั้งครับ
@usaneetakashiba1696
8 ай бұрын
เห็นด้วย
เห็นด้วยกับบางท่านที่บอกว่าผู้จัดทำคลิป มีอคติ ทัศนคติในทางลบ มันก็เลยทำให้คุณค่าของคลิปดูด้อยค่าลงไป ประมาณว่าเอาอคติของตัวเองเป็นไกด์ไลน์ในการทำคลิป
สงคราม9ทัพ เป็นมหาสงครามครั้งสำคัญ. ที่เดิมพันการอยู่รอดเป็นชนชาติไทย เพราะอาณาจักรพม่าอังวะระดมกำลังทหารเต็มขีดความสามารถ. และวางแผนใช้กำลังทหารโจมตีราชอาณาจักรรัตนโกสินทร์ทุกทิศทาง. การวางแผนออกไปดักรอโจมตีทัพของอังวะที่กาญจนบุรี คือความโชคดีและถูกต้อง ทำให้ทัพหลวงของอังวะต้องแตกพ่ายและสูญเสียอย่างหนัก😊
@witmungkung7855
9 ай бұрын
ผมขอถามคุณนะ. คุณเป็นคนไทยหรือป่าว. คุณภาคภูมิใจในความเป็นชาติไทยและภูมิใจในบรรพบุรุษไทยหรือป่าว. ถ้าไม่มีบรรพบุรุษชนชาติไทยในยุคอาณาจักร. แล้วจะมีประเทศไทยหรือไม่ ยุคอาณาจักรมันคือยุคแก่งแย่งดินอยู่แล้ว. ถ้าคุณอ่อนแอ คุณก็จะโดนยึดดินแดนถูกปกครอง และเป็นทาสเขาและโดนกลืนชาติ เข้าใจหรือไม่ ...คุณนี่นะ เสียชาติเกิดจริงๆ
ฟังดูดี แต่เหมือนไม่รักทหารในอดีตที่ปกป้องประเทศชาติเท่าไหร่เลย ถ้าไม่มีกรุงเทพวันนั้น อาจารย์อย่างพวกคุยจะมาปากแจ๋วในวันนี้เหรอ
ผมฟังเรื่อเอาไม้มาทำลูกปืนใหญ่ตอนแรกๆผมก็เกิดคำถามกับครูเลยทันทีว่าแล้วพม่าทำไม่ได้หรอครับในเมื่อสมัยนั้นมรแต่ป่า ครูตอบผมว่าเขาบันทึกแบบนี้ ผมมาฟังอาจารสุเนตแกก็พูดในแบบเดียวกันเลย
ชอบประวัติศาสตร์ ในมุมและมิติทุกๆด้าน และสำคัญคือมีหลักฐานรองรับ ไม่ใช่ฟังเค้าเล่ามา #น้อยนักทีช่องประวัติศาสตร์ไทยที่จะกล้ายอมรับความจริง. ❤❤ช่องคุณ ไม่ธรรมดา
ข้อมูล หลักฐาน วิเคราะห์ที่ดี แต่อธิบายแฝงอคติ ทำให้ด้อยคุณค่าลงไปเยอะ
สรุปคุณพยายามบอกคนภาคอื่นไม่ให้ภูมิใจกับประวัติศาสตร์ของกรุงเทพ มันจริงทุกประการณ์ ที่ว่าไม่เกี่ยวกับคนเหนืออีสานใต้ แต่ในเมื่อวันนี้เป็นไทยแล้ว ก็ควรภูมิใจมันก็ไม่ผิดอะไร
ขอเสริมเรื่อง ทหารเรียงแถวยิงปืนคาบศิลาให้นะครับ เพราะปืนไฟแบบยุคเก่า ไม่สามารถใช้ศูนย์เลงปืนแบบแม่นๆได้ครับ พูดง่ายๆก็คือการขว้างลูกเหล็กใส่กันนั่นแหละ คาดเดาทิศทางไม่ได้เลยต้องมายืนเรียงแถว ยิงพร้อมกัน ยิงทีละเยอะๆ ยังไงก็โดน ประมาณนี้
@zexyt3043
9 ай бұрын
ถูกต้องครับ สงสัยว่าคนเล่าเรื่องประวัติศาสตร์ไม่รู้ได้ยังไง ปัจจุบันค้นกูดกิ้ลไม่เกิน 10 นาทีก็เข้าใจแล้ว
@education493
9 ай бұрын
@@zexyt3043 มันน่าจะคนละแนวการเนื่อหาด้านการศึกษาครับ ชาแน่ลผมทำเกี่ยวกับ พวกเทคโนโลยี้อาวุธคืออาจจะรู้เรื่อวแนวๆนี้ แต่ถ้าถามผมเรื่อง ไทม์ไลน์ หรือ รายละเอียดเกี่ยวกับเอกสารโบราณ ผมก็ไม่แม่นเท่าพี่เค้าเหมือนกันครับ
@user-vu8nb7iu4w
8 ай бұрын
ยืนเป็นแถว มันจะเหมือน ปืนลูกซอง10คนยิง 10กระบอก ต้องโดนบ้างล่ะ
@user-Fa-maddiny007
7 ай бұрын
เรียงแถวยิงมีเปอเซนโดนเป้าหมายมากกว่ายืนยิงเดี่ยวๆ ปืนสมัยนั้นยังไม่มีความแม่นยำมากพอคับ
@Theerawee_Thongkham
6 ай бұрын
มันค่อนข้างมากกว่า Fire Power ครับ เป็นเรื่องของการสั่งการที่ตอนนั้นไร้วิทยุ การรวมกลุ่มเป็นแถวเป็นกลุ่มจะคุมง่ายกว่า เรื่องของขวัญกำลังใจก็เช่นกัน แม้จะโดนยิงใส่แต่การอยู่กับหมู่ตัวเองนี่เหมือนมีเพื่อนคอยช่วยซัพพอร์ดอยู่ คนที่อยู่ด้านหลังเขาไม่ได้ยืนแถวโง่ๆนะครับ เกินแถวที่ 3 ไม่แบ่งกระสุนก็ช่วยบรรจุให้อ่ะครับ และที่สำคัญคือ มันยังมีทหารม้าอยู่!!! แล้วทหารม้าฝั่งยุโรปมันตัวใหญ่ หนัก ถ้ากระจัดกระจายกันมากๆ พวกทหารม้าบอกหวานหมู่ เก็บยกกรม แต่ไม่ได้หมายความว่าทหารยุคที่ว่าที่ยิงแถวกันเขาเอาแต่เรียงแถวกันนะครับ แก๊ง Shapshoter‘,Jäger นี่กระจายเต็มป่าเต็มทุ่งยิงใส่กันเพราะปืนแม่นกว่านิดหน่อย กับพวกสายตาดี แต่ผมว่าปืนคาบศิลามันไม่ได้แม่นที่ความแม่นเท่าไหร่ มันขึ้นกับระยะมากกว่า ยิง 10 เมตรการันตี 70% ถ้าไม่ได้ยิงหัว
ฟังมานี่..คนไทยรักษาชาติเพราะฟลุ๊คประกอบกับพม่าไม่พร้อมเอง...เีารักษากรุงฯไว้ได้นี่ไม่มีความสามารถเลย...คุณก็ไม่ได้เกิดยุคนั้นแต่พูดทุกอย่างได้เหมือนเป็นเสนาบดีร่วมรบร่วมวางแผนเลย...เก่งจัง
@user-ys5fe1dj7t
9 ай бұрын
ทัพสยามใช้วิธีตัดเสบียงครับ เป็นแผนที่ดี
@user-ys5fe1dj7t
9 ай бұрын
ไม่ใช่จะโง่ให้เค้าเข้ามาประชิด กำแพงเมือง ถ้าไม่มีความสามารถไม่มีฝีมือกูคงสู้เค้าไม่ได้
