ผู้รู้ และ สภาวะที่ถูกรู้
🍄เรามาแยกกันระหว่างผู้รู้ และ อารมณ์ที่ถูกรู้ครับ ว่าผู้รู้เราเห็นอารมณ์เหล่านี้หรือยัง?
📌ทำการบ้านด้วยการหมั่นสังเกต เรามาฟังธรรมต่อเนื่องและปฏิบัติธรรมไปพร้อมกับการฟังหลักธรรมการปฏิบัติครับ
บรรยายธรรมโดย อาจารย์วิลลี่
วันที่ 30 เมษายน 2566
สำนักปฏิบัติธรรมศูนย์ไตรสิกขา
---------------------------------
Trisikkha Meditation Center
ศูนย์ไตรสิกขา เพชรบุรี ประเทศไทย
120 ตำบลห้วยท่าช้าง อำเภอเขาย้อย จังหวัดเพชรบุรี 76140
Trisikkha Florida (USA)
4207 US HWY 92 W, Plant City, FL 33563 USA
ช่องทางการเผยแพร่ธรรมะและข่าวสารของศูนย์ไตรสิกขา
Website: trisikkha.org (ภาษาไทย และ English)
Facebook page: ไตรสิกขาฟลอริดา - Trisikkha Florida (ภาษาไทย)
/ wimuttiflorida
Facebook page: ไตรสิกขาเพชรบุรี - Trisikkha Petchaburi (ภาษาไทย)
/ trisikkhapetchaburi
Facebook page: Trisikkha Meditation Center (English)
/ trisikkhafl
Facebook group: กลุ่มไตรสิกขา (ภาษาไทย)
- / 239332620582224
Instagram:
- @trisikkhaofficial (English)
- @trisikkhath (ภาษาไทย)
/ trisikkhaofficial
KZread: Trisikkha Meditation Center (ภาษาไทย และ English)
- / trisikkhameditationcenter
Line Official: @Triskkha (ภาษาไทย) page.line.me/trisikkha
Line Official: @TrisikkhaUSA (English)
- lin.ee/3dgsYzQ
Tiktok: @trisikkha (English)
- / trisikkha
Tiktok: @triiskkhapetchaburi (ภาษาไทย)
- / trisikkhapetchaburi
Copyright 2022 - 2033 All rights reserved.
#buddhism #suffering #path #freedom #mindfulness #vipassana #happiness #meditation #peace #trisikkha #ปฎิบัติธรรม #สมาธิ #สติ #ศาสนาพุทธ #วิปัสสนา #มรรค #ธรรมะ #จิตตั้งมั่น #ขันธ์5 #ขันธ์ห้า
Пікірлер: 101
เรียนถามค่ะ เริ่องจิตแยกจากความปวด จะออกจากปวด ฝึกเน้นๆ เพราะเห็นว่าสำคัญ ในวันจะย้ายภพ รบกววน อาจารย์ กราบขอบพระคุณ ทุกตอนค่ะ
@TrisikkhaMeditationCenter
2 ай бұрын
🙏🏻อนุโมทนาครับ เราต้องหมั่นฝึกสติปัฏฐานสี่ให้บ่อย แรกๆอาจจะใช้กายเป็นฐานเพื่อรู้ทันเวทนา และความคิดความปรุงแต่งทางใจ 👉หากจิตหลง จิตไหล จิตเพ่งเอาไว้ ให้หมั่นรู้ทัน แล้วกลับมาที่วิหารธรรมหรือกรรมฐานฝึกแบบนี้ให้บ่อยให้มาก ด้วยความเพียรจนจิตตื่นตั้งมั่น จิตจำอารมณ์ได้จิตเลยตื่น รู้สึกตัวบ่อยขึ้น จนตั้งมั่นเป็นผู้ดูผู้รู้อยู่ที่ฐาน คราวนี้ก็ปฏิบัติเหมือนเดิม แต่จิตจะตื่นแยกออกจากอารมณ์มาเป็นผู้เห็นอารมณ์ จิตจะดูกายอยู่ส่วนหนึ่ง จะเห็นใจที่มีความคิดนึกปรุงแต่งอยู่ส่วนหนึ่ง ถ้านั่งนานภาวนานานขึ้น