การเปิดใช้งานใบปัดน้ำฝนอย่างสม่ำเสมอ เป็นเรื่องที่จำเป็นสำหรับการขับรถบนท้องถนน เพราะนอกจากจะช่วยปาดน้ำฝน ฝุ่นละออง โคลน แมลง และสิ่งสกปรกต่างๆ ที่อยู่บนผิวของกระจกรถยนต์ให้สะอาดแล้ว ยังช่วยให้ยางปัดน้ำฝนคงสภาพการใช้งาน ไม่แข็งกระด้างก่อนเวลาอันควรอีกด้วย
ปัดน้ำฝนแล้วเสียงดัง เกิดจากอะไรได้บ้าง
1.สิ่งสกปรกติดอยู่บริเวณกระจกหน้ารถ
เบื้องต้นให้สังเกตที่กระจกหน้ารถดูก่อนว่ามีคราบแมลง คราบยางไม้ หรือคราบยางมะตอย ติดอยู่หรือไม่ หากพบคราบเหล่านี้แนะนำให้ขจัดคราบด้วยผ้าหรือกระดาษทิชชู่ก่อน แล้วค่อยใช้ที่ปัดน้ำฝนทำความสะอาดตามอีกครั้ง หากกระจกสะอาด แต่ปัดแล้วยังมีเสียงดัง อาจเกิดจากสาเหตุอื่นได้
2.ยางปัดน้ำฝนเสื่อมสภาพ
โดยทั่วไปอายุการใช้งานของใบปัดน้ำฝนจะมีประสิทธิภาพที่ใช้งานได้ดี อยู่ที่ประมาณ 12 เดือน หรือ 1 ปี แต่การจอดรถตากแดดเป็นประจำ อาจทำให้ยางปัดน้ำฝนเสื่อมสภาพเร็วขึ้น เพราะความร้อนจากแสงแดดที่ส่องลงมาสะสมอยู่ในกระจกรถยนต์ จะทำให้ยางปัดน้ำฝน กรอบ เสียความยืดหยุ่น และเสื่อมคุณภาพลงเรื่อยๆ หากพบว่ายางปัดน้ำฝนเสื่อมสภาพ แนะนำว่าควรเปลี่ยนใบปัดน้ำฝนใหม่ทันที
3.ก้านปัดน้ำฝนเสื่อมสภาพ
การยกก้านปัดน้ำฝนขึ้นขณะจอดรถตากแดด อาจทำให้สปริงของก้านปัดน้ำฝนเกิดการล้าตัว เพราะถูกดึงให้ยืดออกเป็นเวลานาน ซึ่งจะทำให้สปริงมีแรงดึงลดลงจนไม่เพียงพอที่จะกดก้านปัดน้ำฝน เมื่อขับรถเร็วๆ จะทำให้การปัดทำความสะอาดของใบปัดน้ำฝนทำงานได้ไม่ดีเพียงพอ และส่งผลต่อการมองเห็นทัศนวิสัยบนถนนได้ไม่ชัดเจน
4.เลือกใช้ใบปัดน้ำฝนที่ไม่เหมาะสมกับรถยนต์
การเลือกใช้ใบปัดน้ำฝน ควรเลือกขนาดที่เหมาะสมกับกระจกรถยนต์ ไม่ควรมีขนาดที่สั้นหรือยาวจนเกินไป และควรเลือกประเภทโครงสร้างของใบปัดน้ำฝนให้โค้งรับกับกระจกรถยนต์ เพื่อช่วยให้มีแรงกดที่เพียงพอในการปัดทำความสะอาด
#ปัดน้ำฝนแล้วเสียงดังเกิดจากอะไรได้บ้าง
#AISIN #AISINThailand #WeTouchTheFuture
#อะไหล่ #อะไหล่รถยนต์ #สินค้าคุณภาพ
#มโนยนต์ #มโนยนต์ชัย
#Manoyontchai #ManoyontGroup
ขอบคุณข้อมูลจาก : Aisin Aftermarket Thailand