@user-gt8qf5kd2t
9 ай бұрын
ไม่พร้อมอะไรละ นครยังยอมถอยทั้งที่ป้อมใหญ่ สร้างแบบฝรั่งเศส ยังยอมถอยลงมา ไม่แน่จริงมันกินเมืองเอกไม่ลงหรอก
@PwnCgi
9 ай бұрын
เด็กสมัยนี้มันเก่งครับ ไม่ต้องออกแรงเสียสละเลือดเนื้อ พลังสมองอะไร แค่มีปากกับอคติ ก็ดิสเคดิต คนที่เสียเวลาเสียเลือด ให้เป็นคนกระจอกในสายตาคน สมัยนี้ได้ สุดยอด
@jakapong
9 ай бұрын
ผมก็คิดเหมือนกัน ไปบอกของเขาไม่ถูก แต่ตัวเองก็ไม่ได้รู้อะไรขนาดนั้น
ความเชื่อนำหลักฐาน ใครพูดผิดหูบอกชังชาติ ยังนี้การศึกษาประวัติศาสตร์ถึงไม่ไปไหน
ยัอนแย้งหลายๆเรื่อง
ประโยชน์อย่างหนึ่งของคลิปนี้ ทำให้คนเห็นต่างค้นหาเหตุปล ข้อมูลมายืนยันตามความเชื่อ อย่าไปเชื่อสุเนตรมากเกิน และเรื่องปัตตานีจากข้อมูลอื่นก็เป็นของสยามอยู่แล้วผู้ปกครองสยามก็เป็นผู้ที่สยามมอบอำนาจให้มิใช่เหรอ
ผมเรียน รด.รุ่นเก่า เป็นรุ่นที่เรียน รด.ปี1เมื่ออยู่ ม.4 สมัยนั้นกองทัพให้ยิงกระสุนขนาด.22 ตั้งแต่รด.ปี1-2 อยู่ปี3ไปฝึกที่เขาชนไก่จึงได้ยิงกระสุนจริง แต่ใช้ปืนHK33 ซึ่งเก่ากว่าM16 การใช้งานไม่สะดวกและง่ายเท่าM16 แต่ผมก็ยังยิงเข้าเป้าได้คะแนนพอที่จะได้เข็มแม่นปืน(ติดที่อกเท่ระเบิด เพราะคนได้น้อย....ไม่ได้โม้นะคร้าบ) เรื่องการเรียน รด.เพื่อไม่ต้องเป็นทหารเกณฑ์นั้นก็มีส่วนแต่ไม่ทั้งหมด เรื่องอาบน้ำนั้นอาบทุกวันตอนเย็น แต่อาบได้คนละ7ขัน เพราะน้ำน้อยคนเยอะ ใน กทม.ยุคนั้น ร11 ถือว่าฝึกโหดสุด ทุกอย่างครูฝึกไม่เคยอนุโลม ระเบียบวินัยจัด ทรงผมนี่เกือบเหมือนทหารเกณฑ์ ครูฝึกดุน้อยกว่าสุนัขที่บ้านนิดนึง แต่ยังให้เกียรติ รด.บ้างเพราะท่านถือว่าเป็นปัญญาชนมีความรู้มีการศึกษา .....ขนมถ้าไม่กินมันก็บูด เรื่องเล่าถ้าไม่พูดมันก็ลืม...คิดว่าเล่าให้เด็กมันฟังนะครับ
@user-ip9zx2wt4d
9 ай бұрын
ขออภัย...ยุคนั้นรด.ปี1ต้องได้เรียนเมื่ออยู่ ม.5 ....แก้ไขนะครับ
@monsterblink313
4 ай бұрын
เพื่อเป็นกำลังพลสำรองเพื่อใช้ป้องกันประเทศ จะฝึกอะไร แบบไหน ครูฝึกจะบอกเล่าอะไรไม่สำคัญว่่าจริงหรือไม่จริง แต่ความสำคัญนี่คือคนพร้อมที่จะป้องกันประเทศไทยให้อยู่รอดปลอดภัย หากมีภัยสงครามขึ้นมา ส่วนผู้เรียนคือผู้ที่รู้ตัวเองมีสิทธิจะถูกเรียกตัวเข้าสู่กองทัพได้เสมอหากเกิดสงครามขึ้นมา ส่วนการเรียนจบชั้นปีที่ 3 จะได้รับยกเว้นการคัดเลือกทหารฯเมื่ออายุครบตามกำหนด ทำให้สามารถไปเรียนต่อหรือทำงานเพื่อเลี้ยงชีพตนเองและครอบครัวได้โดยไม่ติดเรื่องการไปเข้ารับการคัดเลือกทหารฯ คนที่พร้อมเรียนต่อ พร้อมทำงานและพร้อมป้องกันประเทศเมื่อมีภัย การที่ครูฝึก รด.(ที่เป็นทหารอาชีพ)บอกเล่าประวัติศาสตร์ของชาติไทยไม่ถูกต้องเป๊ะๆ จะส่งผลอะไรกับคนที่เรียน รด. เหรอตรับ ส่วนผมขอชื่นชมคุณนะครับ
สรุปว่าคุณตั้งขอตำหนิสงใสบรรพระบุรตรตกลงคุณนี่เป็นคนไทยหรือเปล่ารู้สึกว่าทุกเรื่องคุณรู้หมดคุณเก่งหมด
@user-zs5pg6qi6w
9 ай бұрын
ชอบอวยเวียดนามครับคนนี้
ปืนในยุคแรกๆเป็นปืนคาบศิลาและปืนนกสับ ข้อเสียคือใช้ลูกกลม ไม่มีเกลียวลำกล้องทำให้ความแม่นยำ(ระยะยิงหวังผล) ต่ำ และอัตราการบรรจุกระสุน (Rate of fire) ต่ำ การตั้งกองแถวหน้ากระดาน 2-3แถว จะเพิ่มปริมาตรการยิงและสลับกันยิงและบรรจุกระสุนได้ อีกทั้งยังป้องกันการชาร์จจากทหารม้าได้ระดับหนึ่ง ต่อมาปืนเริ่มมีการพัฒนาปืนคาบชุดทำให้บรรจุเร็วขึ้น และปืนไรเฟิลซึ่งมีเกลียวลำกล้องทำให้ปืนแม่นยำขึ้นมาก จึงเริ่มมีการจัดหน่วยซุ่มยิงปฏิบัติการเป็นอิสระ อีกเหตุผลที่มีการตั้งแถวยิงคือยุคนั้นนิยมสั่งการด้วยทัศนสัญญาณเช่น ธง ควัน พลุ หรืออาจเป็นเสียงสัญญาณ แตร กลอง ทำให้คนที่รู้สิ่งเหล่านี้มักมีเพียงผู้คุมกองทหาร ยุทธวิธีเหล่านี้เริ่มไม่ได้รับความนิยมเมื่อ 1.ปืนทั้งหมดเริ่มเป็นไรเฟิลที่ยิงแม่น และการบรรจุเป็นแบบครบนัด เป็นตับกระสุนหรือซองกระสุน ทำให้บรรจุง่ายและเร็ว 2.การถือกำเนิดของปืนกล และอำนาจการยิงปืนใหญ่ดีขึ้นจากเดิมมาก การตั้งแถวแบบเดิมจึงเป็นตกเป้า การจัดกำลัวชุดเล็ก อยู่ภายใต้การกำบังซ่อนพราง จึงมีประสิทธิภาพกว่า 3.