ชุด ปัญหาแห่งมนุษยภาพ shorturl.asia/U5CaXเรื่อง การบำเพ็ญบารมีที่ถูกแนวทาง พระธรรมโกศาจารย์ (พุทธทาสภิกขุ)
กราบสาธุฯครับผม
พระธรรมเทศนานี้ บ่งชี้ว่า "การบำเพ็ญบารมี" ที่ถูกต้องนั้นพึงดำเนินตามแนวทางแห่ง "พระโพธิสัตว์" คือ (๑) การบำเพ็ญ "ทานบารมี" โดยไม่ปรารถนาผลตอบแทนใดๆทั้งสิ้น , (๒) การรักษา "ศีลบารมี" โดยมีจิตเมตตาไม่เห็นแก่ตัวและไม่เบียดเบียนด้วยประการทั้งปวง , (๓) การที่ "จิต" มี "สติและสัมปชัญญะ" คือ "ความระลึกและรู้แจ้งอารมณ์" เกิด "สมาธิ" ตั้งมั่นใน "เนกขัมมะบารมี" เพื่อหลีกออกจาก "กามารมณ์" หรือ "กามคุณ ๕" (รูป เสียง กลิ่น รส และสิ่งสัมผัสทางกาย) ทั้งปวง , (๔) การบำเพ็ญ "ปัญญาบารมี" ให้ "เห็นแจ้ง" ใน "กองทุกข์" คือ การเวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏสงสารตามกฎแห่งธรรมชาติ เพื่อความหลุดพ้นจากกองทุกข์ทั้งปวง , (๕) การบำเพ็ญ "สัจจะบารมี" โดยการรักษา "ความจริง" คือ ความถูกต้องที่แท้จริงตามกฎแห่งธรรมชาติ , (๖) การบำเพ็ญ "วิริยะบารมี" คือ มีความกล้าหาญ บากบั่น พากเพียร เพื่อการพัฒนาหน้าที่การงานของตนเองพร้อมกับสร้างสรรค์สังคมทุกระดับให้ตั้งมั่นอยู่ใน "คุณธรรม" โดยถ้วนทั่ว อันเป็น "หน้าที่" ของมนุษย์ตามคำกล่่าวที่ว่า "หน้าที่คือธรรมะ" , (๗) การบำเพ็ญ "ขันติบารมี" คือ มีความอดทนและอดกลั้นทั้งทางใจและทางกายต่อ "กิเลสและตัณหา" คือ โลภะ โทสะ โมหะ และ ความทะยานอยากทั้งปวงที่เกิดมีขึ้นในทุกลักษณะ , (๘) การบำเพ็ญ "อธิฐานบารมี" คือ การตั้ง "วัตถุประสงค์" ใน "กุศลธรรม" ให้หนักแน่นมั่นคงเพื่อมิให้ "กิเลสและตัณหา" ชักพาจิตโน้มเอียงไปในทางที่ผิด , (๙) การบำเพ็ญ "เมตตาบารมี" คือ การบำเพ็ญ "จิต" ให้มี "ความเป็นมิตร" ต่อมนุษย์และสรรพสัตว์สรรพสิ่งทั้งปวงตลอดเวลาโดยการให้อภัยและให้ความช่วยเหลือเกื้อกูลตามกำลังความสามารถอย่างไม่มีขอบเขตจำกัดหรือโดยไม่มีประมาณและไม่ปรารถนาผลตอบแทนใดๆทั้งสิ้น , (๑๐) การบำเพ็ญ "อุเบกขาบารมี" คือ การตั้งจิตให้ "วางเฉยเป็นปกติ" อันเกิดจาก "ความเห็นแจ้งตามความเป็นจริง" ใน ศีล สมาธิ ปัญญา ซึ่งเป็น "จิตตั้งมั่น" ใน "ความเป็นกลางอย่างมีเหตุผล" ต่ามกฎแห่งธรรมชาติทุกประการ.