ก็จะเห็นเวทนาเกิดทางกาย เมื่อจิตสติดีสมาธิตั้งมั่นแล้วเนี่ย จิตจะเห็นกายนั่ง จะเห็นเวทนาที่เกิดทางกายเสียดแทงปรุงแต่งให้ทุกข์ เห็นทุกข์ทางใจที่มีปฏิกิริยาต่อเวทนา ทางกายเกิดทำให้ทุกข์ใจขึ้น เราก็สามารถแยกจิตออกจากทุกข์ที่มาจากกาย แยกจิตตั้งมั่นเห็นทุกข์ที่มาจากใจ แล้วก็ดูไตรลักษณ์ท่ามกลางทุกข์ทางกายที่บีบคั้น เวลาปวดแล้วเอาปวดเป็นฐาน ก็ดูกายทำงาน ดูใจทำงาน ใจปรุงแต่งท่ามกลางความปวด พอปวดแล้วหงุดหงิด ให้รู้หงุดหงิด ให้ดูไตรลักษณ์ของหงุดหงิด ปวดแล้วไม่ชอบ อยากขยับ ให้รู้ทัน แล้วดูไตรลักษณ์ของมัน ปวดแล้วสัญญาแย่สัญญาดีเกิดขึ้น ให้ดูไตรลักณ์ของมัน หมั่นสร้างอินทรีย์สร้างบารมีท่ามกลางความปวด แล้วก็จะเห็นความปวดอยู่ส่วนนึงเห็นกายส่วนนึง จิตจะเริ่มเห็นสังขารหรือความปรุงแต่งทางใจอยู่อีกส่วนหนึ่ง คราวนี้จิตที่ตื่นนั้นจะดูไตรลักษณ์ของความคิด ต่อเนื่องการปฏิบัติให้มากให้บ่อย ให้มีสติสมาธิปัญญาท่ามกลางเวทนา หรือความปวดทางกาย ต่อไปจิตจะเป็นอุเบกขากับเวทนาเอง แล้วต่อไปเจ็บขนาดไหน ทุกขณะจิตจะสามารถมีสติปัญญาท่ามกลางความปวดโดยไม่จมกับมัน แล้วสามารถเห็นใจคิดได้มากขึ้น ต่อไปกายจะตาย แล้วมีความปวดทางกาย จิตก็จะเห็นกายนอนเจ็บทรมาน จิตจะเห็นกายที่ทุกข์ พอกายตายจิตก็เห็น กายค่อยๆตาย แล้วความคิดจิตดวงสุดท้ายเลื้อยขึ้นมา จิตก็จะเห็นความคิดในจิตดวงสุดท้าย 👉 จิตก็จะเห็นใจปรุงแต่งขึ้นมา จิตที่ตั้งมั่นก็จะเห็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตาของความคิดนั้นดับต่อหน้าต่อตา เจตสิกก็ดับ จิตก็เหลืออยู่ดวงเดียว ไปต่อก็ไม่ได้ เพราะเหตุปัจจัยคืออวิชขาดับเสียแล้ว กลับมาที่กายก็ไม่ได้ จิตก็เกิดเดี่ยวๆไม่ได้ จิตกลับคืนสู่ธรรมชาติคือนิพพาน สิ้นตัณหาอุปาทาน สิ้นภพสิ้นชาติ ไม่มีเกิดแก่เจ็บตายอีกแล้วในจิตดวงสุดท้าย เรียกว่าชิงธงในจิตดวงสุดท้ายครับ อันนี้คือหลักที่สำคัญของนักปฎิบัติธรรมที่ควรฝึกในปัจจุบันให้ได้แบบนี้ แล้วสามารถที่จะใช้จิตดวงนี้ในจิตดวงสุดท้ายได้เช่นกัน ลองทำดูนะครับขอให้เจริญในธรรมยิ่งยิ่งขึ้นไป เจริญธรรมครับ
@user-cn7qh5rt7w
29 күн бұрын
@@TrisikkhaMeditationCenter น้อมกราบสาธุคะ
ฝึกละฝึกปล่อยฝึกวางเมื่อฝึกบ่อยๆเข้าจะมีจิตตั้งมั่นเห็นจิตเห็นการเกิดดับวับๆแวมๆ จับจ้องอยู่ที่จิตเป็นพักๆ ดูการคงตัวของจิตเมื่อเห็นจิตเป็นเนืองๆแล้วระแวดระวังจิตต่อยอดพัฒนาจิตจนการปรุงแต่งเริ่มสลายต่อไม่ติด แล้วต่อยอดพัฒนาจนเมื่อจิตพร้อมที่จะหลุดเราจะหาจิตไม่เจอจากนั้นไม่มีอะไรเกิดและไม่มีอะไรไห้ดับได้อีกภพชาติจะไม่เกิดมีแค่ความโล่งวา่ง เวิ้งหว้าง ว่างเปล่าจิตสลายความมีตัวตน ไม่มีอะไรกลับสู่สูญตา สาธุๆขอไห้ได้ดวงตาเข้าใจในธรรม