การสื่อสารด้วยระบบทางสายและวิทยุ ทำให้สะดวกในการประกอบกำลังเป็นชุดเล็ก สำหรับปืนใหญ่เช่นเดียวกับปืนเล็ก ยุคแรกๆยิงได้ช้า ต้องบรรจุปากลำกล้อง และไม่ค่อยแม่น กระสุนมีหลายแบบครับ ส่วนมากคือเป็นแบบกลมตัน ใช้ยิงทำลายค่ายหรือทำลายรูปขบวนรบ ต่อมาเป็นแบบลูกปรายใช้ยิงแถวทหารราบ ต่อมาเป็นแบบลูกหนามใช้ประกอบกับวัสดุติดไฟใช้ยิงไปปักกับกำแพงค่ายให้เกิดเพลิงไหม้ ส่วนกระสุนระเบิดมีจริงครับ จะต้องจุดชนวนระเบิดก่อนแล้วจึงยิง แต่ไม่แน่ใจว่ายุค ร.1นี่มีใช้หรือยังนะครับ ปืนใหญ่ยุคนั้นมี 2 แบบคือแบบเล็งตรง กับแบบปืนครก ใช้ประโยชน์กันคนละแบบ ชัยชนะจากศึกเก้าทัพนั้นชนะทั้งยุทธวิธีและยุทธศาสตร์ ด้านยุทธศาสตร์คือการข่าวดีมาก รู้ว่าข้าศึกจะมามากตรงไหน จึงทุ่มกำลังไปรับได้ถูกจุด ส่วนอีกสองฝั่งที่เหลือก็ตั้งรับตรึงหน่วงเวลาไว้ให้นานที่สุด และยังรู้อีกว่าข้าศึกขาดเสบียง ดังนั้นจำนวนทหารยิ่งมากยิ่งสร้างปัญหาการขาดเสบียง การชนะทางยุทธวิธีคือจุดที่เอาทัพไปขวางนั้นมีประสิทธิภาพ ทั้งขวางไม่ให้ข้าศึกใช้แม่น้ำเจ้าพระยาในการเดินทัพ หรือการขวางที่ทุ่งลาดหญ้าที่การปิดปากทางออกจากช่องเขา ทำให้ใช้ทหารจำนวนน้อยรับทหารจำนวนมากได้ ลบจุดเด่นของทัพม้าทัพช้าง และลดอำนาจการยิงของปืนใหญ่ปืนเล็กเพราะวางกำลังหน้ากระดานไม่ได้ ที่เหลือก็บีบข้าศึกให้อยู่ในช่องเขา ส่งกำลังได้ลำบาก ค่อยๆตีตัดเสบียง และคิดว่าน่าจะมีการปล่อยข่าวทำลายขวัญด้วย อีกสิ่งที่อยากชื่นชมคือการจัดกองหนุนอย่างเป็นรูปธรรม สิ่งเหล่านี้ล้วนส่งผลต่อชัยชนะ จึงถือว่ากองทัพในยุคนั้นค่อนข้างมีประสบการณ์ความชำนาญ อาจเพราะผ่านศึกมาหลายครั้งก่อนหน้า ส่วนบางเรื่องอาจแต่งเพิ่มเพื่อยอพระเกียรติ อันนี้ผมว่าเป็นเรื่องปกติของการบันทึกในยุคนั้นครับ เราต้องพิจารณาเองว่าเรื่องไหนควรเชื่อหรือไม่ควรเชื่อ
การเอาบริบทสังคมในปัจจุบันไปตัดสินอดีตเพื่อหาความชอบธรรม คับ
ขอแสดงความเห็นเรื่องกระสุนไม้ทำไมพม่าไม่ทำบ้างตอบได้คร่าวๆว่าทำได้ประสิทธิภาพก็ไม่ดีเท่าของเราเพราะชัยภูมิเราได้เปรียบอีกอย่างพม่าตอนนั้นเสบียงขาดแคลนแถมเกิดโรคระบาดในกองทัพไม่มีใจจะทำศึกแล้วอยู่แค่รอคำสั่งถอยทัพเท่านั้น ส่วนกระสุนไม้ถ้าอยากรู้ว่าจริงมั้ยตอบเลยว่าไม่ยากง่ายๆคือการทดลองแต่มองในแง่วิทยาศาตร์แต่ส่วนตัวเชื่อว่าทำได้ไม้สามารถแทนลูกเหล็กได้เพราะการยิงปืนกระสุนเป็นแบบไหนก็แล้วแตๆหลักการไม่ต่างกันคือใช้ดินปืนขับ
อนุมาน
เยี่ยมครับ
ถ้าน้องคนนี้ที่เป็นผู้ตั้งข้อสังเกต เหมือนจะได้ ประวัติศาสตร์ชาตินิยม เอามาเล่นได้อีกหลาย
คุณเอาอคติส่วนตัว มาหากินมากไป
เหน็บเป็นมีดเลย ชอบๆ ใครอยากฟังชัดๆแบบละเอียหรือบางคนหงุดหงิดเพราะพี่แกชอบแวะไปเหน็บเค้า ต้องไปฟังอ.สุเนตรครับ ต้นเรื่องมีการวิเคราะห์ที่สนุกมาก
เพ้อเจ้อ และด้อยค่า ตัวเองเก่งมากครับ
@thai9900
9 ай бұрын
สยามชอบรุกราน
ผมคนไทย ที่มีบรรพบุรุษเป็นชาวล้านนา สมัยก่อนเขาอาจจะไม่รู้สึกอะไรนอกจากโดนตีแตก แต่ปู่ย่าตายายคนเหนือสอนลูกหลานให้ภูมิใจกับความเป็นไทย ที่ดีกว่าผมภูมิใจกับทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเขตราชอาณาจักรไทย ทุกเรื่องล้วนเป็นส่วนประกอบให้เกิดประเทศไทยขึ้นมา แม้บางเหตุการณ์จะคลาดเคลื่อน ก็ต้องขอบคุณอาจารย์ที่ทำให้เห็นแจ้งถึงแง่มุมต่างๆ อีกเรื่องหนึ่งมีนักวิชาการหลายคนชอบบอกว่า"คนไทยแท้"ไม่มี ผมจะบอกว่า 66 ล้านคนปัจจุบันนี่แหละเป็นคนไทยแท้ทำไมจะไม่มี ทุกชนชาติหล่อหลอมมาจากคนหลายๆกลุ่มทั้งนั้นก่อนจะมาตั้งชื่อ
ขออนุญาตแสดงความคิดเห็นแบบตรงๆ ฟังไปนิดเดียวไม่อยากฟังต่อ ด้วยน้ำเสียง content ภาพรวม ทั้งหมด อยากให้ปรับให้เข้าใจง่ายกว่านี้ ทั้งภาพ การเล่า เป็นกำลังใจให้
ค่อนข้างมั่วไปหลายจุด - คนเชียงใหม่ในสงคราม 9 ทัพ จะมาคิดเห็นอะไรได้ยังไง ในเมื่อตอนนั้นมันไม่เหลือเมืองเชียงใหม่แล้ว ในตอนเกิดสงครามเชียงใหม่ยังเป็นเมืองร้างอยู่เลย ศูนย์กลางอำนาจมันอยู่ที่ป่าซาง - จำนวนทหารมันบันทึกจำนวนต่างกันระหว่างไทยกับพม่าก็จริง แต่ทั้ง 2 ฝ่ายบันทึกตรงกันว่าฝ่ายไทยมีน้อยกว่าพม่า ไม่ใช่ฝ่ายไทยขิงว่ามีทหารน้อยกว่าแต่รบชนะอยู่ฝ่ายเดียว พม่าก็บอกว่าฝั่งไทยมีทหารน้อยกว่า - ให้ไปไล่พงศาวดารฉบับหัตถเลขา พูดอารมณ์ว่าระหว่าง ร.1 - ร.4 ระยะเวลามันห่างกันมาก แต่คนพูดคงไม่ฉุกคิดว่า ร.4 เป็นที่เกิดในสมัย ร.1 ตอนเกิดมีตำแหน่งเป็นพระเจ้าหลานเธอ เจ้าฟ้ามงกุฎ แสดงว่าตัวของ ร.4 ทันคนที่ทำสงคราม 9 ทัพ และรับรู้เหตุการณ์ได้ - เรื่องสงคราม 9 ทัพ น้ำหนักใหญ่จะไปดูที่พระราชพงศาวดารฉบับเจ้าพระยาทิพากรฯ แต่คนพูดไปด้อยค่าพงศาวดารฉบับนี้ หาว่าเพิ่งเขียนสมัย ร.5 แต่คนพูดน่าจะไม่ได้อ่านจดหมายเหตุรัชกาลที่ 1 ซึ่งแทบจะเป็นเนื้อเดียวกับฉบับทิพากรวงศ์เลย เพราะคนเขียนฉบับทิพากรวงศ์ คัดใบบอกและจดหมายเหตุในสมัยนั้นมาลง ไม่ใช่การนั่งเทียนเขียนเอง - เรื่องกระสุนไม้ อ.