”ธนดล“นำ 4 หน่วยงานลงตรวจไร่“ภูนับดาว” พบใช้พื้นที่ สปก.ผิด กม.กว่า 100 ไร่
วันที่ 29 พ.ค.67 ที่ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี นายธนดล สุวัณนะฤทธิ์
คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ประธานคณะทำงานการขับเคลื่อนการตรวจสอบและพิจารณาความผิดเกี่ยวกับ
ผู้ได้รับการจัดที่ดินและผู้ถือครองที่ดินโดยมิชอบในเขตปฏิรูปที่ดิน
นำกำลังเจ้าหน้าที่ 4 หน่วยงาน ประกอบด้วย ปปท./ ปปง./ บก.ปปป./ ดีเอสไอ.บุกตรวจรีสอร์ทขนาดใหญ่ ชืีอ“ภูนับดาว”ต.หนองย่างเสือ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี เนื้อที่กว่า 100 ไร่มูลค่าหลายร้อยล้านบาท เข้าข่ายกระทำความผิดรุกล้ำที่ ส.ป.ก. 4-01 โดยมี นายกฤษฎา อินทามระ ฉายาทนายปราบโกง ร่วมลงพื้นที่ปฏิบัติการครั้งนี้ด้วย
นายธนดล กล่าวว่า วันนี้เราลงมาตรวจสอบพื้นที่แห่งนี้ โดยมีหน่วยงานของรัฐฯ ประกอบด้วย ปปง.,ปปท, ปปป. และ ดีเอสไอ.
ในเขตปฏิรูปที่ดินโดยใช้กฎหมาย พรบ.ปฏิรูปที่ดิน พ.ศ.2518 มาตรา 23 ได้ร่วมกันตรวจสอบพื้นที่ ไร่ภูนับดาวโดยมี นาย วันชัย ฉิมพลี ซึ่งเป็นผู้ดูแลไร่ภูนับดาวและเป็นผู้อนุญาตนำพาเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบและให้ข้อมูล จากการตรวจสอบพื้นที่พบว่ามีสิ่งปลูกสร้างในที่ดินและมีบางส่วนมีการทำผิดระเบียบและหลักเกณฑ์ของ สปก. โดยการเข้าตรวจสอบในครั้งนี้ไม่ได้ทำให้ทรัพย์สินของไร่ภูนับดาวได้รับความเสียหายแต่อย่างใด และคณะทำงานได้ตรวจพบมีการจดทะเบียนพาณิชบริษัทชื่อว่า บริษัท ภูนับดาว 2021 ที่ตั้ง 345 หมู่ 2 ต.หนองย่างเสือ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี วัตถุประสงค์ประกอบกิจการบริการด้านอาหารในภัตตาคารโดยมีนายทุนใหญ่ อยู่เบื้องหลัง จึงมาแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน หากภายหลังตรวจพบว่ามีการกระทำความผิดทางอาญาก็จะแจ้งความดำเนินคดีต่อไป
ด้านทนายกฤษฎา กล่าวว่า ตนทราบว่าประธานคณะทำงานการขับเคลื่อนการตรวจสอบและพิจารณาความผิดเกี่ยวกับ
ผู้ได้รับการจัดที่ดิน สปก.ลงตรวจพื้นที่ สปก.ในจังหวัดสระบุรี ในวันนี้จึงร่วมเดินทางมาช่วยขยายผลดำเนินการตามกฎหมาย
เห็นความผิดปกติในการใช้ที่ดินตามวัตถุประสงค์สถานที่นี้ไม่ตรงกับวัตถุประสงค์ในการจัดที่ดินเพื่อให้เกษตรกรชาวบ้านยากจนไม่มีที่ทำกิน แต่ปรากฏว่าพบกลายเป็นบุคคลที่เป็นลักษณะกลุ่มนายทุนมาแสวงหาผลปนะโยชน์ลงมายึดครองพื้นที่มากกว่า
ฉะนั้นเห็นว่าการทำงานของคณะทำงานฯ ในวันนี้เป็นสิ่งที่ดี นอกจากนั้นยังเห็นว่ามีการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่ ซึ่งน่าจะนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อรัฐมากกว่าที่ไปรื้อทุบทิ้งทำลาย
///
ตรวจสอบรีสอร์ทสุดหรูรุกป่าหลายร้อยไร่ ขรก.ระดับสูงมีเอี่ยวโดยเจ้าหน้าที่ทั้ง 4 หน่วยงาน ได้เข้าตรวจสอบรีสอร์ทภูนับดาว ลักษณะพื้นที่อยู่บน ที่ราบยอดเขาทั้งลูก เนื้อที่ประมาณ100ไร่ มีการแบ่งพื้นที่เป็น2โซน//โซนแรก เป็นฟาร์มโคนม อีกโซน เป็นพื้นที่รีสอร์ท โดยเฉพาะรีสอร์ท วิวสวยงามสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ได้ทั้ง 2 ฝั่ง เพราะอยู่บนที่ราบยอดเขา มีอาคารหลัก4-5 หลัง เช่น อาคารเลี้ยงโคนมขนาดใหญ่ ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ห้องพัก มีเจ้าของรีสอร์ทพาไปดูนอกจากนี้ รีสอร์ทดังกล่าว ยังมีการเปิดเป็นบริษัทภูนับดาว ทุนจดทะเบียนกว่า 1 ล้านบาท อีกด้วย