@nitayaphompan6254
2 ай бұрын
ช่วงนี้กำลังหลงอยู่ยังไม่รู้ตัว ชอบแสดงตัวตน
น้อมกราบอนุโมทนาในธรรมะที่สอนได้ละเอียดดีมาก เคยเข้ากรรมฐานที่วัดมเหยงณ์อยุธยา แยกจิตกับกายได้ในขณะเวทนาเกิด มีลักษณะเช่นที่พระอาจารย์สอน เขาเกิดขึ้นเอง จิตเห็นจิตที่มีแต่ความว่างๆๆ ไรตัวตนทั้งภายในภายนอก มีแต่ว่างๆ เท่านั้น กราบสาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ เจ้าค่ะ
ขอบูชาพระพุท เป็นแนวทางเพื่อเข้าถึงซึ่งธรรมม. ขอบูชา ธรรมมะ อันเป็นที่พึ่งเพื่อถึงซึ่งสาระทางธรรม. ขอบูชา พระสงค์ เพื่อเข้าถึงซึ่งสาระธรรม. สาธุ สาธุ สาธุ
ขอบคุณครับ
สาธุค่ะ🙏🙏🙏
สาธุค่ะ
สาธุสาธุสาธุ
สาธุสาธุสาธุครับ
🙏🙏🙏
ขอบคุณค่ะ
สาธุๆเจ้าค่ะ
เข้าใจง่ายมากครับ ขอบคุณครับ
สาธุคะ
สาธๆๆค่ะ
กราบสาธุธรรมครับ
ดีมากเลยครับอาจารย์
อนุโมทนาบุญ
ขอบคุณครับ❤
ขอบคุณคุณคับ
ขอบคุณนะคะสาธุธรรมค่ะ
สาธุๆๆ ครับ อนุโมทนาสาธุ ครับ
สาธุครับ
น้อมกราบสาธุเจ้าค่ะ
กราบสาธุครับ 🙏🏼
สอนได้เข้าใจง่ายมากๆค่ะ ขอบคุณค่ะ
ขอบคุณค่ะ อนุโมทนาสาธุๆ🙏🙏🙏
อธิบายได้ดีมาก....เยี่ยมมาก...สาธุๆๆ
น้อมกราบ🙏🙏🙏สาธุเจ้าค่ะพระอาจารย์
น้อมกราบสาธูๆ
กราบสาธุเจ้าค่ะ
อธิบายใด้ชันเจนมากค่ะสาธุค่ะ
ขอบพระคุณเจ้าค่ะ🙏🙏🙏💖💖
@sorapuspunthunon2718
5 ай бұрын
อนุโมทนาค่ะ 👏👏👏🪷🪷🪷🌟🌟🌟
🙏🙏🙏🙏🙏
ขณะ รับ ประทาน อาหาร ดีมาก ในการ ให้จิต เป็น ผู้ รู้ เคี่ยว อาหาร จิต มี พลัง รู้ ว่า กลืน อาหาร ทำ แบบ สบาย ดื่มน้ำ ก็ รู้ ชัด ว่า ดื่มน้ำ จิต ไม่ส่งออก นอก สาธุ
ใช้คำอธิบายง่าย ปฏิบัติได้จริง ขอบคุณนะคะ
กราบสาธุในธรรม กราบขอบพระคุณพระอาจารย์
😊
สาธุ สาธุ สาธุ ขอขอบพระคุณที่นำพระธรรมมาเผยแผ่ค่ะ กราบอนุโมทนา
ขอบคุณค่ะ หนูกำลังฝึก มีคำถามมากมายได้คำตอบจากการฟังนี้ สาธุค่ะ
❤❤❤🙏🙏🙏 มีแต่สติที่เป็นจุดเริ่มต้นไปทางสายเอกได้ ไตรสิกขามาครบเองด้วย🤗🤗🤗🌟🔆‼️‼️‼️
เป็นคนสมาธิสั้นค่ะบวกกับ เป็นซึมเศร้าด้วย จำอะไรค่อนข้างลำบาก
อธิบายได้สุดยอดเข้าใจได้แจ่มแจ้งครับ กราบสาธุ
💐🙏🙏🙏🌝
✨🌻🌀🌈❄️🌞
โมหะ ความหลง เพราะ ไม่รู้ สึกตัว กาย ทั่วพร้อม แต่ จิต ไม่เที่ยง ชอบ ส่ง ออก นอก
สาธุ สาธุ สาธุ ค่ะ🙏🙏🙏 ฟังแล้วดีมากๆ สามารถติดต่อเรียนหรือไปปฏิบัติได้ที่ไหนคะ มีสถานที่ไหมคะ
@TrisikkhaMeditationCenter
4 ай бұрын