น้อมกราบสาธุสาธุสาธเจ้าค่ะ สวดบารมีสิบทัศจบแล้วพระพุทธเจ้าค่ะ พร้อมทั้งแผ่เมตา
กราบสาธุ ขอรับ
1ทานบารมี จิตท๊่คิดจะให้สบายกว่าจิตที่คิดจะเอา ช่วยลดการเห็นแก่ตัวลง 2ศีลบารมีคือทำอะไรอยู่ในความมีระเบียบ ภายนอกกระทบคนอื่น ภายในกระทบใจตนเอง ศีลให้ครอบคลุมไปถึงสิ่งที่ทำไม่ดี ต้องให้ได้บุญมากกว่าบาป การละอายต่อสิ่งที่ทำลงไป 3เนกขัมมะบารมี หลีกออกมาจากการเป็นทาสของกามารมณ์ ไม่ไปลุ่มหลงไม่เป็นทาสของกามารมณ์ 4ปัญญาบารมี รู้จักทำอะไรให้ถูกต้องที่นี่เดี๋ยวนี้ในสิ่งที่ควรจะรู้(รู้ทุกข์สาเหตุของการเกิดทุกข์)รู้ได้ด้วยจิตใจของตนเอง เพื่อความเป็นสุขของตนเองและผู้อื่น 5สัจจะบารมี จริงต่อธรรมในการเป็นมนุษย์ จริงต่อตนเอง หน้าที่การงาน ต่อผู้อื่น 6วิริยะบารมี ความกล้าหาญเข้มแข็งพากเพียร เพื่อผลิตสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อตนเองและผู้อื่น ทำด้วยหน้าที่ของความเป็นมนุษย์ มีความสุขสนุกพอใจเมื่อได้ทำงาน 7ขันติบารมี อดทนทางกายทางจิต อดทนต่อกิเลสที่มาบีบคั้นเช่นการสูบบุหรี่ อย่าเห็นเป็นเรื่องเสียเปรียบแต่เป็นการเอาชนะกิเลสได้ด้วยความอดทน อดทนในสังคมที่ต้องมีการกระทบกระทั่งกัน ให้รู้สึกเป็นสุขสนุกสนานเมื่อต้องอดทน ต้องรอได้ อดทนเป็นพื้นฐานการบรรลุมรรคผลนิพพาน 8อธิษฐานบารมี ปักใจมั่นทำให้ดีที่สุด 9เมตตาบารมี ความเป็นมิตร ความรักโดยธรรมด้วยจิตล้วนๆ ไม่มีกิเลสมาเกี่ยวข้อง ความรักที่มีกิเลสเป็นกามารมณ์ 10อุเบกขาบารมี เมื่อเห็นจริงว่าเป็นเช่นนั้นจริง ธรรมเข้ารูปมันเฉยเอง อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
อาศัยสัญญาณจิตงอกงามให้เต็มความสามารถทำความดีให้ถึงที่สุดต้องได้สิ่งที่ดีที่สุดที่จะได้ตามความต้องการตามธรรมชาติโดยเจตนาตามสัญญาณอคนลึกลับ..กราบสาธุ..เจ้าค่ะ
จิตที่คิดจะให้สบายกว่าจิตที่คิดจะเอา สาธุค่ะ
บารมีแปลว่าการบำเพ็ญบารมีของทุกระดับชีวิตการเป็นมนุษย์ให้เต็ม ในทางโลก(โลกียะ)จะให้ผลก่อน โลกุตตระจะให้ผลทีหลัง สรุปทุกคนต้องบำเพ็ญบารมี จิตทุกคนมีเชื้อพุทธะอยู่ บารมีเป็นปัจจัยอันดับที่5คู่กับกาย(ปัจจัย4)
