นี่แหละผลเสียของ อรรถคาถาจารย์ ทั้งหลายที่คิดว่าตนมีภูมิความรู้ จะมาอธิบายคำของพระศาสดาเพิ่มเติม แต่งเติมนิดๆหน่อยๆ ทั้งๆที่ตนก็คือ มัคคานุคา เท่านั้น. (ทรงห้ามบัญญัติเพิ่ม หรือตัดทอนสิ่งที่บัญญัติไว้) ภิกษุทั้งหลาย ! ภิกษุทั้งหลาย จักไม่บัญญัติสิ่งที่ไม่เคยบัญญัติ จักไม่เพิกถอนสิ่งที่บัญญัติไว้แล้ว จักสมาทานศึกษาในสิกขาบทที่ บัญญัติไว้แล้ว อย่างเคร่งครัดอยู่ เพียงใด ความเจริญก็เป็นสิ่งที่ภิกษุ ทั้งหลายหวังได้ ไม่มีความเสื่อมเลย อยู่เพียงนั้น. (-บาลี มหา. ที. ๑๐/๙๐/๗๐.)

@bosokhan121

2 жыл бұрын

อาจารย์คุณยกคำพระพุทธเจ้ามาอ้าง ว่า พระพุทธเจ้าห้ามตัดทอน แต่อาจารย์คุณ กลับตัดสะเอง เอาหลักบันฑัดฐานเหตุผลอะไรมาอ้างละ? จึงกล้ายืนยันว่า นี่คือคำพระพุทธเจ้า? ผมก่อนผมจะว่าเช่นนี้ ผมฟังมาเยอะ เห็นว่านั่นคำพระพุทธเจ้าจริง นั่นไม่ใช่ แต่อาจารย์คุณ ไม่รู้หรอก สมัยก่อนเป็นยุคสมัยที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ เป็นยุคสมัยที่ดึงสัตว์มีอุปนิสัยไปเป็นพระอรหันต์ได้เยอะ

@user-mr2tu4xl1z

2 жыл бұрын

@@bosokhan121 คุณรู้เหรออาจารย์ผมเป็นใคร ? คุณรู้เหรออาจารย์ผมมีกี่คน ? แล้วคุณรู้เหรอว่าสิ่งที่ผมยกมามันถูกตัดทอน ? ผมยกมาแค่ส่วนๆหนึ่งซึ่งกำกับลงท้ายอยู่แล้ว อยากอ่านพระสูตรเต็มๆ ก็ไปตามอ่านตามหน้า ตามวรรค ที่กำกับไว้ซิ แล้วอะไรอ่ะ ฟังมาเยอะ ? รู้ดีกว่าคนอื่น ว่างั้น ? แล้วอะไรอ่ะ ดึงสัตว์มีอุปนิสัย รู้ความหมายของคำว่าอุปนิสัยหรือเปล่าอ่ะ (ความประพฤติที่เคยชินเป็นพื้นมาในสันดาน ความประพฤติที่เคยชินจนเกือบเป็นนิสัย พฤติกรรมที่ทำเป็นประจำ) คือดึงสัตว์มีความประพฤติที่เคยชินเป็นพื้นมาในสันดาน ความประพฤติที่เคยชินจนเกือบเป็นนิสัย พฤติกรรมที่ทำเป็นประจำ ไปเป็นพระอรหันต์ งี้เหรอ 5555555555 นี่ผมคุยกับคนที่ใช้ภาษาของคน คุยกับผมหรือเปล่าครับเนี่ย ฮัลโหลลลล 555555

@wishicaru-ye7uc

5 ай бұрын

ถูกแล้วใครๆก็ไม่อาจสามารถจะเปลี่ยนใจใครคนใดที่ยึดมั่นในความจังไรในใจไว้สุดๆ

ใช่แล้วค่ะ ถ้าชาวพุทธจริงๆ ต้องเรียนรู้จาก พุทธจวน เท่านั้นถึงจะเป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าจริงๆค่ะ สาธุค่ะ