ตอนนี้มีรับสมัครคอร์สออนไลน์ค่ะ คอร์สเนกขัมมะออนไลน์ ระหว่างวันที่ 15-19 มิถุนายน 2567 ฟรี! ขอเรียนเชิญญาติธรรมร่วมถือศีลแปด ฝึกการภาวนาในรูปแบบและเรียนรู้ธรรมะขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้า บรรยายธรรมโดย อาจารย์ วิลลี่ พุฒซ้อน  📆 Date: 15-19 มิถุนายน 2567 (ปฐมนิเทศ 14 มิถุนายน 2567) มีการบรรยายธรรมผ่านเฟสบุ้คไลฟ์ และถือศีลแปด ปฏิบัติภาวนาที่บ้านในเวลาของท่าน  สมัครฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายตลอดคอร์ส กรอกใบสมัครที่ tinyurl.com/bd3jnca3 💬 สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook facebook.com/trisikkhapetchaburi LINE @trisikkha (มีเครื่องหมาย @)
ผู้รู้คือ สติ สิ่งที่ถูกรู้ คือ กิเลส ทั้งหลาย
@niranpharkphakorn4454
5 ай бұрын
หากสิ่งที่ถูกรู้คือ ผู้รู้ละ จะเรียกสิ่งที่ถูกรู้ว่า “ผู้รู้” หรือ”สิ่งที่ถูกรู้”?😊
@user-lt6rm9bi7q
5 ай бұрын
@@niranpharkphakorn4454 ถ้าเอาสิ่งที่ถูกรู้ มาเป็นผู้รู้ มันก็ทุกข์ หนัก อย่าง โลภะ โทสะ โมหะ คือสิ่งที่ถูกรู้ เอามาเป็นผู้รู้มันก็ทุกข์หนัก ปุถุชนมองไม่ออก ผู้รู้กับสิ่งที่ถูกรู้คืออะไร เอามารวมกันจึงเกิดทุกข์ รู้แล้วละ คือ สติ รู้เท่าทัน คือ สติ
ถ้าสติอยู่กับความคิดหรือจิตเราหลงอยู่ฝึงถ้าำห้ก็เอารู้เข้าไปด้บปล่อยไปธรรชาติ😂
เริ่มเข้าใจ ต้องเพิ่มการปฏิบัติในการเข้าถึง
ขอบคุณเบื้องบนเมตตาค่ะ บำเพ็ญธรรมจะต้อง บำเพ็ญที่จิตตรงจุดญาณทวารมีเพียงวิธีเดียวเท่านั้น ที่จะฉุดช่วยจิตธรรมญาณตน เข้าสู่สภาวะธรรมจริงไม่หลงในวัฏสงสาร เพราะรู้ถึงการสร้างเหตุอะไรย่อมได้รับผลอย่างถูกต้องตรงต่อหลักสัจธรรมค่ะ สู้ๆค่ะรีบฝึกฝนการที่จิตสัมผัสรู้ให้ได้จริง ก่อนจะสายไปบรรพชนกำลังรอเราอยู่ค่ะ
น้อมกราบสาธุในธรรมค่ะ🙏🙏🙏
ถ้าฝ้งมากไปก็อยู่กับลมหายใจ😂
น้อมกราบสาธุเจ้าค่ะ🙏🙏🙏
ตื่น คือ สติ รู้ คือ ปัญญา ใช่มั่ยครับพระอาจารย์
กรุณาส่งมาให้ฟังบอยาอยๆไไคะ่ปรารถนาได้ฝึกฟนตามท่านอ.คะ่
ແພ້ຢ່າງເກົ່າ
Sathu
อยากจะปล่อยวางครับ แต่ยังห่วงลูกไม่สามารถมีการงานมั่นคงเลี้ยงชีพ เงินทองติดขัดหมุนไม่ทันจนปัญญจนใจ จะปฏิบัติอย่างไรก็ยังรู้สึกทุกข์ เศร้า โศก ปล่อยวางก็ชั่วขณะเดี๋ยวก็กลับมาห่วงยากเย็นแสนเข็ญ เหมือนตายก็ไม่ได้อยู่ก็ลำบาก ถ้าบอกว่าเป็นกรรม กรรมอะไรที่เรากระทำถึงเป็นเช่นนี้ครับ มั่นทำบุญอุศลมายาวนาน ตักบาตร บริจาคเลือด50ครั้ง ทำส้งฆทานบ่อยๆ ขอคำแนะนำผู้ยั่งรู้แจ้ง มาโปรดสัตว์ด้วยเถอะ สาธุ สาธุ สาธุ
@TrisikkhaMeditationCenter
3 ай бұрын
หมั่นมีสติฝึกอยู่กับปัจจุบันให้บ่อยๆนะครับ มีโอกาสทำบุญทำทานเท่าที่เราสะดวกและไม่ลำบากในเรื่องของการเงิน การได้เกิดเป็นมนุษย์นี่ก็ดีที่สุดแล้วที่ได้มีโอกาสได้เจอศาสนาพุทธยิ่งใหญ่กว่า แต่เราทุกข์เพราะเราอยากให้มันดีขึ้น อยากให้ชีวิตมีทุกอย่าง ยิ่งทำบุญทำทาน เพราะอยากให้พ้นจากความยากจนก็ยิ่งทุกข์ใจไปกันใหญ่ การทำบุญ เมื่อทำแล้วให้มีความสุข ไม่ต้องห่วงเรื่องผลของบุญนะครับ เราทำเราก็ต้องได้อยู่แล้ว