ฝึกสมาธิ-ฌาน ลมหายใจ "บรรลุธรรม" สรุปอานาปานสติ 16 ขั้น โดยหลวงพ่อพุทธทาสภิกขุ

อานาปานสติเป็นได้ทั้งสมถกรรมฐานและวิปัสสนากรรมฐาน บางคัมภีร์กล่าวว่าเป็นอารมณ์กรรมฐานของมหาบุรุษทั้งหลาย มีอยู่ 16 คู่ โดยเป็นกายานุปัสสนา 4 คู่ เป็นเวทนานุปัสสนา 4 คู่ เป็นจิตตานุปัสสนา 4 คู่ และเป็นธัมมานุปัสสนา 4 คู่
กายานุปัสสนาสติปัฏฐาน
การกำหนดรู้ในอานาปานสติ ตั้งแต่ข้อ 1-4 เป็นการกำหนดรู้ภายในกาย จัดเรียกว่ากายานุปัสสนาสติปัฏฐาน
1.หายใจออก-เข้ายาวรู้
2.หายใจออก-เข้าสั้นรู้ .
3.หายใจออก-เข้า กำหนดกองลมที่กระทบในกายทั้งปวง
4.หายใจออก-เข้า เห็นกองลมทั้งปวงสงบก็รู้ (จับลมหายใจไม่ได้เหมือนลมหายใจหายไป)
เมื่อเจริญอานาปานสติ จนสัมปชัญญะทั้งสี่บริบูรณ์ก็จะเกิดสติสัมโพชฌงค์ขึ้นมา เมื่อศีลวิสุทธิเกิดขึ้นเพราะศรัทธาพละและปัญญาพละสมดุลกันก็จะเกิดธัมมวิจยะสัมโพชฌงค์ขึ้นมา เมื่อจิตตวิสุทธิเกิดขึ้นเพราะวิริยะพละสมดุลกับสมาธิพละก็จะเกิดวิริยะสัมโพชฌงค์ขึ้น
เวทนานุปัสสนาสติปัฏฐาน
ตั้งแต่ข้อ 5 - 8 สติเริ่มละเอียดจะจับชัดที่ความรู้สึกได้ชัดเจน จัดเรียกว่า เวทนานุปัสสนา จนสามารถแยกรูปนามออกจากกันได้ชัดเจน หรือ นามรูปปริทเฉทญาณ
5.หายใจออก-เข้า กำหนดรู้ในความรู้สึกปีติ เกิดขึ้นเมื่อบรรลุทุติยฌาน ( ปีติสัมโพชฌงค์)
6.หายใจออก-เข้า กำหนดรู้ในความรู้สึกสุข เกิดขึ้นเมื่อบรรลุตติยฌาน
7.หายใจออก-เข้า กำหนดรู้ในจิตสังขารทั้งปวง
8.หายใจออก-เข้า กำหนดระงับจิตตสังขารทั้งปวง (ปัสสัทธิสัมโพชฌงค์)
จิตตานุปัสสนาสติปัฏฐาน
ตั้งแต่ข้อ 9 - 12 สติเริ่มละเอียดจะจับชัดที่การรู้หรือที่อายตนะได้ดี อันเป็นวิญญาณขันธ์ได้ชัดเจน เรียกว่า จิตตานุปัสสนา จนสามารถเท่าทันในเหตุปัจจัยของรูปนามได้ชัดเจน หรือ นามรูปปัจจยปริคคหญาณ
9.หายใจออก-เข้า พิจารณาจิต
10.หายใจออก-เข้า จิตบันเทิงร่าเริงก็รู้
11.หายใจออก-เข้า จิตตั้งมั่นก็รู้ ( สมาธิสัมโพชฌงค์)
12.หายใจออก-เข้า จักเปลื้องจิตก็รู้ (อุเบกขาสัมโพชฌงค์)
ธัมมานุปัสสนาสติปัฏฐาน
ตั้งแต่ข้อ 13 - 16 สติละเอียดมากจนพิจารณารูปนามเพราะปรากฏชัดอยู่ในธัมมารมณ์ (สิ่งที่เกิดขึ้นในใจหรือมนายตนะ มี 3 อย่าง คือ เวทนา สัญญา สังขาร ธรรมในความหมายนี้หมายเอาความนึกคิดซึ่งก็คือการพิจารณานั้นเอง) จัดเรียกว่า ธัมมานุปัสสนา พิจารณาเห็นว่ารูปนามเป็นไปตามกฎไตรลักษณ์
13.หายใจออก - เข้า พิจารณาเห็นความไม่เที่ยง (อนิจจัง) ในขันธ์ทั้ง 5 มีลมหายใจเป็นตัวแทนรูปขันธ์ จะพบเห็นสังขตลักษณะ (ความเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป) ในขันธ์ทั้งห้า (สมมสนญาณ อุทธยัพพยญาณ ภังคญาณ)
14.หายใจออก - เข้า พิจารณาโดยความคลายกำหนัดในรูปนาม เห็นรูปนามเป็นสิ่งไร้ค่า (ภยญาณ อาทีนวญาณ นิพพิทาญาณ)
15.หายใจออก - เข้า พิจารณาโดยไม่ยึดติดถือมั่นในรูปนามขันธ์ห้าว่าไม่ใช่ตัวตน เพราะเห็นความดับไปแห่งปฏิจจสมุปบาท (มุญจิตุกัมยตาญาณ ปฏิสังขาญาณ สังขารุเปกขาญาณ)
16.หายใจออก - เข้า พิจารณาสละคืนขันธ์ (สัจจานุโลมมิกญาณ โคตรภูญาณ(หรือวิทานะญาณ) มัคคญาณ ผลญาณ ปัจจเวกขณญาณ)
ศึกษาคำอธิบายอานาปานสติ 16 ฐานอย่างละเอียดจากพระไตรปิฎกโดยตรงที่พระไตรปิฎก เล่มที่ ๓๑ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๒๓ ขุททกนิกาย ปฏิสัมภิทามรรค มหาวรรค อานาปาณกถา [๔๐๑]- [๔๒๒]
ที่มาคำแปลความหมาย วิกิพีเดีย/

