ในสมัยก่อนประวัติศาสตร์ การศึกษาศิลปะพุทธศิลป์ต้องใช้หลักฐานทางศิลปกรรมที่ปรากฎอย่างเด่นชัดของยุคนั้นเพื่อจำแนกว่าศิลปะชิ้นใดมาจากสมัยใด โดยสังเกตจากการแสดงปางต่าง ๆ ของพระพุทธรูป เอกลักษณ์เด่นที่มักพบ หรือลักษณะการทรงเครื่อง เช่น
ช่วงที่เขมรมีอิทธิต่อปะเทศไทย มักจะพบเป็นพระพุทธรูปปางนาคปรกโดยมีลักษณะพระพักตร์เป็นสี่เหลี่ยม
สมัยลพบุรีพระพุทธรูปมีสัดส่วนที่ยืดสูงขึ้น และไม่ใส่เครื่องทรง
สมัยสุโขทัยว่ากันว่าเป็นยุคคลาสสิกของศิลปะไทย เพราะสัดส่วนการออกแบบมีความอ่อนช้อยเป็นความงามในอุดมคติของชาวไทย
สมัยศิลปะล้านนามักสร้างพระพุทธรูปปางขัดสมาธิเพชร พระพักตร์กลม ขมวดพระเกศาใหญ่ และมีรัศมีเป็นดอกบัวตูม
สมัยอยุธยาพระพักต์จะเป็นสี่เหลี่ยมเหมือนสมัยลพบุรีที่มีความเคร่งขรึม และมีการสร้างพระพุทธรูปอีกรูปแบบหนึ่งเรียกว่า “ทรงเครื่องน้อย” เมื่อมาในสมัยอยุธยาตอนปลายมีพระพุทธรูปที่นิยมมากคือ “พระพุทธรูปทรงเครื่องต้น”
สมัยรัตนโกสินทร์พระพุทธรูปมักสร้างพระพักตร์และพระโอษฐ์ให้มีลักษณะเล็กคล้ายกับหุ่นละคร
งานพุทธศิลป์ในสมัยต่าง ๆ จะมีเอกลักษณ์ที่เฉพาะตัวของตนเอง นอกจากความสวยงามแล้ว ยังสามารถถ่ายทอดแนวคิด เรื่องราวของผู้คนในสมัยนั้น การแต่งกาย ภูมิปัญญาต่าง ๆ และศิลปะช่าง ให้คนไทยสมัยใหม่สามารถเข้าใจบริบทของคนในอดีต และซึมซับความศรัทธาเพื่อให้พุทธศาสนายังดำรงอยู่คงต่อไป
พบกับรายการ "กระจกหกด้าน" ทุกวันพุธ เวลา 12.55 เป็นต้นไป ทางช่อง 7HD กด 35
กดติดตามช่อง "กระจกหกด้าน" ได้ที่ : / @krajokhokdan
#กระจกหกด้าน #กระจกหกด้านบานใหม่ #ch7hd
Website
www.krajokhokdan.com
Facebook
ไชโย โอป้า : / chaiyo.opa
กระจกหกด้าน : / krajokhokdan
กระจกหกด้านบานใหม่ : profile.php?...
KZread
กระจกหกด้าน : / @krajokhokdan
TikTok
กระจกหกด้าน : / 6mirror6
Instagram
กระจกหกด้าน : / krajokhokdan_official