@wishicaru-ye7uc

5 ай бұрын

ถูกแล้วใครๆสิ่งใดๆก็ไม่อาจสามารถจะเปลี่ยนใจใครคนใดๆที่ยึดมั่นมุ่งมั่นในความจังไรในใจไว้สุดๆ

@wishicaru-ye7uc

5 ай бұрын

ถูกแล้วใครๆสิ่งใดๆก็ไม่อาจสามารถจะเปลี่ยนใจใครคนใดๆที่ยึดมั่นมุ่งมั่นในความจังไรในใจไว้สุดๆ ปล่เขาไป

ชอบที่นำมาสอนสิ่งที่ถูกต้อง ตรงตามพระไตรปิฎก ตรงตามคำพระศาสดา

เรื่องนี้ผมสอนเด็กก็สามเหล่าครับ ทะเลาะกับครูท่านอื่นมาหลายรอบจนสุดท้ายไม่เอามาออกสอบดีกว่า ขี้เกียจอธิบายครับ

@MrArthas284

2 жыл бұрын

ก็ไม่ต้องอธิบายครับ บอกให้เค้ายกหลักฐานมาประจันกัน เพราะในหลักการทางวิทยาศาสตร์ การจะอธิบายอะไรต้องมีเปเปอร์รับรอง

ขอบคุณมากค่ะ เข้าใจมากขึ้นเพราะ ช่องนี้เลย

อนุโมทนา​ ขอบคุณ​ครับ​

สาธุครับ

สาธุ สาธุ สาธุอนุโมทามิ🙏🙏🙏

🙏🏻🙏🏻🙏🏻 ...สามเหล่าก็ได้ ...สี่เหล่าก็ดี ถ้ามีความเข้าใจในธรรม คำบรรยายที่มีอ้างอิงในหลักธรรมพระพุทธศาสนา. ...พระบูรพาจารย์ท่านกระจายธรรมให้มากเพื่อความละเอียดให้กับผู้เข้าใจอยากในธรรม เมื่อไม่กระจายให้กว้างให้ละเอียดก็เข้าใจอยากกับผู้ที่ยังมืดมา ...ทำให้มาก กระจายให้มากเหมือนทรัพย์ในดินที่ต้องขุดค้นขึ้นมาแปรรูปให้ได้ยิ่งๆหลายๆประการให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ กับบริบทธรรมที่ถูกหลักธรรมในปริยัติบัญญัติไว้ ...ขอแต่อย่าลดลง ทำให้มากๆขึ้นไปฯลฯ

สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ

สาธุครับ อยากฟังเสวยวิมุตติสุขครับ

ถูกใจจริงๆ

สวัสดีครับพี่เศษดินที่เคารพรักศรัทธาครับ🙏👍✌✌❤สาธุครับ🙏🙏🙏

🙏🙏🙏

ถูกต้องตามนั้นเลยครับ

💙💙💙💙💙💙💙

เอาแค่เข้าใจในเรื่องศิลห้าให้เข้าใจ..และรักษาให้มั่น อย่าให้ขาด ทะลุ ด้างพร้อยกันก่อนเถอะครับ..ก่อนที่เราจะเรียนรู้ธรรมมะอันลึกซึ้งของพระพุทธเจ้า..

ผมเคยได้อ่านได้ฟังทำนองนี้มานะครับ เปรียบดอกบัวมี3เหล่า ไม่ใช่4เหล่า เจ้าชายสิทธัตถะครั้งประสูติท่านก้าว7ก้าว แต่ ไม่มีดอกบัวมารองรับพระบาท ก่อนองค์ชายสิทธัตถะ จะตรัสรู้ พระอินทร์ท่านไม่ได้มาบรรณเลงพิณให้องค์ชายฟัง .. ก็เป็นข้อโต้แย้ง ข้อวิจารณ์ ข้อพิจารณ์ นะครับ.