แต่สิ่งที่อยู่เหนือบุญและทำให้คุณไม่จมกับอารมณ์ คือการเจริญสติสมาธิและปัญญา การฝึกสติสมาธิปัญญานั้น เมื่อฝึกให้เป็นแล้วสามารถฝึกได้ทุกเวลาทุกขณะเลยครับ ไม่จำเป็นต้องอยู่ที่ศูนย์ปฏิบัติธรรมหรืออยู่วัด พยามฟังธรรมและลงมือปฎิบัติ โดยการหากรรมฐานขึ้นมากองนึง เมื่อมีโอกาสลองสวดมนต์นั่งกรรมฐานดู ให้สังเกตจิตที่ไหลออกไป หลงออกไปกังวล ให้รู้ทัน แล้วก็หมั่นกลับไปเห็นกายหายใจเข้า หายใจออกให้บ่อย เป็นการฝึกให้จิตนั้นหมั่นวางอารมณ์ และกลับมาอยู่ที่ปัจจุบัน เป็นการฝึกได้ทุกเวลา เวลาที่กังวล เวลาที่เสียใจ เวลาที่ผิดหวัง เวลาที่มีปัญหา จิตหนีลมหายใจหนีกายอยู่ที่ความคิด ก็ให้หมั่นรู้ทันเอา แล้วก็กลับมาที่ปัจจุบันที่กายหายใจเข้าออก ทำให้มาก ทำให้บ่อย เดี๋ยวสติก็จะดีขึ้น จิตก็จะสว่าง แล้วจิตจะตั้งมั่นอยู่กับปัจจุบัน แล้ววางทุกข์ครับ คนมีปัญหาเรื่องการเงิน ทำเท่าไหร่ก็ไม่รวย ทำเท่าไหร่ก็มีปัญหา เป็นเพราะกรรมเก่าไม่เคยสร้างทานบารมีไว้เพียงพอ เลยทำให้เรายากจนแล้วก็ทำเท่าไหร่ก็ไม่พอใช้พอกิน เมื่อเกิดมาชาตินี้แล้วก็หมั่นทำบุญสร้างกุศลให้มากให้บ่อย แต่อย่าคิดว่าทำแล้วมันจะต้องดีในวันนี้พรุ่งนี้ ให้ทำแล้วรู้ทันใจ ทำแล้วมีความสุข ทำแล้วให้อยู่กับปัจจุบัน การทำบุญต้องเห็นผลถึงความสุขนะครับ ลองฝึกสติดูแล้วกลับมาที่วิหารธรรมหรือกรรมฐานให้บ่อย แล้วจิตจะเคยชินในการวางอารมณ์ แล้วต่อไปจิตกับทุกข์ก็จะแยกออกจากกันเองครับ ขอให้เข้มแข็งนะครับ ทุกคนมีทุกข์เหมือนกันหมด ทุกคนมีกรรมเป็นของตน แต่พวกเรามีโอกาสดีคือได้มาเจอศาสนาพุทธ มีโอกาสได้มาเรียนรู้ธรรมะแล้วก็จะได้ออกจากทุกข์ในปัจจุบัน สู้เอานะครับ ชีวิตเรายังมีพรุ่งนี้ ยังมีโอกาสอยู่ ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด แล้วก็หมั่นมีสติอยู่กับปัจจุบัน หมั่นฝึกสติเรื่อยๆ แล้วมันจะค่อยๆดีขึ้น ถ้าเราไม่จมกับอารมณ์นะครับ อาจารย์ขอเอาใจช่วย และขอให้คุณจงเจริญ ทั้งทางโลกและทางธรรมครับ
@user-cv1mh2bp1w
3 ай бұрын
สาธุค่ะ
@alittle8026
14 күн бұрын
กราบขอบพระคุณอาจารย์เป๋นอย่างสูงครับเป็นคำตอบที่ผมอยากรู้เหมือนกัน ปัญหาทุกข์อันเดียวกัน@@TrisikkhaMeditationCenter
ถ้ามืสืบพันธุ์คนหายไปโลกสูญพันธุ์อย่าฝืนธรรมชาติ
จิตอาศัยรูปเกิดตัณหาในธาตุลองตัดคอหายขาดตายจิตอยู่ในกายมิได้
อยากขอถามท่านอาจารย์ค่ะ เวลาอยู่ที่ทำงาน มีเพื่อนร่วมงานจำนวนมาก เมื่อเจอผัสสะ ทำให้เกิดความชอบและความไม่ชอบ อย่างนี้เราจะปฏิบัติธรรมอย่างไรคะ
@TrisikkhaMeditationCenter
2 ай бұрын
