ใครจะเชื่อว่า Rolex แบรนด์นาฬิกาสุดหรูที่โด่งดังระดับโลกและเต็มไปด้วยความลับมากมายนั้น ถูกสร้างขึ้นโดยเด็กกำพร้าซึ่งไม่มีทั้งเงินและเส้นสาย วันนี้เรามาเจาะลึกเบื้องหลังอันน่าทึ่งของ Rolex ไปด้วยกันครับ
0:00 Rolex เจาะลึกธุรกิจลับระดับโลก
0:12 Rolex แพงแค่ไหน
1:30 จุดเริ่มต้น Rolex
2:47 ยุคแรก Rolex
4:48 จุดเปลี่ยน Rolex
6:53 ยุคทอง Rolex
8:16 ยุคปัจจุบัน Rolex
10:26 ความลึกลับ Rolex
Rolex แพงแค่ไหน
แม้ทุกวันนี้โลกดิจิตอลจะมีความก้าวหน้าอย่างมาก โดยคุณสามารถจะดูเวลาได้แบบฟรีๆ บนมือถือซึ่งพกติดตัวอยู่ตลอดเวลา
แล้วคุณเคยสงสัยเหมือนผมมั๊ยครับว่า
ทำไม Rolex ซึ่งเป็นนาฬิกาบอกเวลาที่ใช้กลไกแบบอนาล็อค ยังคงมีราคาแสนแพง แต่คนก็ยังแย่งกันซื้อ?
Rolex มีราคาถูกสุดเท่าไหร่?
ขนาด Rolex ที่มีราคาถูกที่สุดคือรุ่น Oyster Perpetual 26 Steel 176200 ยังมีราคาเรือนละ 159,000 บาท (Bob’s Watches)
Rolex มีราคาแพงสุดเท่าไหร่?
ในขณะที่ Rolex ที่ราคาแพงที่สุดคือรุ่น Daytona 6239 ของ Paul Newman ดาราฮอลลีวูดผู้ล่วงลับไปแล้ว ได้ถูกประมูลด้วยราคาสูงถึง 531,000,000 บาท
จุดเริ่มต้น Rolex
Rolex มีจุดเริ่มต้นจาก Hans Wilsdorf ซึ่งเกิดที่เยอรมัน ในปี 1881 โดยเค้าเป็นลูกคนกลางในบรรดาพี่น้อง 3 คน ซึ่งเสียคุณแม่ไปตั้งแต่เค้ายังเล็ก แล้วถูกโชคชะตาซ้ำเติมเข้าไปอีกเมื่อต้องเสียคุณพ่อ กลายเป็นเด็กกำพร้าในขณะที่อายุได้เพียง 12 ปี
ยุคแรก Rolex
ปี 1905 ในขณะที่อายุเพียง 24 ปี Hans ได้ตัดสินใจเริ่มต้นธุรกิจนาฬิกาของตัวเอง ในชื่อ Wilsdorf & Davis ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ด้วยเงินเก็บที่มีและร่วมหุ้นกับ Alfred Davis ซึ่งเป็นน้องเขย โดยมีเป้าหมายในการผลิตนาฬิกาคุณภาพสูง เที่ยงตรงและมีดีไซด์สวยงาม ด้วยราคาที่เหมาะสม ซึ่งกลายเป็นจิตวิญญาณของ Rolex มาจนถึงทุกวันนี้
จุดเปลี่ยน Rolex
ปี 1926 Rolex ได้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับวงการนาฬิกา ด้วยการเปิดตัวรุ่น Oyster ซึ่งมีตัวเรือนปิดสนิทจนเป็นสุญญกาศ กลายเป็นนาฬิกากันน้ำที่ออกวางขายเป็นเจ้าแรกของโลก ช่วยป้องกันกลไกลภายในได้เป็นอย่างดี ทำให้นาฬิกามีความทนทานเพิ่มขึ้นอย่างมาก
คทอง Rolex
Rolex เป็นแบรนด์ที่มีเสน่ห์เหนือกาลเวลาอย่างมาก เพราะสามารถพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ไปพร้อมกับการปรับตัวให้เข้ากับตลาดในแต่ยุคได้เป็นอย่างดี จนทำให้ Rolex เติบโตแบบก้าวกระโดดได้อย่างต่อเนื่อง
ยุคปัจจุบัน Rolex