@torspilitecnx6155

2 жыл бұрын

การเดินบนดอกบัว 7 ก้าวเป็นเรื่องของสัญลักษณ์ครับ กล่าวคือ พระองค์จะได้ประกาศพระสัจธรรม ใน 7 แคว้น สำคัญ เช่น มคต มันละ เจติ วัตชี เป็นต้น

อยากฟังเรื่องพระอชิตะเถระค่ะ🙏

ขออนุญาตถามหน่อยครับว่า ที่ได้ยินกันมาว่าพระพุทธเจ้าพยากรณ์พระเทวทัตว่าจะได้บรรลุเป็นพระปัจเจกพระพุทธเจ้านั้นเป็นพุทธวจนหรือเปล่าครับ?

🙏มีบัว1เหล่าคึ่ง 2เหล่า 3เหล่าครึ่ง...ไหมคะ เกรดยังมี1.5 , 2 2.5, 3 เป็นต้นเลยค่ะ🐈 ทำไมต้องจำกัดแค่นั้น เพียงแต่☀️ แค่ มีหัวข้อ ใหญ่และย่อย ใจคนยังมีขึ้นลงเลยค่ะ จากคุนนายละเอียด เบียด...

ขอกุศลผลบุญจงบังเกิดแก่ทุกท่านได้ฟังธรรมบทนี้ทุกท่านเทอญ

ถ้าเป็นจริงก็ขอสารภาพว่าเพิ่งจะได้รู้วันนี้ครับ สาธุ

ใช่ที่ถูกต้องก็สามเหล่าแต่จะว่าสี่เหล่าก็ถูกของท่านนะลองคิดดูเรื่องของเหล่าที่สี่คือบุคคลที่ไม่ยอมรับฟังแถมยังปฏิเสฏอีกทั้งยังด่าทอประมาทชึ่งคนเหล่านี้จะไม่มีทางที่จะทำตามหลักของธรรมมะแน่นอน ชึ่งตรงนี้ท่านจะเรียกว่าเหล่าที่สี่ก็ไม่ผิด อย่างคนที่เคยเข้าคุกพ้นโทษออกมาเขาก็ไม่ยอมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเคยมายังไงก็ทำแบบเดิมเรียกว่าวนเวียนๆเหมือนเดิมดีไม่ดีหนักกว่าเดิมอีก อันนี้เรียกว่าเป็นอาหารของเต่าและปลา😁ความคิดส่วนตัว

@Ann-ej7ku

2 жыл бұрын

เห็นด้วยค่ะ บัวมี3เหล่าแต่คนมี4ประเภท

@user-mr2tu4xl1z

2 жыл бұрын

สี่เหล่าก็ถูกของท่าน ท่านที่ว่านี้คือ ใครเหรอครับ ? เป็นสัพพัญญูหรือเปล่า ถ้าไม่ใช่ก็ต้องนำมาเปรียบเทียบเลยครับ ไม่ได้กระพี้ของพระบรมศาสดาเลย. กระจอก....