เป็นเรื่องปกติเวลาที่เราอยู่กับโลก และอยู่กับคนทั่วไปที่ไม่ได้ปฏิบัติ ส่วนมากต่างคนก็ทำตามใจตัวเอง จะแสดงกายกรรม วจีกรรมมโนกรรม ด้วยกามตัณหาและกิเลสที่พาพูดพาทำ ⭐️คราวนี้เวลาเราฝึกจิตและปฎิบัติธรรมอยู่เรื่อยๆๆ เราต้องหมั่นทำรูปแบบให้สติ สมาธิ ปัญญา เข้มแข็ง แล้วสามารถให้จิตนั้นตั้งมั่นรู้ทันอารมณ์ มาใช้ในชีวิตประจำวัน พอกระทบแล้วได้ดั่งใจ ไม่ได้ดั่งใจ เราต้องหันมาดูใจที่มีปฏิกิริยาต่อการกระทบนั้น เช่น ชอบ ไม่ชอบ หรือมีอกุศล หรือกุศลต่อการกระทบนั้น แล้วก็ตั้งมั่นแยกแล้วก็โยนิโสมนสิการดูไตรลักษณ์ของความคิด จิตจะสลัดวางอารมณ์ แต่เราจะมีเหตุผลในการที่จะที่จะดำรงชีวิตอยู่ต่อวัตถุที่อยู่ข้างหน้า หรือมีเหตผลอยู่กับโลก แล้วก็จะมีเมตตากับเขา ไม่เอาอารมณ์หรือใจตนเป็นที่ตั้ง หรือไม่สร้างทุกข์ให้กับตัวเองทีหลัง เมื่อฝึกบ่อยๆจนจิตเป็นกลางแล้วเนี่ย จะเห็นโลกอย่างที่โลกเป็น โดยไม่จมไปกับโลก แต่จะมีเหตุผลในการสื่อสารและพูดคุย โดยไม่ใช้อารมณ์เป็นที่ตั้งครับ ✅อันดับเริ่มแรกเลย หากกำลังของจิตเรายังไม่ดี สิ่งแรกที่ควรระวังก็คือพยามมีสติรู้ทันใจ และเราก็รักษาศีลตรงที่วัตถุมาทำให้เรายินดียินร้ายอยู่ข้างหน้า รักษาศีล และระวังสำรวมกายกรรม วจีกรรม และมโนกรรมไว้ก่อน เพื่อไม่ให้มีปัญหากับคนอื่น 👉ที่เราทุกข์เพราะเราอยากให้ทุกอย่างเป็นอย่างที่เราต้องการนะครับ แต่ถ้าเรารู้ทันระวางได้เราก็เป็นอิสระจากความยึดมั่นถือมั่น และความยินดียินร้านจะเบาลง หมั่นฝึกทำรูปแบบให้ได้ทุกวันนะครับ ช่วยได้มากเลย จิตจะได้มีแรงและกำลัง รู้ทันใจแล้ววาง ความยินดียินร้าย และอารมณ์ได้ครับ อนุโมทนากับคำถามครับ
ต้องเป็นความรู้สึกตัวทั่วสรรพภางกายนะ
ท่านอธิบายพระธรรมได้แจ่มแจ้งยิ่งนัก🙏🙏🙏😊
ตอนที่เรามีอาการเจ็บปวด จิตของเราอยู่ตรงไหนคะ อยู่ตรงลมหายใจหรือว่าอยู่ตรงที่ปวดคะ
@TrisikkhaMeditationCenter
4 ай бұрын
หากเรายังสติไม่ดี เราจะควบคุมจิตไม่ได้ เราต้องหมั่นฝึกสติให้รู้ทันอารมณ์ หากจิตไหลไปหาความเจ็บ ไหลไปหาความคิด ให้รู้ทัน แล้วก็หมั่นกลับมาที่กรรมฐานหรือวิหารธรรมก่อน หมั่นฝึกรู้ทันจิตที่ไหลจิตที่เพ่ง ให้บ่อยขึ้น แล้วจิตรู้จะจำกรรมฐานได้ แล้วต่อไปถ้าเจ็บหรือกังวลหรือซึมเศร้า จิตจะตั้งมั่นในฐาน แยกออกจากอารมณ์ จะมีอารมณ์ที่ ถูกรู้ กับ ผู้รู้ จะไม่มีเราในทุกข์ แล้วจิตจะสลัดความทุกข์ที่มาจากความเจ็บ และอาการซึมเศร้าก็จะค่อยๆจางลง สติและปัญญาจะคุ้มครองให้จิตไม่จมกับความกังวลความเครียดและความซึมเศร้า ฝึกให้มากให้บ่อย พยายามรู้ทันจิตที่ไหลให้มากให้บ่อย แล้วจิตจะตื่นออกจากอารมณ์ ต่อไปจิตจะสลัดวางอารมณ์ด้วยตัวเองนะครับ อยากให้คุณฝึกสติปัฏฐานก่อน หากรรมฐานขึ้นมากองนึง แล้วก็หมั่นระลึกลงจิตที่ไหลออกไป หรือจิตที่เพ่งเอาไว้ รู้ให้บ่อย รู้ให้มาก