น้อมกราบบูชาคุณท่านพุทธทาส สาธุเจ้าค่ะ
สาธุ
🙏🏻🙏🏻🙏🏻
คนเราเมี่อรู้เห็นตัวเองก็บ่อดูทีอึนท้าบ่อรู้เห็นเจ้าของก็อยากดูทีไม่ไช้ตัวเราท้าดูต้องรู้เอง
25 ธ.ค.66 วัย 69 ได้ฟังบารมีสิบทัศ คือ 1.ทาน 2.ศีล 3.เนกขัมมะ 4.ปัญญา 5.สัจจะ 6.อธิษฐาน 7.วิริยะ 8.ขันติ 9.เมตตา 10.อุเบกขา...สาธุ ๆ ๆ
😂😂 จะพยายามปฏิบัติ บารมี 10 ทัศ เจ้าค่ะ
ขอให้สิ่งหวังไว้ประสบความสำเร็จขอเป็นกำลังใจให้นะค่ะ
มีโฆษณา อย่าดู
🎉🎉🎉🎉 อ่านจบคิดว่าดูโฆษณาทำให้เกิดกิเลส เอ๊ะ รึว่ามีโฆษณาขัดจังหวะ คิดต่อ..ถ้ามีเวลาดูก็ทำให้เกิดอาชีพได้เงินนะคะ..เมตตาบารมีและขันติบารมี..สาธุ
ไม่ทั้ง2 อย่างดูโฆษณาทำให้เราได้รับรู้..นะค่ะ
เราวิเคราะห์เอาเองสิ่งไหนมีประโยชน์ต่อเรา..
ไม่เลยเพราะเขารู้ตอนไหนใช้โฆษณา..
การที่เราจะรู้สึกอยู่กับจิตผู้รู้ทีรู้อยู่กับเราทุกข์วันได้นั้นต้องหยุดคิดก็คือไห้เราทำความรู้สึกตัวเท่านั้นเมื่อทำได้จะรู้เองว่ารู้สึกจังได
Пікірлер: 21
กราบสาธุฯครับผม
พระธรรมเทศนานี้ บ่งชี้ว่า "การบำเพ็ญบารมี" ที่ถูกต้องนั้นพึงดำเนินตามแนวทางแห่ง "พระโพธิสัตว์" คือ (๑) การบำเพ็ญ "ทานบารมี" โดยไม่ปรารถนาผลตอบแทนใดๆทั้งสิ้น , (๒) การรักษา "ศีลบารมี" โดยมีจิตเมตตาไม่เห็นแก่ตัวและไม่เบียดเบียนด้วยประการทั้งปวง , (๓) การที่ "จิต" มี "สติและสัมปชัญญะ" คือ "ความระลึกและรู้แจ้งอารมณ์" เกิด "สมาธิ" ตั้งมั่นใน "เนกขัมมะบารมี" เพื่อหลีกออกจาก "กามารมณ์" หรือ "กามคุณ ๕" (รูป เสียง กลิ่น รส และสิ่งสัมผัสทางกาย) ทั้งปวง , (๔) การบำเพ็ญ "ปัญญาบารมี" ให้ "เห็นแจ้ง" ใน "กองทุกข์" คือ การเวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏสงสารตามกฎแห่งธรรมชาติ เพื่อความหลุดพ้นจากกองทุกข์ทั้งปวง , (๕) การบำเพ็ญ "สัจจะบารมี" โดยการรักษา "ความจริง" คือ ความถูกต้องที่แท้จริงตามกฎแห่งธรรมชาติ , (๖) การบำเพ็ญ "วิริยะบารมี" คือ มีความกล้าหาญ บากบั่น พากเพียร เพื่อการพัฒนาหน้าที่การงานของตนเองพร้อมกับสร้างสรรค์สังคมทุกระดับให้ตั้งมั่นอยู่ใน "คุณธรรม" โดยถ้วนทั่ว อันเป็น "หน้าที่" ของมนุษย์ตามคำกล่่าวที่ว่า "หน้าที่คือธรรมะ" , (๗) การบำเพ็ญ "ขันติบารมี" คือ มีความอดทนและอดกลั้นทั้งทางใจและทางกายต่อ "กิเลสและตัณหา" คือ โลภะ โทสะ โมหะ และ ความทะยานอยากทั้งปวงที่เกิดมีขึ้นในทุกลักษณะ , (๘) การบำเพ็ญ "อธิฐานบารมี" คือ การตั้ง "วัตถุประสงค์" ใน "กุศลธรรม" ให้หนักแน่นมั่นคงเพื่อมิให้ "กิเลสและตัณหา" ชักพาจิตโน้มเอียงไปในทางที่ผิด , (๙) การบำเพ็ญ "เมตตาบารมี" คือ การบำเพ็ญ "จิต" ให้มี "ความเป็นมิตร" ต่อมนุษย์และสรรพสัตว์สรรพสิ่งทั้งปวงตลอดเวลาโดยการให้อภัยและให้ความช่วยเหลือเกื้อกูลตามกำลังความสามารถอย่างไม่มีขอบเขตจำกัดหรือโดยไม่มีประมาณและไม่ปรารถนาผลตอบแทนใดๆทั้งสิ้น , (๑๐) การบำเพ็ญ "อุเบกขาบารมี" คือ การตั้งจิตให้ "วางเฉยเป็นปกติ" อันเกิดจาก "ความเห็นแจ้งตามความเป็นจริง" ใน ศีล สมาธิ ปัญญา ซึ่งเป็น "จิตตั้งมั่น" ใน "ความเป็นกลางอย่างมีเหตุผล" ต่ามกฎแห่งธรรมชาติทุกประการ.
น้อมกราบสาธุสาธุสาธเจ้าค่ะ สวดบารมีสิบทัศจบแล้วพระพุทธเจ้าค่ะ พร้อมทั้งแผ่เมตา
กราบสาธุ ขอรับ
1ทานบารมี จิตท๊่คิดจะให้สบายกว่าจิตที่คิดจะเอา ช่วยลดการเห็นแก่ตัวลง 2ศีลบารมีคือทำอะไรอยู่ในความมีระเบียบ ภายนอกกระทบคนอื่น ภายในกระทบใจตนเอง ศีลให้ครอบคลุมไปถึงสิ่งที่ทำไม่ดี ต้องให้ได้บุญมากกว่าบาป การละอายต่อสิ่งที่ทำลงไป 3เนกขัมมะบารมี หลีกออกมาจากการเป็นทาสของกามารมณ์ ไม่ไปลุ่มหลงไม่เป็นทาสของกามารมณ์ 4ปัญญาบารมี รู้จักทำอะไรให้ถูกต้องที่นี่เดี๋ยวนี้ในสิ่งที่ควรจะรู้(รู้ทุกข์สาเหตุของการเกิดทุกข์)รู้ได้ด้วยจิตใจของตนเอง เพื่อความเป็นสุขของตนเองและผู้อื่น 5สัจจะบารมี จริงต่อธรรมในการเป็นมนุษย์ จริงต่อตนเอง หน้าที่การงาน ต่อผู้อื่น 6วิริยะบารมี ความกล้าหาญเข้มแข็งพากเพียร เพื่อผลิตสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อตนเองและผู้อื่น ทำด้วยหน้าที่ของความเป็นมนุษย์ มีความสุขสนุกพอใจเมื่อได้ทำงาน 7ขันติบารมี อดทนทางกายทางจิต อดทนต่อกิเลสที่มาบีบคั้นเช่นการสูบบุหรี่ อย่าเห็นเป็นเรื่องเสียเปรียบแต่เป็นการเอาชนะกิเลสได้ด้วยความอดทน