@user-on2gt7ue2p

2 жыл бұрын

@@user-mr2tu4xl1z ใช่ก็ไม่ได้เถียงเทียบพระพุทธเจ้าไม่ได้🙏 เริ่มแรกเดิมทีมีสามเหล่าแต่คนมีสี่ประเภทชึ่งตอนแรกนั้นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีพรมมานิมนต์แสดงธรรมจากนั้นพระพุทธเจ้าท่านทรงดำริถึงมนุษย์ที่จะรู้ธรรมเห็นธรรมตามท่านมีอยู่สามประเภทดังที่ได้กล่าวไว้ในคลิป อันนี้พระพุทธเจ้าท่านจำแนกเฉพาะคนที่จะบรรลุธรรมไม่ได้หมายถึงมนุษย์ทุกคนชึ่งมันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่จะทำให้คนทุกคนนั้นรู้ธรรมเห็นธรรมเหมือนกันหมดท่านจึงแยกเอาเฉพาะสามกลุ่มนี้ที่ท่านจะแสดงธรรมให้ฟังจากนั้นกลุ่มบุคคลที่มาเข้าข่ายพระฌานของพระพุทธเจ้าคือปัจจวัคคีทั้งห้าพระองค์ทรงมีความดำริจะไปหาปัจจวคีทั้งห้าท่านก็เดินไปบิณฑบาตรฉันอาหารไประหว่างทางลองคิดดูว่าระหว่างทางท่านไม่แสดงธรรมกับคนใดเลยทั้งที่ระหว่างทางก็มีผู้คนเยอะแยะมากมายแต่ระหว่างทางก็มีคนหนึ่งมาถามท่านแต่ตรงนี้ไม่พูดถึง. จะเห็นได้ว่ากลุ่มคนแรกๆที่จะฟังธรรมแล้วรู้ตามเห็นตามนั้นมีเพียงปัจจวคีเท่านั้นเพราะฉะนั้นธรรมจักรชึ่งเป็นธรรมตอนแรกจึงต้องแสดงแก่ปัจจวคีจึงเกิดพระรัตตนตรัยครบทั้งสามส่วนดังนั้นถ้าจะรวมบุคคลเหล่าที่สี่เข้าไปด้วยก็ได้อย่างเช่นกลุ่มบุคคลที่พระพุทธเจ้าท่านเจอระหว่างทางนั้นเข้าด้วยก็จะเป็นสี่ประเภท มีพระเถระท่านถามองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านว่าระหว่างพระอรหันต์สาวกและพระปัจเจกพุทธเจ้าการบรรลุธรรมแตกต่างกันหรือไม่ท่านก็ทรงตอบว่าการบรรลุธรรมของพระพุทธเจ้า พระอรหันตสาวก พระปัจเจกพุทธเจ้าหรือพระอรหันต์ทั่วไปไม่แตกต่างกันเลยเพียงแต่ว่าจะแตกต่างกันด้วยเหตุอย่างอื่น😁🙏🙏🙏

@user-mr2tu4xl1z

2 жыл бұрын

@@user-on2gt7ue2p เปรียบเสมือนบัว ๓ เหล่า จำแนกบุคคลเป็น ๔ ประเภท ตามนั้นครับ. ตถาคเต เอกนฺตคโต อภิปฺปสนฺโน (เลื่อมใสตถาคตถึงที่สุดโดยส่วนเดียว)🙏🏻

ควรเริ่มศึกษา พุทธวจน ก่อน ถ้าเรื่องนั้นๆยังไม่เข้าใจค่อยไปศึกษาเพิ่มเติมในอรรถกถา

@user-hk3vu4mh4q

2 жыл бұрын

อรรถกฐา อยู่ตรงไหน

แล้วที่เรียกว่าสว่างมาสว่างไป สว่างมามืดไป มืดมาสว่างไป และมืดมามืดไป ใช้เปรียบเทียบกับบัวสี่เหล่าได้ไหมครับ

@user-ey3el2io9g

2 жыл бұрын

คนละอย่างกันครับ กล่าวถึงคนละกรณีกัน อย่างเช่น มามืดไปมืด คือคนที่เกิดมาจนบ้าง ตระกูลต่ำบ้าง พิการบ้าง แล้วยังประกอบแต่กรรมชั่ว ตายไปก็ไปนรก ประมาณนี้ คนที่มามืดไปสว่าง คือ คนที่เกิดมาไม่พร้อม พิการ ยากจน ร่างกายเต็มไปด้วยโรค แต่เป็นคนดี ทำแต่ความดี ตายไปก็มีสุคติเป็นที่ไป เป็นต้น

อันนี้ใช้ได้กับhomeless people หรือคนเลี่ยงภาษี ไม่ทำงานทำการ ให้รัฐเลี้ยงดูได้ไหมคะ

เป้าหมายสูงสุดและสุดท้ายของทุกสรรพสิ่งคือการหลุดพ้นไปจากการเวียนว่ายตายเกิด แต่จะนานเท่าใดคงไม่อาจตอบได้

ขอให้​ พึ่ๆ​ และ​ น้องๆ​ ทุกคน​ ละสังโยชน์ ๑๐ ในพุทธวจน​ ให้ได้หลายๆ​ ข้อ​ นะครับ​ สาธุ​ สาธุ​ สาธุ​ ครับ​