แล้วหมั่นกลับมาที่วิหารธรรม ความเพียรจะเป็นเหตุให้จิตจำอารมณ์ได้ แล้วต่อไปสติกับสัมปชัญญะมันจะคุ้มครองจิตไม่ให้จมกับอารมณ์ ต่อไปเราจะวางอารมณ์ได้ อนุโมทนากับคำถามนะครับ ขอให้เจริญเจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไป ขอให้พระธรรมที่พระศาสดาตรัสรู้แล้วจงเป็นแสงสว่างนำพาจิตของคุณให้หลุดพ้นจากกองทุกข์ทั้งปวงด้วยเทอญ ปล ไม่ควรเอาจิตไว้ที่ความปวด หากจิตไหลที่ความปวด ให้รู้ทันแล้วก็กลับมาที่กรรมฐานหรือวิหารธรรมนะครับทำให้มาก ทำให้บ่อย แล้วจิตจะตื่นแล้วก็วางอารมณ์เอง
@user-tc3cp2er5e
4 ай бұрын
@@TrisikkhaMeditationCenter สาธุสาธุสาธุ🙏🙏🙏😇ขอบพระคุณอย่างสูงค่ะ
@suppasateplodkaew7246
4 ай бұрын
สาธุขอรับ
@user-tc3cp2er5e
4 ай бұрын
สาธุ🙏🙏🙏😇
@user-tc3cp2er5e
4 ай бұрын
@@TrisikkhaMeditationCenter ขอบคุณ🙏💕นะคะ🙏🙏🙏😇
พรหมได้ณาน
เคยได้ยินบ่อยๆ แต่พอมีคนมาพูดไม่ดี ทำไม่ดี อารมขึ้นทันที เหนื่อยจะแก้ไขละ ถ้าไม่บวกกันคนละข้างมันก้อไม่ทำกับเราเรื่อยๆคนพวกนี้ต้องบวกลูกเดียว
เมื่อสิ่งนี้มี สิ่งนี้ย่อมมี เพราะการเกิดขึ้นแห่งสิ่งนี้ สิ่งนี้จึงเกิดขึ้น เมื่อสิ่งนี้ไม่มี สิ่งนี้ย่อมไม่มี เพราะการดับไปแห่งสิ่งนี้ สิ่งนี้จึงดับไป นี้เป็นพุทธวจน
เวลานั่งผมรู้ตัว ว่าผมกำลังนั่ง ผมดูท้องที่กำลังผอง ท้องยุบ จิตเป็นสมาธิบ้าง นิ้งบางไม่มนิ่งบาง หลังๆเวลานั่งผม พอดูท้องผองยุบ จิตมันก็ดันไปจับลมหายใจ พอเอากลับมาที่ท้อง แซปเดียวก็ไปที่ลมใจอีก คราวนี้ผมก็ตามดูมันจะ ไปที่ท้อง หรือลมหายใจเข้าออกผมก็รู้ทัน เวลามี อะไรมากระทบ ทางหู ตา จมูก ลิ้น กาย ใจ ได้ยินเสียง จิต เกิด ที่หู ก็นึกถึงหูตังเอง แล้วกำหนด เสียงหนอ เสียงหนอ กระทบตงไหนตามไป กำหนดที่นั้น บางทีมาพร้อมกันหลายอย่างกหนดไม่ทัน ก็ย้ายไปที่ลิ้นปี่หายใจยาวๆ แล้ววงกำหนด รู้หนอ รูเหนอ อยู่อย่างนั้น สถานการณ์คลี่คลาย ก็กับ มาดู ท้อง พองยุบ ดูลมหายใจ ส่วนอาการ เจ็บ ปวดทางกาย เวลาปวดหรืออะไร ผมก็เข้าใจพิจารณาได้ กายมันใช่ของเรา มันปวดของมันเอง เดียวมันก็หาบของมันเอง มันเป็นธรรมชาติของกายสังขาร กายมันเกิดมาจากการผสมหสารหลอมรวมกันของ ธาตุดิน น้ำ ลมไฟ พอพิจารณาได้แบบนึ้ อาการทางกายทั้งหลาย จิตผมก็เข้าใจ "การปฏิบัติของผม รบกวนท่านช่วยแนะนำ เพิ่มเติ่ม ไห้ผมด้วย แก้ไข ปรับเปลี่ยนตรงไหน กรุณาชี้แนะด้วยคับ ขอบคุณคับ ท่านเป็นคนแรกที่ผมขอคำปรึกษา ตับ
@TrisikkhaMeditationCenter
3 ай бұрын