หลังการตรวจสอบรีสอร์ทเสร็จสิ้น นายธนดล กล่าวว่า แต่เดิมพื้นที่ดังกล่าวเป็นสวนป่า กรมป่าไม้ได้เข้ามาตรวจสอบตั้งแต่ช่วงปี2519-2521 พบเป็นป่าสมบูรณ์และไม่สามารถออก สปก.ได้ กระทั่งเมื่อช่วงปี 2557 เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบการทำประโยชนในที่ดิน และได้ดำเนินคดีผู้บุกรุก คือ นายวันชัย ฉิมพลี ผู้ที่รับอ้างว่าเป็นผู้ดูแลรีสอร์ทภูนับดาวและเป็นเจ้าของพื้นที่ ศาลสั่งพิพากษามีความผิดให้รอลงอาญาเมื่อปี 2559
นายธนดล ตั้งคำถามว่า พื้นที่ป่าไม่มีทางออกเอกสารสิทธิ์ครอบครองได้ อีกทั้งเจ้าหน้าที่สปก.สระบุรี ใช้หลักเกณฑ์อะไรในการพิจารณาเจ้าของรีสอร์ทผู้ครอบครองแห่งนี้ ว่า มีคุณสมบัติครบถ้วน ตามหลักเกณฑ์ผู้ที่ได้รับการจัดสรรที่สปก.หรือไม่ เพราะในพื้นที่ดังกล่าว นอกจากทำฟาร์มโคนม ยังมีการก่อสร้างอาคารต่างๆอีกมากมาย ซึ่งไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับการทำเกษตร
นายธนดลยังกล่าวอีกว่า เมื่อตรวจสอบเชิงลึก พบว่า ผู้ครอบครองที่สปก.โซนนี้เกือบทั้งหมด เป็นนักธุรกิจ ข้าราชการระดับสูง โดยเฉพาะรีสอร์ทภูนับดาวแห่งนี้ ทราบมาว่า มีนักธุรกิจเจ้าของบริษัทด้านการเงินชื่อดัง(เงินติดล้อ) เป็นผู้ครอบครอง และลงทุนก่อสร้างอาคารปรับพื้นที่เป็นทั้งรีสอร์ท ร้านอาหาร รวมไปถึงยังตั้งบริษัท ถ้ายึดตามกฎหมาย การใช้ประโยชน์ในที่ สปก.ผิดวัตถุประสงค์ จะไม่สามารถทำอะไรแบบนี้ได้ และอาจเข้าข่ายความผิดมูลฐานการฟอกเงินอีกด้วย ยืนยันว่า จะตรวจสอบให้ถึงที่สุดหาก พบข้าราชการเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง ก็จะดำเนินคดีโดยไม่ละเว้น เบื้องต้นทราบมาว่าเป็นข้าราชการระดับสูงสังกัดกระทรวงมหาดไทย
ขณะที่นายวันชัย ฉิมพลี ที่อ้างว่าดูแลรีสอร์ทภูนับดาวและที่สปก. บอกว่า ตนเอง ได้รับที่ดินมาจากผู้ใหญ่คนหนึ่ง เมื่อหลายปีก่อน จนเมื่อสปก.ประกาศจัดสรรพื้นที่ สปก.ผู้ใหญ่คนนี้ ก็แบ่งพื้นที่มาให้ตนเอง จึงเปิดฟาร์มโคนม จากนั้นเมื่อปี 2558 เมื่อตนเองถูกดำเนินคดีข้อหาบุกรุกแผ้วถางสวนป่า เนื่องจากใช้พื้นที่ผิดวัตถุประสงค์และผิดประเภท ศาลพิพากษาปี59 ให้รอลงอาญา 2 ปี และมีคำสั่งให้ออกจากพื้นที่แต่ตนเองก็ไม่ได้ย้ายออกไป
จากนั้นปี2560ได้มอบที่ดินให้กับนายปรีชา ลูกบุญธรรมดูแลต่อ จนเมื่อ สปก.ประกาศจัดสรรที่ นายปรีชาก็ไปแสดงสิทธิ์ในที่ดิน จนได้เอกสารสิทธิ์ สปก.ในที่ดินดังกล่าว ต่อมานายวิชิต ลูกเขยตนเอง ซึ่งเป็นเจ้าของธุรกิจบริษัทด้านการเงินชื่อดัง(เงินติดล้อ) ก็เข้ามาร่วมลงทุนพัฒนาที่ดิน มีการปรับพื้นที่เป็นลานกางเต็นท์ ร้านอาหาร ร้านกาแฟ จัดตั้งบริษัท โดยนายวิชิตคิดว่า ที่ดินดังกล่าวถูกกฎหมาย และตนเองก็คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร จากนี้พร้อมให้ตรวจสอบ ผิดก็ว่าไปตามผิด