@user-hk3vu4mh4q

2 жыл бұрын

ละทำไม

เหล่าวิปัสนาจารย์รู้แล้ว เราก็รู้แล้ว แต่น่าเสียดายนักที่เหล่าสังฆาสังฆะส่วนใหญ่ และเหล่าที่เพียงชื่อว่าชาวพุทธ ยังไม่รู้ และหาความอยากรู้ไม่ ก็ได้แต่ทำใจ

มีเรื่องขันธ์ 5 บ้างไหมครับ ชีวิตนี้มีแต่ขันธ์ 5 เท่านั้นหรือไม่ หรือมีสัตว์ สัตตานัง ไปเกาะขันธ์ 5 แบบที่พระรูปหนึ่งสั่งสอนอยู่ เต็ม KZread เลย คำสอนแบบนี้ถือว่าเป็นสัมมาทิฏฐิหรือมิจฉาทิฐิ กันแน่สงสัยครับ

ไม่จริงมั้งเคยรู้มาท่านมีญานยั่งรู้บุคคลใดที่สอนไม่ได้ท่านเดินผ่านโดยไม่โปรด

ขอบคุณสำหรับความรู้ที่กระจ่างแจ้งไม่ผิดเพี้ยน

พระพุทธเจ้า ทรงจำแนกสัตว์ออกเป็น 2 พวก 1. พวกสอนได้ เวไนยสัตว์ 2. พวกสอนไม่ได้ เป็น อเวไนยสัตว์ พวกที่สอนได้ทรงเปรียบเทียบได้กับ บัว 3 จำพวก คือ 1. บัวพ้นน้ำ 2. บัวปริ่มน้ำ 3. บัวใต้น้ำ หรือ บัว 3 เหล่า แต่ถ้าจะจำให้ครบถ้วนเข้าใจ ต้องจำ 3 + 1 ด้วย ไม่ใช่ บัว 4 เหล่า แต่ เป็น 3 เหล่า + 1 อเวไนยสัตว์

"บัวสามเหล่า คนสี่จำพวก"

ช่วยทำเกี่ยวกับพระพุทธเจ้า 28 พระองค์ให้ทีว่ามีใครบ้าง ?

@MrOLAYs

2 жыл бұрын

ดูช่อง สุริยะบุตร มีบอกอยู่

@user-uu1xy5fs8i

2 жыл бұрын

กูเกิ้ลเถอะค่ะ ละเอียดยิบเหมือนหนังสือเลยค่ะ

🙏เชื่อตามๆกันมา นี่ไง พระสูตรบอกอย่าเชื่อ เถียงสิคะ🤭 คุณพิมพ์เอง อยากแก้ตัวอะไร เชิญค่ะ คุนหาน เบิกบี✌️

@user-uu1xy5fs8i

2 жыл бұрын

คุณปกติดีใช่ไหมคะ😅😅😅😅😅

@gift17give

2 жыл бұрын

@@user-uu1xy5fs8i พี่ไปส่องกระจกดูเงาตัวเองก่อนจะดีไหมคะ??? อย่าให้ชาวเราโหวต เลยค่ะ😊😊😊

@user-uu1xy5fs8i

2 жыл бұрын

เชิญโหวดเลยค่าาาาา เป็นอะไรมากป่าวคะ เมนไม่มาหรือไง หรือมีใครทำให้ไม่ถึง ถึงได้ฟาดงวงฟาดงาไม่ทราบ🤭🤭🤭

@user-uu1xy5fs8i

2 жыл бұрын

@@gift17give อย่าลืมกลับมาโหวตนะคะ3กีบ

ใครเจอข้อสอบบัวมีกี่เหล่า ซวยเลย

ขอสอบผมตอบ 3 เหลา

@MrArthas284

2 жыл бұрын

แล้วก็เสียคะแนนใช่ป่าว

@user-fj3pz5fb3f

2 жыл бұрын

น่าจะแบบนั้น

พวกอรรถกถาไม่ควรอยู่ในพระไตรปิฎก​ พุทธองค์ทรงบัญญัติอยู่แล้วว่า​ ห้ามมิให้บัญญัติเพิ่มหรือแต่งใหม่​ แต่ก็ยังทำเพราะพระสาวกมีหน้าที่เดินตาม