สุเนตรแกไม่ได้บอกว่าไม่เชื่อ แกว่ามันเป็นเรื่องจิตวิทยา และน่าจะเป็นการยิงใส่ค่ายเป็นส่วนใหญ่ ไม่ใช่ยิงใส่คน - อ.สุเนตร แกย้ำเสมอว่า อย่าไปเชื่อพม่ามาก เพราะบางอย่างพม่าก็ขี้โม้ อย่างเรื่องกองทัพหน้าตีทัพเจ้าพระยามหาโยธาแตก พม่าก็บันทึกว่า “ในคราวนั้นไทยทนฝีมือไม่ได้ก็แตกไป” แต่ อ.สุเนตรว่า พม่าขี้โม้
@PK_ToN
9 ай бұрын
+1
@salinkuntanarumitkul4131
9 ай бұрын
จริงครับ เห็นด้วยอย่างยิ่ง
@salinkuntanarumitkul4131
9 ай бұрын
1.กระสุนไม้นี่ ดูเหมือนจะเขียนไว้ในพงศาวดารฉบับพันจันทนุมาศ ว่าพระเจ้าตากสินท่านเป็นคนเริ่มใช้ ระบุชัดเจนคราวศึกบางแก้ว 2.คลิปนี้ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก กับแนวคิดของอาจารย์สุเนตร ชุตินทรานนท์ จนดูเหมือนถูกครอบงำไป ความจริงแล้วศึกษาดีๆ ข้อเขียนของท่านเองก็มีจุดโหว่ในหลายตอน อย่างไรก็ตาม ผมยกย่องอาจารย์สุเนตรที่ท่านเป็นผู้เปิดแนวคิดใหม่ๆ ของประวัติศาสตร์สงครามไทย-พม่าอย่างมาก 3. เรื่องปัตตานีไม่สวามิภักดิ์กับกรุงเทพฯ ความจริงอาจมีสาเหตุลึกๆ ที่คนสมัยนี้มองข้าม ปัตตานีเข้ามาสวามิภักดิ์กับพระเจ้าตากสิน ขณะทรงนำทัพไปปราบชุมนุมเจ้าพระฝาง เข้าใจว่าหลังจากนั้นมีการถวายราชธิดาของสุลต่าน ซึ่งทรงโปรดให้เสกสมรสกับเจ้าฟ้ากรมขุนอินทรพิทักษ์ มีพระโอรสธิดาสืบสายสกุลมา เป็นไปได้ว่าเมื่อผลัดแผ่นดิน กรมขุนอินทรพิทัพษ์ถูกสำเร็จโทษไป ทางปีตตานีคงตั้งแข็งเมืองตั้งแต่นั้นมา 4. กำลังทีพสูงสุดที่พระเจ้าตากสินใช้ในการรบ ปรากฎในพงศาวดารฉบับพันจันทนุมาศครั้งไปตีเชียงใหม่ เกณฑ์พลจากภาคกลางไป 15,000คน บวกกับหัวเมืองเหนือ 22,000 คน ชุมนุมพลที่เมืองตาก พงศาวดารพม่าระบุตรงกันว่าทีพพระเจ้าตากเข้าตีเชียงใหม่ด้วยพล 40,000 คน นี่คือกำลังสูงสุดที่ไทยมีในเวลานั้นครับ
@user-fl9bj2vh5k
9 ай бұрын
ประวัติศาสตร์คือสิ่งที่ทำให้คนรักชาติ
@user-gt8qf5kd2t
9 ай бұрын
เชียงใหม่จะรับศึกไม่ผมว่าไม่เลยเพราะ เมืองของพม่าตลอดมา ไม่ใช่สยาม ผลกระทบไม่มีอยู่แล้ว ส่วนสยามเดิมเต็มตีน555
ขอบคุณที่ชี้แนะเรื่องปืนใหญ่ครับ ได้ความรู้เลย ผมงงมานานแล้วว่าสมัยนั้นยิงลูกปืนใหญ่ให้ระเยิดได้ไง เริ่มกระจ่างแล้วครับ ว่ามันไม่ใช่ระเบิด
@integratus
9 ай бұрын
อย่าพึ่งเชื่อครับ 1. ปืนใหญ่ที่ใช้คือปืนใหญ่หลังช้าง มันมีขนาดเล็กยิงจากหลังช้างได้ มันจึงเคลื่อนที่เร็วและระดมยิงได้ ยิงถล่มค่ายชั่วคราวโดนจังๆ ก็มีบาดเจ็บแขนขาหัก ซี่โครงหักกันแหละครับ ปืนพวกนี้ ตอนเสียกรุงก็เอาไปทิ้งในหนองคลองบึง แล้วไปงมกลับมาได้ ลองมีราวๆ 30กระบอก ช้าง 30 เชือก ตั้งเป็น 3 แถวๆ ละ 10 กระบอก ชุดแรกยิง ชุดต่อมาคุ้มกัน ชุดต่อไปบรรจุกระสุน หมายถึงยิ่งค่ายคูที่กำลังสร้างก็แค่ไม้ไผ่เนินดิน แล้วย้ายจุดยิงก็ง่าย ไม่เป็นอันตั้งค่ายกันละครับ 2. ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ กรมพระราชวังบวรมหาสุรสีหนาท เดินทัพได้เร็ว เร็วจนทัพขุนนางวังหลวงที่ ร.1 ส่งมาช่วยตามไม่ทัน พญาเสือสั่งประหารแม่ทัพขุนนางผู้ใหญ่วังหลวงไปหลายคนเลย คาดโทษอีก นี่เป็นความขัดแย้งแรกๆ ของ พี่น้องคู่นี้ เกร็ด ปืนยาวสมัยก่อนความแม่นยำต่ำจึงทำลำกล้องยาวๆเข้าไว้ และเข้าแถวเรียงหน้ากระดานเพิ่มอำนาจการยิง ต่อมาราวๆ ร. 3 ฝรั่งค้นพบว่าการควานเกลียวในลำกล้องส่งผลให้ลูกปืนที่วิ่งออกจากปากกระบอกปืนเกิดการหมุน จึงแม่นยำมากขึ้นจนถึงทุกวันนี้ ลูกปืนกระทบแตก นโปเลียนให้วิจัยพัฒนาขึ้นมา แรกๆ เอาลูกกระสุนมัดรวมๆกันยิงไปตกกระแทกพื้นก็แตกระเบิด แต่ดันมีปัญหาหน้าฝนดินอ่อน
ขอบคุณที่นำเสนอความรู้ในอีกแง่มุม ผมชอบการสื่อสารของคุณมาก มันเป็นกลางแบบไม่เอ็นเอียง เหมาะแก่การศึกษาครับ.
