เพลินอะไร ไม่ทุกข์ | พุทธวจน
เพลินอะไร ไม่ทุกข์
--------------------------------------
ติดตามได้ที่ช่องทางดังนี้
Facebook fanpage : / bigjintri2000
KZread : / @bigjintri
Tiktok : vt.tiktok.com/ZSRdsPJks/
เว็บไซต์วัดนาป่าพง : watnapp.com
หนังสือพุทธวจน
ดาวน์โหลดไฟล์ .pdf watnapp.com/book
อ่านออนไลน์ etipitaka.com/read/thaipb/1/0/
#พุทธวจน #พระพุทธเจ้า #ศาสนาพุทธ #ธรรมวินัยจากพุทธโอษฐ์
Пікірлер: 24
คุณโยมท่านนี้ใช่ชื่อพิศาลหรือเปล่าคะเสียงเหมือนถ้าใช่ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะกราบสาธุพระอาจารย์เจ้าค่ะ
พระสูตร ง้วนดิน คือคำตอบ สาธุ
น้อมกราบสาธุค่ะ
กราบนมัสการพระอาจารย์ ผู้เปิดธรรมที่ถูกปิด สาธุ สาธุ 🙏🙏🙏
กราบสาธุๆๆค่ะ
สาธุน้อมกราบนมัสการพอจ.ด้วยครับ.😊
สาธุค่ะ
🙏ผู้ชี้ขุมทรัพย์🙏 น้อมก้มกราบนมัสการ พระอาจารย์ผู้มีอุปการะคุณอย่างสูง ศรัทธา อย่างลงมั่นไม่หวั่นไหว 🙏🙏🙏🌿🌹🌹🌿
สาธุๆๆ
น้อมกราบนมัสการพระอาจารย์กราบสาธุสาธุสาธุเจ้าค่ะ
น้อมสาธ ุคะ
น้อมกราบธรรมค่ะ
กราบนมัสการสาธุเจ้าค่า🙏🙏🙏
กราบสาธุ ค่ะ
สาธุสาธุสาธุครับ
กรทบสาธุเจ้าค่ะ
ทำไมหน้าปกรูปถึงมีคิ้วล่ะคะผมไม่มีแต่มีคิ้วยังไงกัน
@tinnakorntawikerd9043
Жыл бұрын
ขอนุญาตตอบนะครับ พระพุทธเจ้าไม่ได้มีบัญญิติให้ภิกษุโกนคิ้วครับ บอกแค่ปลงผมและหนวดเท่านั้น การโกนคิ้วมีแค่พระไทยเราครับ เหตุผลที่ทำไมพระไทยโกนคิ้วหาเอาในกุเกิ้ลได้ครับเป็นเรื่องประวัติศาสตร์เรา
นัตถิทินนสูตร ว่าด้วยนัตถิกทิฏฐิ [๔๒๕] พระนครสาวัตถี. พระผู้มีพระภาคตรัสถามว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่ออะไรหนอ มีอยู่ เพราะถือมั่นอะไร เพราะยึดมั่นอะไร จึงเกิดทิฏฐิขึ้นอย่างนี้ว่า ทานไม่มีผล การบูชาไม่มี ผล การเซ่นสรวงไม่มีผล ผลวิบากแห่งกรรมที่ทำดีทำชั่วไม่มี โลกนี้ไม่มี โลกหน้าไม่มี มารดา ไม่มี บิดาไม่มี สัตว์โอปปาติกะไม่มี สมณพราหมณ์ผู้ดำเนินชอบ ปฏิบัติชอบ กระทำโลกนี้ และโลกหน้าให้แจ้งด้วยปัญญาอันยิ่งแล้ว สอนผู้อื่นให้รู้แจ้ง ไม่มีในโลก คนเรานี้เป็นแต่ ประชุมมหาภูตรูปทั้ง ๔ เมื่อใด ทำกาลกิริยา เมื่อนั้น ธาตุดินก็ไปตามธาตุดิน ธาตุน้ำก็ไปตาม ธาตุน้ำ ธาตุไฟก็ไปตามธาตุไฟ ธาตุลมก็ไปตามธาตุลม อินทรีย์ทั้งหลายย่อมเลื่อนลอยไปใน อากาศ บุรุษ ๔ คน รวมเป็น ๕ ทั้งเตียง จะหามเขาไป รอยเท้าปรากฏอยู่เพียงแค่ป่าช้า (ต่อมา) ก็กลายเป็นกระดูกสีเทาสีนกพิราบ การเซ่นสรวงมีเถ้าเป็นที่สุด ทานนี้คนเขลาบัญญัติไว้ คำของ คนบางพวกที่พูดว่ามีผล ล้วนเป็นคำเปล่า คำเท็จ คำเพ้อ เพราะกายสลาย ทั้งพาล ทั้งบัณฑิต ย่อมขาดสูญ พินาศสิ้น หลังจากตายไปย่อมไม่มี? ภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้ เจริญ ธรรมของข้าพระองค์ทั้งหลายมีพระผู้มีพระภาคเป็นรากฐาน ฯลฯ พ. ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อรูปมีอยู่ เพราะถือมั่นรูป เพราะยึดมั่นรูป จึงเกิดทิฏฐิขึ้น อย่างนี้ว่า ทานไม่มีผล การบูชาไม่มีผล ฯลฯ เพราะกายสลาย ทั้งพาลทั้งบัณฑิตย่อมขาดสูญ พินาศสิ้น หลังจากตายไปย่อมไม่มี. เมื่อเวทนามีอยู่ ฯลฯ เมื่อสัญญามีอยู่ ฯลฯ เมื่อสังขาร มีอยู่ ฯลฯ เมื่อวิญญาณมีอยู่ เพราะถือมั่นวิญญาณ เพราะยึดมั่นวิญญาณ จึงเกิดทิฏฐิอย่างนี้ว่า ทานไม่มีผล การเซ่นสรวงไม่มีผล ฯลฯ เพราะกายสลาย ทั้งพาลทั้งบัณฑิตย่อมขาดสูญ พินาศสิ้น หลังจากตายไปย่อมไม่มี. [๔๒๖] พ. ดูกรภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน รูปเที่ยง หรือไม่เที่ยง? ภิ. ไม่เที่ยง พระเจ้าข้า. พ. ก็สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์หรือเป็นสุขเล่า? ภิ. เป็นทุกข์ พระเจ้าข้า. พ. ก็สิ่งใดไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา เพราะไม่ถือมั่นสิ่งนั้น จะพึงเกิดทิฏฐิขึ้นอย่างนี้ว่า ทานไม่มีผล การบูชาไม่มีผล ฯลฯ เพราะกายสลาย ทั้งพาลทั้งบัณฑิต ย่อมขาดสูญ พินาศสิ้น หลังจากตายไปย่อมไม่มี บ้างไหม? ภิ. ไม่พึงเกิดทิฏฐิขึ้นอย่างนั้นเลย พระเจ้าข้า. พ. เวทนา ... สัญญา ... สังขาร ... วิญญาณเที่ยงหรือไม่เที่ยง? ภิ. ไม่เที่ยง พระเจ้าข้า. พ. ก็สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์หรือเป็นสุขเล่า? ภิ. เป็นทุกข์ พระเจ้าข้า. พ. ก็สิ่งใดไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา เพราะไม่ถือมั่นสิ่งนั้น จะพึงเกิดทิฏฐิขึ้นอย่างนี้ว่า ทานไม่มีผล การบูชาไม่มีผล ฯลฯ เพราะกายสลาย ทั้งพาลทั้ง บัณฑิตย่อมขาดสูญ พินาศสิ้น หลังจากตายไปย่อมไม่มี บ้างไหม? ภิ. ไม่พึงเกิดทิฏฐิขึ้นอย่างนั้นเลย พระเจ้าข้า. พ. แม้สิ่งที่บุคคลเห็นแล้ว ฟังแล้ว ทราบแล้ว รู้แจ้งแล้ว ถึงแล้ว แสวงหาแล้ว ใคร่ครวญแล้วด้วยใจ สิ่งนั้นเที่ยงหรือไม่เที่ยง? ภิ. ไม่เที่ยง พระเจ้าข้า. พ. ก็สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์หรือเป็นสุขเล่า? ภิ. เป็นทุกข์ พระเจ้าข้า. พ. ก็สิ่งใดไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา เพราะไม่ถือมั่นสิ่งนั้น จะพึงเกิดทิฏฐิขึ้นอย่างนี้ว่า ทานไม่มีผล การบูชาไม่มีผล ฯลฯ เพราะกายสลาย ทั้งพาลทั้ง บัณฑิตย่อมขาดสูญ พินาศสิ้น หลังจากตายไปย่อมไม่มี บ้างไหม? ภิ. ไม่พึงเกิดทิฏฐิขึ้นอย่างนั้นเลย พระเจ้าข้า. พ. ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อใดแล อริยสาวกละความสงสัยในฐานะ ๖ เหล่านี้ ชื่อว่า เป็นอันละความสงสัยแม้ในทุกข์ แม้ในทุกขสมุทัย แม้ในทุกขนิโรธ แม้ในทุกขนิโรธคามินี- *ปฏิปทา. ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อนั้น อริยสาวกนี้เราเรียกว่า เป็นพระโสดาบัน มีความไม่ตกต่ำ เป็นธรรมดา เป็นผู้เที่ยงที่จะตรัสรู้ในเบื้องหน้า.
🙏🙏🙏🙏🙏
ทำได้นะ อารมณ์จิตทรงอยู่กับอุเบกขาเป็นส่วนมากของเวลา แล้ว เพ่ง อุเบกขาจนเห็นอุเบกขาขยับ เคลื่อน..อารมณ์จิตของอนาคามีบุคคล จิตจะทรงอุเบกขาเป็นส่วนมากของเวลา ...สติ สมาธิจะมาก..
มีประโยชน์มากเราไม่มีสิทธิ์เบื่อถ้าเบื่อก็แสดงว่าผู้นั้นไม่เบื่อต่อการเกิดแก่เจ็บตายต้องปฏิบัติให้พ้นเกิดแก่ตายไห้ได้สาธุๆ
น้อมกราบนมัสการพระอาจารย์ผู้มีความเมตตากรุณาต่อญาติธรรมทุกๆๆท่านสาธุเจ้าค่ะ🙏🙏🙏🌷