@user-uu1xy5fs8i

2 жыл бұрын

คัมภีร์ทั้งหลายตั้งแต่อรรถกถาลงมา เป็นคัมภีร์อธิบาย แปลความหมายของพระไตรปิฎก ไม่ได้มีมาในพระไตรปิฎกค่ะ เพราะเป็นคัมภีร์ทีแต่งขึ้นมาภายหลังโดย ท่านพระอาจารย์ผู้ฉลาดในอรรถกถาวิธี หรือเรียกอย่างง่ายว่า อาจารย์ผู้มีศิลปะในการสอน การอธิบาย ก็จะสอนไป อธิบายไปตามความเข้าใจของตัวเอง เหตุเพราะมีหลายองค์ จึงมีบ้างที่บิดเบือนไป ฉะนั้น ผู้ศึกษาต้องทำความเข้าใจกันเองจ้า เพราะพระไตรปิฎก บรรจุใว้แต่พระพุทธพจน์ล้วนๆ ทำให้ยากต่อการศึกษา จึงจำเป็นที่จะต้องมีอรรถกถาในการเทียบเคียง แต่ก็นั่นแหละ ผู้ศึกษาจะต้องศึกษาอย่างระมัดระวัง

@sitphukaokway5433

2 жыл бұрын

เราก็อาศัยอรรถกถานั้นแหละแปลและอธิบายพระไตรปีฎก ถ้าไม่มีอรรถกถาพระไตรปีฎกก็สูญหายแล้ว จากอินเดีย ไปลังกาจากลังกากัลบไปอินเดีย พอมายุคนี้กลับตำหนิอรรถกถา คิดว่าตัวเองฉลาดกว่าอรรถกถา

จริง มีบัวสามเหล่า ตามพระไตรปิฎก แต่เห็นต่างที่แอ๊ดมินบอกว่าพระพุทธเจ้าทรงสอนทุกคน ไม่จริง พระพุทธเจ้าทรงสอนเฉพาะคนที่พระองค์ทรงหยั่งรู้ว่าสอนได้ แต่จะไม่ทรงสอนคนที่พระองค์ทรงหยั่งรู้ว่าสอนไม่ได้ โดยเฉพาะที่พระองค์ทรงเล็งเห็นว่าเป็นพวกเห็นกงจักรเป็นดอกบัว มีมิจฉาทิฐิสูง ถือว่ามีบาปหนา สอนไม่ได้ พระองค์จะปล่อยผ่านไป

@user-ey3el2io9g

2 жыл бұрын

มีหลายครั้งนะครับที่คนเหล่านั้นเข้ามาหาเอง บางคนเข้ามาท้าทายด้วยซ้ำ พระพุทธองค์ก็ทรงชี้แนะให้เสมอ แม้แต่พระเทวทัตที่รู้อยู่แล้วว่าสอนยาก พระพุทธเจ้ายังสอน ถึงกับอนุญาตให้บวช ถึงแม้จะรู้อยู่เต็มอกว่าเป็นหอกข้างแคร่ นี่เป็นตัวอย่างให้เห็นว่าทรงไม่เลือกปฏิบัติ

@user-ns2xg2sz2y

2 жыл бұрын

@@user-ey3el2io9g ที่ให้พระเทวทัตบวชเพราะในอนาคตจะเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้าสินะ

@RomanticRd.