Пікірлер: 6

  • @pitchpaiboonkasemsutthi5890
    @pitchpaiboonkasemsutthi589022 күн бұрын

    สาธุ ครับ

  • @Ami.Amornrat.psychologistTV

    @Ami.Amornrat.psychologistTV

    18 күн бұрын

    ขอบคุณสำหรับการแสดงความคิดเห็นคะ

  • @sidthichoksuwattanachao3183
    @sidthichoksuwattanachao318323 күн бұрын

    บทความนี้ดียิ่งครับ ขอขอบคุณมากที่นำเสนอ ถือว่าเป็นบุญอย่างยิ่งที่ได้ฟัง ขออนุโมทนาผู้จัดทำ .. แต่น่าเสียดายที่คุณผู้พูดเรียกผิด จากนะสติเป็นนุสติ จึงควรแก้ไขเพื่อให้เกิดความสมบูรณ์

  • @Ami.Amornrat.psychologistTV

    @Ami.Amornrat.psychologistTV

    22 күн бұрын

    ขอบคุณสำหรับการแสดงความคิดเห็นคะ

  • @user-jm3gg8zg6d
    @user-jm3gg8zg6d22 күн бұрын

    ขอบคุณค่ะ ธรรมะอยู่เหนือเวลาจริงๆค่ะ สาธุๆๆ🙏🏻🙏🏻 ได้ฟังคำว่า visualization นึกภาพออกเลยค่ะ

  • @Ami.Amornrat.psychologistTV

    @Ami.Amornrat.psychologistTV

    22 күн бұрын

    ขอบคุณสำหรับการแสดงความคิดเห็นคะ

Келесі