เวลาปฏิบัตินั้นเราก็ควรเลือกเอากรรมฐานใดซักอย่างนะครับ หากเราใช้พองหนอยุบหนอ แล้วก็ให้รู้สึกตัวไปด้วย ให้เห็นกายนั่งไปด้วย จะได้ไม่เพ่งที่บริกรรมอย่างเดียว เราจะได้มีสติไปด้วย แต่เมื่อไหร่ที่จิตไปดูลมหายใจ ก็ให้รู้ทันแล้วก็กลับมาเห็นท้องพองทองยุบ ก็เห็นกายไปด้วย มันจะไปกี่ครั้งก็เรื่องของมัน หน้าที่ของเราก็รู้ทันแล้วก็กลับมาที่วิหารธรรม ซึ่งก็คือท้องพองทองยุบแล้วก็รู้สึกตัวไปด้วย เพี้ยรแบบนี้ให้มากให้บ่อย แล้วจิตมันจะตื่นขึ้นมาเองครับ พอจิตมันตื่นแล้วเนี่ย แล้วก็นำจิตมาแยกกายแยกใจหรือแยกรูปแยกนามครับ ของคุณก็ทำใช้ได้แล้วนะครับ เราเริ่มเห็นกาย เห็นใจ หรือตรงที่คุณเห็นการกระทบที่อายตนะทั้งหก พอรู้ทันการกระทบก็เป็นการแยกรูปแยกนามวิธีหนึ่งเช่นกัน แต่คราวนี้เวลาที่เราแยกเนี่ย เราจะสังเกตจิตจะอยู่ที่ฐานกายที่ท้องพองท้องยุบ เวลาที่อายตนะภายในกระทบภายนอก ให้จิตตั้งมั่นรู้ทันการกระทบโดยไม่ไหลไปหาการกระทบ พอกระทบที่ปัญจทวาร แล้วเห็นความคิดเลื้อยขึ้นมา ก็ให้ตั้งมั่นดูสิความคิดสอนอะไรในมุมของไตรลักษณ์ เห็นไหม อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ตรงที่เห็นไตรลักษณ์เนี่ย คือการเดินปัญญาแล้วครับ พอมาแยกรูปแยกนามเนี่ย ก็จะจะเห็นกายอยู่ส่วนนึง ใจอยู่ส่วนนึง จิตก็จะอยู่ที่ฐานรับรู้กายและใจที่ทำงาน ตรงที่เรามานั่งพิจารณากายเป็นดินน้ำลมไฟนี้ยังไม่เข้าเป็นวิปัสสนา แต่เป็นสมาธิเพื่อจะไปเห็นธาตุ ไปพิจารณาเอาไปคิดเอา แต่พอขึ้นวิปัสสนาก็เห็นรูปมันทำงาน เห็นมันเดินนั่งนอนพูดคุยทำดื่ม เห็นรูปในมุมของอิริยาบถ หรือเห็นรูปในลมหายใจก็ได้ นี่คือการทำงานของรูป ส่วนการทำงานของนามก็คือเจตสิกสามขันธ์ เวลาที่เวทนาสัญญาสังขารทำงาน ให้สังเกตจิตอยู่ที่ฐานไหม แล้วเห็นไหมว่าเค้า เกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วดับไป เวลากระทบที่รูป เป็นเหตุให้ความความคิดหรือนามกระเทือนขึ้นมา แล้วตั้งมั่นดูความคิด เราก็เรียนรู้ด้วยปัญญาในการเห็นไตรลักษณ์ของความคิด ทำแบบนี้ให้บ่อย เห็นกระทบกระเทือนทางใจดูความคิด จะทำให้ตัณหาไม่สามารถควบคุมให้ตัวตนและอุปทานเกิดขึ้นได้ ทำให้ภพหรือการทำกรรมถูกชะลอด้วยปัญญา แล้วต่อไปชีวิตเราจะค่อยๆเปลี่ยนขึ้น จะสำรวมกายกรรมวจีกรรมมโนกรรมมากขึ้น กิเลสจะถูกรู้และถูกละมากขึ้น ลองฝึกดูนะครับขอให้เจริญในธรรมครับหากมีคำถามอะไรก็ถามมาได้นะครับ
ນ້ອມກາບໂອວາທທັມຄຳສອນທີ່່ແສນປະເສີດ🙇♀️🙇♀️🙇♀️🌷🙏🙏🙏🌷🌹💐🌹💐🌹💐
กำหนดจิตไปไว้ตรงไหนตรงนั้นเห็นชัด
เลิกทดสอบทดลองก่อน จุดประสงค์แค่เกิดเป็นมนุษย์เท่านั้น(คุณทำเพื่ออะไร)ตาบูรู้ตะคิด.
3ภพ31ภูมิเทวามึหิรืโอตตัปปะ
มนษย์โรงงานผลิตคน
สาธุค่ะ
🙏🙏🙏
กราบนอบน้อมขอบพระคุณท่านอาจารย์วิลลี่เป็นอย่างสูงในความเมตตาอันหาที่ประมาณมิได้ครับผม
สาธุค่ะ
🙏🙏🙏
🙏🙏🙏
❤🕯🕯🕯🕯🕯🕯🕯🕯🕯🕯🕯🕯🕯🕯🕯🕯🕯🕯🕯🕯🕯🕯🕯🕯🕯🕯🕯🕯🕯🕯🕯🕯🕯🕯🕯🕯🕯🕯🕯🌈🌞✨☁🙏🙏🙏☁✨🌛🌈บุญต่อบุญสาธุๆ