2 жыл бұрын

@@user-ey3el2io9g อ้อ ครับ แต่ขอให้สังเกตว่า ทุกคนที่เข้าหาพระพุทธเจ้าเดี่ยวๆ ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใดก็ตาม เมื่อพระองค์ทรงโปรดสั่งสอน เกือบทุกคนบรรลุธรรมขั้นต่ำโสดาบันทั้งนั้น แทบจะไม่มีใครจากไปมือเปล่าเลย ยกเว้นคราวที่ท่านห้ามญาติไม่ได้และอีกไม่กี่กรณีเท่านั้น แต่หลังจากนั้น ชีวิตของคนเหล่านั้นก็เป็นไปในทางที่ดีขึ้นทุกคน ไม่ชาตินี้ก็ชาติต่อๆ ไป และบางคนก็น่าจะมีดวงตาเห็นธรรมในที่สุด

@MrArthas284

2 жыл бұрын

@@RomanticRd. แต่มันมีอยู่ 1 คนนะที่ไปหาพระพุทธเจ้าแล้วไม่ได้เป็น โสดาบัน คือ พระเจ้าอชาติศัตรู และมีอีก 1 คน คือ คนที่พบกับพระพุทธเจ้าก่อนที่พระพุทธเจ้าไปเจอกับปัญจวัคคีย์ ซึ่งได้คุยกับพระพุทธเจ้าด้วย และก็ไม่บรรลุแถมปรามาศกลับอีก

@MrArthas284

2 жыл бұрын

@@RomanticRd. สัจจกนิกรน อชาตศัตรู และนาคที่ปลอมมาบวช ทั้งหมดนี้พระพุทธเจ้าสอนเอง

สำหรับผมได้ฟังการอธิบายอย่างละเอียดจากท่านผู้ทำความสะอาดธรรม และคิดพิจารณาด้วยเหตุผลที่ท่านได้อธิบาย เห็นชัดเจนว่า บัวมี4เหล่า จริงๆ ที่คุณยืนยันว่ามี3ใครเป็นคนยืนยัน มีเหตุผลอธิบาย ไหม? ถ้าอ้างอิงจากคัมภีร์ ยังถือว่าใช้ไม่ได้หรอก เพราะไม่รู้ว่าใครเขียนอะไรเพิ่มมาบ้าง? คัมภีร์เขียนไว้แบบนั่น แล้วคิดด้วยเหตุผลดูสิ บัวเหล่าที่4 คือกลุ่มผู้คนที่ไม่สนใจอะไรกับคำสอนพระพุทธเจ้าเลย ต่อให้บ้านอยู่ติดกำแพงวัดก็ตามที พวกเค้า ไม่สนใจหรอก นี่คือบัวเหล่าที่4

@user-mr2tu4xl1z

2 жыл бұрын

ท่านผู้ทำความสะอาดธรรมนี่ใครเหรอครับ สมภารวัด หรือ สัปเหร่อ ???

@bosokhan121

2 жыл бұрын

@@user-mr2tu4xl1z ท่าผู้ทำความสะอาดธรรม คำนี้มันน่าขำตรงไหนหรอครับ ถึงได้เอามาถามเล่น แถมยังเอาท่านไปเปรียบเทียบกับคน ธรรมดาๆ แบบนั่น ? การที่เล่นโดยไม่รู้ว่าควรหรือไม่ควร เป็นความโง่เขลาของคนนั่น จะติดไปทุกชาติภพ แล้วใจแบบนี้จะไปสู่แต่ที่ต่ำๆ

@bosokhan121

2 жыл бұрын

@@user-mr2tu4xl1z คุณไม่สงสัยเลยหรอ ว่าทำไมผมใช้คำว่า ทำความสะอาดธรรม? ก็เพราะในยุคสมัยนี้​ มีแต่คนท่องจำธรรมแล้วเอามาสอน แต่ความหมายจริง ที่พระพุทธเจ้าตรัสสอนให้รู้ทันอารมณ์แต่ละอย่างไม่มีเหลือแล้ว คุณคิดดูสิจริงไหม