@Altis-zz9el
7 ай бұрын
ฟังยังไงไม่เอียง
@user-dr3pi6cx7z
7 ай бұрын
@@Altis-zz9el 555เอียงชนิดที่เรียกว่า ขำขัน เช่น อย่าไปเกลียดเพื่อนบ้านนะ เดี่ยวจะไม่มีมาเสริฟในร้านอาหารให้เรา คนเราเมื่อเหยียดชนชาติตนเอง ก้อย่อมมีรู้ว่า คำพูดที่เหมือนว่าตนเอง เข้าใจผู้อื่นนั้น แท้จริงก้อเหยียดเขา คนมันเคยชิน สมัยนี้หลายคนเขาก้อเข้าถึงข้อมูลแล้วศึกษาวิเคราะห์เช่นกัน มีการมองย้อนกลับไปและให้ความเป็นกลาง มองอย่างยุติธรรมมากขึ้น
การบอกว่า 'สมัยก่อนไม่มีคำว่า ชาติ' มันก็เป็นแค่ความเชื่อหรือทฤษฎีหนึ่ง ซึ่งคนสมัยก่อนอาจจะมองคำว่า 'ชาติ' ตามแนวคิดของเทวราชา ที่ปกครองเค้า ซึ่งขอบเขตหรือเส้นแบ่งดินแดน มันอาจจะไม่ชัดเท่ากับปัจจุบัน แต่แนวคิดก็ไม่น่าจะแตกต่างกัน ...ตามหลักวิชาการเมื่อพูดถึงเอกสารอ้างอิง ผู้บรรยายควรระบุเอกสารอ้างอิง และผู้เสนอให้ชัดเจน
ฝรั่งยืนเรียงกระดานใช้ปืนยาวยิงกันใน สมัยก่อน เพราะเทคโนโลยีปืนสมัยนั้นใช้กระสุนเม็ดกลม ยิงออกมาวิถีมันเบี่ยงออกไม่ตรงกับเป้าหมาย การโจมตีที่ได้ผลก็ต้องตั้งแถวยิงเป็นชุดพร้อมกัน โดยใช้นายทหารกำกับแถวคอยบอกให้เล็งไปทิศที่ต้องการ
ถ้าอยากให้นึกภาพสังคมเมืองยุคก่อน ให้นึกถึงหนังgame of thrones จะมีผู้ปกครองเมืองเป็นตระกูลนั้นนี้ ตระกูลเล็กหรือเมืองเล็ก ก็ย่อมเลือกเป็นผู้ชูธงให้ตระกูลใหญ่ คนเมืองนั้นๆก็ย่อมมีสำนึกเป็นพวกตนอยู่แค่ถิ่นนั้นๆ ไม่ได้มีความรักในชาติใหญ่เท่าประเทศชาติเหมือนในปัจจุบัน เมื่อตระกูลที่มีอำนาจขอให้ช่วยทำศึกก็ต้องไป
เวียนหัวไหมคับ เห็นหัวส่ายตลอดเวลา บุคคลิเเย่มากคับ
รด. พอให้ฝึกแบบจริงๆจังๆ ก็เอาไปบ่นได้อีก พอให้ฝึกพอเป็นพิธี ก็บ่นได้อีก ปืน ปลย88 ปืน ปลย11 ที่ปลดประจำการ ให้เอามาถือ ก็ยังบ่นว่าหนักกันเลย เฮ้อ..
สำหรับผม ถ้าไม่รู้จริง 100% ผมว่า ไม่ควรเอา ความเห็นส่วนตัวมาตัดสิน และทำเผยแพร่ครับ
ท่านพูดแปลกๆ เหมือนให้เข้าใจผิดหลายเรื่อง ใส่ความคิดตัวเองเกินไป
ได้เรียน รด.3 ปี ภูมิใจในเครื่องแบบทหารได้ฝึกระเบียบแถวความอดทนได้ยิงปืนเอชเค 33 กระสุนจริงฝึกราดตระเวณ ครูฝึกท่านทำเอฟเฟ็กระเบิด เป็นจุดๆทำเอาหูอื้อ ภูมิใจบรรพบุรุษที่ให้เรามีวันนี้เป็นคนไทยที่มีสิทธิในการเป็นพลเมืองที่ไม่ต้องเข้าร่วมกอบกู้เอกราชเช่นประเทศเพื่อนบ้านที่รบกันมาแต่อดีตอันหาข้อยุติไม่ได้ไม่ต้องการให้ผู้ใดเสี้ยมให้คนไทยแตกแยกกัน ต้องเปลี่ยนการสื่อภาษาคำว่ายึดเมืองเชียงใหม่ คำว่ายึดอันหมายถึงรวบด้วยอำนาจที่เหนือกว่า การขืนใจการใช้กำลังทางทหารทำสงคราม แต่สยามรวบรวมลานนาด้วยประนีประนอมกลุ่มลานนาก็เข้าร่วมกับสยามด้วยความเต็มใจอยู่ร่วมแผ่นดินด้วยความผาสุขร่มเย็นแต่ละภาคก็มีวัฒนธรรมภาษาประเพณีขนบธรรมเนียมที่ไม่เป็นอุปสรรคในการอยู่ร่วมกันของคนในชาตินอกเสียจากการยุแยกของผู้ไม่หวังดีบางท้องที่ซึ่งมีจำนวนน้อยมากและไม่เป็นที่ยอมรับของคนส่วนใหญ่ไม่ว่าจะเป็นยุคใดๆในชาติบ้านเมืองที่สูญสิ้นอาณาจักรล้วนมาจากความขัดแย้งเสี้ยมให้เกิดการแตกแยกความสามัคคีการให้ร้ายให้ความเท็จตกเป็นเครื่องมือของผู้ไม่หวังดีที่มีผลประโยชน์เป็นเป้าหมาย
@nattawatkacha6449
4 ай бұрын
เช่นกันเรียน รด.ใช้ปืนเอชเค33มีเอฟเฟคระเบิดภูมิใจที่เรียน รด. ภูมิใจในสงครามทุกสงคราม มีจิตสำนึกในพระคุณบรรพชนกษัตริย์ไพล่พล ผมเป็นคนตะเข็บชายแดนภาคเหนือ และเชื่อมีคนทั่วประเทศภูมิใจในความเป็นไทย การใช้คำว่า ล้นเกล้ารัชกาลที่5 ยึดภาคเหนือ ยึดภาคนั้นภาคนี้ มิบังควร หากไม่มี ล้นเกล้า ร.5 เชียงใหม่เป็นชนชั้นสองของพม่า ภาคเหนือจะด้อยพัฒนา
เนื้อหาโอเค แต่รบกวนลดอคติ เรื่อง รด. ลงหน่อยจะดีกว่านะครับ อย่างเรื่องทำบุญช่วยเมืองเก่า ก็แค่บอกทำบุญก็ได้ครับ ไม่ต้องถึงขนาดบอกว่าโดนครูฝึกหลอก หรอกครับ
ด้อยค่า แขวะ ดูถูก ได้เนียนมากเลยคับ สุดยอด
เขาชนไก่ รุ่นผมเข้าไปปี 57-58(คสช.พอดี) โคตรคุ้ม ได้ยิงปืนกระสุนจริง เดินป่า ฝึกยุทธวิธี(ยิงปืนเพ้นท์บอล) ตั้งค่าย สนุกมากครับเหมือนมาทำกิจกรรม ไม่ได้มาฝึก
ที่แน่ๆ ถ้าเราแพ้ เราน่าจะสิ้นชาติไทยไปแล้ว
ผมว่ารวบรวมข้อมูลมาดีกว่านี้หน่อยนะครับทั้งจำนวนคน ก็เหมือนเดาเดาจำนวนคนเอาทั้งเรื่องเก้าเส้นทาง จริงๆแล้วบางทัพ มาในเส้นทางเดียวกันครับเค้าเลยเรียกว่าสงครามเก้าทัพไม่ใช่สงครามเก้าเส้นทางนะครับ
@PK_ToN
9 ай бұрын
เห็นด้วยครับ +1
@user-zt6pc4ly8k
7 ай бұрын
ใช่ ไม่ใช่สงคราม9เส้นทางซะหน่อย
ทำไมถึงพูดว่า คนฝึก รด. ต้องเป็นลูกหลานคนอันจะกินที่ต้องการเลี่ยงทหารทั้งหมดครับ เพื่อน รด. ผมหลายคนจบแล้วไปต่อทางสายทหาร ไม่เห็นมันจะเลี่ยงเลยครับ มีอคติส่วนตัว หรือว่ามีปมฝังใจหรือครับ
หลังเสียกรุงศรีครั้งที่2 ไม่กี่ปี สงคราม9ทัพก็เกิดขึ้น ด้วยความเก่งกล้า ไทยกู้เอกราชกลับคืนมาได้จนถึงทุกวันนี้..