ด้วยความมุ่งมั่นด้านคุณภาพของ Rolex ทำให้นาฬิกาแต่ละเรือนต้องใช้เวลาในการผลิตนานถึง 1 ปี เพราะต้องใช้ความประณีตในการประกอบชิ้นส่วนต่างๆ ด้วยมือของช่างผู้ชำนาญการ และผ่านการตรวจสอบมาตรฐานอย่างเข้มข้น เพื่อให้แน่ใจว่านาฬิกาทุกเรือนที่ได้ต้องเนี๊ยบสุดๆ
Rolex นอกจากจะโดดเด่นในเรื่องคุณภาพแล้ว ยังมีความล้ำหน้าในเรื่องการตลาดด้วย จนเรียกได้ว่า สวยทั้งรูป จูบก็หอมเลยครับ
ตำนานความลึกลับ Rolex
แม้ Rolex จะเป็นหนึ่งในแบรนด์นาฬิกาหรูที่ดังที่สุดในโลก แต่ก็แทบไม่มีใครรู้ข้อมูลเกี่ยวกับ Rolex เลย เพราะ Rolex ทำงานภายใต้เงามืด และกลายเป็นหนึ่งในธุรกิจที่มีความลับมากที่สุดในโลก เช่น
ไม่มีใครรู้ว่า Rolex ผลิตนาฬิกาแต่ละรุ่นปีละกี่เรือนกันแน่ รู้กันคร่าวๆ เท่านั้นว่า Rolex จะผลิตนาฬิกาทั้งหมดเพียงปีละ 1,000,000 เรือนเท่านั้น
ไม่มีใครรู้ว่า Rolex มียอดขายและกำไรเท่าไหร่
Rolex มีการรักษาข้อมูลต่างๆที่เข้มงวดมาก เช่น พนักงานของ Rolex ต้องมีการเซ็นต์สัญญาการไม่เปิดเผยความลับ และไม่อนุญาตให้ถ่ายรูปในอาคารของ Rolex
ย้อนกลับไปในปี 1945 เมื่อ Hans ต้องเผชิญกับการสูญเสียครั้งใหญ่ในชีวิตอีกครั้ง เมื่อ Florence ภรรยาเสียจากอาการป่วย ทำให้ Hans ซึ่งกำพร้าตั้งแต่อายุได้เพียง 12 ปี ต้องมาเป็นหม้ายตอนอายุ 63 ปี แถมยังไม่มีลูก สืบทอดกิจการอีก
ทำให้เค้าต้องคิดอย่างหนักเรื่องอานาจักนาฬิกา Rolex อันยิ่งใหญ่ที่สร้างขึ้นด้วยมือของเค้า ว่าจะส่งต่ออย่างไร
ปี 1946 Hans ตัดสินใจก่อตั้งมูลนิธิ Hands Wilsdorf Foundation แล้วโอนหุ้น Rolex ทั้งหมด 100% ให้เป็นของมูลนิธิ
ทุกวันนี้ มูลนิธิ Hands Wilsdorf ยังคงรักษาความเป็นเจ้าของและการควบคุม Rolex และเนื่องจากอยู่ในรูปแบบมูลนิธิ ไม่ใช่บริษัท ทำให้ตามกฎหมายของสวิส ไม่ต้องจ่ายภาษีนิติบุคคลจากกำไรที่ได้ แต่ใช้ในการบริจาคเพื่อการกุศลแทน เช่น ด้านการศึกษา ด้านการฝึกอบรมช่างทำนาฬิกา
ไม่ต้องเปิดเผยข้อมูลเรื่องผู้ถือหุ้นและข้อมูลด้านการเงิน ทำให้ Rolex กลายเป็นธุรกิจที่สามารถรักษาความลับในระดับที่สูงมาก
ซึ่งอาจมองได้ว่า การจัดตั้งมูลนิธิ คือวิธีอันชาญฉลาดในการรักษาความมั่งคั่งและอำนาจของ Rolex
เรารู้เพียงแค่ Hans เสียชีวิตในปี 1960 แล้วมีเจ้าของคนใหม่ขึ้นบริหารแทน
สรุปแล้ว
แม้ Hans Wilsdorf จะเป็นคนโชคร้ายตั้งแต่เด็กเพราะเป็นกำพร้าซึ่งไม่มีทั้งเงินและเส้นสาย แต่ด้วยความมุ่งมั่นก็สามารถลุกขึ้นมาสร้างประวัติศาสตร์ ทำให้ Rolex กลายเป็นแบรนด์ผู้นำนาฬิกาหรูที่ยิ่งใหญ่ของโลกได้ กลายเป็นตำนานยาวนานอันน่าเหลือเชื่อมาจนถึงทุกวันนี้
โดย Hans Wilsdorf มีคติประจำใจว่า “Only great marketing is need to make a company successful”