@user-mr2tu4xl1z

2 жыл бұрын

@@bosokhan121 เดี๋ยวๆๆตั้งสติ ตั้งสติ ผมขำตรงไหน ฮัลโหลลลล ?? นี่เป็นพุทธวจน ไม่ใช่อรรถคาถา อ่ะเอามาแปะให้อ่านนนน อ่านนนซะ (บัว ๓ เหล่า) ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาค ทรงทราบคำทูลอาราธนาของพรหม และทรงอาศัย ความกรุณาในหมู่สัตว์ จึงทรงตรวจดูสัตวโลกด้วยพุทธจักษุ เมื่อตรวจดูสัตว์โลกด้วยพุทธจักษุ ได้ทรงเห็นสัตว์ทั้งหลายที่มีธุลีคือกิเลสในจักษุน้อยก็มี ที่มีธุลีคือกิเลสในจักษุมากก็มี ที่มีอินทรีย์ แก่กล้าก็มี ที่มีอินทรีย์อ่อนก็มี ที่มีอาการดีก็มี ที่มีอาการทรามก็มี ที่จะสอนให้รู้ได้ง่ายก็มี ที่จะสอนให้รู้ได้ยากก็มี ที่มีปกติเห็นปรโลกและโทษโดยความเป็นภัยอยู่ก็มี มีอุปมาเหมือนดอกอุบลในกออุบล ดอกปทุมในกอปทุม หรือดอกบุณฑริกในกอบุณฑริก ที่เกิดแล้วในน้ำ เจริญแล้วในน้ำ งอกงามแล้วในน้ำ บางเหล่ายังจมในน้ำ อันน้ำเลี้ยงไว้ บางเหล่าตั้งอยู่เสมอน้ำ บางเหล่าตั้งอยู่พ้นน้ำ อันน้ำไม่ติดแล้ว พระผู้มีพระภาคทรงตรวจดูสัตวโลกด้วยพุทธจักษุ ได้ทรงเห็นสัตว์ทั้งหลาย บางพวก มีธุลีคือกิเลสในจักษุน้อย บางพวกมีธุลีคือกิเลสในจักษุมาก บางพวกมีอินทรีย์แก่กล้า บางพวกมีอินทรีย์อ่อน บางพวกมีอาการดี บางพวกมีอาการทราม บางพวกสอนให้รู้ได้ง่าย บางพวกสอนให้รู้ได้ยาก บางพวกมีปกติเห็นปรโลกและโทษโดยความเป็นภัยอยู่ ฉันนั้น เหมือนกัน ครั้นแล้วได้ตรัสคาถาตอบท้าวสหัมบดีพรหมว่า ดังนี้ เราเปิดประตูอมตะแก่ท่านแล้ว สัตว์เหล่าใดจะฟัง จงปล่อยศรัทธามาเถิด ดูกรพรหม เพราะเรา มีความสำคัญในความลำบาก จึงไม่แสดงธรรม ที่เราคล่องแคล่ว ประณีต ในหมู่มนุษย์. ครั้นท้าวสหัมบดีพรหมทราบว่า พระผู้มีพระภาคทรงประทานโอกาสเพื่อจะแสดงธรรม แล้ว จึงถวายบังคมพระผู้มีพระภาคทำประทักษิณแล้ว อันตรธานไปในที่นั้นแล. (-บาลี มหา. วิ. ๔/๑๑/๙.) ถ้าอ่านแล้วยังไม่เข้าใจ แล้วยังจะมาเถียง อีกล่ะก็นะ คนโง่ที่จะตกลงไปสู่ที่ต่ำๆทุกภพ ทุกชาติ ผมว่าคงไม่ใช่ผมแล้วล่ะ เหอะๆ.

@bosokhan121

2 жыл бұрын

@@user-mr2tu4xl1z สมภารวัด สัปเหร่อ สำนวนคำนี้ เป็นการบงบอกว่า ขำในใจ หรือเยาะเย้ย จึงออกมาเป็นคำแบบนี้

เลิกติดตามแล้วครับ บายๆ

@user-ey3el2io9g

2 жыл бұрын

ขอบคุณครับ

ถูกแล้วใครๆก็ไม่อาจสามารถจะเปลี่ยนใจใครคนใดที่ยึดมั่นในความจังไรในใจไวสุดๆ