@thai9900
9 ай бұрын
แถมไปรุกรานชาวบ้านอีกอไปเผาทำลายบ้านเมืองชาวบ้าน
เอาเนื้อหา หน่อยครับ กว่าจะเข้าเรื่องได้แต่ะเรื่อง..
ผมขอแนะนำเรื่องเดียวครับ ตอนคุยไม่ต้องสั่นหัวได้มั้ยครับ
คุณจะพูดเรื่องการเมืองทำมั่ยครับ
@titiphumesayasonthi3372
9 ай бұрын
นี่คือปัญหาของ ประวัติศาสตร์สมัยใหม่ ที่ชอบเอาเรื่องราวในอดีต มาตัดสิน โดยใช้กรอบแนวคิดของคนยุคปัจจุบัน
ขอบคุณครับ อาจารย์ ที่เปิด ประวัติศาสตร์นอกขนบ ที่ไม่ใช่ชาตินิยมให้ทุกคนได้รับรู้
@chaserbundit43
9 ай бұрын
ประเทศอื่นสอนให้ชาตินิยม ส่วนไอ้อาจารย์ไทยทั้งหลายสอนให้เลิกชาตินิยม มันตลกมั้ย
เรื่องในอดีตมานมนานยากที่จะรู้รายละเอียดเพราะเราไม่ได้มีชีวิตอยู่ในขณะนั้น คนมี่เป็นผู้นำในขณะนั้นสำคัญที่สุดที่ฝ่าอึปสรรคความเป็นความตายของชาติไทยหรือคนไทยมาได้ควรจะให้ความยกย่องไม่ควรจะด้อยค่าว่ากล่าว ถ้าเป็นตัวเราอยู่ในขณะนั้นจะทำได้เช่นเขาทำหรือไม่เราอาจได้ยินเสียงมะพร้าวตกก็นึกว่าฟ้าผ่าวิ่งเปิดแนบไปเลยครับปนะวัติซาสตร์นอกตำรามันดูแปลกๆดี แตของจริงผู้นำเราฝ่าวิกฤตมาได้แพ้เป็นเชลยเป็นทาสครับทรัพย์สินก็ไม่มีแผ่นดินก็ไม่มีครับ
ประวัติศาสตร์บันทึกก็ส่วนหนึ่ง แต่มีแผ่นดินในได้อาศัยก็เพราะเหตุที่บรรพบุรุษสละเลือดเนื้อและชีวิตไว้รักษาครอบครัวกับคนที่รักจนสามารถดำรงอยู่ได้มาถึงทุกวันนี้ครับ ดังนั้นถ้าขาดผู้นำ (พระมหากษัตริย์) ขาดความรักสามัคคีของคน ที่มีเป้าหมายเดียวกันคือต้องการความเป็นไท คงไม่เป็นไทอย่างไทยทุกวันนี้ครับ
สงคราม9ทัพ พม่าอ้างว่าขาดเสบียง แต่ศึกท่าดินแดงเตรียมเสบียงมาอย่างดี พม่าก็ยังแพ้
ติดตามเสมอครับ😊
ผมมารอตอนสองครับ😮
งง กับ กระสุนไม้มากเลย เอาไอเดียนี้มาจากไหนกันครับ
สนุกครับ ได้รู้อะไรหลายๆประเด็นที่ไม่เคยมีการบอกเล่าในตำราเรียน
ผมว่าการปิดตรอกตีพม่าก็ยังเป็นความจริงนะครับ แม้ว่า ความจริงจะมีสาเหตุเรื่องพม่าขาดเสบียงด้วย แต่ก็ไม่ทำให้เรื่องปิดตรอกตีพม่าไม่เป็นความจริง
@titiphumesayasonthi3372
9 ай бұрын
กระสุนไม้ของพม่าสามารถทำได้ แต่จะต้องเหลาไม้ให้แหลมเหมือนกับแท่งดินสอ พม่าสามารถทำได้ แต่พม่าไม่ได้ขาดแคลนกระสุน แต่ฝ่ายไทยขาดแคลนกระสุน จึงต้องใช้ไม้ทำกระสุนไปก่อน ก่อนที่รัชกาลที่ 1 จะนำกระสุนมาให้
เอาท่านนี้ไปช่วยในสงครามฝรั่งเลยรับรองชนะแน่นอนเพราะโม้เหลือเกิน
พวกคลั่งชาติมาเม้นเต็มไปหมด หลายคนตอนนั้น อากงของอากงยังอยู่เมืองจีนอยู่เลย
1.บรรพบุรุษไทยได้รักษาบ้านเมืองให้พวกเราได้อยู่บนแผ่นดินผืนนี้อย่างปกติสุขมีศักดิ์ศรีไม่เคยเป็นเมืองขึ้นของใคร 2.ประวัติศาสตร์คือเรื่องที่รวบรวมจากหลักฐานแหล่งต่างๆที่ได้รับการกลั่นกรองมาแล้วระดับหนึ่งจึงควรศึกษาเรียนรู้ เราเองเกิดมาห่างจากเหตุการณ์ในอดีตการจะแน่ใจในความจริง(ที่เกิดไม่ทัน)ถ้าสมควรพูดควรพูดถ้ายังไม่มีหลักฐานหักล้างชัดเจนควรนิ่งไว้ก่อน"การอวดรู้"บางครั้งจะแสดงความโง่ของตนเองมากกว่าอย่างอื่น
อยุธยา ต้องผ่าน กรุงธนบุรี ก่อนถึง รัตณโกสินร์
ตอนนั้นค่่นเกิดเเล้วเหรอคับ
ขอบคุณที่เสนอข้อมูลครัยดีกว่าตาสุจิต ชังชาติ
👍👍👍👍👍
จะเถียงกันทำไมว่าอะไรจริงอะไรมั่ว ชื่อรายการก็บอกอยู่ ขนาดไทยกับพม่ายังเขียนไว้ไม่เหมือนกันเลย ก็ฟังไว้เป็นอิกหนึ่งความเป็นไปได้ แค่นั้น
อยากให้เราเรื่องอโยธยาบ้างครับ กำลังมาแรง
เส้นทาง กับกองทัพมันคนละเรื่องกันนะ 1 เส้น อาจมาเป็นร้อยกองทัพก็ได้
