พุทธศาสตร์กับไสยศาตร์นี่คนพูดกันบ่อยๆ แล้วคนที่มีการศึกษาน้อยไม่เข้าใจหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า ก็มักจะพูดว่า
“พุทธศาสตร์กับไสยศาสตร์ต้องอยู่ร่วมกัน จึงจะเป็นไปได้” นั่น “เป็นคำพูดของคนปัญญาอ่อน” ในทางพุทธศาสตร์
ไม่เข้าใจหลักธรรมในทางพระพุทธศาสนา นึกว่าพระพุทธศาสนาเป็นของเปราะง่าย แตกง่าย ต้องอาศัยไสยศาสตร์เป็นเครื่องช่วย
แล้วบางทีก็พูดว่า “ไสยศาสตร์เป็นเปลือก พระพุทธศาสนาเป็นเนื้อ”
ผลไม้ต้องมีเปลือก ถ้าไม่มีเปลือกเนื้ออยู่ไม่ได้ อย่าไปเปรียบเทียบอย่างนั้น
ธรรมดาผลไม้มันก็ต้องมีเปลือก มังคุดก็ต้องมีเปลือก ทุเรียนก็ต้องมีเปลือก
ลางสาดก็มีเปลือกส้มก็มีเปลือกทั้งนั้น
แต่ว่า "เราไม่ได้กินเปลือกผลไม้ เรากินเนื้อในของผลไม้"
เปลือกเป็นแต่เพียงสิ่งห่อหุ้มให้ผลไม้นั้นอยู่ได้เท่านั้นเอง
อย่าเอามาเปรียบกับพุทธศาสตร์ ไสยศาสตร์ไม่ได้
พระพุทธศาสนาไม่ต้องอาศัยไสยศาสตร์ก็อยู่ได้
แต่ว่าไสยศาสตร์นั่นแหละ!
เข้ามาแอบอยู่ในพุทธศาสนา มาแอบอยู่ในหมู่นักบวช
นักบวชที่ไม่รักพระพุทธเจ้า
ไม่เข้าใจคำสอนของพระพุทธเจ้าถูกต้อง
นักบวชที่เห็นแก่ลาภสักการะ อันจะได้รับจากความโง่ของประชาชน
ก็เลยทำกิจไสยศาสตร์ ดึงคนเข้ามาหา แล้วก็ล่วงกระเป๋าเรื่อยไป อย่างนี้มันไม่ถูกต้อง
เราจึงควรจะได้ทำความเข้าใจ ในคำสองคำนี้ให้มันชัดเจนเสียหน่อย.
- หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ -
วัดชลประทานรังสฤษดิ์ จ.นนทบุรี
-------------------------------------------------------------------------
ติดตามช่อง ธรรมะ ก่อนนอน เพิ่มเติมที่
เฟสบุ๊ค: เพจ ธรรมะ ก่อนนอน
/ dhammaatnight