อดทนในสังคมที่ต้องมีการกระทบกระทั่งกัน ให้รู้สึกเป็นสุขสนุกสนานเมื่อต้องอดทน ต้องรอได้ อดทนเป็นพื้นฐานการบรรลุมรรคผลนิพพาน 8อธิษฐานบารมี ปักใจมั่นทำให้ดีที่สุด 9เมตตาบารมี ความเป็นมิตร ความรักโดยธรรมด้วยจิตล้วนๆ ไม่มีกิเลสมาเกี่ยวข้อง ความรักที่มีกิเลสเป็นกามารมณ์ 10อุเบกขาบารมี เมื่อเห็นจริงว่าเป็นเช่นนั้นจริง ธรรมเข้ารูปมันเฉยเอง อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
อาศัยสัญญาณจิตงอกงามให้เต็มความสามารถทำความดีให้ถึงที่สุดต้องได้สิ่งที่ดีที่สุดที่จะได้ตามความต้องการตามธรรมชาติโดยเจตนาตามสัญญาณอคนลึกลับ..กราบสาธุ..เจ้าค่ะ
จิตที่คิดจะให้สบายกว่าจิตที่คิดจะเอา สาธุค่ะ
บารมีแปลว่าการบำเพ็ญบารมีของทุกระดับชีวิตการเป็นมนุษย์ให้เต็ม ในทางโลก(โลกียะ)จะให้ผลก่อน โลกุตตระจะให้ผลทีหลัง สรุปทุกคนต้องบำเพ็ญบารมี จิตทุกคนมีเชื้อพุทธะอยู่ บารมีเป็นปัจจัยอันดับที่5คู่กับกาย(ปัจจัย4)
น้อมกราบบูชาคุณท่านพุทธทาส สาธุเจ้าค่ะ
สาธุ
🙏🏻🙏🏻🙏🏻
คนเราเมี่อรู้เห็นตัวเองก็บ่อดูทีอึนท้าบ่อรู้เห็นเจ้าของก็อยากดูทีไม่ไช้ตัวเราท้าดูต้องรู้เอง
25 ธ.ค.66 วัย 69 ได้ฟังบารมีสิบทัศ คือ 1.ทาน 2.ศีล 3.เนกขัมมะ 4.ปัญญา 5.สัจจะ 6.อธิษฐาน 7.วิริยะ 8.ขันติ 9.เมตตา 10.อุเบกขา...สาธุ ๆ ๆ
@nidsajulparpa3527
5 ай бұрын
😂😂 จะพยายามปฏิบัติ บารมี 10 ทัศ เจ้าค่ะ
@user-wb6cf6di4k
Ай бұрын
ขอให้สิ่งหวังไว้ประสบความสำเร็จขอเป็นกำลังใจให้นะค่ะ
มีโฆษณา อย่าดู
@pensineekhumkaew3224
2 ай бұрын
🎉🎉🎉🎉 อ่านจบคิดว่าดูโฆษณาทำให้เกิดกิเลส เอ๊ะ รึว่ามีโฆษณาขัดจังหวะ คิดต่อ..ถ้ามีเวลาดูก็ทำให้เกิดอาชีพได้เงินนะคะ..เมตตาบารมีและขันติบารมี..สาธุ
@user-wb6cf6di4k
Ай бұрын
ไม่ทั้ง2 อย่างดูโฆษณาทำให้เราได้รับรู้..นะค่ะ
@user-wb6cf6di4k
Ай бұрын
เราวิเคราะห์เอาเองสิ่งไหนมีประโยชน์ต่อเรา..
@user-wb6cf6di4k
Ай бұрын
ไม่เลยเพราะเขารู้ตอนไหนใช้โฆษณา..
การที่เราจะรู้สึกอยู่กับจิตผู้รู้ทีรู้อยู่กับเราทุกข์วันได้นั้นต้องหยุดคิดก็คือไห้เราทำความรู้สึกตัวเท่านั้นเมื่อทำได้จะรู้เองว่ารู้สึกจังได