คุณต้องเขาใจยุทธศาสตร์ก่อน สมัยอยุธยา ภูมิศาสตร์เหมาะสมกับการใช้ตัวเมืองตั้งรับ เมื่อเกิดสงครามก็กวาดต้อนคนเข้าเมืองใครไม่เข้าก็เข้าป่า หรือไปตั้งหมู่บ้านตัวเอง แต่ กทมไม่ใช่ จึงต้องใช้วิธีไปตั้งรับนอกพระนคร ฉนั้นสนามรบจะไปอยู่หัวเมืองต่างๆ มันก็ไม่แปลกที่ เชียงใหม่จะเละ และทางใต้ก็ต้องเอาให้อยู่เพื่อปิดประตูหลัง ไม่งั้นจะเหมือนคีมเหนือใต้ ตรงกลางเป็นหอก และทุกวันนี้ถ้าเกิดขึ้นอีกก็ใช้วิธีประมาณนี้เหมือนกัน
@chaserbundit43
9 ай бұрын
อาจารนี่บอกว่าเชียงใหม่เละ จะเอาอะไรมาเละ เพราะว่าตั้งแต่สมัยพระเจ้าตากก็ให้ทิ้งเมืองเชียงใหม่กลายเป็นเมืองล้างไปแล้ว แล้วเทคนมาอยู่ลำปาง เจ้ากาวิละกว่าจะฟื้นเมืองก็สมัยหลังสงครามเก้าทัพแล้ว แล้วจะเอาไรมาเละ อาจารย์มันย้อนแย้งสิ้นดี
@pongtarattantiapigul2813
9 ай бұрын
@@chaserbundit43 ใช่ครับเห็นด้วย
คนโบฯ นี่เก่งนะ..... ถ้าเหลือเราตอนนี้หมาละ
🎉ผมให้น้ำหนักว่าเราอย่กรุงเทพฯถ้ามันไปอยุธยาก่อนเราคงยิงมันไม่ใด้ละ
ต้องการอะไร
ขนาดคนรุ่นก่อนสร้างความชาตินิยมไว้ขนาดนั้น สมัยนี้ยังทะเลาะกันจนแตกกระจุย ต่อไปประเทศหาความสุขไม่เจออีกแล้ว
เรื่องนี้ ไม่คิดว่าจะละเอียดอ่อนได้ถึงขนาดนี้
เป็นคนที่บอกว่าสมัยยังไม่มีประเทศไทย ประเทศพม่า ประเทศลาว ประเทศกัมพูชา มันเป็นสงครามยุคโบราณ ยังไม่มีรัฐชาติ ยังไม่คนเขตแดน ไม่มีความเป็นไทย ในขณะเดียวกัน คนๆ เดียวกันนี้ ก็ไปบอกว่าประเทศไทยหรือผู้นำไทยในยุคไปปัจจุบันไปขอโทษคนลาวและประเทศลาว เกี่ยวกับกรณีเจ้าอนุวงศ์ มันย้อนแย้งดีเหมือนกัน ตกลงมันมีประเทศไทยตอนไหนกันแน่
@user-wu3nz9tr5i
9 ай бұрын
คือเทคนิค การด้อยค่า ตัวเองครับ ทำให้ ไม่เกิดความภาคภูมิใจในประวัติศาสตร์ของตัวเอง คือฉลาดแต่ขาดเฉลียว มีหัวไว้กั้นหูเท่านั้นเองครับ คือ เก่งในวิชาที่ตัวเองมโนแทบทั้งสิ้น
@user-tw1zy3zi5b
8 ай бұрын
5555555555555+
ผมเรียน นศท ได้เข้าค่ายที่สระบุรีตอนปี 3 ครับ ได้ยิงปืนกลหนัก M50 จำนวน 5 นัด และ M16 จำนวน 10 นัดครับ ส่วนปี 1 และ 2 ได้ยิงปืน ปลย กระสุน .22 จำนวน 10 นัดทุกปีครับ
ปาตานีไม่มีครับ
@deedydettt
9 ай бұрын
ไม่รู้จักรัฐปาตานีเหรอครับ
@pongtarattantiapigul2813
9 ай бұрын
@@deedydettt มีแต่ปัตตานีครับ ปาตานี มาพูดกันสมัยหลัง
@titiphumesayasonthi3372
9 ай бұрын
ตามการออกเสียงของภาษายาวี จะมีการอ่าน ที่มีสระเสียงสั้นและยาวคล้ายๆกับภาษาไทย แต่ที่เขาเอามาออกเสียงแบบนี้ เพราะ อ่านแบบภาษาอังกฤษ คือ Patani ตัว ออกเสียงได้ทั้งสระอะและสระอา แต่ความจริงแล้ว คำๆนี้มีการกำหนดให้ตัว a ตัวแรก ออกเสียงสั้นเป็นสระอะ จึงต้องออกเสียงว่า ปตานี ไม่ใช่ ปาตานี แบบที่พวกแบ่งแยกดินแดนเขาเรียกกัน
@pongtarattantiapigul2813
9 ай бұрын
@@titiphumesayasonthi3372 ใช่ครับ
@hamdeehamad5149
9 ай бұрын
ปัตตานี เป็นคำที่ไทยแปลงขึ้นมาพายหลังซึ่งเดิมภาษามลายูคือ ปันตัยอีนี (หาดแห่งนี้) แต่คนพื้นถิ่นเรียกติดปากว่า ปตานี หรือ ตานิง (ในบันทึกฮอลันดายังมี) ปฏิเสธไม่ได้เลยครับคน ยะลา (ยาลอ) ปัตตานี (ปตานี) นราธิวาส (มือนารอ) ส่วนใหญ่คือคนมลายูและใช้ภาษามลายูมาตั้งแต่บรรพบุรุษครับ
สำหรับคนชังชาติ อะไรก็ตามที่ชมใครอันนั้นเท็จหมด
@user-el4lt2sv6c
9 ай бұрын
ศึกษากันตามหลักฐานครับ
@peerapatcharoenwong5124
9 ай бұрын
อะไรเป็นไงก็ต้องศึกษาตามหลักฐาน อะไรที่มันอวยเกินโปรเกินก็ต้องพูดกันตรงๆ ใครเก่งก็ต้องชมใครแอบอ้างว่าเก่งก็ต้องโดนด่าไปครับ
@jakapong
9 ай бұрын
อันนี้ก็มโนเยอะนะครับ แต่ไปแขวะคนอื่น
อย่าไปคิดถึงขนาดนั้นเลยครับทุกคนเรียนได้
เข้าใจเลย ผมไป เขาชนไก่ปี 46 ครับ
เขาก็บอกว่าสงคราม 9 ทัพ ไม่ใช่สงคราม 9 ทางนี่ครับ แอดเข้าใจอะไรผิดป่าว มา 100 ทัพ แต่เดินทางมาแค่ 2 ทางก็ได้ งงอะไร?
ที่่เขาชนไก่ไม่มีห้องประชุมที่ต้อนนักเรียนไปฟังบรรยายนะครับนะครับ ค่อนข้างไม่ตรงนะ
พี่เล่าตอนสงครามพระราม9 หน่อยครับ
อยากฟังเรื่องประวัติศาสตร์ดินแดนคานาอัน ดินแดนพันธสัญญา อิสราเอล ปาเลสไตน์หน่อยครับ
ไม่เห็นด้วยหลายเรื่อง ของดติดตาม
เรื่องใช้กระสุนปืนใหญ่เป็นท่อนไม้ เหมือนตอนที่ไปเขาชนไก่ครูฝึกเขาเล่าให้ฟังว่าเพราะว่าช่วงนั้นไม่มีเงินซื้อกระสุนปืนใหญ่คร้บเลยใช้ท่อนไม้เป็นกระสุนปืนใหญ่แทน ตามอัตภาพครับ
ขอถามว่าทำไหม สยามไม่ไปตีพม่าบ้างครับ ไปตีลาว ญวน
@23Highwayman
9 ай бұрын
เคยฟังที่ไหนสักที่เขาบอกว่าชัยภูมิที่จะเข้าไปโจมตียากกว่าฝั่งเขมร ลาว ญวณ
@yuseifudo3253
9 ай бұрын
ขอตอบเพราะแข็งแกร่งไม่พอในช่วงนั้นพึ่งก่อตั้งเมืองอยู่เลย
@biologyevolution6919
9 ай бұрын
สยามเคยไปตีลาวครับ2-3รอบเลย ไปตีญวนด้วยแต่ไม่รอดแพ้ทัพเรือเขา
@AE-by6jz
9 ай бұрын
เคยไปตีญวน2ครั้ง(สมัยองค์เชียงฉือ) แต่แพ้ราบคาบ เลยไม่มีบันทึกในประวัติศาสตครับ.
@samsam15550000000000
9 ай бұрын
รายนั้นจีนยังเอาไม่ลงเลยครับ รบเก่งเกิน แต่มาเสียท่าให้อังกฤษ -.-
เวียนหัว สั่นหัวอยู่นั่น
ยุทธศาสตร์ดักตีในช่องแคบจะทำได้ การข่าวของสยามต้องดีมาก มีสายลับในอังวะ คิดว่าไม่น่าจะเป็นไปได้
คำถามครับ เห็นพม่าชอบ เดินทางมาทาง ด่านเจดีสามองค์ แสดงว่า เส้นทางนี้ มีถนนมาตั้งแต่ อดีตแล้วใช้ไหม ครับ
@widdhayayooyenpensook8814
9 ай бұрын
เป็นเส้นทางการค้าขายเก่าแก่มาแต่โบราณกาล แต่ไม่ได้มีถนนหนทางแต่อย่างใด เป็นเส้นทางธรรมชาติที่พอจะเดินทางด้วยพาหนะพวกช้าง ม้า เกวียน ได้สะดวกที่สุดก็เท่านั้น (สะดวกในความลำบาก)
หมอนี่อีกแล้วหรอ 55555
@user-zs5pg6qi6w
9 ай бұрын
มันคนไทยป่าวครับ
ผมว่าไปศึกษาประวัติศาสตร์การรบหลายๆชาติเพิ่มเติมเปรียบเทียบเอาก็ได้นะ (ดูจากทำไมพลปืนยุโรปต้องเรียงแถวยิงยังไม่รู้) ปกติสมัยก่อนเค้าไม่งอมืองอเท้ารอเสบียงจากแนวหลังอย่างเดียวหรอกครับ กองทัพที่ยกไปจะต้องมีหน่วยหาเสบียงเพิ่มเติม (Foraging) ซึ่งหลายครั้งในยุโรปยุคโบราณที่กองทัพยังมีขนาดไม่ใหญ่เกินไป การ forage แทบจะเป็นวิธีหาอาหารหลักเลย บางทีเป็นเดือนกว่าจะมีกองเรือจากเมืองหลวงมาส่งเสบียงให้ แต่ส่งทีอยู่ได้นานก็ทำการขนไปพร้อมกับกองทัพ นอกจากนี้ยังมีเรื่องการปล้มสดมภ์ชาวบ้านและเรือกสวนไร่นาตามทาง (ในทางกลับกันพื้นที่ที่ประชากรอยู่เบาบางจะเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า/ไม้ผล/ของป่า เพราะไม่มีมนุษย์มารบกวน) หรืออาจเจรจาขอ/ขู่จากชุมชนต่างๆ พูดง่ายๆ [เสบียงรวม = เสบียง supply line + foraging + วิธีอื่นๆ] ดังนั้นการที่ยันไม่ให้พม่าไปถึงที่ราบภาคกลางอันอุดมสมบูรณ์ได้จะตัดโอกาสการ forage มหาศาล พม่าจะอ้อมไปก็ไม่ได้เพราะค่ายคนไทยที่ตั้งอยู่จะเป็นศูนย์กลางการก่อกวนทั้ง supply line และการ forage การยันทัพตรงนั้นจึงไม่ได้เน้นตีเอาชนะแต่เพื่อถ่วงเวลาร่วมกับการป่วนเสบียงแนวหลัง ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องใหม่อะไร มันเป็นกลยุทธ์ที่ใช้กันปกติโดยคาดหวังอยู่แล้วว่านานไปจะเกิดปัญหาในแนวหลังของอีกฝ่าย (ใช้ทั้งกรีก โรมัน อาหรับ จีน ฯลฯ นับไม่ถ้วน ลองหาเพิ่มเติมเรื่อง Fabian strategy) ในเมื่อสุดท้ายทุกคนเห็นตรงกันว่าพม่าถอยเพราะขาดเสบียง แต่ผู้เล่าดันไป reject มูลเหตุหนึ่ง(ซึ่งอาจเป็นมูลเหตุหลัก)แห่งการขาดเสบียงคือการปิดตรอก อันนี้ฟังแล้วงงมาก ทำเอานึกถึงสมัยก่อน ผมเริ่มอ่านสามก๊กฉบับหลักก็มองเล่าปี่เป็นตัวดี ต่อมาได้ไปอ่านของเล่าชวนหัวเจอข้อมูลที่ต่างจากแนวคิดปกติราวฟ้ากับเหว ก็เกิดการมองแบบสวิงกลับสุดโต่งเห็นเล่าปีเป็นโคตรเลวทันที (ยุคนี้เรียก woke culture - วัฒนธรรมเบิกเนตร เจอเรื่องแหกขนบความเชื่อดั้งเดิมนิดหน่อยก็หลงคิดว่าตาสว่างแล้ว) เวลาผ่านไปศึกษามากเข้าโดยอ่านจากหลายๆแหล่งข้อมูลจึงมองทุกอย่างได้เป็นกลางมากขึ้น ว่าของแบบนี้ไม่มีพระเอกผู้ร้าย ทุกๆคนก็ต่างมีเหตุให้ทำสิ่งต่างๆในมุมมองของตนตามบริบทในเวลานั้น กว่าจะถึงในจุดที่บอกว่า"อย่าเอาความคิดคนปัจจุบันไปตัดสินสิ่งต่างๆในอดีต"ได้ก็ใช้เวลานานมาก คำพวกนี้พูดง่ายแต่ทำยาก เพราะมนุษย์เรามักมีอคติแห่งปัจจุบันติดตัวอยู่ด้วยเสมอ
ฝั่งไทย ประวัติศาสตร์ฝั่งไทย คุณมักจะด้อยค่า จะฟังพม่าคุณจะเชื่อเขาหมด
นิ่งๆสักนิด สั่นหัวให้น้อยลงหน่อย ดูแล้วปวดหัว
ฟังเพลินเอาสนุก ใส่ไข่ใส่สีสันจนเขารู้ว่าเพ้อเจ้อ